วันที่ 28 ม.ค. ทางการไทยและจีนได้ลงนามในข้อตกลงยกเว้นข้อกำหนดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวของกันและกันแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ร่วมลงนามในพิธีความตกลงและเอกสารสำคัญไทย-จีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค. 2567

(คนไทยพี่น้องกัน เห็นไหมคะบอกแล้ว แม่ค้า เจ้าของร้านอาหาร โรงแรม รวยเล๊ะเลยคะ)

China Securities Journal ชี้ให้เห็นว่าหลังจากการประกาศข่าวข้างต้นบนแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์บนแผ่นดินใหญ่ Ctrip ความนิยมในการค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า โดยทั้งตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

Qin Jing รองประธานกลุ่ม Ctrip กล่าวว่าการยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างจีนและไทยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ซึ่งเชื่อมโยงกับนโยบายยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่สิ้นสุดเดิมในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ภายหลังการลงนามข้อตกลงดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีนและไทยอย่างมาก ในทางกลับกัน จีนแผ่นดินใหญ่เป็นจุดหมายปลายทาง "การท่องเที่ยวน้ำแข็งและหิมะ" ที่ใกล้ที่สุดกับไทย การยกเว้นวีซ่าถาวรจะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังประเทศจีนและเอื้อต่อการเสริมทรัพยากรการท่องเที่ยวระหว่างจีนและไทย

CCTV รายงานเมื่อต้นเดือนว่า นายกรัฐมนตรีไทย Saitha Thakkar ประกาศเมื่อวันที่ 2 ว่าจีนและไทยจะยกเว้น วีซ่าให้แก่ พลเมืองของกันและกันอย่างถาวร โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ยังได้ตอบในงานแถลงข่าวเป็นประจำในวันเดียวกัน โดยกล่าวว่าการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย และการยกเว้นวีซ่าร่วมกัน ถือเป็นผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้งสอง . ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของทั้งสองฝ่ายกำลังสื่อสารอย่างใกล้ชิดในเรื่องเฉพาะ และจีนหวังว่าข้อตกลงที่เกี่ยวข้องจะมีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด

ในความเป็นจริงเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่เจ้าหน้าที่ไทยได้ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าจะมีการใช้ระบบปลอดวีซ่า 5 เดือนสำหรับนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ปีนี้ นักท่องเที่ยวจะเข้าประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทางจีนและการเดินทาง เอกสาร ไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวและอยู่ฟรีวีซ่าได้ไม่เกิน 30 วัน ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยทั้งหมด 28 ล้านคน จีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในอันดับที่สองด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านคน รองจากมาเลเซียเพียง 4.5 ล้านคน

ก่อนการลงนามอย่างเป็นทางการของการยกเว้นวีซ่าร่วมกันระหว่างจีนและไทย จีนแผ่นดินใหญ่ยังได้ลงนามในข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันกับสิงคโปร์ ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 (นั่นคือวันส่งท้ายปีเก่าทางจันทรคติ) รวมถึงประเทศไทยในครั้งนี้ด้วย จีนแผ่นดินใหญ่ได้ทำข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันซึ่งครอบคลุมหนังสือเดินทางประเภทต่างๆ กับมากกว่า 158 ประเทศ และได้บรรลุข้อตกลงหรือข้อตกลงกับ 44 ประเทศเพื่อทำให้ขั้นตอนการขอวีซ่าง่ายขึ้น

จากข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้โดย Tongcheng Travel แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เส้นทางเกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้กลายเป็นเส้นทางการเดินทางขาออกระยะสั้นยอดนิยมสำหรับชาวแผ่นดินใหญ่

โดยทั้งตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

จากข่าว จำนวนการค้นหา ประเทศไทยในเว็ปจีน มียอดเข้าไปกว่า200ล้านครั้ง

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อุโมงค์...ชาวจีนเต็มเลยค่ะ จะนอนตาแอร์สักหน่อย

.

มันนี้ รถจะติดไหมคะ? ไป MRT ลงป้าย สถานีสนามไชยวัดโพธิ แล้วเดินไปสนามหลวง

ว่าจะไปวันเสาร์ เช้า นี่ไหนจะทัวร์จีนอีก เฮ้อ

กรี๊ดอะไรมึงคะอีแก่ ไปจอกอีพวกขอทานเตรียมสแกนจ่ายAlipayแบบพวกเจ๊กสิคะ

ของจริงต้องเชงเก้นยุโรปีค่ะ ยิ่งใหญ่กว่านี้แน่นอน

ยี้ๆๆๆๆอีเจ๊กน้ำลายบูด ขากถุย แดกหีค้างคาวตุ๋น

.

แอร๊ยยย

.

.

.

.

.