น้ำพริกจรั๊วะโดง นิยมทานกันในไทยเช่นกัน โดยเฉพาะในอีสานใต้ ครอบครัวคนไทยเชื้อสายเขมร มักจะนิยมทานมากๆ

คนไทยไร้ความรู้คิดไปเองว่าเป็นอาหารไทย

ตรรกะโง่ของกะเทยชังชาติมาอีกแล้วเหรอคะ คาเรของญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก ก็ของอินเดียด้วยสิ ไหนจะราเมนก็กลาบเป็นของจีนไปงั้นเหรอ? คนมีสมองจะติดได้และจะไม่มีคำถามโง่ๆแบบนี้ค่ะ

เมนูด้านบน คือมึงเอาของประเทศอื่นมาทั้งดุ้น และคนที่เอาเข้ามาเผยแพร่ คือคนต่างชาติเอาเข้ามาเผยแพร่ด้วยซ้ำ

แต่ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น กับ ราเมน มันคนละบริบท

ข้าวแกงกะหรี่ เป็นอาหารที่ถูก invented ใหม่ โดยการเอา elements บ้างอย่างจากต่างชาติมาใช้ เช่น แกงกะหรี่ ได้อิทธิพลมาจากอินเดีย แต่เอามาปรับรส ปรับวิธีการทำให้เป็นสูตรของญี่ปุ่น

ราเมน ก็เช่นกัน มันมีแค่เส้น ที่ได้รับอิทธิผลมาจากจีน แต่ญี่ปุ่น ก็พัฒนาเส้นราเมน ขึ้นมาจนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นี่ยังไม่รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ เช่นเนื้อสัตว์ น้ำซุป แม้แต่วิธีการทาาน การทานเย็น ทานร้อน ต่างๆ มันไม่เหมือนกับจีนเลย

แต่เมนู

ทองหยิบ - อาหารโปรตุเกส
ทองหยอด - อาหารโปรตุเกส
ฝอยทอง - อาหารโปรตุเกส
ข้าวหมกไก่ - อาหารอินเดีย
ข้าวมันไก่ - อาหารจีน
พะโล้ - อาหารจีน
ข้าวขาหมู - อาหารจีน
สุกี้ - อาหารจีน

ไทยไม่ได้สร้างมา แต่ถูกเอาเข้ามาโดยคนชาติอื่น เผยแพร่โดยคนชาติอื่น วิธีการทำ การแดก ก็คนชาติอื่นมาทำให้หมด บอก know-how จนกลายเป็นเมนูอาหารที่คนไทยกินกันในชีวิตประจำวัน

ทองหยิบ ทองยอด ฝอยทอง ข้าวหมกไก่ ข้าวขาหมู สุกี้ มันไม่ต่างอะไรกับ พิซซ่าเปปเปอโรนี, สปาเก็ตตี้, เบอร์เกอร์ชีส ที่เป็นเมนูที่คนไทยกินในชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ แต่มันไม่ใช่อาหารไทย เพราะไม่ได้คิดค้นใหม่โดยคนไทย เป็นการเอาเข้ามาทั้งดุ้นจากต่างชาติ

แยกแยะให้ออกนะ อีกะเทยควายคลั่งชาติชั้นต่ำ

- ต้มยำกุ้ง

- ผัดไทย (อันนี้ คือบริบทเดียวกับ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เอาของที่มีอยู่แล้ว มาประกอบสร้างเป็นเมนูใหม่ได้สำเร็จ)

- ข้าวผัดอเมริกัน (อันนี้ อาจจะดูตลก แต่จริง ข้าวผัดเฉยๆทั่วไป คืออาหารจีน คนจีนเอาข้าวผัดเข้ามาเผยแพร่ในสังคมไทย แต่ข้าวผัดอเมริกัน คือการคิดค้นขึ้นมาใหม่ รากฐานเดินคือข้าวผัดแบบจีน แต่คนไทยเอาไปผัดกับซอสมะเขือเทศ ใช้ไก่ทอด ไข่ดาว และ บลา บลา แบบใหม่ แบบสับ)

ข้าวผัด นี่ก็อาหารจีน ไปเที่ยวจีน จะเห็นเมนูข้าวผัดอยู่เกือบทุกร้าน

ผัดเปรี้ยวหวาน, ผัดพริกไทยดำ, ผัดผงกะหรี่, ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ทอดกระเทียม, ราดหน้า พวกนี้ก็อาหารจีนหมดนะ

ใช่แล้วค่ะ แล้วมีหลักฐานว่าโปรตุเกส ยังเอาไปเผยแพร่ ที่กัมพูชา และที่มาเก๊าก็มีให้กินค่ะ

ข้อความนี้สะท้อนความเห็นที่มีความจริงบางส่วนแต่ก็อาจนำเสนอในลักษณะที่เหมารวมและขาดความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายว่า “คนไทยไร้ความรู้คิดไปเองว่าเป็นอาหารไทย” ซึ่งอาจฟังดูดูถูกและไม่สร้างสรรค์

ข้อเท็จจริงที่ควรพิจารณา:

1. อาหารไทยหลายอย่างมีรากจากต่างชาติจริง
เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง มีที่มาจากโปรตุเกสโดยเฉพาะจากการเข้ามาของมารี กีญญอง (Maria Guyomar de Pinha) ในสมัยอยุธยา
ข้าวหมกไก่มีรากจากอาหารมุสลิมอินเดีย
ข้าวมันไก่ พะโล้ ข้าวขาหมู สุกี้ ได้อิทธิพลจากจีน

2. แต่เมื่อผ่านกาลเวลา อาหารเหล่านี้ถูกปรับรสชาติ วัตถุดิบ และวิธีทำให้เข้ากับรสนิยมไทย
จึงถือว่าเป็น “อาหารไทย” ได้ในเชิงวัฒนธรรม เพราะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทย และแตกต่างจากต้นแบบเดิมอย่างมาก

3. ความเป็นเจ้าของทางวัฒนธรรมไม่ได้ผูกขาดที่ต้นกำเนิดเสมอ
การผสมผสานวัฒนธรรมอาหารคือเรื่องปกติทั่วโลก เช่น พิซซ่าอเมริกันก็ไม่เหมือนพิซซ่าอิตาเลียน

สรุปความคิดเห็น:
ข้อความนี้มีจุดจริงที่ควรศึกษา แต่การใช้คำว่า “ไร้ความรู้” เป็นการตัดสินที่รุนแรงเกินไปและอาจสร้างความเข้าใจผิดหรือความรู้สึกไม่ดี แทนที่จะตำหนิ ควรส่งเสริมความรู้เรื่องประวัติศาสตร์อาหารในเชิงบวกและเปิดกว้างทางวัฒนธรรมมากกว่า.

10 10 10

มีตรงไหนที่บอกว่านางเป็นลูกครึ่งไทยคะ กูหาอ่านทุกเม้น มีแต่เขาบอกว่าเป็นลูกครึ่ง โปรตุเกส ญี่ปุ่น กะเทยคือตกการอ่านเอาความ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระดียด

ประเทศไทย: ประเทศไทยรับเอาขนมอย่างฝอยทอง (Fios de Ovos) ทองหยอด และอาจรวมถึงแรงบันดาลใจของทองหยิบ มาพัฒนาจนเป็นขนมไทยที่สำคัญ โดยเฉพาะฝอยทองถือเป็นขนมมงคล

ญี่ปุ่น: ขนม Keiran Sōmen (鶏卵素麺 ของญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายกับฝอยทอง ทำจากไข่แดงและน้ำเชื่อม เชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากการเข้ามาของชาวโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16

มาเก๊า: ในฐานะอาณานิคมเก่าของโปรตุเกส อาหารมาเก๊ามีการผสมผสานระหว่างอาหารโปรตุเกสและจีนอย่างชัดเจน ขนมหวานหลายชนิดได้รับอิทธิพลจาก Doces de Ovos

มาเลเซีย: ขนม Jala Mas ของมาเลเซีย มีลักษณะเป็นเส้นสีทองคล้ายฝอยทอง ทำจากไข่แดงและน้ำเชื่อม

กัมพูชา: มีขนมที่เรียกว่า Vawee ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับฝอยทอง

ลาว: เช่นเดียวกับกัมพูชา มีขนมที่คล้ายฝอยทอง

อินเดีย (รัฐเกรละ): ในแถบมาลาบาร์ของรัฐเกรละ มีขนมที่เรียกว่า Muttamala ซึ่งแปลว่า "สร้อยไข่" มีลักษณะเป็นเส้นคล้ายฝอยทอง
อินเดีย (รัฐกัว): ขนมที่เรียกว่า Letria ในกัว มีลักษณะคล้ายกับฝอยทอง
อเมริกาใต้:

บราซิล: ขนม Fios de Ovos เป็นที่นิยมอย่างมากในบราซิล ใช้เป็นส่วนประกอบและตกแต่งขนมหวานหลายชนิด เช่น Torta Marta Rocha และยังใช้ทานกับอาหารคาวบางชนิดอีกด้วย
ยุโรป:

สเปน: ที่เมืองเซบียา มีขนมที่เรียกว่า Yemas de San Leandro ซึ่งทำจากไข่แดงและน้ำตาล มีลักษณะเป็นทรงกรวยเล็กๆ คล้ายทองหยอด

อิทธิพลของ Doces de Ovos สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและความคิดสร้างสรรค์ในการนำวัตถุดิบพื้นฐานอย่างไข่แดงและน้ำตาลมาสร้างสรรค์เป็นขนมหวานที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละวัฒนธรรม

จึงกล่าวได้ว่า Doces de Ovos ได้ทิ้งร่องรอยทางอาหารไว้ในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากการติดต่อค้าขายและการล่าอาณานิคมของโปรตุเกสในอดีต

ที่ไทยเรียกผัดวุ้นเส้น
เกาหลี ฉับแช
ฟิลิบปินส์ ปันสิด

ตอนเห็นครั้งแรกก็เหมือนๆกันนี่หว่า แต่แค่มีวัตถุดิบต่างกันหน่อย

แกงบวดฮะ
ที่ไทยเราจะบวดทีละอย่าง บวดเผือก บวดมัน บวชกล้วยก็ว่าไป
ที่ฟิลิบปินส์ บวดรวมเลยฮะ เรียก บิกนิกนิด(อาจจะเพี้ยนๆหน่อย)
จะตักที มีกล้วย สาเก ฟักทอง เผือก มันเทศ มากันครบ แต่ไม่หวานเท่าบ้านเรา

ข้าวต้มมัดอันยาวๆด้วยฮะ ที่นั่นยาวมาก ผอมๆ จิ้มกินกะผงโอวัลติน
บ้านเราเรียกขนมมัดใต้ อันนี้จำชื่อไม่ได้เพราะไม่ชอบ ของบ้านเราอร่อยกว่า

อย่าโง่ อีควาย อีขนมโตเกียวนี่ไทยแท้