• กรณีหญิงอายุ 64 ปี ได้ร้องเรียนว่า ตนแต่งงานกับสามีตั้งแต่ปี 28 มีลูกชายด้วยกัน 2 คน

“ปรากฏว่าวันหนึ่ง สามีพาหนุ่ม LGBTQ รุ่นลูก มาอยู่ด้วยในบ้าน!”

• โดยบอกว่าพาหนุ่มคนนี้มาเป็นคนรับใช้ แต่เห็นนอนกอดกันทุกคืน เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน

• ส่วนตนเองโดนไล่ให้มานอนข้างล่าง ต้องนอนกอดทะเบียนสมรส ร้องไห้ทุกคืน แต่สามีก็ไม่ยอมหย่า!

• ล่าสุด ทางด้านสามี โต้กลับว่า ตนมีปัญหากับภรรยามานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะภรรยาเปลี่ยนไป ไม่สนใจสามี ไม่ยอมดูแลตัวเอง แต่เจอแบบนี้คงต้องหย่ากันจริงๆ

“ยืนยันว่าไม่ได้คบชู้ เพราะตนมองว่าหนุ่มคนดังกล่าวเป็นเหมือนลูกอีกคนนึง”

• ด้านชายหนุ่มที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนรู้จักและสนิทกับฝ่ายชาย จากนั้นตอนช่วงโควิดตัวเองไม่มีงาน จึงมาขออาศัยและอาสาช่วยดูแลคนในบ้าน

• ส่วนที่ฝ่ายหญิงอ้างว่า ตนและฝ่ายชายอาบน้ำด้วยกันนอนกอดกันนั้น “อาจจะเป็นจริง แต่เป็นพฤติกรรมแบบลูกผู้ชายไม่ใช่เชิงชู้สาว”

“ถ้าหากจะให้ตนออกจากบ้านเพื่อให้เรื่องจบก็ยินดี แต่ต้องเป็นฝ่ายชายที่ขอให้ออก”

• ขณะที่ลูกชายคนโต อายุ 36 ปี ยอมรับว่า ระยะหลังพ่อมีพฤติกรรมเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ยืนยันว่าพ่อกับเด็กหนุ่มไม่ได้มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวเหมือนที่แม่เข้าใจผิด

https://vt.tiktok.com/ZSLT9nTn1/
https://www.thaich8.com/news_detail/129319

ยุคนั้นสังคมยังอคติอยู่มาก ถ้าเป็นเกย์ไม่สาวแตกเป็นกะเทยจนปิดไม่มิด ยังไงก็ต้องแต่งงานกินหอย ทนเก็บตลอดชีวิตไม่ไหวก็ต้องมาแตกโพล๊ะในวัยชรา

อ้าวป้าพังพร

ตอแหล