รัฐบาลลุงนิด เหม็นหีแบงค์ชาติค่ะ อีแบงค์ชาติหมาปากบอกห่วงประชาชน ทำรายงานความเหลื่อมล้ำออกมาทุกปี ก็ชัดเจนแล้วไทยเหลื่อมล้ำสุดในโลก และในอาเซียน ต่อพอถึงเวลาจริงๆ ก็ห่วงแต่นายทุน พอรัฐบาลลุงนิดเเขาจะแจกเงิน 1 หมื่น เพื่อบูสเศรฐกิจ อีแบงค์ชาติหมาก็มาขวางเขาไง

1.ถ้าเศรษฐกิจดี ประชาชนมีกำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ ทุกธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น ธุรกิจแบงก์ที่เปรียบเสมือน “หัวใจ” สูบฉีดเลือดหรือเงินไปเลี้ยงร่างกายหรือภาคธุรกิจจะมีกำไรในสถานการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ร่างกายดี หัวใจก็ควรจะแข็งแรง

2.แต่สถานการณ์เศรษฐกิจในวันนี้แย่มาก แบงก์ชาติเพิ่งปรับลด GDP ปี2566 จาก 3.6% เหลือ 2.4% พ่อค้าแม่ค้าบ่นว่าขายของไม่ดี ธุรกิจเอสเอ็มอี 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 เลิกกิจการ 17,858 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 11% รถยนต์ถูกยึดเดือนละ 27,000 คัน เพราะคนผ่อนไม่ไหว

3.คนที่ยื่นเรื่องขอกู้ซื้อบ้านถูกแบงก์ปฏิเสธประมาณ 50% แต่ถ้าเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมราคา 1-3 ล้านบาท อัตราการกู้ไม่ผ่านสูงถึง 70% เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ค่าผ่อนบ้านต่อเดือนสูงขึ้นในขณะที่เงินเดือนเท่าเดิม แบงก์ไม่ปล่อยกู้เพราะกลัวหนี้เสีย

4.ลำพังแค่เศรษฐกิจไม่ดี แต่แบงก์กำไรเพิ่มขึ้นก็ถือว่าผิดปกติแล้ว เหมือนร่างกายอ่อนแอ แต่หัวใจกลับแข็งแรง พอมาดูเหตุผลว่าทำไมแบงก์ไทยทำกำไรได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ตั้งแบงก์มา…ยิ่งน่าตกใจ

รู้ไหมครับว่ากำไรที่สูงลิ่วของแบงก์มาจากอะไร “การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ” หรือ NIM ครับ

หมายความว่าในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น แบงก์ก็ขยับ “ส่วนต่าง” ของดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ของแบงก์ไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม จ่ายดอกเบี้ยคนฝากเงินน้อยๆ แต่ให้กู้แพงๆ ทำกำไรแบบง่ายๆ นักวิเคราะห์บอกว่าแบงก์ที่กำไรจาก “ส่วนต่าง” นี้มากที่สุด คือ แบงก์กรุงเทพ

อย่าแปลกใจ เพราะดอกเบี้ยฝากประจำ 1 ปีของแบงก์กรุงเทพต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแบงก์ใหญ่ทั้งหมด ตอนนี้อยู่ที่ 1.6% ในขณะที่แบงก์อื่นขยับขึ้นเป็น 2-2.2 %แล้ว ที่มีคนกล่าวหาว่าแบงก์เป็น “เสือนอนกิน” จึงไม่ใช่คำกล่าวหา

5.ประเด็นสำคัญ ก็คือ หน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ คือ ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่รู้สึกว่าผิดปกติบ้างหรือครับ เมื่อ GDP ที่เป็นดัชนีบอกว่าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าไร แบงก์ชาติบอกว่าปี 2566 ประมาณ 2.4% แต่ธุรกิจธนาคารที่คุมระบบการเงินของประเทศเติบโตสูงถึง 18.5% หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศถึงเกือบ 8 เท่าตัว

ความผิดเพี้ยนแบบนี้รัฐบาลและแบงก์ชาติไม่รู้สึก “เอ๊ะ” อะไรบ้างหรือครับ

“แบงก์ชาติ” นั้นเหมือนคุณหมอที่ดูแลเรื่อง “หัวใจ เมื่อเห็นการทำงานของ “หัวใจ” เต้นผิดปกติแบบนี้ จะไม่คิดทำอะไรบ้างเลยหรือ หรือเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติของเศรษฐกิจประเทศที่แบงก์ชาติบอกว่า “กำลังฟื้นตัว”

ไม่ใช่ไม่เอ้ะ ป้าคิดตื้นๆ แบงค์ชาติขานึงก็เหมือนผู้ดูแลแบงค์ ก็ต้องทำเพื่อแบงค์ เหมือนพรรคการเมืองต่างๆที่ประกอบขึ้นจาก interest groups ก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์กลุ่ม ทุกอย่างมันเลยเป็นมาอย่างนี้ ไม่มีใครทำเพื่อประชาชนจริงๆ มีแต่โปรยเศษผลประโยชน์ให้พออยู่ได้ ไม่งั้นประเทศไม่เป็นอย่างทุกวันนี้หรอก

เหม็นกลิ่นสลิ่มบูดค่ะ

จริงค่ะ กลิ่นสาปเหมือนพ่อแม่ของพี่กะเทยตุ๊ดเลยใช่ไหมคะ ถึงได้คุ้น อิอิ

ห่วงแต่นายทุนดูเหมือนจะเป็นมาเกือบทุกรัฐบาลนะครับป้า ตอนนี้ก็ไม่ต่าง ทุนผูกขาดต่างๆ ไม่เห็นเข้าไปแก้ ระบบจัดเก็บภาษี capital gain กับการจัดเก็บภาษีตามเป้าไม่เห็นจะทำจริงๆจังๆ ไม่ว่ารัฐบาลไหน ดิจิทัลได้ข่าวปปชก็ตั้งคำถามว่าอาจเอื้อทุนใหญ่นะครับป้า ป้าจะบอกทุกคนรุมกลั่นแกล้งอีกไม่ได้นะครับป้า เลิกเป็นเหยื่อ

งั้นควรลาออกได้ละนะ
พื้นฐานเศรษฐศาสตร์ การเงิน ไม่เรียนเลยหรอ
ศึกษาเพิ่มมั้ย
อิรมต กระทรวงพาณิช การคลัง มืงต้องเข้าใจนะ
อันนี้เบสิคมาก เค้าขึ้นดอก ลดดอกกันทำไม เห้อ
สงสารประเทศ

ละอิพวกชาวบ้านยิ่งโง่ๆยุ่แล้ว ก้แห่เฮละโล โง่ตามกันไปใหญ่

ดูถูกประชาชนโง่ เพราะเขาไม่เลือกประชาธิปัตย์ ไปเลือกพรรคลุงตู่หรอคะ

ด่าคนรุ่นใหม่ว่า โง่ อีกละ

สันดานพวกเหี้ยนี่ก็แบบนี้

ธนาคารรวยเติบโตสูงเป็นประวัติการ ในช่วงที่เศรษฐกิจประเทศทั้งระบบแย่ GDP หดลงขนาดนี้ นี่ไม่ปกตินะอีแก่ สภาพประเทศแบบนี้ไม่ปกติแน่นอน เซลสมองมีหัดคิดหน่อย ตอบโง่ๆ เหมือนไม่เคยเรียนหนังสือ

.

พี่คะป้ากะเทยรายนี้ว่าพ่อแม่ป้าไม่มีเงินส่งพี่เรียนหนังสืออ่ะ ป้ากะเทยรายนี้ปากร้ายมากเลยค่ะ แม่ป้าเค้าเป็นแม่ค้าหรอคะ