แต่... ต้องมีหลักฐานมัดตัวแบบแน่นๆ ชัดๆ ด้วยนะ

ถ้าหลักฐานไม่แน่นพอละก็..... มันเค้าเตอร์สวนกลับ จขกท.จะกลายเป็นโดนเขี่ยทิ้งแทนนะเออ

ขอบคุณความคิดเห็นพี่มากค่ะ

เหี้ยจริงๆค่ะพี่ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้ในที่ทำงาน
ยังคงต้องร่วมงานที่ทำงานเดียวกันกับมันก่อนค่ะ
นี่กะว่าจะทำงานไปอีกสักพักเอาอายุงานให้ครบช่วงปีค่ะ
แต่แทบไม่มีใครคุยกับมันแล้วค่ะนอกจากลุงคนขับรถบริษัทที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวภายใน.

กะว่าจะกระชากหน้ากากมันทีเดียวตอนลาออกให้สาแก่ใจค่ะ

ตอนลาออก cc หลักฐาน ทั้งบริษัทเลยค่ะ

.

รวบรวมหลักฐานไว้ให้แน่นหนา

หาพยานที่เป็นหลักฐานเอาไว้อ้างอิงด้วย

แล้วค่อยเอามาแฉ บอกเจ้านายว่ามันทุจริต

อย่าลืมตรวจสอบลุงผู้จัดการที่มันเป็นแฟนด้วยนะ

อาจจะมีส่วนร่วมกับมัน ถ้าให้ดีพอจับได้แล้ว

เสี้ยมเจ้านายให้เอาตำรวจจับมันไปด้วยเลย

.

.

.

.

.

1. เราไม่รู้ว่าใครร่วมขบวนการด้วย เช่น สามี ภรรยาเป็นเจ้าของกิจการร่วม แต่เมียรวมหัวกับลูกน้องยักยอกทรัพย์ จขกท.ไปบอกเมียคิดว่าถูกคน แบบนี้ จขกท มีสิทธิ์เป็นปุ๋ยลงหลุมได้ง่ายๆ และจากที่ จขกท ยกตัวอย่างมา

"เพราะมันดันเป็นแฟนกับลุงผู้จัดการซึ่งเป็นคนสนิทเจ้าของบริษัทค่ะ" แบบนี้ยิ่งต้องระวัง เพราะสามารถขอดูกล้องวงจรปิด ดูพฤติกรรมคุณได้สบายๆ เลย

2. ต้องมีหลักฐานแน่นหนาหรือชี้บอกจุดผิดปกติได้ ที่สำคัญระวังเรื่องข้อมูลหลักฐานว่าจะสืบย้อนกลับมายังข้อมูลที่เข้าถึงได้หรือไม่ ? เช่น คุณบอกว่ามียอดนี้ผิดปกติ แล้วข้อมูลนั้นคนที่เข้าถึงได้มีแค่ไม่กี่คนแบบนี้ต้องระวัง เพราะตัดตัวเลือกออกไปแล้วสามารถชี้กลับมาหาคุณได้ ควรจะบอกเป็นภาพกว้างๆ ยอดใหญ่ แล้วให้เจ้าของกิจการจ้างคนจากข้างนอกมาตรวจสอบเพิ่มเติมหาเบาะแสเอา

3. อย่าทำอะไรเกินตัว เพราะว่า จข กิจการ ก็อาจจะมีชนักติดหลัง โดยเฉพาะเรื่องภาษีเช่นกัน จนไม่สามารถจ้างตำรวจได้

ถ้าจะตัดสินใจบอกเจ้าของบริษัทหล่อนต้องทำหลังจากพ้นสภาพพนักงานไปก่อนค่ะแล้วตัวเหี้ยมันจะตกนรกทั้งเป็นอับอายขายขี้หน้าไปกับความชั่วของมันเอง แล้วเจ้าของบริษัทจะตาสว่างเองค่ะ

- ทำงานต่อไปเพื่อยื้อเวลาให้อายุงานถึงเป้าหมายที่แพลนไว้ เอาไว้ต่อยอด

- มันจะด่าหล่อนทะเลาะกับหล่อน หล่อนก็ทำโลกสวยปนตลกร้ายถ่วงไว้ก่อนยังไงถ้าเรานิ่งกว่า ครรอบข้างจะช่วยคอยเป็นหูเป็นตานะคะ แล้วรอจังหวะฟาดคืนตอนลาออกทีเดียวให้มันรู้ว่าเราคือมัจจุราชตัวจริง 5555