ที่นี่ tax ทุกเม็ด ไม่สนว่าจนหรือรวย คิดหนีภาษีเหรอมันเอาตาย มึงย้ายประเทศไปไหน
มันตามล่าไปถึงที่ค่ะ อย่าคิดว่าจะรอด ความตายก็ไม่ช่วย ตายแล้วก็โดนทุกเม็ด
ที่นี่คุณภาพชีวิตดี? อันนี้แล้วแต่ตัวมึงว่าจะตะเกียกตะกายไปได้สูงแค่ไหน ยิ่งมีเงินมากยิ่งสบาย
ถ้าสักแต่ว่าทำตัวเกรียนๆ เล่นยาเท่ๆ ทอดไก่ไปวันๆ สุดท้ายลงเอยด้วยการไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
หรือยูทูปเบอร์ที่ไทยไม่งั้นอดตาย

ถ้าตายแล้ว และใช้เงินหมดแล้ว มันจะเก็บยังไงคะ สุดท้ายก็เก็บไม่ได้ ว้าย

ถ้าใช้เงินหมดแล้วและตายระหว่างปีภาษี มีภาษีที่ต้องจ่าย แต่ญาติอ้างว่าเงินหมด
สรรพากรจะทำการสืบหาทรัพย์สิน ถ้าพบว่ามีทรัพย์สิน ก็ยึดทรัพย์สินขายทอดตลาดค่ะ
แต่ถ้าไม่เหลือทรัพย์สิน ก็จบไปค่ะ คนละแวกบ้านตาย ญาติอ้างว่าผู้ตายไม่มีเงินเหลือใน
บัญชีเลย สรรพากรไม่เชื่อหรอก ต้องตรวจสอบและสืบหาทรัพย์สิน สุดท้ายเจอมีอพาทเม้นท์
ปล่อยเช่าย่าน civita จบลงด้วยการยึดทรัพย์และขายทอดตลาด หักหนี้ภาษี ที่เหลือญาติก็รับไป

นางบอกว่าได้วันละ 2-3หมื่นคะ ขายข้าวขาหมู หูไม่ฝาดคะ ตั้งใจฟังหนักมาก
เปิดตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน สลับเอาญาติพี่น้องมาเข้าเวรทำงาน

ถ้าวันละ 2-3หมื่น เดือนหนึ่งก็ตีสัก 1ล้าน หักต้นทุน 25% เหลือ 7แสนห้า
หักค่าส่วย ค่ารีดไถจากเทศกิจ น่าจะได้เดือนละ 3แสน คะ

ส่วนภาษีคงไม่จ่ายหรอกคะ คงออกแนวอย่ารังแกคนจน

เดาว่าตอนเค้าเปรียบเทียบกับไทย เค้าเอารัฐบ้านนอกมาเทียบ

เรื่องลดหย่อนภาษี แต่ละประเทศต่างกัน
รวมไปถึงแหล่งรายได้อื่นเช่น เอาเงินไปซื้อหุ้น ตปท
บางประเทศเสียสองต่อ บางประเทศโนสนโนแคร์

เธอมีรายได้ขั้นต่ำที่โน่นก็โดนแล้ว 10% จ้ะ ถ้า 1 ล้านบาทไทยก็ 12% ถ้า 6.09 แสนเหรียญก็โดน 37%
ลองดูอัตราอ้างอิงได้ที่เพจนี้

https://www.nerdwallet.com/article/taxes/federal-income-tax-brackets

ประเทศฝรั่ง
คนส่วนใหญ่ของประเทศที่รายได้สูง โดนบังคับหักภาษีจ่ายภาษี เพื่ออุ้มคนจนส่วนน้อยของประเทศ

ประเทศไทย
คนส่วนน้อยของประเทศที่รายได้ปานกลาง โดนบังคับหักจ่ายภาษี เพื่ออุ้มคนจนส่วนใหญ่ของประเทศ

หล่อนอ่านดีๆ ค่ะ
ฉันไม่ได้พิมพ์ผิด หรือพิมพ์สลับ
เพราะมันเป็นแบบนี้จริง

ก่อนอื่นพลเมืองอเมริกันทุกคนเกิดมา (หรือได้สัญชาติมาภายหลัง) จะได้เลขที่ชื่อว่า SSN ค่ะ มีไว้เพื่อทำธุรกรรมหีแตดทุกอย่างบนประเทศนี้ เพราะฉนั้น ทุกคนจะโดนตีทะเบียนผูกกับเลข SSN นี้ไปตลอดชีวิต

การจะทำอาชีพอะไรในอเมริกา ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า License ค่ะ จะเป็นช่างทำเล็บ ขายก๋วยเตี๋ยว ช่างประปา หมอนวด เปิดร้านหีแตดอะไรก็ตามที่เป็นอาชีพอิสระ หรือแม้แต่จะมีนายจ้างก็ตาม มึงต้องลงทะเบียนว่ามึงทำอาชีพอะไรค่ะ

แต่ก่อนจะมีเด็กเสริฟตามร้านอาหาร ที่ไม่ต้องมีใบเซอร์ แต่หลังๆ ตอนนี้เขาให้ไปสอบ Food Safety กันทุกคน เพราะฉนั้น ไม่ว่าอาขีพใด ถ้าหล่อนจะทำยึดเอาเลี้ยงชีพ รัฐจะรู้ค่ะ ว่าหล่อนทำงานอะไรอยู่ โอกาสที่จะเลี่ยงภาษีจึงน้อยมากๆ แล้วยิ่งเจ้าของกิจการ พวกนี้กว่าจะเปิดร้านกัน ต้องลงทะเบียน มีคนมาตรวจ หลักๆ คือ นายจ้างไม่สามารถเลี่ยงการเปิดแบบเถื่อนๆ ได้ ส่วนลูกจ้าง ถ้านายจ้างเลือกผู้ที่มี SSN ก่อนค่ะ เพราะเอาหมายเลขพวกนี้ ไปหักค่าใช้จ่ายได้ ส่วนพวกค้าแรงงานเถื่อน หรือที่คนไทยเรียกว่า โรบินฮู้ดนั้น รับกันเป็นเงินสด อันนี้ ถือว่าร้านจะต้องผิดชอบเอง ถ้าเกิดเจอ ตม. ตรวจจับได้

เพราะฉนั้น ประเทศนี้ จึงสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยเงินภาษี ค่าธรรมเนียนการทำธุรกรรมต่างๆ จากธุรกิจหรือ บุคลลใดๆได้เต็มที่ พูดง่ายๆ คือ รัฐสามารถtrack ได้ ว่าใครทำอะไร มีเงินเท่าไร หาเลี้ยงชีพด้วยวิธีอะไร จากการลงข้อมูล ผ่านเลข SSN

ที่ไทยก็มีเลขประจำตัว 13 หลักนะ แต่เหมือนจะไม่ได้ใช้มทันให้เกิดประโยชน์สักเท่าไร SSN ของพลเมืองอเมริกา มีความำคัญมาก เพระาไม่ได้เก็บแค่ข้อมูลส่วนตัว แต่ยังสามารถสร้างเครดิตสกอร์ให้กับตัวบุคคลได้ เพราะฉนั้น เวลาจะไปกู้อะไร เขาไม่ได้เตรียมเอกสารกู้เงินอะไรให้ยุ่งยากเท่าบ้านเรา มีเครดิตสกอร์เป็นตัวชี้วัดเลยว่า คนนี้เครดิตเป็นยังไง หาเงินได้แค่ไหน นิสัยการใช้จ่ายเป็นยังไง มันเลยทำให้ ประชากรส่วนใหญ่ ต้องทำผลงานดีๆ เพื่อให้เครดิตตัวเองดี เวลาอยากได้อะไร ก็จะได้ง่ายไปหมด อย่าคิดว่า ชาตินี้จะไม่กู้ ไม่ต้องสนใจทำเครดิตใดๆ เลยก็ได้นะ เพราะมันใช้สากกะเบือยันเรือรบได้ ตั้งแต่ซื้อโทรศัพท์เงินผ่อน เปิดบัตรเครดิต ยันเช่าบ้าน หรือ ซื้ออสังหา เขาใช้ตัวข้อมูลเครดิตสกอร์พวกนี้ ในการทำธุรกรรมต่างๆเยอะแยะมากมาย ซึ่งชาวอเมริกันชั้นดี จะไม่ยอมให้เครดิตเสีย ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายภาษีเอย การชำระหนี้ตรงเวลา การทำอาชีพสุจริต ไม่สร้าง criminal record ใดๆ เพื่อทำให้ตัวเองเสียเครดิต

แต่คนเมกันที่ไม่แคร์เรื่องนี้มันก็มี (ซึ่งคนไม่ดี ก็มีทุกที่ในโลกแหละ) ถึงได้มีพวกโจร ลักทรัพย์ ฉกชิง วิ่งราวอยู่เรื่อยๆ แต่ภาพรวม เขาจะจัดเก็บภาษีได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเราก็ไม่แปลก คือ เอาง่ายๆ ประชากร 300 ล้าน แต่ประชาชนอยู่ในระบบจัดเก็บภาษี 200 กว่าล้าน ก็เยอะมากเลยนะ เทียบกับไทย ประชากร 60 ล้าน คนอยู่ในระบบ 10 ล้าน แต่มีคนที่มีรายได้พอจ่ายภาษีเพียงแค่ 4 ล้าน มันจะพออะไร

บางคนก็บอก ไทยมี VAT เป็นรายได้หลัก อเมริกาก็มี Sales Tax เป็นรายได้หลักเหมือนกัน แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามันเป็นภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยทั้งสองอย่าง

ประเทศไทย ถ้าอยากตีโจทย์ให้แตก ต้องจัดการข้อมูลพวกนี้ให้ได้ แล้วจะเกิดประโยชน์มหาศาล คนเริ่มเข้าระบบจ่ายภาษี เพราะเชื่อว่า การสร้างเครดิตให้ตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ คนไทยก็ตระหนักเรื่องการจ่ายภาษีมากขึ้นเอง ไม่ใช่มัวแต่งงว่า กูจ่ายแล้วกูได้อะไรวะ หาทางเลี่ยงภาษีจะดีกว่า

แล้วรัฐก็ต้องเข้มงวดกับพวกอาชีพอิสระที่อยู่นอกระบบให้มากกว่านี้

มันก็เลยต้องมาหาเงินด้วยการปล้นประชาชน
องกรณ์พิมพ์เงินทั่วโลก รวมทั้งใน fed ในอเมริกา มันเป็นของ rothschild family
ต่างกับรัฐในสมัยโบราณ ที่รัฐเป็นผู้ผลิตเงินเองและเป็นเจ้าของเงินส่วนใหญ่ของรัฐเอง จึงไม่มีความจำเป็นต้องปล้นประชาชนด้วยภาษีเงินได้ เพราะรัฐเป็นผู้ผลิตเงินด้วยตนเองอยู่แล้ว เปรียบเหมือนเศรษฐีไปปล้นเงินยาจกขอทาน ซึ่งสมัยโบราณปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ กษัตริย์จึงเป็นผู้มีเงินมากที่สุดในรัฐนั้นๆ จะมีเก็บก็แค่ภาษีนำเข้า เพราะรัฐไม่ได้ผลิตเงินต่างประเทศ

กูไม่นึกว่ามึงจะมาจากเว็ปโลกสวยมาหลอกหลอนที่นี่ ไอ้เรื่อง Rothschild เป็นเจ้าของ US Federal Reserve Bank

มึงเลิกเถอะว่ะ ไร้การศึกษามากๆ

ก็ถ้ารัฐบาลมันเป็นเจ้าขององกรพิมเงิน มันจะมาหาเศษหาเลยกับประชาชนทำไม
มันก็พิมเงินเองใช้ไปสิ นี่มันทำไม่ได้ไง fed มันพิมเงินมาให้รัฐบาลกู้ไปใช้
มันก็บ่งบอกแล้วว่า fed ไม่ใช่ของรัฐบาล ทำให้รัฐบาลตกอยู่ในสภาพหิวเงิน ต้องออกมาปล้นเงินประชาชนเพื่อให้มีเงิน ไม่ใช่เฉพาะเมกา แต่เป็นทั้งโลก ที่เป็นแบบนี้ แบบในคลิปนี้
https://youtu.be/ktvxMaAspZ4?si=7HdTSQVs0lNy8HAi
ต่างกับรัฐในยุคโบราณที่เขาไม่หาเศษหาเลยกับประชาชนด้วยภาษีเงินได้ ที่พึ่งกำเนิดขึ้นมาในยุคสมัยใหม่

เธอคะ มันก็เลขประกันสังคม Social Security Number แค่นั้นแหละ ตอนได้มาก็เป็นบัตรกระดาษง่อยๆ ใบนึง แถมยังสอนกันว่าจำตัวเลขให้ได้ อย่าพกบัตรใบนี้ไปนอกบ้าน หายแล้วเป็นเรื่องใหญ่มาก ระบบคือเหมือนเลขประชาชนที่เราใช้ แต่ใช้การบอกด้วยปากเปล่าและใช้สารพัดที่ ไปไหนแม่งไมขอดูบัตรประชาชน (ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มี) หรือบัตรขับขี่ก็แทบจะเรียกแค่ตอนยุ่งเกี่ยวกับขับรถ หรือจำ SSN ไม่ได้

แต่ความห่วยคืออะไรรู้ไหมคะ บางสถานที่ราชการหรือเอกชนที่ต้องการ SSN เธอน่ะ มันมีแต่ข้อมูลเป็น Text ไม่มีภาพค่ะ คือโกงกันง่ายมาก ถึงขนาดสวมสิทธิ์สารพัดสิทธิ์ทั้งที่เจ้าตัวตายไปแล้วเช่น รับเงินบำนาญแทน เอาคนอื่นมาใช้เลขแทน

แล้วเรื่อง Credit Score น่ะไม่ใช่แค่ SSN ค่ะเธอ ก่อนเธอจะเริ่มมีได้ เธอต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งก่อนเพื่อไปเปิดบัญชี ทำบัตรเครดิต โดยหลักฐานที่ใช้คือบิลค่าน้ำค่าไฟที่มีชื่อเธอกับที่อยู่

บอกเลยว่าสารพัดช่องโหว่ในระบบเอกสารและยืนยันตัวตนในอเมริกา เพราะด้วยประเทศใหญ่ คนเยอะ ระบบมีหลายระบบ...ชั้นว่าของเรายังจะดีซะกว่าโดยเฉพาะปีหลังๆ ยกเว้นก็แต่ประกันสังคมนะ

กลับมาที่กระทู้...นึกถึงเรื่อง Health Insurance ด้วยค่ะ คนอเมริกันถูกบังคับให้ซื้อ Health Insurance Policy ตั้งแต่ยุคโอบาม่า จ่ายทิ้งจ่ายขว้างเดือนละหลายร้อยเหรียญ แต่ถ้าไม่มีไว้ก็หนักมาก ข้อมูลใน Wiki บอกไว้ว่า "In 2022, U.S. healthcare spending reached $4.5 trillion, which averages to $13,493 per person. " ปีละสี่-ห้าแสนบาทต่อคน จุกๆ ค่ะ

คือถ้าเทียบยุโรป หรือแคนาดา พวกนั้นก็เก็บภาษีหนักเหมือนกัน
แต่พอเข้าโรงพยาบาล แทบไม่ต้องจ่ายอะไรแล้ว ครอบคลุมหมดแล้ว
ทำไมเมกา ไมใช่ Universal Healthcare System เหมือนประเทศพัฒนาแล้วประเทศอื่นๆ เขาค่ะ

ด้วยความเสรีสุดโต่งของคนประเทศนี้กระมังคะ เงินกูทำงานมาได้ กูก็ควรมีสิทธิตัดสินใจในการใช้เงินของกู ชีวิตกู กูอยากจะไปหาหมอ หรืออยากจะนอนจมกองขี้ตายที่บ้านก็เรื่องของกู

แต่เอาจริง ๆ สำหรับเดี๊ยนเองที่อยู่มาจะ 20 ปีไม่เคยเดือดร้อนเรื่องประกันสุขภาพหีแตดไรนี่เลย มีแต่คนนอก หรือคนที่ไม่เข้าใจระบบเอาไปพูดกันให้เป็นกระ

ที่ทำงานเดี๊ยน Offer สวัสดิการ Health Care ให้อยู่แล้ว ถึงจะมีหักจากเงินเดือนแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรถึงขนาดต้องหมดไส้ประดาพุง เดี๊ยนโดนหักก็แค่ประมาณ $140 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้

หรือถ้าที่ทำงานใครไม่ Offer ตรงนี้ให้ ก็มี Affordable Care Act. ที่คนรายได้ในแต่ละระดับสามารถสมัครขอรับสวัสดิการประกันสุขภาพตรงนี้ได้ อย่างคนรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ไม่ต้องเสียอะไรเลย หรือไม่ก็เดือนละ $20-$50 แค่นั้น อันนี้เดี๊ยนไม่คิดว่าเขาบังคับอย่างที่บางรีบอก

จริง ๆ ระบบประกันสุขภาพอเมริกา ไม่ได้ห่วยแตกอยากที่เป็นกระแสในสังคมโลกหรอกค่ะ คนอเมริกาเองก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าประเทศไหนมี Universal Health Care ฯลฯ ถ้าคนอเมริกัน เห็นว่าดี มีหรือเขาจะไม่เรียกร้องไปยังรัฐบาลล่ะค่ะ มีหรือเขาจะไม่โหวตให้

แต่ที่เขาไม่ได้อยากมี Universal Health Care ก็เพราะเขายอมรับและเห็นว่าสิ่งที่เขามีอยู่มันเหมาะสมกับประเทศเสรีอย่างเขาแล้วค่ะ

สรุปคือ ไม่เข้าใจที่อ่าน ใช่ไหมคะ เรื่องการบริหารข้อมูลจาก ssn ไม่ใช่แค่บัตรกระดาษง่อยๆ ค่ะ มันคือ การบริหารข้อมูลดาต้าเบสของประชากรทั้งที่เป็นอเมริกัน และไม่ใช่อเมริกัน แต่ทำงานหาเงินในอเมริกาค่ะ

แล้วหล่อนอ่านดีๆค่ะ ชั้นเขียนถึงการบริหารข้อมูลโดยใช้ SSN เป็นหลัก จริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับ คนเอา SSN ไปแอบอ้างใช้ในกรณีต่างๆ อันนั้น มันเรื่องมิจฉาชีพค่ะ เลขบัตรประชาชนไทยก็โดนค่ะ

ที่จะบอกคือ ประเทศเราก็มีค่ะ แต่เสือกไม่ได้ใช้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ได้มีการบังคับให้ประชาชนที่ทำอาชีพต้องไปขึ้นทะเบียนอาชีพ มันเลยหากินกับภาษียากเข้าไปอีก ทั้งๆที่เอา ID Number ไปผูกกับการธุรกรรมสร้าง credit score หรือ ตรวจสอบ criminal record ทำได้เหมือน ssn นั่นแหละค่ะ ส่วนจะดีหรือไม่ดี อย่างน้อย อีเมกัน มันแทรคประวัติคนได้จาก ssn ดีกว่าไทยค่ะ

แล้วพวกที่บ่นเรื่องเรทภาษีส่วนใหญ่มีแต่พวกมา naturalized ขอสัญชาติที่หลัง หรือไม่ก็พวกต่างด้าวเห่อใบเขียวทั้งนั้นค่ะ

คนรวยที่มี Net Worth สิบล้านเหรียญขึ้นไป ในอเมริกา พวกนี้แทบไม่เสียภาษีรายได้นะคะ ภาษีอเมริกากวนประสาทจริง แต่ก็มีช่องโหว่เยอะแยะ อยู่ที่ว่าใครจะฉลาดหาช่องโหว่พวกนี้ (คือถ้ามึงฉลาดพอที่จะมีทรัพย์สินเป็นสิบเป็นร้อยล้าน ก็คงไม่น่าโง่พอที่จะตกหลุมพลางเกมภาษีอ่ะค่ะ)

ช่องว่างช่องโหว่ให้คนรวยทำ Tax Write off ก็มีเยอะแยะ จริง ๆ อเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศที่มีระบบภาษีอลุ่มอะหล่วยเสียด้วยซ้ำ อยู่ที่ว่ามึงรวยและฉลาดพอที่เล่นเกมส์ภาษีนี้หรือปล่าวแค่นั้นเอง

ลองไปฟังอีแก่ทรัมป์ปราศัยแล้วเผลอไปปากหีพูดถึงระบบภาษีดูก็ได้ค่ะ แล้วจะรู้ว่าทำไม Elite ทั้งหลายไม่อยากให้อีทรัมป์เป็น ปธน.