ยุโรปใช้ภาษาหีแตดอะไรกัน ฟังไม่เข้าใจ

และอเมริกามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก สามารถเป็นเศรษฐีได้ง่ายๆ ถ้าทุกอย่างอำนวย โดยหลักก็มี ความ

ฉลาด ขยัน โอกาศ

แต่สภาพเศรษฐกิจและโครงสร้างสังคมของไทย ยิ่งในตอนนี้ยุคนี้ ต่อให้มึงเก่งและขยัน ก็ไม่ได้แปลว่ามึงจะลืมตาอ้าปากได้ในประเทศไทย

คนยุโรป เสียภาษีเฉลี่ย 40% ของรายได้ คือมากกว่าอเมริกาแค่ 10% แต่คนยุโรปได้เรียนฟรี รักษาฟรี รัฐสวัสดิการตอนแก่เฒ่า คือมี safety net ตั้งแต่เกิดยันตาย

คนอเมริกันน่าสงสารมากกว่า เพราะรัฐบาลอเมริกัน เอาภาษีประชาชนไปจ่ายกับความมั่นคงต่างประเทศ มากกว่าที่นะเอามาดูแลประชาชนชาวอเมริกัน

แต่ของยุโรป เขาเน้นคุณภาพประชากรมาเป็นอันดับแรก เก็บภาษีทาได้เท่าไร เอาไปอัดในงบพัฒนาคุณภาพชีวิตคนก่อนเสมอ

10 10 10

อเมริกาน่า ไม่รู้จักค่ะ รู้จักแต่อเมริกาโน่

ที่จริงควรพิมพ์ว่า ทวีปอมริกา มีอะไรให้น่าย้ายไปอยู่ หรือ อมเริกา น่าอยู่หรือคะ มากกว่านะคะ

อิฉันอ่านแล้วเข้าใจว่าถามว่า อมริกาน่า อยู่ตรงไหน
คิดว่าเป็นกระทู้ตลกเสียอีกค่ะ

ส่วน 2ทวีปนี้ จะน่าอาศัย หรือไม่ แล้วแต่คนที่เขาย้ายไปอาศัยอยู่เลยค่ะ
การตั้งข้อสงสัย แล้วเปรียบเทียบ ว่าดีกว่า เหนือกว่า
แลดูส่อกำพืด และประสบการณ์ชีวิต ที่ไร้การอบรมที่ดีเลยค่ะ

ส่วนตัวอิฉัน อเมริกา กว้างใหญ่ไพศาล มีอะไรให้เรียน
รู้อีกเยอะ ทั้งในแง่ความเจริญ และความด้อย

ส่วนยุโรป อิฉันเอาไว้ศึกษาประวัติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ค่ะ
แต่ส่วนที่เลิศสุด อิฉันคิดว่าเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ ติดรัสเซียค่ะ
ลองไปดูนะคะ วิสัยทัศน์จะได้กว้างไกล หลากหลายมากกว่าที่เป็นอยู่

แก่แล้ว แต่ก็ต้องมีทักษะนะคะคุณป้ากะเทยหัวล้าน

เหมือนถ้าอยู่ไทย แถวพวกโซนสลัมคลองเตย แล้วจะเหมาว่าอันตรายทั้งไทยมันก็ไม่ใช่ปะ

และที่สำคัญพวกนี้ ถึงเป็น homeless ขี้เกียจทำงาน แต่รัฐบาลก็ยังมีสวัสดิการดูแลให้ดีกว่าที่ไทยมาก
เอาจริงๆมันก็มี shelter ที่ซุกหัวนอนให้ แต่พวกนี้มันไม่อยู่กัน

USA เป็นประเทศที่โคตรอิสระมาก ใครอยากทำห่าไรทำเลย แค่ไม่ผิดกฎหมายไม่เดือดร้อนคนอื่นพอ

พวกคนไทยที่มาอยู่นี่ถ้าขยัน ทำงานหาเงินได้เยอะกันหมด สบายๆ ไม่มีคนอยากกลับไปทำงานที่ไทย
แต่ส่วนพวกที่อยู่ไม่ได้ มีแต่พวกขี้เกียจ ไม่สู้งาน ไม่ก็เป็นพวกขี้ขโมยพอโดนจับได้ กลุ่มคนไทยก็แบนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นไม่ก็โดนแจ้งตำรวจจับส่งกลับ
พวกตำรวจกันไม่ค่อยสนใจพวกหนีเข้าเมืองมาเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่มีคนไปแจ้งให้จับเพราะไปทำความเดือดร้อนอะไรมา

เคนะ

เหยียดผิว!!!

ที่บอกว่าคนผิวขาวเหยียดผิวดำ จริงๆก็ไม่เยอะเท่าพวกอีดำเนี่ยละชอบเหยียดเอเชีย
ไม่เห็นจะมีใครมาเรียกร้องสิทธิให้ชาวเอเชียที่โดนอีดำเหยียดบ้าง

แล้วอีดำส่วนมากเนี่ย ชอบเอาเปรียบคนอื่น และเป็นตัวขี้เกียจเลยละ

ขอรบกวนช่วยอธิบายหน่อยสิ ว่าจีนเลิศสุด และ น่าอยู่ อย่างไร ที่บ้านจะให้ไปเรียน แต่ไม่อยากไป

ไปเถิดค่ะ แล้วจะรู้ แค่เบจิง ก็ยิ่งกว่าลอนดอนแล้วค่ะ
ที่ท่องเที่ยวออลังก็เยอะ
ควยอีก พวกชอบเปย์โดยที่เราไม่ต้องเป็นกะหรี่ก็เยอะมาก

โดยเฉพาะความ Liberal สุดโต่งในยุโรป

ไหนจะกฏหมายรับผู้อพยพ และ Open border ที่ตอนนี้เป็นกำลังเป็นปัญหาทางอ้อมในยุโรป เมื่อคนมันหลากหลายร้อยพ่อพันแม่เกินไป วัฒนธรรม ภาษา ศาสนา ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นก็เริ่มหายไป ความเห็นต่างที่เคยคิดว่าจะอยู่ร่วมกันได ก็เริ่มขัดแย้งและรุนแรงขึ้น

อเมริกันอาจจะไม่ได้มีคุณภาพชีวิตดีเท่าคนยุโรป แต่คนอเมริกันมีเสรีภาพมากกว่าในการใช้ชีวิต ไม่มีการเก็บภาษีหยุมหยิม (ยกเว้นบางรัฐเช่นแคลิฟอเนีย นิวยอร์ก) ส่วนใหญ่เสียภาษีรายได้ให้รัฐบาลกลางและรัฐท้องถิ่นอย่างเดียว จะมีบางรัฐอย่าง ฟลอริด้า เทกซัส อลาสก้า ฯลฯ ที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้ให้รัฐท้องถิ่น เสียให้แค่รัฐบาลกลางอย่างเดียว ง่าย ๆ

ประกันสุขภาพอาจจะไม่ดีเท่ายุโรป หรือแย่กว่าโลกที่ 3 บางประเทศด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศเสรี ทุกคนควรมีเสรีภาพในการเลือกที่จะมีประกันหรือไม่มีประกัน ไม่ควรบังคับให้คนจ่ายภาษีเพิ่มเพื่อประกันสุขภาพ แต่ก็มี Affordable care Act ที่รัฐบาลช่วยจ่าย ทำให้คนรายได้น้อยถึงปานกลางจ่ายประกันสุขภาพไม่ถึง $100 ต่อเดือนก็เยอะ อาจจะไม่ฟรี แต่ก็ไม่แพงสำหรับคนอเมริกัน ข้อนี้บางคนบอก Make sense บางคนบอกไม่ Make sense นานาจิตตังจริง ๆ ค่ะ สำหรับกูไม่เดือดร้อนอะไร เพราะจ่ายแค่ $35 ต่อเดือน

แต่ละรัฐกฏหมายก็แตกต่าง สภาพสังคม เศรษฐกิจ รวมไปถึงภูมิศาสตร์ ก็แตกต่าง รัฐบางรัฐใหญ่กว่ายุโรปบางประเทศในเชิงพื้นที่ เป็นตัวเลือกให้คนที่ชอบรัฐไหนก็ไปรัฐนั้น และด้วยความพื้นที่เยอะ ทำให้มีการกระจายของตัวเมืองอย่างมีแบบแผน ง่ายต่อการเดินทาง ขนส่งสาธารณะที่อเมริกาคุณภาพพอ ๆ เวียดนาม แต่ก็ว่าไม่ได้ เพราะรถยนต์ที่นี่ซื้อได้ไม่ยาก แทบทุกคนตั้งแต่เด็กมัธยมทำงานพาร์ไทม์ก็มีรถดี ๆขับไปเรียนไปทำงานได้แล้ว ด้วยความเสรีภาพคนอเมริกันส่วนใหญ่บอกกูขับเองไปเองดีกว่าต้องมานั่งรถบัส รถไฟที่ก็ควบคุมไม่ได้จอดตามป้ายมันไม่เสรี

และด้วยความที่เป็นประเทศใหม่ ในเชิงประวัติศาสตร์ อะไรๆ ในอเมริกาถือว่าใหม่หมด บางคนอาจจะถูกจริตกับความสดใหม่มากกว่าที่จะอยู่ในประเทศหรือเมืองที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่และประวัติศาสตร์

ที่สำคัญขนาดเศรษฐกิจที่ถือว่าใหญ่กว่าสหภาพยุโรปรวมกัน ทำให้โอกาสในการสร้างอาชีพ หาทางทำเงินง่าย และหลากหลาย ต่อให้วันใดวันนึง GDP ต้องเป็นรองจีน แต่ความมั่นคงและแข็งแรงทางเศรษฐกิจอเมริกายังคงยากที่ประเทศไหนจะเทียบได้

ตอนนี้คนยุโรปอยากย้ายมาอยู่อเมริกาเยอะมากนะคะ บางคนมาเที่ยวมาอยู่หลายเดือน ซื้อบ้านตากอากาศก็เยอะ ย้ายมากับที่ทำงานก็เยอะ โดยเฉพาะคนอังกฤษคือเยอะมากกก ข้างบ้านกูก็ผู้ชายอังกฤษเอาเมียอเมริกัน ที่ทำงานกูก็มีคนอังกฤษหลายคนกับชะนีออสเตรเลียนางนึง ร้านอาหารฝรั่งเศส โปแลนด์ อิตาเลียน ทีแรกกูนึกว่าคนอเมริกันเชื้อสายพวกนี้เปิดกันเอง ที่ไหนได้ คนฝรั่งเศส คนโปแลนด์ อิตาเลียนแท้ๆ มาเปิดเองเพื่อเอาวีซ่าลงทุนแล้วจะขอกรีนการ์ด นี่ขนาดกูอยู่เมืองไม่ใหญ่มากนะ ถ้าเมืองใหญ่ ๆ อย่าง แอลเอ นิวยอร์ก ชิคาโก้ กูว่าน่าจะมีคนยุโรปย้ายมาอยู่เยอะ

ลอนดอนเต็มไปด้วยแขก แม้กระทั่งนายก

Loser ค่ะ อ่อนแอก็แพ้ไป ไปเป็นใหญ่ในอย่างราชาโลกที่สามดีกว่าเป็นยากจกในโลกตัวเอง อาจจะเรียกว่าฉลาดตามงบที่มีก็ได้

ยุโรปเน้นรัฐสวัสดิการ คนขี้เกียจมากๆ สบายเกินจนเคยตัว

ยุโรปเขาพัฒนามาก่อนมึงและเจริญทางความคิด คุณภาพชีวิต สวัสดิการ และสังคม

อีเมกาน่ะหรอ คนจนก็เป็นได้แค่หมาตัวหนึ่ง รัฐสวัสดิการไม่ต้องพูดถึง อีกันทำหน้าเอ๋อ

แน่นอนว่ายุโรป สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ ปังฟาดกว่าอยู่แล้วค่ะ ถ้าไม่เอาเรื่องเศรษฐกิจการเมืองมาบลัฟอ่านะ

เธออย่าเอาเมืองบ้านนอกของอเมริกามาเปรียบเทียบกับลอนดอนสิ

ชั้นว่า นิวยอร์ก ชิคาโก ลอสแอนเจิลลิส ซานฟราน ดีกว่า ลอนดอน ปารีส แฟรงก์เฟิร์ต มิลาน

แผนผ้งเมืองของยุโรปแย่กว่ามากๆ เพราะ ออกแบบมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถนน ในอเมริกา เป็นบล๊อกๆ เป็นระเบียบ หาง่าย กว้าง ยุโรปเป็นถนนเล็กๆ cobble stones โบมากๆ

ถ้าจะเปรียบเทียบ ดูพสกฝรั่งมาเแรียบเทียบ
กรือพวกจะดแรงค์กิ้งเมืองที่ดีที่สุดในโลก ประมาณนี้
เพราะบางแระเทศ อย่างอเมริกา การอยู่นิวยอร์ก มันคนละเรื่องกับการอยู่ดัลลัส

อย่าดูถูกคนอื่นสิ ถามเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องขิง

สงสัยมีปม

นั่งรถไฟชั้นสาม คือกระจอก หรือคะ
เบิกสายตากว้างๆ บางคนเขามีความต้องการซึมซับบรรยากาศการเดินทางมากกว่านั้น
จะนั่งชั้นสาม ชั้นสี่ อะไรก็เรื่องของเขาค่ะ