เป็นหมาขี้ข้ารับใช้ พม่า จีน รัสเซีย รัวๆ

ไอ้ควาย ไม่ส่งข้าว ส่งน้ำ ส่งอาวุธ มันจะได้ขนาดนี้ไหม
คนหรือสัตว์ ใจดำ เหลือเกิน

กองทัพพม่า ≠ ประเทศพม่า

= ค่ะ
เพราะทหารยึดอำนาจประเทศอยู่

ตลก อยากจะสร้างเครือข่ายเผด็จการ แต่เขาไม่เล่นด้วย

แต่ควายเหี้ยสวะแบบพวกมึง คงไม่มีจิตสำนึกด้านนี้อยู่ในกมลสันดาน เพราะวันๆ ตื่นมาก็ถวายตัวเป็นขี้ข้าเผด็จการอำนาจนิยมอยู่แล้ว

อีกอย่างนะ มรยาทก็ควรจะมี ควรให้รัฐบาลใหม่เป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ เป็นไงล่ะมึง โดนด่าหีแหก แม้แต่เพื่อนๆ ในวงการทูตด้วยกัน ยังออกมาด่า ถอนหงอกมันว่าไร้มารยาทเลย

มึงโดนใครบังคับให้เรียกพม่ามาประชุม “ลับ” รึเปล่าค่ะ ?

มึงดูอย่าง อีหนู อีไข่ต้ม เป็นตัวอย่างนะค่ะ มันโบ้ยความรับผิดชอบค่ะ
มันบอกว่า แค่รักษาการณ์ ไม่ทำงานเหี้ยไรเลย ไม่แก้ไข อะไรเลย

แล้วมึงเสือกอะไรห๊า อีแก่หัวหงอก จะหมดเวลาของมึงอยู่แล้วค่า สิ่งที่ทำนี่คือ
ทำให้อินโดฯเค้าอาจไม่พอใจก็ได้ว่า มึงจะข้ามหัวกูทำไม สาระแนทำไม
ใช่หน้าที่มึงมั๊ย แม่ง ทำลายชื่อเสียงประเทศได้ตลอดจริงๆ...

ส่งท้ายให้เพื่อนเผด็จการทหารเหรอ

พม่าโดนโลกแบน ตัดขาด ขนาดนี้ หนักกว่ารัสเซียอีกมั้ง ทำไมยังอยู่ได้สบายๆ

มึงคิดไหม ทำไม ก็เพราะมีอีไทย เนี่ย คอยช่วยเหลือกองทัพพม่ามาทุกยุค

ธุรกิจสีเทาต่างๆ ที่กองทัพพม่าหากิน ก็ซื้อขายกับกองทัพไทยนี่หละ

แล้วมึงคิดว่า ประเทศอื่นๆในอาเซียนเขาไม่รู้ริไง ที่ผ่านๆมาไทยทำอะไร

อีไทย เริ่มค้าขายในตลาดมืดกับพม่าไม่ได้แล้วไง อีดอนไม่ได้รับใช้พม่าหรอก มันรับใช้กองทัพไทยนี่แหละ

ไทยค้าขายได้ดุลการค้าพม่า
การค้าระหว่างไทย-เมียนมาในปี 2563 (ม.ค.-ธ.ค.) มีมูลค่า 197,790 ล้านบาท แบ่งเป็นไทยส่งออกไปยังเมียนมาเป็นมูลค่า 113,940 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่ม น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ เหล็กและผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง สบู่ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ผ้าผืน และรถจักรยานยนต์ และไทยนำเข้าสินค้าจากเมียนมามีมูลค่า 83,850 ล้านบาท สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ พืชและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง ผัก ผลไม้ เครื่องจักรไฟฟ้า สัตว์และผลิตภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์

ทำไมถึงต้องเรียกประชุม พอดีกับที่ รมต ต่างประเทศสหรัฐมาพบสีเจิ้นผิง
ชายแดนติดกัน รั้วบ้านติดกันควรเป็นมิตรหรือศัตรูกับพม่า
จีน รัสเซีย หนุนหลังพม่า
แม้แต่สหรัฐ ตอนนี้ยังกลับลำเอาใจจีน

บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา เข้าพบสี จิ้นผิง หารือความสัมพันธ์อเมริกา-จีน
.
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนพบและหารือกับแอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2565
.
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ว่าโลกต้องการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ และการที่ทั้งสองประเทศสามารถหาหนทางที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันได้นั้น ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของมนุษยชาติ
.
ชาวจีนก็เหมือนกับชาวอเมริกัน เป็นคนที่มีเกียรติ มีความมั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้ และทั้งคู่ก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เขากล่าว
.
โดยสังเกตว่าผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศควรได้รับคุณค่า และความสำเร็จตามลำดับคือสร้างโอกาส แทนที่จะเป็นการคุกคามซึ่งกันและกัน สี จิ้นผิงกล่าวว่าทั้งสองประเทศควรดำเนินการด้วยความรู้สึกรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ เพื่อประชาชนและต่อโลก และจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างถูกต้อง
.
ด้วยวิธีนี้ สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่สันติภาพและการพัฒนาของโลก และช่วยทำให้โลกซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลง มีเสถียรภาพ มีความแน่นอนและสร้างสรรค์มากขึ้น สีจิ้นผิงกล่าวเสริม
.
จีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และไม่พยายามที่จะท้าทายหรือแทนที่สหรัฐฯ และในทางเดียวกัน สหรัฐฯ จำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่กระทบกระเทือนสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบธรรมของจีน สี จิ้นผิง ยังกล่าวถึงการที่ทั้งสองฝ่ายไม่ควรพยายามที่จะกีดกันสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของอีกฝ่ายให้น้อยลง เพื่อให้เกิดประโยชน์แต่ตนเองฝ่ายเดียว
.
สี จิ้นผิง ระบุ จีนหวังเสมอที่จะเห็นจีน-สหรัฐฯ และเชื่อว่าประเทศใหญ่ทั้งสองสามารถเอาชนะความยากลำบากต่างๆ ได้ และหาทางที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ ใช้ท่าทีที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง และทำงานร่วมกับจีนใน ทิศทางเดียวกัน
.
ประธานาธิบดีจีนชี้ว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยังคงยึดมั่นในความเข้าใจร่วมกันที่เขาและประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ บรรลุในการประชุมที่บาหลี และนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อสร้างเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
.
ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน ได้กล่าวคำทักทายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เขากล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดน เชื่อว่าสหรัฐอเมริกาและจีนมีภาระหน้าที่ในการจัดการความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วยความรับผิดชอบ นี่คือผลประโยชน์ของสหรัฐฯ จีน และโลก เขากล่าว พร้อมเสริมว่าสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะกลับไปสู่สิ่งที่ประธานาธิบดีทั้งสองกำหนดไว้ในการประชุมที่บาหลี
.
บลิงเคนกล่าวว่า สหรัฐฯ ยืนหยัดตามคำมั่นสัญญาของไบเดน กล่าวคือ สหรัฐฯ ไม่แสวงหาสงครามเย็นครั้งใหม่ ไม่พยายามเปลี่ยนแปลงระบบของจีน สหรัฐฯและพันธมิตรไม่ได้มุ่งเป้าไปที่จีน ไม่สนับสนุน "เอกราชของไต้หวัน" และ ไม่แสวงหาความขัดแย้งกับจีน
.
เขากล่าวเสริมว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ตั้งตารอที่จะมีส่วนร่วมระดับสูงกับฝ่ายจีน รักษาช่องทางการสื่อสารที่เปิดกว้าง จัดการความแตกต่างอย่างมีความรับผิดชอบ และดำเนินการเจรจา แลกเปลี่ยน และความร่วมมือ
.
แหล่งข้อมูล:https://news.cgtn.com/.../President-Xi-Jinping.../index.html

ว้ายยยย อีนี่รู้จริง