>มีโอกาสให้ไปเที่ยวดูไบตั้งหลายรอบ แต่ดันรอจะไปฮ่องกง
>ถ้าวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ
>ก็ได้ออกไปนอนหรูอยู่สบายที่ต่างประเทศแบบอีคนฮังการีนั่นแล้ว
>แต่เอาเถอะกูยอมรับในความใจเด็ดที่ไม่หลบหนีนะคะ
>แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าแอบมีอะไรหลังไมค์กับใครรึปล่าวถึงไม่ยอมหลบหนี
>ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ มึงอย่าคิดอะไรตื้นเขินแบบนั้นค่ะ
คนที่หนีคดี มึงต้องหนีไปให้สุด ๆ แล้วคิดว่า ต้องไปทำงานหาเงินต่อที่เมืองนอกนะ ถ้ามึงไม่มีธุรกิจใด ๆ ระดับโลกรองรับ
เงินที่จะเอาไปตั้งตัว ถ้ามีแค่ 10 ล้านบาท หรือไม่ถึง 100 ล้านบาท บอกเลยว่าอยู่เมืองนอกระยะยาวยากมากนะ แล้วคดีแบบนี้ มึงต้องหนีไม่ต่ำกว่า 20 ปี
คิดดูว่า มึงจะทนคิดถึงเมืองไทยได้เหรอ แล้วเงิน 100 ล้านบาท จะอยู่เมืองนอกสบายๆ ได้ถึง 10 ปีไหม กูจะบอกให้เลยนะ ไม่เลย ยกเว้นอยู่แล้วก็ทำงานหาเงิน
ซึ่งอาจจะไปทำร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟ หรืออะไรก็ว่าไป แค่พอให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามา ซึ่งมันก็ยากมากที่จะทำให้ใช้ชีวิตได้สบาย เพราะต้องใช้แรงงานมาดูแลตัวเอง
อายุความนับ 20 ปี พอกลับมาอีกทีแก่ มันเหมือนติดคุกนอกประเทศเลยนะ ทำงานในวงการบันเทิงก็ไม่ได้อีก เพราะบวกไปอีก 20 ปี ก็อายุ 50 กว่าแล้ว แล้วจะต้องทนคิดถึงเมืองไทย
ที่สำคัญการหนีไป จะทำให้เสียชื่อเสียงต่อตัวเองมากกว่านี้อีก แล้วเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลตลอดไป มันเป็นอะไรที่มีแต่แย่กับแย่มากนะ การหนีไป
ดูอย่างลุงโทนี่สิ แกมีเงินเป็นหมื่นล้าน ๆ แกยังอยากกลับไทย แกยังพูดเองเลยว่า มันไม่มีความสุขเลย เพราะคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอก เหมือนติดคุกที่กว้าง
มันเป็นความจริงนะ ตอนกูไปเรียนเมืองนอกหลายปี (กูเรียน 8 ปี) กูคิดถึงบ้าน แต่กูก็อดทน เพราะยังจะได้กลับไทย ปีหนึ่งได้กลับสักครั้งก็ยังดี แต่บางปีไม่ได้กลับเลย
อย่างน้อยเราก็ยังได้กลับ แต่การไปแล้วไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหน มันทรมานมาก อยากกินผัดกระเฉดหมูกรอบก็ไม่มีนะคะ เพราะเมืองนอกไม่มีผักกระเฉดค่ะ
ไม่มีให้นำเข้าด้วย เพราะเป็น invasive species ของอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และทุก ๆ ประเทศ
แล้วไม่มีผักจำนวนมากที่เป็นท้องถิ่นไทย อยากกินยำเจ๊เบียร์ก็กลับมากินไม่ได้ อาหารทะเลที่เมืองนอกก็มี แต่มันไม่เหมือนของไทย เวลาเอามาปรุง รสชาติมันไม่ authenthic
อะไรที่จะทำให้เราสบายใจ หลับตาได้ ถ้าอยู่เมืองนอกนานๆ ก็คือการได้รู้สึกว่า ยังไงเราก็มีคนที่เรารักและรักเรารออยู่ และเรากลับมาได้แน่ๆ ไม่มีคดีใดๆ
ดังนั้น ใครที่หนีไปต่างแดน ต่อให้อ้างว่ามีชีวิตสุขสบายอุราแค่ไหน มันก็แค่คำพูดปลอบใจ
ไม่ว่าจะอีแก่เพ็ญ อีกะเทยหน้าปรุอั้ม อีตุ๊ดแก่ปวิน อีตุ๊ดแก่สมศักดิ์ เจียม พวกนี้นอนทุกข์ใจทั้งนั้น แค่มันไม่กล้าพูดความจริงแบบลุงโทนี่
ไม่อย่างนั้น มันคงไม่บ้าโพสต์ถึงเมืองไทยจนตัวสั่นทุกวันนี้หรอกค่ะ
คนที่จะไปเมืองนอกแล้วมีความสุข คือ ไปอยู่นาน ๆ แล้วกลับมาเที่ยวไทยบ้านเกิดได้บ้าง หรือแม้แต่ตั้งรกรากที่เมืองนอก แต่ก็ยังกลับมาไทยได้
พวกนี้คือพวกที่ฐานะอาจจะปานกลาง ถึงรวย แล้วเลือกใช้ชีวิตที่ออกแบบเองได้ไง
ส่วนคนไทยที่ชอบเมืองไทยบ้านเกิดตัวเอง แต่ก็พอมีเงินไปท่องเที่ยวได้บ้างในเมืองนอก นี่ก็ออกแบบชีวิตได้เอง มีความสุขในแบบตัวเองได้
แต่ประเภทไปแล้วกลับมาอีกไม่ได้ นี่คือทุกข์แน่นอน ไม่มีเหตุผลใดที่จะอ้างได้ว่าไม่ทุกข์ แค่จะตอแหลว่าตัวเองไม่ทุกข์ มีผัว มีนั่นมีนี่ดีกว่าก็ตาม แต่ก็ยังกลับกะลาแลนด์ที่มันด่าไม่ได้อยู่ดี