อะ อันนี้สาระ และถือเป็นการแก้ต่างให้ไอเจ้าของร้านชานมสองคนนั้นด้วย
ที่โดนสังคมคนโง่ๆประณาม หาว่าเค้าไม่เข้าใจ- มันไม่เกี่ยวกับค่าแรงต่ำไป หรือค่าครองชีพสูงไป เพราะนี่มันแค่ภาพเศรษฐกิจในประเทศ
- มันขึ้นกับ GDP ต่อหัว
ซึ่งมันสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในไทย
ถ้าภาพรวมประเทศหาตังเข้ามาได้เยอะ และเยอะมากกว่าประเทศอื่นๆ เป็นอันดับต้นๆ จนค่าเงินบาทเรามีค่ามากที่จะไปซื้อของประเทศอื่นๆ ได้ในราคาถูก นั่นแหละจะทำให้ ค่าครองชีพเราถูก และค่าแรงสูงได้
- Valueเงินของเมกา 1USD =50 บาท แปลว่าถ้าเค้าอยากกินข้าว เค้าก้มาซื้อข้าวสาร1กระสอบแค่ไม่เกิน 5 USD (250บาท)
แต่ถ้า 1USD = 10บาท มันต้องหอบเงินมาให้เรา 25USD (250บาท)
ดังนั้นถ้าเงิน 1USD =100บาท เค้าใช้เงินแค่ 2.5USDก็ซื้อข้าวสารได้แล้ว
ทำให้เค้ายิ่งไม่อยากต้องปลูกข้าวเอง ไม่ต้องเสียEffortไปกับการทำงานแบบนี้
- ในทางกลับกันคนไทย อยากได้รถ1คัน ราคา 10,000USD
ถ้าเงินเรายิ่งอ่อน เรายิ่งต้องจ่ายแพง จ่ายแพงก็ยิ่งเป็นต้นทุนในการไปทำอย่างอื่นต่อ
Apply to all Goods รวมถึง น้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ สารตั้งต้นการทำธุรกิจต่างๆ
- แต่การที่เงินไทยจะแข็งแบบนั้นได้ แปลว่ามีแต่คนอยากถือเงินบาท
คนอยากถือเงินบาทก็เพราะ เค้าอยากมาลงทุนในไทย อยากมาเที่ยว อยากเอาเงินบาทไปSpend
- การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มันคือการแก้ปัญหาปลายเหตุ
สิ่งที่ไทยควรทำคือหาเงินเข้ามาเยอะๆ คนไทยก้จะรวยกันหมด สบายๆ
สิ่งที่ฝากแนะนำรัฐบาลนะ
นอกจากโปรโมทท่องเที่ยว โปรโมทข้าวสารไทย
ลองหยิบสิ่งอื่นมาขาย มีอีกเพียบ
เช่น เปิดคาสิโนถูกกฎหมาย กัญชาถูกกฎแล้วก้ดันส่งออกไปเลย
ปั้นMedicalHubเทพๆ
คลองข้ามอันดามันอ่าวไทยก็ขุดๆไปสักที ดูดเงินจากสิงคโปร์คืนมาให้หมด
หรือวิจัยพัฒนาอะไรที่มันมากกว่าแค่OTOP