
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า อังกอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์ เปิดเผย อุทยานโบราณคดีอังกอร์ หรือหมู่ปราสาทนครวัดอันโด่งดังของกัมพูชา ทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมในช่วง 11 เดือนแรก (มกราคม-พฤศจิกายน) ของปีนี้ รวมอยู่ที่ 41.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.44 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 จาก 32.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.12 พันล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อุทยานฯ ต้อนรับผู้เข้าชมชาวต่างชาติ 898,339 คน ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.3 จากตัวเลขในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 699,996 คน โดยแหล่งนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และจีน
รายงานระบุว่า เฉพาะในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ อุทยานฯ ต้อนรับผู้เข้าชมชาวต่างชาติ 124,136 คน สร้างรายได้เกือบ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 206 ล้านบาท)
อนึ่ง อุทยานฯ ขนาด 401 ตารางกิโลเมตรในจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งถูกจัดเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของกัมพูชา ประกอบด้วยปราสาทโบราณ 91 แห่งที่ก่อสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-13
ทบ โสเพียก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและโฆษกกระทรวงฯ เผยว่าท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติระดับ 4อี (4E) มีรันเวย์ยาว 3,600 เมตร และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีส่วนดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมายังอุทยานฯ มากขึ้น... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_4932961
