.
ผมเปิดให้สังคมเห็นพฤติการณ์หลายอย่างของนายสนธิ

.
หมดยุคของคนที่มีความเชื่อแบบผิดๆ นำเอามาทำร้ายสังคม

.
นี่เป็นวันเวลาของคนหนุ่มสาวที่มีความใฝ่ฝัน มุ่งมั่น

.
ช่วงรอยต่อนี้นับเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีความประนีประนอมสูง

.
ไม่ใช่การกดขี่ข่มเหง

.
มีความรักชาติ รักสถาบัน บนพื้นฐานของความเข้าใจที่ถูกต้องเต็มใจ ไม่ใช่การบีบบังคับ

.
เสมือนเอาครูที่ใช้วิธีเฆี่ยนตี กับครูที่ใช้เหตุผล และเข้าถึงเด็กได้มากกว่ามาอบรมสั่งสอน

.
นายสนธิกลายเป็น “วัตถุโบราณ” หมดสภาพไปตามยุคโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

.
นอกจากความเชื่อในเรื่อง “กินฉี่” ของนายสนธิแล้ว

.
ยังมีเรื่อง “โกเต๊ก” (ผ้าอนามัยของผู้หญิง) ที่ใช้แล้ว นำไปทำพิธีคุณไสยอันเป็นเรื่องน่ารังเกียจที่นายสนธิทำในอดีต

.
ไม่มีใครในยุคสมัยนี้รับได้กับพฤติกรรมแบบนี้กันแล้ว

.
นายสนธิยังคงใช้วิธีการแบบเทศกาลงานวัดเรียกแขก ทั้งๆ ที่ยุคนี้มีโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีอินเตอร์เน็ตในการค้นหาความจริง

.
รุ่นเก่าหมดไป รุ่นใหม่มาแทนที่

.
จึงจำต้องเลือกเอาทางที่ดี ทางที่เป็นเหตุผล และทางที่ประนีประนอมเพื่อให้ลูกหลานก้าวเดินไปในทางที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อชาติ และสถาบัน

.
ไม่ใช่วิธีการก้าวร้าว ท้าทาย รุนแรง อย่างที่นายสนธิกระทำ

.
นายสนธิจึงเป็น “คนตกยุค” ที่ไม่ทันต่อยุคสมัย และบริบทของคนไทยในปัจจุบัน

.
การปล่อยให้นายสนธิคนกินเยี่ยวมาเคลื่อนไหว จะนำมาซึ่ง “สังคมไร้เหตุผล” ไม่รับกับยุคสมัย

.
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังประสานรอยต่อของอำนาจเก่าไปสู่อำนาจใหม่ จึงต้องใช้คนที่มีวุฒิภาวะสูง มีความเข้าใจคนทั้งสองรุ่น

.
นำคนไทยไปสู่ยุคชาติรุ่งเรือง สถาบันที่เคารพ ประชาชนที่มีสิทธิพลเมือง ข้าราชการที่ไม่โกงกิน

.
หมดยุคของการลงถนน กดขี่ เหยียดหยาม และข่มขู่ให้เดินตามความเชื่อที่รุนแรงก้าวร้าว

.
คนรุ่นใหม่ต้องเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องด้วยความเชื่อที่ถ่ายทอดจากอีกรุ่นไปสู่อีกรุ่นด้วยความเข้าใจ

.
ไม่ใช่แบบที่นายสนธิกำลังพยายามปลุกปั่นอย่างแน่นอน

.
เพราะยุคสมัยที่นายสนธิเป็นสารตั้งต้นของความแตกแยก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติมันจบไปแล้ว

.
และต้องไม่ปล่อยให้ “คนกินเยี่ยว” มาปลุกให้คนไทยทำร้ายกันเองได้อีกต่อไป