จ่ายอย่างเดียว แต่ไม่มีอะไรให้

ของไทย pension เดียวที่มีคือ กองทุนประกันสังคม ค่ะ ซึ่งเก็บเดือนนึงไม่เกิน 750 แล้วจะให้มีสวัสดิการอะไรนักหนาคะ แค่ค่ารักษาพยาบาล ใครป่วยที ก็เกินวงเงินที่ตัวเองส่งมาแล้วค่ะ

ที่เมกาภาษีถูกกว่าไทยอีกค่ะ แต่ที่หักเยอะ เพราะมันมี Social Securiy มาบริหารเงินที่หักออกไปด้วยค่ะ ซึ่ง มันเก็บจากนายจ้างเหมือนของไทยไหมอ่ะค่ะ แต่ได้ข่าวว่า ส่วนใหญ่ คนเมกัน ทำงานแบบพาร์ทไทม์แทบทั้งนั้น (คือคนนึงทำงานหลายอย่าง) แต่ระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนของไทย มันต้องทำงานประจำและนายจ้างต้องช่วยจ่ายด้วยเท่านั้นอ่ะค่ะ งานพาร์ทไทม์คือ ไม่นับ แต่เมกาคือเก็บทุกเม็ด

ระบบการหักภาษี ต่งกันค่ะ ถ้าอยากได้สวัสดิการดีๆ แบบเมืองนอก เราพร้อมให้เค้าหักแบบนั้นหรือปล่าว
??? และระบบของเราตอบรับความยืดหยุ่นของการทำงานได้มากแค่ไหน??

- ฟินแลนด์ เสียภาษีเงินได้สูงสุด 56.95%
- เดนมาร์ก เสียภาษีเงินได้สูงสุด 56.5%
- ญี่ปุ่น เสียภาษีเงินได้สูงสุด 55.97%
- ไทย เสียภาษีเงินได้สูงสุด 35%
- นิวซีแลนด์ เสียภาษีเงินได้สูงสุด 33%
- สิงคโปร์ เสียภาษีเงินได้สูงสุด 22%

อัตราภาษีของไทยอยู่ในช่วงระหว่าง 0%-35% โดยผู้ที่ต้องเสียตั้งแต่ 5%-35% คือผู้ที่มีรายได้ 150,000 บาท/ปี ไปจนถึงผู้ที่มีรายได้ 5,000,000 บาท/ปี ขึ้นไป

จากการวิเคราะห์ของ itax.in.th ในปี 2019 สัดส่วนผู้เสียภาษีในไทยอยู่ที่ 16.8% หรือประมาณ 11 ล้านคน เก็บภาษีได้ 3 แสนล้านบาท เท่ากับว่าผู้ที่ต้องจ่ายภาษีจะต้องจ่ายกันอยู่ที่ 29,002.82 บาท/คน/ปี

นี่ยังไม่รวมภาษี corporate จากบริษัทใหญ่ๆ เป็นหมื่นเป็นล้านราย ที่เก็บมาได้อีก ปีๆนึง ประเทศอาจจะเก็บภาษีได้เป็นหลาย ล้านล้าน บาท แต่เงินไปไหนหมด เงินหายไปไหน บ้างอย่างไม่โปรใส และ ตรวจสอบไม่ได้ ถ้าไม่โปร่งใส สวัสดิการไม่มีวันเกิด

หลายคนอาจจะบอกว่า ถ้าอยากได้สวัสดิการที่ดีต้องจ่ายภาษีให้มาก ซึ่งนี่คือเรื่องจริงเพราะสวัสดิการก็คือการบริการของภาครัฐ และการให้บริการก็ต้องใช้งบประมาณ

ลองไปกางอัตราภาษีเงินได้ มาเทียบดู คนไทยไม่ได้เสียภาษีกันน้อยๆเลยเทียบกับต่างชาติ

เอาเข้าจริง คนไทยเสียภาษีกันตามมาตรฐาน พูดให้เห็นภาพ ผู้ที่มีรายได้/ปี 595,000 บาท ในไทยเสียภาษีเงินได้ที่ 15% แต่ถ้าอยู่ในญี่ปุ่นจะเสีย 20% หรือหากมีรายได้เกิน 1,000,000 คนไทยก็จะเสียภาษี25% และ คนญี่ปุ่นจะต้องเสีย 30% เห็นได้ว่ายังอยู่ในระดับไม่ห่างกันมาก แต่คุณภาพของสวัสดิการที่ได้กลับมาคนละโลก

ประเด็นก็คือสวัสดิการของไทยตั้งแต่เกิดจนโตยังไม่ครอบคลุมถึงคนทุกกลุ่ม กลุ่มคนที่ได้สวัสดิการที่ดีคือกลุ่มข้าราชการและพนักงานในภาคเศรษฐกิจที่เป็นทางการเท่านั้น ส่วนแรงงานในภาคเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการ ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมกลับถูกละเลย

- ฟินแลนด์ มอบค่าเลี้ยงดูบุตร 3,700 บาท/คน/เดือน จนบุตรอายุ 17 ปี และมอบการศึกษาฟรี ถึงอายุ 17 ปี
- เดนมาร์ก มอบค่าเลี้ยงดูบุตร 5,000 บาท/คน/เดือน จนบุตรอายุ 17 ปี และมอบการศึกษาฟรี ถึงอายุ 16 ปี
- สิงคโปร์ มอบค่าเลี้ยงดูบุตร 190,000-240,000 บาท/คน ผู้ปกครองสามารถบัญชีเงินออมบุตรโดยรัฐมอบเงินให้ก้อนแรกเพิ่มเติม 74,000 บาท และสมทบเงินเพิ่มเท่าที่ผู้ปกครองฝาก (สูงสุดไม่เกิน 370,000 บาท)
- ไทย ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท/ปี ได้เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท/เดือน จนบุตรอายุ 6 ปี และผู้ประกันตนม.33 ได้รับเงินเลี้ยงดูบุตร 800 บาท/เดือน จนบุตรอายุ 6 ปี

สวัสดิการแรงงาน

- ญี่ปุ่น สนับสนุนเงินว่างงาน 50%-80% ของเงินเดือน เป็นเวลา 90-360 วัน
- นิวซีแลนด์ สนับสนุนเงินเยียวยาตกงาน 4,250-6,000 บาท/สัปดาห์ ไม่รวมเงินสนับสนุนด้านที่พักอาศัย
- ไทย เงินทดแทนการว่างงาน 30%-50% ของเงินเดือน (แต่มีเพดานฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท) เป็นเวลา 90-180 วัน แต่ครอบคลุมเฉพาะผู้ประกันตนม.33 เท่านั้น ก็คือดูแลครอบคลุมเพียงแค่แรงงานในระบบประกันสังคม จำนวนเพียง 16 ล้านคน ละเลยความเป็นอยู่ของคนกลุ่มที่เหลือในสังคม ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศที่มักจะดูแลครอบคลุมแบบ “ถ้วนหน้า” และครอบคลุมทุกด้าน

ระบบสาธารณสุข

ถือเป็นสวัสดิการหนึ่งที่ไทยพอจะเทียบกับประเทศอื่นได้อยู่บ้าง อย่างน้อยก็ในแง่หลักการ เพราะเป็นระบบที่ครอบคลุมประชากรอย่างกว้าง นั่นก็คือการมาถึงของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ “ฟรี” แต่ความเหลื่อมล้ำก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะโรวพยาบาลในต่างจังหวัดมีคุณภาพไม่เท่ากัน ที่สำคัญไม่ใช่แค่ต่างกันธรรมดา แต่ยังต่างกันราวฟ้ากับเหว

อดีตนายกฯ มรว.คึกฤืทธิ์ เคยพูดว่า ถ้านักการเมืองผู้มีอำนาจของไทยไม่โกงกิน...ถนนเมืองไทยตะปูด้วยทองคำก็ยังได้

ตอนนี้ความเหลื่อมล้ำบ้านเราก็สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก คนรวยที่สุดในเกาหลียังรวยน้อยกว่าคนไทยที่รวยที่สุดทั้งๆที่GDPของเกาหลีเขาสูงว่าไทยเยอะมาก

ที่พูดนี่จะบอกว่า .... คนไทยโดนเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอำนาจและกลุ่มทุนการเมืองมายาวนาน...มันจะเหลือสวัสดิการอะไรให้คนไทยล่ะ