กรุงเทพมหานคร - “เพชร ปากปลาร้า หน้าเป๊ะ” ได้รับการยอมรับเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยความสามารถและความขยันขันแข็งที่ทำให้เธอเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค Social Cam จนถึงปัจจุบันที่ Tiktok เป็นที่นิยม

อินฟลูเอ็นเซอร์หลายรายที่เริ่มต้นพร้อมกับเธอ เช่น ทีม “เทยเที่ยวไทย” ค่อยๆ สูญหายไปตามกาลเวลา แต่ “เพชร ปากปลาร้า หน้าเป๊ะ” ยังคงมีอิทธิพลในวงการอินฟลูเอ็นเซอร์อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับกระแสของโลกโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนั้น แม้ว่าในปัจจุบันทีม “หิ้วหวี” จะเป็นทีมที่มีอิทธิพลในวงการอินฟลูเอ็นเซอร์ แต่พวกเขาก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาความนิยม ในขณะที่ “เพชร ปากปลาร้า หน้าเป๊ะ” ยังคงสามารถร่วมกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆ ได้ทุกระดับ ตั้งแต่การให้อาหารช้างในท้องถิ่น จนถึงการโชว์ตัวบนเวทีระดับโลก

แม้เพื่อนของเธอจะถูกตำรวจจับไปบ้าง หรือตัวเธอเองต้องเผชิญศึกหนักอย่าง “เวทีเจ็ดหมัดตะวันแดง” แต่เธอก็สามารถกลับมายืนหยัด และหลบหมายจับตำรวจได้ทุกครั้ง ความสามารถในการเอาตัวรอดและการกลับมายืนหยัดได้ของเธอ ทำให้เธอยังคงเป็นที่ชื่นชมและได้รับการยอมรับจากผู้ติดตามจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นยุคใดของโซเชียลมีเดีย เธอสามารถสร้างความสนุกสนานและแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตามของเธอได้อย่างต่อเนื่อง

เพชร ปากปลาร้า หน้าเป๊ะ หรือ เพชรชี่ มีภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวบุรีรัมย์ โดยที่มาของคำว่า “ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ” มาจากฉายาคนดังเมื่อปี 2556 ที่สื่อมวลชนได้ตั้งให้กับนักแสดงดังอย่าง “พลอย เฌอมาลย์” ทำให้เพชรรู้สึกประทับใจและหยิบมาตั้งเป็นชื่อต่อท้ายของตัวเอง อีกทั้งเธอยังเชื่อว่า เพชร และ พลอย ต่างก็เป็นสิ่งที่มีมูลค่าด้วยกันทั้งคู่

ก่อนที่จะโด่งดัง เพชรเคยใช้ชีวิตคู่ร่วมกับสามีชาวต่างชาตินามเดวิด และไลฟ์สดจากห้องน้ำในบ้านที่บุรีรัมย์ นอกจากนี้เธอยังเคยเป็นตัวแทนฝ่ายต้อนรับลูกค้าโรงแรม 5 ดาวบนเกาะหลีเป๊ะอีกด้วย

**รายงานโดย ฝ่ายข่าวบันเท​ิง สำนักข่าวกะเทยจันทร์เจ้า**