ทุกวันนี้ใช้ LG ฝาหน้าซักอบ 10.5 โล มาเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว
ยังไม่เสีย ยังไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ อยู่กัน 2 คน ซักผ้าแยกกันตอนซื้อมาใหม่ๆ หลายคนที่รู้จักขู่ว่า พังง่าย อะไหล่แพง เดี๋ยวก็น้ำรั่วซึม
นี่ก็ยังไม่เจอปัญหานะคะ โดยรวมก็พอใจมากกับราคาที่ได้ช่วงโปรโมชั่นเพราะขายไม่ออกช่วงโควิด
ได้มา28000 บาท จากราคาเต็ม 39,xxx บาท
ความสะอาด สะอาดกว่าฝาบน นี่ใส่ผ้าไม่เต็มถังใส่แค่หลวมๆ มีโปรแกรมล้างถังซัก นี่ใช้ร่วมกับน้ำยาล้างถังซัก
ก็รู้สึกว่าถังสะอาดมาก คู่มือการใช้งานแนะนำให้ล้างทุก 30 ครั้ง แต่นี่ล้างบ่อยกว่านั้น
อีกอย่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับข้างบ้านที่ซักผ้าพอๆกัน คือค่าน้ำ ฝาหน้าประหยัดน้ำกว่ามาก
และก็ประหยัดไฟกว่าด้วยเพราะเป็นมอเตอร์แบบ inverter direct drive เสียงเงียบ
กว่าระบบสายพาน แต่เวลาปั่นหมาดต้องเลือกรอบต่ำประมาณ 800-900 ถ้ามากกว่านั้น
เสียงจะดังสนั่นประมาณ jet engine
ส่วนเรื่องการอบ ก็ถือว่าใช้ได้ ถ้าผ้าไม่อุ้มน้ำมากก็จะแห้งไว 1 ชม.ก็แห้งแล้ว เพราะนี่ปั่นแค่ 800 รอบ
ถ้าปั่นที่รอบสูง เช่น 1200-1400 เวลาอบผ้าจะแห้งไวขึ้นไปอีก แต่ก็แลกด้วยเสียงที่ดังสนั่นบ้าน
ถ้าผ้านวม ผ้าหุ่ม ก็อาจมีถึง 2 ชม. และแห้งไม่สนิททั้งหมด อาจมีชื้นๆนิดหน่อย เป็นจุดๆ แต่ไม่ใช่ปัญหา
ห่มในห้องแอร์คืนหนึ่งก็แห้งสนิทแล้ว
เครื่องฝาหน้าถ้าไม่อยากให้พังเร็ว ควรติดตั้งภายในบ้านจะดีกว่า ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่อับชื้น
บางบ้านไว้นอกบ้านใต้ชายคา อาจไม่โดนแดดแต่ได้ความชื้นเต็มๆในหน้าฝน ซึ่งส่งผลเสียต่อตัวเครื่องและ
แผงวงจร อีกอย่างหนึ่งที่นี่ทำประจำคือเมื่อซักผ้าเสร็จแล้วจะเปิดฝาทิ้งไว้ระบายความชื่น ถึงถาดน้ำยาซักผ้าออกมา
เพื่อให้เกิดการระบายความชื้นอีกช่องทางหนึ่งด้วย เปิดไว้ตลอด จนกว่าจะแห้งแล้วค่อยปิด
เรื่องความทนทานยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะใช้มาแค่ 3 ปีเองค่ะ ถ้าใช้ๆ ไปแล้วมันพัง เครื่องต่อไปก็จะซื้อฝาหน้าอีกค่ะ
เพราะชอบที่มันประหยัดน้ำกว่าและประหยัดไฟ(ในรุ่น inverter) และเสียงเบาเวลาซัก