นั้นสินะคะ ราชาศัพท์ไทย คำเขมร แทบจะ 90%

ไม่งั้น อีคนไทยสยาม ภาคกลาง ก็ต้องไปใช้คำไท กะ ได แท้ๆ เช่นภาษาเหนือ ภาษาลาว หรือ ภาษาอีสานแทน

แยกให้ออก เขมรโบราณที่ถูกแต่งแต้มใหม่ยิ่งใหญ่ประหนึ่งโรมันโดยนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส กับ เขมรหลังยุคพระนคร ที่เปอร์เซียบอกว่า มาจากหมู่เกาะ

สลิ่มเปลี่ยนไปเรื่อยเลยนะคะ เขมามาจากอินเดียบ้าง ชาวเกาะบ้าง 5555555

ขายขำ เหมือนตอนมโนเรื่องขอม ไม่มีผิด

คำราชาศัพท์ที่อ้างกันว่าเป็นภาษาเขมร เอาดีๆ เขมร หรือ เบงกาลี

ว๊ายยย แล้วไหนพวกเสียมบอกว่าเขมรเป็นทาสคะ ทำไมเจ้าไทยมาใช้ภาษาทาสไปเป็นภาษาชั้นสูงในราชสำนีกไปได้

หัดหาหนังสือประวัติศาสตร์อ่านบ้าง ชนชั้นปกครองย้ายมาอยุธยา ก็เอาวัฒนธรรมตนเองนั้นแหละมาด้วย แล้วก็ทิ้งพวกชนชั้นแรงงานที่อยู่นอกนครวัคนั้นแหละไว้

ว๊ายยยยยยยยย

ทำไมเป็นภาษาที่ฟังดูตลกจังคะ

ตลกก็คำเขมรนะคะ

คนละพวกกับผู้ดีไฮโซไฮซ้อที่สร้างโน่นสร้างนี่

คนโบราณของเราที่เตือนให้ระวังเขมรเขาหมายถึงอีพวกผีกองกอยนี่

จริงค่ะ เหมือนอีผีกองกอย ที่เที่ยวมาเคลมอยุธยาไว้ไม่มีผิด 555555

ขอม บรรจงเอง ไทยก็รับมาจากเขมรยุคก่อนพระนคร และพระนครค่ะ
จารึกสุโขทัย แม้เมื่อมีประดิษฐ์อักษรไทย แล้ว ก็ยังใช้ตัวเขมรขอม เขียนคำบาลี และคำเขมร จารึกวัดป่ามะม่วงค่ะ สมัยพญาลิไท มีทำจารึกเป็น ๓ ภาษา คือ ภาษาไทยตัวอักษรไทยสุโขทัย ภาษาบาลี และภาษาเขมร ใช้ตัวขอม (เขมร)

และจารึกอักษรขอม หรือจริง ๆ ก็คืออักษรเขมร เขียนภาษาเขมรก็พบตั้งแต่ก่อนยุคสุโขทัย เช่น จารึกศาลสูงภาษาเขมร พบที่จังหวัดลพบุรี จารึกสด๊กก๊กธม พุทธศตวรรษที่ ๑๕ ภาษาเขมร

แล้วภาษาไท ในภาษาเขมร แทบไม่มี

แต่คำเขมร ใน ภาษาไทย มีไม่ต่ำกว่า 60%

แต่คำราชาศัพท์ คำชั้นสูุงของไทย เป็นคำเขมรไม่ต่ำกว่า 80%

นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนมาก ว่าวัฒนธรรมเขมร ถูกยกย่องในชนขั้นปกครองในแทบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มาอย่างยาวนาน สืบทอดต่อกันมานาน

เอาจริง ถ้าอยากรู้ประวัติศาสตร์ไทย ต้องกล้าเปิดใจกว้างๆ เอาอคติที่เขาพยายามยัดใส่หัวมึง เชื่อกู การรับความจริง มันไม่ตายหรอก ประวัติศาสตร์แบบเวอร์ชั่น fact สนุกจะตาย เปิดประตูการเรียนรู้ไปสู่อารยธรรมอื่นๆ อีกมากมาย สนุกกว่าเว่อร์ชั้นละคร ที่ชนชั้นปกครองไทย(ในยุคชาตินิยม) พยายามแยกคนออกจากัน แต่งเติม บิดเบือนขึ้นมา เพื่อสร้างลัทธิชาตินิยมหลายเท่า

เรื่อง เอาประวัติศาสตร์ มาบ้าเป็นละคร บิดเลือน ฝรั่งกับญี่ปุ่น เขาผ่านมาหมดแล้ว เขาเลิกบ้าแล้ว ตอนนี้เขาเน้นสืบหาความจริง แบบ fact จริงๆ เพราะการเรียนรู้แบบไร้พรหมแดน แต่คนแถวนี้ เหมือนยังประสาทแดกกันอยู่

แต่ในมุมมองของโลกภายนอก ขอม ที่ไทยหมายถึง ก็คือคนเขมรโบราณ นั้นแหละ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเขมร

เพราะฉะนั้น ขอม ก็คือเขมร

แต่ไทยพยายามจะบอกว่าไม่ใช่ ซึ่งก็มีแค่ไทยอยู่ประเทศเดียวที่คิดแบบนี้

ก็มีแต่เขมร กับกะเทยคอมมี่เก่า ที่ยังอินกับตำราจอร์จ เซเด ทั้งๆ ที่โลกเค้ามีองค์ความรู้ใหม่ ไม่อิงอยู่ในยุคล่าอาณานิคม แล้วค่ะ อีกะเทยเขมร

จนทุกวันนี้ ก็ยังไม่มี นักวิชาการคนไหน เขายอมรับ เรื่องมโนตอแหล ขอมหีขอมแตดจากกะลาแลนด์เลย

เขา ขำ และ สมเพช วงการวิชาการไทย จนตอนนี้ เขาไม่ให้ค่า ให้ไม่ยอมรับบทละครใดๆ ที่มาจากกะลานีเวียของมีงแล้วค่ะ

จงสำเหนียกไว้ ว่ามึงอยู่กับเรื่องโกหก เรื่องแต่ง บิดเบือน ที่โลกภายนอกเขาไม่ยอมรับ

หลอนประสาท ย้ำคิดย้ำทำกันต่อไปในกะลา ก็คงครื้นเครงใจดีค่ะ

แต่ออกไปข้างนอก โลกภายนอก ก็เป็นแค่ตัวตลก ไร้ราคา

หลอน ประสาทตัวเองหนัก จนหลุดออกไปขายขำ ที่ศาลโลก เรื่องเขาพระหาร ยังหน้าด้าน ไม่อาย ว่าเราไม่ยอมรับบทละครของมึง

นักวิชาการไทย มันก็พวกคอมมี่เหมือนมึงที่มีองค์ความรู้อยู่แค่ยุคล่าอาณานิคม

เปิดโลกเปิดกะลา อ่านตำรา ที่ออกไปนอกอาเซียนบ้าง อีควาย

ตำราในกะลา และ อาเซียน เคยหลงไปอ่าน ตอนเรียน ม.ต้น ม.ปลาย เริ่มเบาลง เพราะรู้สึกว่า narrative ดูคับแคบ และมีความ nationalism เกินไป แบบจะอ้วก

ช่วง ม.ปลาย กูเริ่มหางานนักวิชาการ ของญี่ปุ่น ของยุโรป อ่านแล้วค่ะ แล้วก็เปิดโลก

นักวิชาการญี่ปุ่นหลายคน ศึกษาประวัติศาสตร์อาเซียนได้เทพมาก และเป๊ะกว่า พวกนักวิชาการกะลานีเซีย และ อาเซียน ที่มีแต่ละคร นิยาย ตอแหล เนียนยกหางชาตัวเอง

เช่นเรื่องมโน เรื่อง ขอม หี ขอมแตด ตอแหลพวกนี้ แล้วก็มีควายไทยโง่ๆ เช่นมึง มาอินตามไง ตกเป็นเหยื่อชนชั้นปกครอง ให้จูงจมูกไปจนตาย คริคริ

หนังสือประวัติศาสตร์ ไม่สิ พวกนิยาย จากนักวิชาการไทย กูเอาไปรองขี้หมา ขี้แมว หมดแล้วค่ะ

ก็นักวิชาการญี่ปุ่นนั่นแหละค่ะ ที่บอกว่า เขมรยุคหลังรับวัฒนธรรมอยุธยามาทั้งหมด

นักวิชาการเยอรมัน ย้อนศร จอร์จ เซเด ที่ยกหางเขมรโบราณว่าเป็นประโรมัน และเป็นบรรพชนของเขมรปัจจุบัน

ถ้าได้รู้จริง ก็จะพบว่า เขมรและนักวิชาการไทยสายคอมมี่ รวมทั้งมึงยังอิงตำราประวัติศาสตร์ยุคล่าอาณานิคมอยู่

กะเทยคะ มึงจะไปเถียงกับ อีดิงกะหรี่แขมร์ ณ โคเรีย ทำไม เสียเวลาอีดอก อีเหี้ยนี่มันก็แค่รู้งูๆปลาๆ แล้วก็นั่งด่าไทยไปวันๆ ความสุขของมันคือได้ด่าคนไทย ยกหางเขมร เสือกด่าคนอื่นว่าคลั่งชาติ ทั้่งๆ ตัวมันนี่โคตรคลั่งชาติเขมรเผ่าพันธุ์ทาสจากหมู่เกาะเลย

ที่กูอ่าน ไม่มีนะคะ

มีแต่คนไทยแปลผิดไปเอง

กูเดาเลยว่าน่าจะผลงานของอีสำนักคลั่งชาติ lue history หีแตดนั้นแน่นอน ที่ไปแปลบทความของนักวิชาการญี่ปุ่นผิดๆ บิดเบือน แล้วก็โดนเขาแหกหีไปแล้ว

เถียงไม่ได้ ก็จะมีแค่คำว่า บิดเบือน กับ คลั่งชาติ ก็เขาบอกแบบนั้นจริงๆ จะมาแปลผิดอะไร

เอาอะไรมาเถียงมึงไม่ได้คะ อย่าสำคัญตัวเองขนาดนั้น

ก็มันบิดเบือนจริงนิคะ นักวิชากการกะลา และสื่อสายคลั่งชาติ ของกะลา ไปเอาบทความ ของอาจารย์ ซาซาคาวะ มาบิดเบือน จนโดนแหกไปแล้ว

สันดานบิดเบื่อน ที่พยายามจะด้อยค่าวัฒนธรรมเพื่อนบ้านให้ด้อยกว่า โดนแปลผิดๆ มั่วๆ จากนักวิชาการดังๆ ที่ได้รับการยกย่อง

คือกะลาแลนด์ใช้มุขแบบนี้ตลอดค่ะ หลอกได้แต่พวกโง่ๆ แบบมึงไง 5555555

เอามาดูซิ ที่ว่าบิดเบือนหน่ะ

อุ๊ย ชุดประจำชาติเขมรยังมาจากสยามเลยอ่ะแก

It requires no knowledge of medieval Siamese history to see plentiful evidence of the sampot in the bas-reliefs, which preceded Siamese influences by centuries.

ว๊ายย!!

แต่ทำไมไม่มีใครเลยที่ใช้หลักการเดียวกันมาพูดให้ชัดเจนในฝั่งประวัติศาสตร์กัมพูชาบ้าง
ทำไมทีงี้ไปยกเขาว่าเขมรโบราณก็คือกัมพูชาในปัจจุบัน
แค่นี้ก็ชัดแล้วป่ะว่าอะไรยังไง
มันมีสักกี่เชื้อชาติ(ไม่นับชนเผ่า)ที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องกันขนาดนั้น
เขมรโบราณก็คือเขมรโบราณ กัมพูชาก็คือกัมพูชา
ถ้าใส่ใจที่จะอธิบายขยายความตรงนี้เสริมเข้าไปให้คนไทยได้เข้าใจ
มันก็คงไม่ต้องมานั่งเถียงอะไรกันแบบนี้

ก่อนจะหาไทยแท้ มึงก็นิยามว่า ไทยแท้ ของมึงคืออะไรก่อนค่ะ
ไทยแท้ไม่มีจริงก็มีส่วนถูกนิดนึง เพราะตามประวัติศาสตร์ไทยมีการติดต่อค้าขาย มีการไหลเวียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับหลายชนชาติ กวาดต้อนถ่ายเทคนไปมาจากสงครามนับไม่ถ้วน
ไทยแท้เป็นเรื่องพิสูจน์ได้ยาก คิดเกินกว่านั้นไปแม่มึงก็ไม่หายเป็นกะหรี่อยู่ดี เอาแบบที่ว่าคนที่เกิดเมืองไทย ได้สัญชาติไทย นับเป็นคนไทยก็เพียงพอแล้วค่ะ

เรื่องสองมาตรฐานก็ด้วย พอบอกวัฒนธรรมไทยรับมาจากที่อื่นแล้วตัดสินว่าไม่ใช่ไทย สมมุติว่าคำยืมมีรากศัพท์มาจากอินเดีย จีน เขมร เอามาปรับปรุงเป็นไทย แต่ทำไมรู้สึกว่ากำลังพูดภาษาไทย
ไม่ได้พูดภาษาอินเดีย จีน เขมร อย่างที่มึงวางมาตรฐานมา
งี้มึงพูดคำว่า สวัสดี และยกมือไหว้กับคนต่างชาติ เขาก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือการทักทายแบบไทย ไม่มีใครบอกว่ามึงเป็นอินเดีย พูดภาษาสันสกฤตหรอกค่ะ อีเหี้ย

วันไหน ที่ไหนก้าวไปไกลกว่าประเทศใด ประเทศหนึ่งเยอะ ๆ มึงจะเลิกสนใจเลิกแข่งกับเขา
เหมือนตอนนี้หลาย ๆ จังหวัด เขาก็เริ่มไม่มองตัวเองเป็นคนอีสานแล้ว เพราะภาพมันไม่ใช่เขา
จังหวัดเขาเจริญไปแล้ว เหมือนญี่ปุ่นน่ะ ไม่ได้มองตัวเองเป็นญาติอาเซียน

วันใดที่ไทยไปไกลมาก ๆ ถึงขั้นที่ประเทศต่าง ๆ ต้องอพยพมาพึ่งคนไทย พึ่งสินค้าไทย
วันนั้นมึงจะมองเฉย ๆ เหมือนวันนี้ คนไทยเกลียดพม่าเริ่มน้อยลง เพราะมองว่าไม่ใช่คู่แข่ง
หมดเวลาสนใจเขมร/กัมพูชาแล้ว ไป Benchmark แข่งกับประเทศอื่นเถอะ

.

.

.

.

.

.