มีโอกาสหายนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็งอะไรด้วย ถ้ามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ยิ่งโอกาสหายสูง ต่อให้ระยะท้ายๆ ก็มีโอกาสหาย
ส่วนมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งอื่น ๆ ระยะที่ 3 หลายเคสก็หายปกติได้
อยากให้ปฏิบัติตัวเรื่องอาหารการกินใหม่ ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง ที่ให้กลูโคส ฟรุกโตสทุกประเภท ลดคาร์โบไฮเดรตในมื้อข้าว แต่เพิ่มผักใบเขียว ผักที่มี antoxidant และให้กากใยเยอะ
รวมถึงกินโปรตีนคุณภาพสูง เช่น ปลาทะเล ปลาน้ำจืดนึ่ง (ทอดก็ได้ถ้าใช้น้ำมันไขมันดีทอด) แต่ควรกินแนวแกง นึ่ง เป็นหลักก่อนช่วงนี้
ไข่ ตุ๋น ไข่ต้ม ไข่ปิ้งได้ เน้นให้โปรตีนจากไข่และปลา อ้อ อกไก่ ก็ได้นะ แต่พวกปลาจะย่อยง่าย และไข่จะให้โปรตีนและวิตามินบีสูงด้วย
ลดไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล แต่เน้นผักมากขึ้น จะทำให้เซลล์มะเร็งขาดแหล่งพลังงานจากน้ำตาล
แล้ว phytonutrients จากผัก + สาร antioxidants จากผัก จะไปมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งหรือชะลอการโตของเซลล์มะเร็ง
ผักก็ทำความสะอาดให้ดีก่อนนำมากิน สามารถกินผักลวก ผักต้ม (ไม่นานเพื่อไม่ให้ทำลายสารอาหาร) และผักสดได้ แต่ผักสดบางประเภทกินมากจะท้องอืดได้ ก็ต้องดูเป็นแต่ละชนิดไป
ควรมีผักในมื้ออาหารอย่างน้อย 50% ที่เหลือก็เป็นโปรตีนสัก 30% ส่วนข้าวหรือคาร์โบไฮเดรตให้เหลือแค่ 20% หรือบางสูตรอาจจะ 25% และโปรตีน 25%
ข้าวควรเน้นกินข้าวกล้อง หรือข้าวสี เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะให้สาร antioxidant และวิตามินสูง แถมลดการผลิตน้ำตาลด้วย
พวกมะเร็งมันชอบน้ำตาลและความหวาน มันจะดึงเอาไปใช้เป็นพลังงาน เราต้องลดแหล่งให้พลังงานมันค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ ทำ Intermittent Fasting (IF) คือ อดอาหาร 16 ชั่วโมง และกินไม่เกิน 8 ชั่วโมง เช่น กินข้าวมื้อแรกช่วง เที่ยง แล้วไปกินอีกมื้อไม่เกิน 2 ทุ่ม
หลัง 2 ทุ่ม ไม่กินอะไรเลย นอกจากน้ำเปล่า (ไม่ให้กินแม้แต่สารอาหารใดๆ) แล้วก็นอนพักผ่อนไม่เกิน 4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมา อาจจะกิน Probiotics (แบบเป็นผงบรรจุซอง) ชงละลายน้ำ
แล้วก็ดื่มก่อนแปรงฟัน แล้วก็รอกินข้าวเที่ยง
ถ้าไม่ชอบรอเที่ยง ก็กิน 11 โมง แต่มื้อสุดท้ายต้องไม่กิน 19.00 น.
บางคนอาจจะทำ IF แบบ 14/10 คืออด 14 ชม. กินในช่วง 10 ชม. แล้ว เริ่มกินมื้อแรก คือข้าวเช้า เป็นแนวข้าวต้มอ่อน ๆ ใส่กุ้ง หรือปลาก็ได้ แต่ไม่ต้องใส่ข้าวเยอะ
หรือแนวแกงจืด + ไข่ตุ๋น + ข้าวสีทัพพีเล็กๆ ก็ได้ สมมติกิน เช้า ตอน 8 โมง (ควรกิน Probiotics ตอนตื่นนอนมาก่อนแปรงฟัน)
แล้วก็ไปกินอีกทีตอนเที่ยง แล้วก็กินอีกทีตอน 18.00 น. หลัง 18.00 น. งดกิน ถ้ากินข้าวเช้าช้า ก็ขยับเวลาออกไป แต่ไม่ควรกินหลัง 2 ทุ่ม
โดยมื้อที่หนักได้คือเที่ยง เช้า กับ เย็นอาจจะไม่กินเยอะมาก อาจจะกินแนวผักลวก น้ำพริกกระปิ สุกี้น้ำ แกงจืดมะระ แกงจืดผักกาดขาว สเต็กปลา ปลานึ่ง ปลาย่าง อะไรแบบนี้
งดกินของหมักของดองทุกประเภท งดน้ำตาลทั้งหลาย เครื่องดื่มให้ความหวาน ต้องงด อ้อ ผลไม้ต่างๆ ก็ควรงดนะช่วงนี้
ถ้าอยากกิน ให้กินมะละกอ เพราะมีวิตามินเอสูงและมี antioxidant สูง แต่ควรกินไม่เกิน 1/8 ของลูก คือชิ้นไม่ใหญ่ อาทิตย์หนึ่งกินได้ไม่เกิน 4 ชิ้น
ผลไม้อีกกลุ่มที่กินได้ คือฝรั่งสด ที่ล้างสะอาดดี ก็กินวันละลูกได้ เพราะน้ำตาลน้อยและวิตามินซีสูง อาจจะกินระหว่างมื้่อ
แนะนำให้ลองทำ IF ดูก่อน ถ้าทำ 16/8 ไม่ไหว ให้ลองทำ 14/10 ดูก็ได้ แต่ถ้าทำ 16/8 ได้จะดีมาก
นี่คือคลิปดีๆ จากคุณหมอแนะนำเรื่อง IF และอาหารต้านมะเร็ง
https://www.youtube.com/watch?v=kVJNF_mMGik
https://www.youtube.com/watch?v=lPUO5GNN5i4
https://www.youtube.com/watch?v=MrqErOYrwXs
และก็ตัวอย่างคนป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วลามไปที่ปอด สุดท้ายเธอหาย
เธอใช้พลังใจ + ธรรมะ + ปรับ life style ชีวิตใหม่ + อาหารที่กินก็ปรับเปลี่ยน ลองดูนะ
https://www.youtube.com/watch?v=3LdrpaSj_vg
อย่าลืมว่า ธรรมะช่วยได้จริง ๆ และควรกำจัดเรื่อง toxic ต่าง ๆ ออกไป ให้ปล่อยวางให้ได้มากที่สุด ด้วยหลักธรรมนี่แหละ สวดมนต์ก่อนนอน และแผ่เมตตาประจำ
ตอนเช้าก็แผ่เมตตา ถ้าไปตักบาตรได้ก็ควรไป ทำให้จิตใจแจ่มใส ไม่จำเป็นต้องทำทุกเช้าก็ได้ตักบาตรน่ะ อาจจะอาทิตย์ละครั้ง หรือทุกวันพระก็ได้ ถ้าทำได้บ่อยก็ดีต่อเราเอง
ส่วนว่าง ๆ ก็ไปทำบุญที่วัด หรือไปโบสถ์ ก็แล้วแต่เราสนใจหรือศรัทธา แต่หลัก ๆ ควรเอาหลักธรรมคำสอนมาปฏิบัติ จะทำให้เราจิตใจผ่องใส
ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกนี้ แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่ทำได้
ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ และทุก ๆ คนที่ป่วยเป็นมะเร็ง และถ้ามีโอกาสจะเข้ามาเขียนแนะนำอีกนะ