นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงแนวคิดของพลโท ทวีพูล ริมสาครผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนที่ให้ผู้ที่ไม่ต้องการเกณฑ์ทหารจ่ายเงินให้กับกองทุนเพื่อนำไปเพิ่มเงินเดือนให้กับผู้เกณฑ์ทหารว่า น่าจะเป็นความพยายามในการสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มอัตราการสมัครใจในการเกณฑ์ทหาร แต่เป็นการคิดอยู่ในกรอบว่ากำลังพลต้องเท่าเดิมหรือประมาณ 9 หมื่น ถึง 1 แสนนาย แต่ส่วนตัวคิดว่าบันไดขั้นแรกที่ต้องเริ่มคือคิดว่ากำลังพลในแต่ละปีควรมีเท่าไหร่จึงจะสอดรับ กับบริบทความมั่นคงในปัจจุบันและคิดถึงการผสมผสานกับเทคโนโลยีการป้องกันประเทศด้วย ซึ่ง TDRI เคยเสนอว่าให้ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่แนวคิดของผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน คิดอยู่บนพื้นฐานของ 9 หมื่นนาย แต่ปัจจุบันมีผู้สมัครใจเกณฑ์ทหาร 3 หมื่นนายต่อปี
ทั้งนี้ส่วนตัวยังเดาใจของพลโท ทวีพูล ว่าปัจจุบันคนรวยที่ไม่อยากเกณฑ์ก็จ่ายเงินอยู่แล้วใน 2 ขั้นตอน คือ จ่ายให้กับสัสดี คาดการณ์ว่า 2 พันล้านบาทต่อปี ส่วนคนที่จับได้ใบแดงต้องเข้ากรมทหารก็มีการยกเงินเดือนให้นายในส่วนนี้ คาดว่า 2 พันล้านบาทต่อปี ท่านจึงน่าจะต้องการนำเรื่องใต้ดินมาอยู่บนดิน
แต่ตนยืนยันว่าเป็นวิธีคิดที่ผิดเพราะสิ่งที่อยู่ใต้ดินไม่ใช่อบายมุข เราไม่สามารถทำให้การทุจริตคอรัปชัน การรับสินบน การฉ้อราษฎร์บังหลวง กลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายไม่ได้
นายวิโรจน์ มองว่าทุกวันนี้ความเหลื่อมล้ำมันเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่จากนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติวิสัย จากที่เคยพูดว่า คุกมีไว้ขังคนจน ต่อไปนี้ค่ายทหารก็จะมีไว้สำหรับคนจนเช่นกัน หน้าที่ป้องกันประเทศไม่ใช่หน้าที่ของคนจนหรือคนรวย แต่เราต้องมาคิดว่าเราต้องการกำลังพลเท่าไหร่ที่ไม่ต้องไปอยู่บ้านนาย ไม่ต้องคิดถึงเรื่องจ่ายเงิน หากมีการคิดคำนวณอย่างดีแล้วค่อยมาพูดถึงเรื่องงบประมาณ
ทั้งนี้นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสังเกตว่ารายได้ของพลทหาร หลังหักค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 7 พันบาทต่อเดือน ซึ่งใกล้เคียงกันกับค่าจ้างของลูกจ้างตำแหน่งอื่นๆ ที่มีการแข่งขันสูง แต่ทำไมพลทหารถึงไม่มีใครอยากเป็น เป็นเพราะเราไม่สามารถคุ้มครองให้เขามีสวัสดิภาพในการปฏิบัติติหน้าที่พลทหารใช่หรือไม่ เราไม่ได้จริงใจไม่ได้การันตี ว่าหากถูกกระทำจากผู้บังคับบัญชาจะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างจริงจัง
https://ch3plus.com/news/political/morning/430408