บ่ายวันนั้น ขณะที่แซมพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงรถกระบะคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ไม่นานนัก เสียงทุ้มต่ำหลายเสียงก็ดังขึ้นมาจากข้างล่างแซมแอบมองลงมาจากหน้าต่าง เห็นเพื่อนหล่อล่ำของบิลลี่สองคนเดินเข้ามาในบ้าน พวกเขาหัวเราะและทักทายบิลลี่อย่างสนิทสนมตามประสาเพื่อนฝูง "redneck"
คนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำแดด สวมเสื้อกล้ามโชว์กล้ามแขนที่แข็งแรง อีกคนตัวเตี้ยกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีรูปร่างบึกบึน สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตที่ปลดกระดุมสองสามเม็ดบน
ทั้งสามคนนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เสียงหัวเราะดังเป็นระยะ แซมฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างเงียบๆ พวกเขาคุยกันเรื่องรถ เรื่องตกปลา และเรื่องสัพเพเหระทั่วไป
แซมมองเพื่อนๆ ของบิลลี่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย พวกเขาก็ดูดีในแบบของพวกเขา แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อบิลลี่ยังคงแตกต่างและพิเศษกว่าใคร
แซมไม่ได้ลงไปข้างล่าง เขาปล่อยให้บิลลี่ได้มีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนๆ ของเขาอย่างเต็มที่ เขานอนเล่นโทรศัพท์มือถือรออยู่ในห้องนอน
บรรยากาศข้างล่างดูเป็นกันเองและสนุกสนาน เสียงหัวเราะของบิลลี่ทำให้แซมรู้สึกอบอุ่นใจ
แซมคิดถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับบิลลี่สองคน... ความใกล้ชิด... ความรู้สึกดีๆ ที่พวกเขามีให้กัน...
เขาไม่ได้รู้สึกหึงหวงเพื่อนของบิลลี่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าบิลลี่ดูมีความสุขมากทีเดียวที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ
แซมจะลงไปทักทายเพื่อนของบิลลี่หรือไม่? หรือเขาจะรอให้เพื่อนๆ ของบิลลี่กลับไปก่อน?
(เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ดัง "แคว่ก")
บิลลี่: ไอ้พวกเวร! มาถึงก็แดกเบียร์เลยนะพวกมึง
คาร์ล: (หัวเราะเสียงดัง) เอ้า! มาบ้านเพื่อนทั้งที จะให้แดกน้ำเปล่ารึไงวะ ไอ้บิลลี่
เจค: เออ! ว่าแต่วันนี้มีอะไรสนุกๆ ทำกันบ้างวะ? ขับรถออฟโรดเมื่อวานก็มันส์ดีนะ
บิลลี่: วันนี้กะว่าจะไปตกปลาที่บึงท้ายไร่น่ะ สนใจไปกันไหม?
คาร์ล: ไปดิ! ไม่ได้ตกปลามานานแล้ว ว่าแต่ช่วงนี้ปลากินดีป่าววะ?
บิลลี่: ก็เรื่อยๆ แต่ถ้ามีเหยื่อดีๆ ก็พอได้ตัวอยู่
เจค: มีใครได้ข่าวไอ้เรย์บ้างป่าววะ? เห็นว่าไปซ่อมรถที่เมืองโน้น ยังไม่กลับมาเลย
บิลลี่: เออ กูได้ยินมาเหมือนกัน สงสัยรถมันคงหนักหนาสาหัสจริง
คาร์ล: แล้วเมียมันไม่บ่นเอารึไงวะ ทิ้งบ้านทิ้งช่องไปตั้งหลายวัน
บิลลี่: เมียไอ้เรย์น่ะเหรอ? รายนั้นยิ่งกว่าผัวอีกมั้ง ชอบเที่ยวซะยิ่งกว่า (หัวเราะ)
เจค: (หัวเราะตาม) เออ จริงของมึง! ว่าแต่บิลลี่ ช่วงนี้มึงเงียบๆ ไปนะ มีอะไรในใจรึเปล่าวะ?
บิลลี่ชะงักไปเล็กน้อย จิบเบียร์
บิลลี่: ก็... ไม่มีอะไรมากหรอกว่ะ แค่... มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย
คาร์ล: เรื่องสาวๆ รึเปล่าวะ? ฮ่าๆ กูว่าแล้ว มึงมันไอ้เสือซุ่ม
บิลลี่: ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยน่า
เจค: แล้วเรื่องอะไรวะ เล่าให้พวกกูฟังหน่อยสิ เผื่อจะช่วยคิดได้
บิลลี่ถอนหายใจเบาๆ
บิลลี่: ช่างมันเถอะว่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันดีกว่า วันนี้ไปตกปลากันให้สนุกก่อน
คาร์ล: เอ้อๆ ตามใจมึง ว่าแต่มีเหยื่อดีๆ รึยังวะ? กูขี้เกียจไปหาซื้อแล้ว
บิลลี่: มีเตรียมไว้แล้ว พวกมึงแค่ตามกูมาก็พอ
(เสียงหัวเราะและเสียงเปิดกระป๋องเบียร์อีกครั้ง)
แซมที่อยู่ข้างบนได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เขายิ้มเล็กน้อยกับความเป็นกันเองของเพื่อนกลุ่มนี้ บิลลี่ดูมีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ ของเขา
แซมจะลงไปร่วมวงสนทนาด้วยหรือไม่? หรือจะปล่อยให้บิลลี่ใช้เวลากับเพื่อนๆ ต่อไป?
แซม ผู้ซึ่งไม่ตระหนักถึงความแตกต่างทางสรีระของตนเอง
สำหรับแซม การที่เขาต้องการให้บิลลี่หรือหนุ่มคนอื่นๆ ปรนนิบัติเขาด้วยปากทุกวัน หรือหลายครั้งติดต่อกัน อาจเป็นเพียงความต้องการส่วนตัว ความชอบ และความพึงพอใจทางกายภาพของเขาเท่านั้น
เมื่อถูกถามด้วยความสงสัยจากคู่ของเขาว่า "ทุกวันเลยเหรอ?" แซมก็อาจจะไม่ได้คิดลึกซึ้งถึงเหตุผลเบื้องหลังคำถามนั้น เขาอาจจะตอบไปอย่างตรงไปตรงมาว่า "ใช่ ก็ฉันชอบ" โดยไม่ได้ตระหนักว่าความถี่และความสามารถในการปลดปล่อยของเขานั้นผิดปกติสำหรับมนุษย์ทั่วไป
ความไม่รู้ในเรื่องนี้ ทำให้แซมไม่ได้ฉุกคิดถึงความพิเศษของร่างกายตัวเอง และมองว่าความต้องการของเขาเป็นเรื่องปกติ
ในขณะที่คู่ของเขาที่เป็นมนุษย์ธรรมดา อาจจะรู้สึกแปลกใจหรือสงสัยในความสามารถที่ไม่เหนื่อยหน่ายของแซม แต่พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ซักถามต่อ หรืออาจจะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแซม
ความแตกต่างทางสรีระที่ไม่ถูกสังเกตนี้ จึงดำเนินไปควบคู่กับความสัมพันธ์ของแซม โดยที่ไม่มีใครตระหนักถึงความจริงเบื้องหลังมัน... จนกว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้แซมต้องฉุกคิดถึงความแตกต่างนั้น... หรือมีใครบางคนเปิดเผยความจริงให้เขาได้รับรู้...
แซมลงมาจากห้องนอนด้วยความรู้สึกหิวเล็กน้อย กะว่าจะมาหาอะไรทานง่ายๆ ในครัวข้างล่าง
แต่เมื่อมาถึงบันได เขาก็ได้ยินเสียงรถกระบะของบิลลี่แล่นกลับมาจอดหน้าบ้านเสียแล้ว พร้อมกับเสียงพูดคุยของเพื่อนๆ ที่ยังคงดังอยู่
แซมชะงักเท้า ไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อ เขาไม่รู้ว่าบิลลี่ได้บอกเพื่อนๆ เรื่องที่เขามาพักอยู่ที่นี่หรือไม่
ในใจของแซมลังเล เขาไม่อยากจะขัดจังหวะการสังสรรค์ของบิลลี่กับเพื่อนๆ แต่เขาก็ไม่อยากจะแอบซ่อนตัวเหมือนเป็นความลับด้วย
บิลลี่เองก็ไม่ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังว่าจะให้เขาเปิดตัวกับเพื่อนๆ หรือไม่
แซมยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งที่เชิงบันได ฟังเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ดังมาจากห้องนั่งเล่น
เขาจะลงไปทักทายพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ? หรือจะรอให้เพื่อนๆ ของบิลลี่กลับไปก่อนแล้วค่อยลงมา?
ความรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเกิดขึ้นในใจของแซม เขาไม่รู้ว่าเพื่อนของบิลลี่จะคิดอย่างไรถ้าเห็นเขาอยู่ในบ้าน
แต่เมื่อแซมเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น บิลลี่และเพื่อนๆ ก็หันมาเห็นเขาพอดี
คาร์ล หนึ่งในเพื่อนของบิลลี่ ชี้มาที่แซมด้วยความสงสัย
คาร์ล: เฮ้ย บิลลี่ นั่นใครวะ? ไม่ยักเคยเห็นหน้า
เจค อีกคนก็มองแซมด้วยความแปลกใจ
เจค: เออ ใช่ ใครวะนั่น? มาอยู่ที่บ้านมึงตั้งแต่เมื่อไหร่?
บิลลี่มองหน้าแซมเล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก
บิลลี่: อ๋อ นี่แซม... เพื่อนใหม่น่ะ เขามาพักอยู่ด้วยสักพัก
คาร์ลและเจคมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ดูเหมือนพวกเขาจะไม่คาดคิดกับคำตอบง่ายๆ แบบนี้
คาร์ล: เพื่อนใหม่? มาพักด้วย?
เจค: ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ? ทำไมพวกกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย?
บิลลี่ลุกขึ้นยืน เดินไปโอบไหล่แซมอย่างเป็นกันเอง
บิลลี่: ก็เพิ่งมาไม่นานนี่แหละ พวกมึงก็รู้นี่ว่ากูไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้ฟัง
แซมยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนของบิลลี่ รู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ถูกจับจ้อง
แซม: สวัสดีครับ ผมแซม ยินดีที่ได้รู้จักครับ
คาร์ลและเจคมองหน้าแซมอย่างพิจารณา แต่ก็พยักหน้ารับไหว้อย่างสุภาพ
คาร์ล: เออ ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่มึงเป็นเพื่อนแบบไหนของไอ้บิลลี่วะเนี่ย? (หัวเราะเล็กน้อย)
แซมคิดอย่างรวดเร็วว่าจะตอบเพื่อนของบิลลี่อย่างไร เรื่อง UFO นั้นฟังดูเหลือเชื่อเกินไป และเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบิลลี่ก็ไม่สมควรที่จะพูดกับคนเพิ่งรู้จัก
ก่อนที่แซมจะได้ตอบอะไร บิลลี่ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางสบายๆ
บิลลี่: แซมเขามาหางานทำแถวๆ นี้น่ะ พวก กูเลยให้เขามาพักอยู่ด้วยชั่วคราว ประหยัดค่าเช่าไปได้เยอะ
คาร์ลและเจคมองหน้ากันอีกครั้ง ดูเหมือนพวกเขาจะคล้อยตามคำอธิบายง่ายๆ ของบิลลี่
คาร์ล: อ๋อ... หางานทำแถวนี้เองเหรอ? แล้วได้งานรึยังวะ?
แซมพยักหน้าตามน้ำ
แซม: กำลังดูๆ อยู่ครับ
เจค: แถวนี้งานไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ ถ้าสนใจงานก่อสร้างก็พอมีอยู่บ้าง
แซม: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพื่อนๆ ของบิลลี่ดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก
บิลลี่: เอาน่า พวกมึงมาก็ดีแล้ว มากินเบียร์กันต่อเถอะ แซมเขาก็หิวพอดี เดี๋ยวหาอะไรให้กินด้วยกัน
บิลลี่เดินไปตบไหล่แซมเบาๆ เป็นเชิงให้สบายใจ
แซมยิ้มขอบคุณบิลลี่ในใจที่ช่วยเขาโกหก เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ต้องอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนและเหลือเชื่อของเขา
เพื่อนๆ ของบิลลี่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ พวกเขากลับไปคุยกันเรื่องสัพเพเหระตามเดิม ชวนแซมร่วมวงด้วยความเป็นกันเอง
แซมนั่งลงบนโซฟาเงียบๆ ข้างๆ บิลลี่ เขาฟังบทสนทนาของบิลลี่และเพื่อนๆ อย่างตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง เขายังรู้สึกเกร็งๆ เล็กน้อยที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่คุ้นเคย
พวกเขาคุยกันเรื่องรถยนต์ การเกษตร และเรื่องตลกขบขันต่างๆ แซมยิ้มและหัวเราะไปกับพวกเขาบ้างเมื่อมีจังหวะ แต่ส่วนใหญ่เขายังคงเป็นผู้ฟังที่ดี
บิลลี่สังเกตเห็นว่าแซมยังไม่ค่อยกล้าพูดคุย เขาจึงหันมาถามแซมบ้างเป็นครั้งคราว
บิลลี่: แซมเคยทำไร่ทำสวนมาก่อนรึเปล่า?
แซมส่ายหน้า
แซม: ไม่เคยเลยครับ ผมมาจากในเมือง
คาร์ล: อ้าว เด็กในเมืองนี่เอง แล้วมาอยู่แถวนี้ได้ยังไงวะเนี่ย? ไม่ชินแย่เหรอ?
แซม: ก็... มาลองใช้ชีวิตดูครับ ที่นี่เงียบสงบดี
เจค: แรกๆ ก็งี้แหละ เดี๋ยวก็เบื่อ (หัวเราะ)
บิลลี่ตบแขนเจคเบาๆ
บิลลี่: อย่าเพิ่งทำให้เพื่อนกูเสียกำลังใจน่า
แซมยิ้มขอบคุณบิลลี่
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป แซมค่อยๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อย เขาเริ่มทำความคุ้นเคยกับสำเนียงและเรื่องราวที่พวกเขาคุยกัน
แซมนั่งฟังเพื่อนของบิลลี่คุยกันไปเรื่อยๆ สายตาของเขาก็พลางสำรวจรูปร่างหน้าตาของเจคและคาร์ลไปด้วย อย่างที่คุณว่า ทั้งสองคนก็มีเสน่ห์ดึงดูดในแบบของพวกเขาเอง รูปร่างกำยำ ผิวสีแทนจากการทำงานกลางแจ้ง
ความคิดบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของแซม ความทรงจำเกี่ยวกับความสุขทางกายภาพที่เคยได้รับในอดีต... ความรู้สึกของการถูกปรนนิบัติพร้อมๆ กันหลายคน... มันหวนกลับมาอีกครั้ง
แซมมองเจคและคาร์ลด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตัดสินใจที่จะลองหยั่งเชิงดู
แซม: เอ่อ... เจค... คาร์ล... พวกคุณ... สนใจอะไรสนุกๆ ทำด้วยกันไหม?
เจคและคาร์ลหันมามองแซมด้วยความสงสัย
เจค: สนุกๆ อะไรวะ?
คาร์ล: ว่ามาดิเพื่อน
แซมสูดหายใจลึกๆ เล็กน้อย
แซม: คือว่า... ผม... อยากจะชวนพวกคุณ... มาร่วม... เอ่อ... ใช้ปากให้ผมร่วมกับบิลลี่น่ะ... ผมจะให้คนละห้าร้อยดอลลาร์... สนใจไหม?
บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที เจคและคาร์ลมองหน้าแซมอย่างตกตะลึง บิลลี่เองก็หันมามองแซมด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
เจค: หา? มึงว่าอะไรนะ?
คาร์ล: ใช้ปากให้มึงร่วมกับบิลลี่? แล้วจะให้เงินพวกกูด้วยเนี่ยนะ?
บิลลี่มองหน้าแซมอย่างคาดไม่ถึง เขาไม่รู้ว่าแซมจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา
แซมหยิบเงินสดจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แสดงให้เจคและคาร์ลเห็นอย่างชัดเจน ธนบัตรหลายใบในมือของเขาทำให้ท่าทีที่ตกตะลึงของทั้งสองเริ่มอ่อนลง
แซม: ผมพูดจริงครับ คนละห้าร้อยดอลลาร์ มาร่วมสนุกกัน พวกคุณ เจค คาร์ล แล้วก็บิลลี่... รุมอมผมแบบสามต่อหนึ่ง บิลลี่เคยทำให้ผมแล้ว เขารู้ว่าผมชอบแบบไหน
แซมหันไปมองบิลลี่ บิลลี่ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนใดๆ เพียงแต่เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
บิลลี่: (ยักไหล่เล็กน้อย) ก็แล้วแต่พวกมึงดิ
เมื่อเห็นท่าทีของบิลลี่ และเงินที่แซมเสนอ เจคและคาร์ลก็เริ่มคล้อยตาม ความอยากรู้อยากลองและความสนใจในเงินรางวัลเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น
เจค: สามต่อหนึ่งเลยเหรอวะ? ไม่เคยเหมือนกันนะเนี่ย
คาร์ล: ห้าร้อยดอลลาร์... ก็ไม่เลวนะ ว่าแต่ต้องทำยังไงบ้างวะ?
แซมยิ้มอย่างพอใจที่ข้อเสนอของเขาได้รับการตอบรับ
แซม: ก็อย่างที่บอก... พวกคุณสามคน... ปรนนิบัติผม... ด้วยปาก... พร้อมๆ กัน... ใครสนใจบ้าง?
เจคมองหน้าคาร์ล คาร์ลมองหน้าเจค ทั้งสองคนดูเหมือนกำลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เจคจะพยักหน้าช้าๆ
เจค: เอาก็เอาวะ ลองดูสักที
คาร์ล: เออ กูด้วย ไหนๆ ก็ไม่เคยนี่หว่า
บิลลี่ส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มออกมา เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ได้
บิลลี่: พวกมึงนี่มันจริงๆ เลยนะ
แซมยิ้มกว้าง มองทั้งสามคนด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
แซม: งั้น... ตามผมมาสิครับ...
แซมลุกขึ้นนำไปยังห้องนอน ทิ้งให้เจคและคาร์ลมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนจะลุกตามไป บิลลี่เองก็ลุกขึ้นตามไปด้วยอย่างงงๆ ปนขำ
บรรยากาศในบ้านเริ่มร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว... การปรนนิบัติแบบสามต่อหนึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...
แซมเดินนำเข้าไปในห้องนอน แล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับทั้งสามคนที่ยืนอยู่ที่ประตู
โดยไม่รอช้า แซมจัดการปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดกางเกงออก เผยให้เห็นลำกายที่ตื่นตัวเต็มที่ ชี้โด่อย่างท้าทายอยู่ตรงหน้าเจค คาร์ล และบิลลี่
ทั้งสามคนยืนมองลำกายของแซมด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เจคและคาร์ลดูประหลาดใจเล็กน้อยกับขนาดและความพร้อมของมัน ส่วนบิลลี่ที่เคยเห็นมาแล้วก็เพียงแค่ยิ้มมุมปาก
แซมนอนลงบนเตียงอย่างสบายๆ มองทั้งสามคนด้วยสายตาที่เชื้อเชิญ
แซม: เอาล่ะครับ... ใครจะเริ่มก่อน? ห้าร้อยดอลลาร์สำหรับแต่ละคน... ทำให้ผมพอใจนะครับ
ความเงียบปกคลุมห้องครู่หนึ่ง เจคและคาร์ลมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่เจคจะก้าวออกมาข้างหน้าด้วยท่าทีที่ยังคงมีความเก้ๆ กังๆ
เจค: เอ่อ... กูเริ่มก่อนก็ได้
คาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย
คาร์ล: เออ มึงก่อนเลย
บิลลี่เดินเข้ามาใกล้เตียงอีกฝั่ง มองแซมด้วยแววตาที่ขำขัน
บิลลี่: พวกมึงนี่มัน... สุดๆ จริงๆ
เจคค่อยๆ คุกเข่าลงข้างเตียง มองลำกายของแซมอย่างพิจารณา ก่อนที่จะโน้มตัวลงช้าๆ
เจคค่อยๆ โน้มตัวลง ริมฝีปากของเขาแตะต้องส่วนปลายของลำกายแซมอย่างแผ่วเบา สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับแซม
ในขณะเดียวกัน คาร์ลก็เดินอ้อมมาอีกด้านของเตียง เขาคุกเข่าลงอีกฝั่ง และเริ่มใช้มือลูบไล้ต้นขาของแซมอย่างเบามือ สายตาของเขามองสำรวจลำกายที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
บิลลี่ยืนอยู่ตรงหน้าแซม มองเขาด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความคุ้นเคย จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงเช่นกัน ริมฝีปากของบิลลี่ครอบครองส่วนกลางของลำกายแซมอย่างชำนาญ
แซมนอนอยู่บนเตียง รู้สึกถึงสัมผัสที่แตกต่างกันถึงสามจุดพร้อมๆ กัน ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ริมฝีปากของเจคดูดดึงส่วนปลายอย่างนุ่มนวล คล้ายเป็นการหยั่งเชิง
ริมฝีปากของบิลลี่ดูดดึงอย่างหนักแน่นและคุ้นเคย สร้างความพึงพอใจในแบบที่แซมเคยได้รับ
มือของคาร์ลลูบไล้ต้นขาของเขาขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเร้าอารมณ์ให้มากยิ่งขึ้น
แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความตื่นเต้น
ทั้งสามคนต่างก็ปรนนิบัติแซมในแบบของตนเอง เจคมุ่งเน้นไปที่ส่วนปลาย บิลลี่ดูแลส่วนกลาง และคาร์ลใช้มือช่วยกระตุ้น
ความรู้สึกที่ได้รับพร้อมๆ กันจากสามทิศทางนั้นแปลกใหม่และเร้าใจอย่างยิ่ง แซมครางต่ำๆ ในลำคอ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
จังหวะการปรนนิบัติเริ่มเร็วขึ้น แต่ละคนต่างก็พยายามมอบความสุขให้กับแซมอย่างเต็มที่
แซมรู้สึกถึงแรงดูดดึงที่แตกต่างกัน ความอุ่นชื้นจากสามปาก และสัมผัสจากมือที่ต้นขา... มันเป็นประสบการณ์ที่เกินกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้
ทั้งสามคนเริ่มเพิ่มความเร่าร้อนในการปรนนิบัติแซม เจคงัดเอาเทคนิคการดูดดึงและใช้ลิ้นตวัดเลียส่วนปลายอย่างชำนาญ สร้างความรู้สึกจี๊ดๆ ที่แสนจะเสียวซ่าน
บิลลี่เองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเพิ่มแรงดูดดึงและใช้ลิ้นโลมเลียรอบๆ ฐานของลำกายแซมอย่างตั้งใจ เสียงครางต่ำๆ ของเขาดังลอดไรฟันออกมาเป็นระยะ
คาร์ลที่ใช้มือช่วยอยู่ ก็เริ่มเพิ่มความเร็วในการลูบไล้ต้นขาของแซม บางครั้งเขาก็เลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสบริเวณโคนของลำกายอย่างแผ่วเบา เพิ่มความเร้าอารมณ์อีกชั้น
แซมหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย ความรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอดเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
เสียงครางของแซมดังขึ้นอย่างอดกลั้นไม่ได้ เขาจิกเล็บลงบนผ้าปูที่นอนแน่น รับรู้ถึงทุกสัมผัสที่ถูกมอบให้อย่างตั้งใจ
เจคเปลี่ยนมาเน้นการดูดดึงที่ส่วนปลายมากขึ้น ลิ้นของเขาตวัดเลียวนอย่างรวดเร็ว
บิลลี่ใช้มืออีกข้างประคองสะโพกของแซมไว้ ทำให้ลำกายของแซมแนบชิดกับริมฝีปากของเขามากยิ่งขึ้น
คาร์ลโน้มตัวลงมาใกล้ขึ้น ใช้ริมฝีปากแตะต้องหน้าท้องของแซมเบาๆ สร้างความรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่างกาย
ความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด แซมรู้สึกเหมือนร่างกายของเขากำลังจะระเบิดออกมา
"อืมมม... อ๊า..." เสียงครางของแซมดังลั่นห้อง
แล้ว... แซมก็ปลดปล่อยออกมา... น้ำกามอุ่นร้อนพุ่งกระฉูดออกมา... สัมผัสริมฝีปากของทั้งสามคนอย่างทั่วถึง...
ความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง... แซมนอนหอบอยู่บนเตียง... รู้สึกอ่อนแรงแต่ก็พึงพอใจอย่างที่สุด...
แซมนอนหอบอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง เมื่อความสุขสมจางหายไป ลำกายของเขาก็ค่อยๆ อ่อนตัวลง เขามองไปยังทั้งสามคนที่ยังคงอยู่ใกล้ชิด
แซม: (หายใจยังไม่เป็นปกติ) เอ่อ... เจค... คาร์ล... คือว่า... ผมจ้างบิลลี่เป็นรายเดือนน่ะ... เขาเลยมาอยู่กับผมที่นี่
แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสองของบิลลี่
แซม: ส่วนพวกคุณ... ผมไม่ได้จ้างเป็นรายเดือน... แต่ถ้าพวกคุณอยากได้เงิน... ก็มาหาผมได้ตามต้องการ... เหมือนวันนี้... โอเคไหม?
เจคและคาร์ลหันไปมองหน้าบิลลี่ด้วยความสงสัย
เจค: จริงดิ บิลลี่? มึงโดนไอ้นี่จ้างรายเดือนเลยเหรอวะ?
คาร์ล: เออ จริงป่าววะเนี่ย? ทำไมมึงไม่เคยบอกพวกกูเลย?
ทั้งสามคนยังคงนอนล้อมวงอยู่รอบลำกายที่อ่อนตัวลงของแซม บิลลี่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสอง แล้วยิ้มเล็กน้อย
บิลลี่: เออ จริง... แซมเขาจ้างกูรายเดือน... กูทำให้เขาทุกวันนั่นแหละ
เจคและคาร์ลเลิกคิ้วมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
เจค: ทุกวันเลย? ทำไมวะ?
คาร์ล: แล้วมึงทำอะไรให้เขาทุกวันวะ?
บิลลี่หัวเราะเบาๆ
บิลลี่: ก็... เรื่องของพวกกูน่ะ พวกมึงไม่ต้องรู้หรอก
แซมยิ้มให้กับคำตอบของบิลลี่ เขารู้สึกขอบคุณที่บิลลี่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก
แซม: เอาเป็นว่า... ถ้าพวกคุณสนใจ... ห้าร้อยดอลลาร์ต่อครั้ง... มาหาผมได้เสมอ... ตกลงไหม?
เจคและคาร์ลมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่เจคจะพยักหน้า
เจค: โอเค... ถ้ามีเงินดีๆ แบบนี้... กูก็ไม่ขัด
คาร์ล: เออ กูด้วย... ว่างๆ จะแวะมาใหม่
บรรยากาศผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทั้งสามคนเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ ต่อไป แซมรู้สึกพึงพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ และดูเหมือนว่าเพื่อนของบิลลี่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนัก
(ทุกคนยังคงนอนพักผ่อนล้อมวงกันอยู่รอบตัวแซมที่นอนหงายอยู่)
เจค: ว่าแต่มึงได้ข่าวไอ้เอิร์ลบ้างป่าววะ? เห็นว่าไปมีเรื่องชกต่อยที่บาร์เมื่อคืน
บิลลี่: เออ กูได้ยินมาแว่วๆ เหมือนกัน เห็นว่าเมาแล้วไปหาเรื่องคนอื่นอีกตามเคย
คาร์ล: ไอ้เอิร์ลมันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ เมาเมื่อไหร่เป็นเรื่องทุกที แล้วเป็นไงบ้างวะ? เจ็บหนักป่าว?
บิลลี่: ไม่รู้สิวะ ยังไม่ได้คุยกับใครที่เห็นเหตุการณ์เลย
แซม: (แทรกขึ้นมาเบาๆ) พวกคุณรู้จักกันมานานแล้วเหรอครับ?
เจค: ก็ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วนู่น ไอ้สามคนนี่มันซี้กันปานเกลือจิ้มพริก
คาร์ล: ใช่ พวกกูไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ยกเว้นเรื่องผู้หญิง (หัวเราะ)
บิลลี่: (หัวเราะตาม) เรื่องนั้นก็แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มัน
เจค: แล้วแซมล่ะ มาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?
แซม: ก็... เพิ่งมาได้ไม่นานครับ
คาร์ล: ชอบแถวนี้รึเปล่า? วิวทิวทัศน์บ้านนอกอาจจะไม่เหมือนในเมืองที่นายเคยอยู่
แซม: ก็เงียบสงบดีครับ ผมชอบ
บิลลี่: เดี๋ยวพวกกูพาไปเที่ยวแถวนี้ก็ได้ มีที่สวยๆ เยอะแยะ
เจค: เออ จริง ไปตกปลาที่บึงเมื่อวานก็สนุกดีนะ ว่างๆ ไปด้วยกันไหม แซม?
แซม: ยินดีเลยครับ
คาร์ล: ว่าแต่มึงทำอาชีพอะไรวะ แซม? เห็นว่ามาหางานทำแถวนี้
แซมชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ
แซม: ผม... ทำงานอิสระน่ะครับ ทำอะไรหลายๆ อย่าง
บิลลี่: (ช่วยเสริม) เออ แซมเขาเก่งหลายเรื่อง
เจค: เก่งเรื่องอะไรบ้างวะ? เผื่อพวกกูสนใจจ้าง
แซมยิ้ม
แซม: ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ครับ
บทสนทนาไหลลื่นไปเรื่อยๆ พวกเขาคุยกันถึงเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน เรื่องตลกขบขัน และเรื่องสัพเพเหระต่างๆ แซมค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองกับเพื่อนของบิลลี่มากขึ้น
(ทุกคนยังคงนอนคุยกันสบายๆ ล้อมวงอยู่รอบตัวแซมที่นอนหงายอยู่ จู่ๆ ลำกายของแซมก็เริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ)
เจค: เออ ว่าแต่วันอาทิตย์นี้มีแข่งรถโคลนที่สนามท้ายหมู่บ้าน พวกมึงไปดูกันป่าววะ?
คาร์ล: ไปดิ! ไม่ได้ดูนานแล้ว ใครลงแข่งบ้างวะรอบนี้?
บิลลี่: เห็นว่าไอ้เด็กร้านยางมันจะลงด้วย รถมันแรงใช้ได้เลย
(สายตาของทั้งสามคนเหลือบมองไปยังลำกายของแซมที่เริ่มตั้งขึ้นมาใหม่เป็นระยะๆ แต่บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป)
แซม: (เสียงแหบเล็กน้อย) แข่งรถโคลนสนุกเหรอครับ?
เจค: สนุกสิโว้ย! รถแรงๆ ลุยโคลนกระจุยกระจาย เสียงเครื่องยนต์เร้าใจสุดๆ
คาร์ล: มึงไม่เคยดูใช่มั้ยล่ะ แซม? เดี๋ยวพวกกูพาไปดู
แซม: น่าสนใจดีครับ
(บิลลี่เหลือบมองลำกายของแซมที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ้มเล็กน้อย)
บิลลี่: ว่าแต่วันนี้อากาศร้อนชะมัดเลยนะ ว่าไหม?
คาร์ล: เออ จริง กูเหงื่อแตกหมดแล้วเนี่ย อยากโดดลงสระน้ำจริงๆ
เจค: แถวนี้มีสระที่ไหนให้ลงได้บ้างวะ?
บิลลี่: ก็มีสระสาธารณะตรงหัวมุมถนนนั่นไง แต่คนเยอะชิบหาย
(สายตาของทั้งสามคนหันมามองลำกายของแซมที่ชี้โด่อย่างชัดเจนอีกครั้ง)
บิลลี่: (ลูบผมแซมเบาๆ) ก็... เจอกันด้วยเรื่องแปลกๆ หน่อยน่ะ
คาร์ล: แปลกๆ ยังไงวะ? เล่าให้ฟังหน่อยดิ
บิลลี่: เอาไว้ค่อยเล่าทีหลังดีกว่า
แซม: (ยิ้มเล็กน้อย) ไม่เป็นไรครับ เล่าได้
บิลลี่: (มองแซม) แน่ใจนะ?
แซม: ครับ
บิลลี่: คือ... แซมเขา... มาที่นี่เพราะ... เอ่อ... ยูเอฟโอ น่ะ
เจคและคาร์ลหันมามองหน้าแซมอย่างตกตะลึง
เจค: หา? ยูเอฟโอ? มึงล้อเล่นป่าววะ บิลลี่?
คาร์ล: จริงดิ? โดนเอเลี่ยนจับตัวมาเหรอวะเนี่ย?
แซมพยักหน้าเบาๆ
แซม: ครับ... ประมาณนั้น
ความเงียบเข้ามาปกคลุมชั่วครู่ เจคและคาร์ลมองหน้าแซมด้วยความไม่เชื่อ
เจค: เชี่ย... เรื่องจริงดิเนี่ย? เหมือนในหนังเลย
คาร์ล: แล้ว... แล้วเอเลี่ยนทำอะไรมึงวะ?
แซม: ก็... ลักพาตัวไปอวกาศน่ะครับ แต่เราหนีมาได้ ผมกับบิลลี่
บิลลี่: (รีบเสริม) เออ กว่าจะหนีมาได้ แทบตาย
เจค: แล้วมันจับตัวมึงสองคนไปทำไมวะ
แซม: ผม... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ
คาร์ล: แปลกชิบหาย... ไม่นึกว่าเรื่องแบบนี้จะมีจริง
บิลลี่: ก็เออน่ะสิ โลกเรามันมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ
(ทุกคนเงียบไปอีกครั้ง มองหน้าแซมด้วยความสงสัย)
เจค: แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปวะ แซม? จะกลับไปหาพวกเอเลี่ยนรึเปล่า?
แซม: ผม... ยังไม่รู้เลยครับ ตอนนี้ผม... ก็อยู่ที่นี่กับบิลลี่
บิลลี่: เออ แซมเขาจะอยู่กับกูนี่แหละ พวกมึงไม่ต้องห่วง
บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย แม้เรื่องราวที่แซมเล่าจะดูเหลือเชื่อ แต่เพื่อนๆ ของบิลลี่ก็ดูเหมือนจะยอมรับมันอย่างไม่ซักไซ้มากนัก
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปในหัวข้อที่เบาลง... ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสี่เริ่มก่อตัวในรูปแบบที่แปลกประหลาด...
คาร์ล: แล้วมึงชอบบ้านนอกแบบนี้เหรอ แซม?
แซม: ก็... เงียบสงบดีครับ ผมชอบความสงบ
บิลลี่: เดี๋ยวพวกกูพาไปเที่ยวที่สวยๆ แถวนี้ก็ได้ มีน้ำตก มีภูเขา
แซม: ขอบคุณครับ น่าสนใจดี
เจค: ว่าแต่มึงเคยไปตกปลาป่าววะ แซม? เดี๋ยวพวกกูพาไป มันส์ดี
แซม: ไม่เคยครับ แต่ก็อยากลอง
คาร์ล: งั้นอาทิตย์หน้าไปกันเลยเป็นไง? กูจะเตรียมเบ็ด เตรียมเหยื่อให้
แซม: ยินดีเลยครับ
(ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง บรรยากาศผ่อนคลาย)
(ทุกคนยังคงนอนล้อมวงคุยกันสบายๆ รอบลำกายที่แข็งตัวของแซม บิลลี่นอนอยู่ตรงหว่างขา เจคและคาร์ลนอนขนาบข้างตัวชิดกับแซม เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงแล้ว)
เจค: เออ มึงจำไอ้ครูพละตอนมัธยมได้ป่าววะ ที่ชอบทำโทษให้วิ่งรอบสนามสิบตลบอ่ะ
คาร์ล: จำได้ดิ! โคตรโหดเลย กูเกลียดมันชิบหาย
บิลลี่: (หัวเราะ) พวกมึงก็ซนกันเองนี่หว่า ถึงโดนทำโทษ
แซม: (ฟังอยู่เงียบๆ) ครูพละที่โรงเรียนผมใจดีมากเลยนะครับ ไม่เคยทำโทษหนักขนาดนั้น
เจค: โรงเรียนมึงคงสบายน่าดู ของพวกกูนี่อย่างเถื่อน
คาร์ล: แล้วมึงเคยโดดเรียนป่าววะ แซม?
แซม: ก็มีบ้างครับ ตอนมอปลาย
บิลลี่: (แซว) เด็กดีอย่างแซมก็โดดเรียนเป็นด้วยเหรอเนี่ย?
แซม: (ยิ้ม) ก็คนเหมือนกันนี่ครับ
เจค: ว่าแต่มึงชอบผู้หญิงแบบไหนวะ แซม?
แซมชะงักไปเล็กน้อย แซมมองหน้าบิลลี่เล็กน้อย แล้วตอบอย่างตรงไปตรงมา
แซม: ผมชอบผู้ชายครับ
เจคและคาร์ลหันมามองหน้าแซมและบิลลี่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
เจค: อ้าว เหรอวะ? ไม่ยักรู้
คาร์ล: เออ เพิ่งรู้เหมือนกัน
บิลลี่ยิ้มและจับไข่แซมกระชับขึ้นเล็กน้อย
บิลลี่: ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ
เจค: อืม... ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ
คาร์ล: เออๆ ไม่เห็นเป็นไร
(บรรยากาศไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด พวกเขายอมรับคำตอบของแซมอย่างง่ายๆ)
บิลลี่: ว่าแต่มึงเคยมีแฟนยังวะ แซม? แฟนผู้ชายอ่ะ
แซม: ก็เคยครับ
เจค: เป็นไงบ้างวะ? เล่าให้ฟังหน่อยดิ
แซมมองหน้าบิลลี่เล็กน้อย ก่อนจะตอบ
แซม: ก็... ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ จบไม่สวย
(ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่งด้วยความเข้าใจ)
บิลลี่: ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว
เจค: เออ มีอะไรไม่สบายใจก็บอกพวกกูได้นะเว้ย
คาร์ล: พวกกูเป็นเพื่อนมึงแล้ว
(ทุกคนยิ้มให้แซมอย่างจริงใจ แม้ว่าลำกายของแซมจะยังคงแข็งขันอยู่ตรงกลางวงสนทนา แต่ทุกคนก็ให้ความสำคัญกับบทสนทนามากกว่า)
คาร์ล: เออ บิลลี่ อาทิตย์หน้าว่างป่าววะ ไปช่วยกูตัดหญ้าที่ไร่หน่อยดิ
บิลลี่: ไม่แน่ใจว่ะ ต้องดูตารางก่อน
เจค: ถ้าว่างก็มานะเว้ย กูขี้เกียจทำคนเดียว
บิลลี่: เออๆ เดี๋ยวบอกอีกที
เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ แสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ
เจค: เออ พวกกูว่าคงต้องกลับกันจริงๆ แล้วว่ะ เมียบ่นแน่
คาร์ล: เออ ไว้เจอกันใหม่นะ บิลลี่ แซม
บิลลี่: เออๆ ขับรถดีๆ
แซมยิ้มและพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองของบิลลี่
แซม: ขอบคุณนะครับ ไว้เจอกันใหม่
เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องนอน แซมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้างกาย
บิลลี่ค่อยๆ ย่องเข้ามาในห้อง เขามองแซมที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน วันนี้บิลลี่สวมหมวกแก๊ปใบโปรดของแซม หมวกสีซีดที่ดูเข้ากับใบหน้าคมสันของเขาเป็นอย่างดี
บิลลี่นั่งลงข้างเตียง มองแซมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาใกล้ แซมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ข้างหู
บิลลี่: อรุณสวัสดิ์... ยังง่วงอยู่รึเปล่า?
แซมส่ายหน้าเบาๆ แล้วยิ้มให้บิลลี่
แซม: ไม่แล้ว... แค่เพิ่งตื่น
บิลลี่ยื่นมือมาลูบแก้มแซมเบาๆ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของแซมอย่างอ่อนโยน
บิลลี่: วันนี้อยากทำอะไร?
แซมไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่เขายื่นมือไปลูบศีรษะของบิลลี่เบาๆ สัมผัสหมวกแก๊ปใบนั้นที่เขารู้สึกชอบเป็นพิเศษ
บิลลี่เข้าใจความต้องการของแซม เขาหัวเราะเบาๆ แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงต่ำ ริมฝีปากร้อนชื้นของเขาแตะต้องริมฝีปากของแซมอย่างนุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงต่ำกว่านั้น
แซมหลับตาลง ปล่อยให้บิลลี่ปรนนิบัติเขาในเช้าวันใหม่นี้ สัมผัสที่คุ้นเคยและเร่าร้อนเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
หมวกแก๊ปใบโปรดของแซมยังคงอยู่บนศีรษะของบิลลี่ ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความเข้าใจระหว่างพวกเขา
บิลลี่เปลือยกายเปลือยเปล่า แต่ยังคงสวมหมวกแก๊ปใบโปรดของแซมไว้บนศีรษะ เขาทั้งตัวมีเพียงหมวกแก๊ปใบนั้นเท่านั้น
บิลลี่เริ่มปรนนิบัติแซมด้วยความชำนาญ ริมฝีปากและลิ้นของเขาทำงานอย่างตั้งใจ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่คุ้นเคยและเร่าร้อนให้กับแซม
แซมลูบศีรษะของบิลลี่เบาๆ สัมผัสหมวกแก๊ปใบนั้นอย่างมีความสุข เขาชอบเวลาที่บิลลี่สวมหมวกใบนี้ มันทำให้บิลลี่ดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์เป็นพิเศษในสายตาของเขา
ความรู้สึกเสียวซ่านค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากสัมผัสที่ชำนาญของบิลลี่ แซมหายใจถี่ขึ้น ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย
บิลลี่ยังคงปรนนิบัติแซมอย่างต่อเนื่อง ไม่เร่งรีบ แต่ก็เต็มไปด้วยความตั้งใจ
แล้วในที่สุด แซมก็กลั้นไว้ไม่อยู่ ปลดปล่อยน้ำกามอุ่นร้อนออกมา สัมผัสริมฝีปากของบิลลี่อีกครั้ง
บิลลี่อมกลืนทุกหยาดหยดอย่างเต็มใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแซมด้วยรอยยิ้ม
บิลลี่: อรุณสวัสดิ์อย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย
แซมยิ้มตอบ รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับการเริ่มต้นวันใหม่เช่นนี้
แล้วตอนเย็นเจคกับคาร์ลก็มากันอีก พวกเขาซื้อของกินและเครื่องดื่ม กะว่าจะเอามาใช้ดื่มกินรอบควยแซม เพื่อนทั้งสาม ไปนอนรอบควยแซมและตัวแซมที่กำลังเปลือยอยู่ เอาของกินไปด้วย ราวกับจุดนัดหมายใหม่ในการคุยกันใหม่ของเพื่อน แม้จะไม่มีใครอมควยให้แซม
ระหว่างที่ทุกคนนอนล้อมวงแซม กินขนมและดื่มเครื่องดื่มกันอย่างสนุกสนาน เจคกับคาร์ลก็แบ่งปันของกินให้แซมบ้างเป็นครั้งคราว ยื่นชิปส์หรือชิ้นไก่ทอดให้ถึงมือแซม
และอีกครั้งที่ลำกายของแซมเริ่มกลับมาแข็งขันขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนๆ แต่คราวนี้ไม่มีใครแสดงท่าทีสนใจเป็นพิเศษ พวกเขายังคงพูดคุยและกินดื่มกันต่อไป ราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา
คาร์ลเคี้ยวไก่ทอดคำโต แล้วหันมาถามแซมด้วยความสงสัย
คาร์ล: ว่าแต่มึงชอบผู้ชายแบบไหนวะ แซม? ชอบแบบไอ้บิลลี่รึเปล่า?
ทุกคนหันมามองแซมรอคำตอบ บิลลี่เองก็หันมายิ้มให้แซมเล็กน้อย
แซมมองหน้าบิลลี่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะหันไปตอบคาร์ลด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
แซม: ใช่ ฉันชอบแบบบิลลี่... จริงๆ แล้ว ฉันชอบบิลลี่มาก คลั่งไคล้มานานแล้วด้วยซ้ำ
แซมผายมือไปยังโต๊ะข้างเตียง
แซม: ตรงนั้นมีอัลบั้มรูปอยู่ ลองหยิบไปดูสิ
เจคและคาร์ลมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่เจคจะเอื้อมมือไปหยิบอัลบั้มรูปเล่มนั้นมาเปิดดู
ในอัลบั้มเต็มไปด้วยรูปถ่ายของบิลลี่... รูปถ่ายที่ดูเหมือนจะถูกแอบถ่ายไว้ในสถานการณ์ต่างๆ... บิลลี่กำลังทำงาน บิลลี่กำลังหัวเราะ บิลลี่กำลังอยู่กับเพื่อนๆ... แต่ละรูปแสดงให้เห็นถึงความชื่นชมและหลงใหลในตัวบิลลี่อย่างชัดเจน พร้อมรูปหัวใจ และข้อความบอกรักบิลลี่ต่างๆ
เจคและคาร์ลพลิกดูรูปเหล่านั้นอย่างเงียบๆ มองบิลลี่สลับกับรูปในอัลบั้มด้วยความทึ่ง
เจค: เชี่ย... มึงชอบไอ้บิลลี่ขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย?
คาร์ล: นี่มัน... แฟนคลับชัดๆ
ระหว่างที่ทุกคนยังคงพูดคุยและกินดื่มกันอย่างสบายๆ ในวงล้อมรอบตัวแซม เจคหรือคาร์ลคนใดคนหนึ่งก็เอื้อมมือมาจับลำกายของแซมเบาๆ บ้าง หรือโน้มตัวลงมาใช้ริมฝีปากแตะต้องเพียงชั่วครู่ ราวกับเป็นการหยอกล้อเล่นๆ หรือแสดงความสนิทสนมแบบเพื่อนฝูง
มันเป็นการกระทำที่ไม่ได้จริงจัง หรือมุ่งเน้นทางเพศอย่างชัดเจน เป็นเพียงการแสดงออกอย่างเป็นกันเองในกลุ่มเพื่อนสนิท
แซมเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เขายังคงคุยกับเพื่อนๆ หัวเราะ และกินขนมต่อไป ราวกับว่าการสัมผัสเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในวงสนทนานี้
บิลลี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายังคงพูดคุยกับเจคและคาร์ล หัวเราะ และมีส่วนร่วมในวงสนทนาอย่างสนุกสนาน
มันเป็นบรรยากาศที่แปลกประหลาด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมและความเปิดเผยที่พวกเขามีให้กัน ความรู้สึกทางเพศได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเพื่อนไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป หัวข้อเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ และการสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นรอบลำกายของแซมก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของค่ำคืนนั้น... ราวกับไม่มีอะไรพิเศษ...
หลังจากคุยกันต่ออีกพักใหญ่ เจคและคาร์ลก็ลุกขึ้น
เจค: พวกกูลงไปหาอะไรดื่มข้างล่างดีกว่าว่ะ
คาร์ล: เออ ไปนั่งคุยกันต่อข้างล่าง
บิลลี่ลุกขึ้นตาม
บิลลี่: ไปสิ
ทั้งสามคนเดินออกจากห้องนอน ทิ้งให้แซมนั่งอยู่บนเตียงคนเดียว
เมื่อลงมาถึงข้างล่าง บิลลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงเรื่องเมื่อครู่
บิลลี่: พวกมึงคิดยังไงวะ? ที่เมื่อวานกับเมื่อกี้เรานั่งคุยกันกินกันรอบตัวแซม แถมยังเอามือจับ เอาปากอมคนละวิ แล้วก็คุยกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจคหัวเราะออกมา
เจค: ตลกดีออก! ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน
คาร์ล: เออ จริง แม่งโคตรฮา คุยกันเรื่องรถ เรื่องบอล แล้วก็มี... ไอ้จู๋... อยู่ตรงกลางวง (หัวเราะ)
เจค: เออ แล้วแซมก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยนะ ปล่อยให้พวกเราทำไปเรื่อย
บิลลี่: แซมเขาก็เป็นของเขาแบบนั้นแหละ ง่ายๆ สบายๆ
คาร์ล: ว่าแต่... ไอ้ที่มึงบอกว่าจ้างแซมรายเดือนนี่เรื่องจริงป่าววะ?
บิลลี่ยิ้ม
บิลลี่: จริงสิ ทำไมวะ?
เจค: ก็แค่อยากรู้เฉยๆ แม่งโคตรแปลก
บิลลี่: ชีวิตมันก็ต้องมีอะไรแปลกๆ บ้างแหละน่า
ทั้งสามคนนั่งคุยกันต่ออีกพักใหญ่ จนกระทั่งเจคและคาร์ลบอกลาเพื่อกลับบ้าน
เจค: โอเค พวกกูกลับก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่ บิลลี่ แซม
คาร์ล: เออ บายๆ
บิลลี่เดินไปส่งเพื่อนที่หน้าบ้าน แล้วกลับเข้ามาข้างใน
วันต่อมา เจคและคาร์ลก็กลับมาที่บ้านของบิลลี่อีกครั้ง พร้อมเสบียงอาหารและเครื่องดื่มเช่นเคย พวกเขาตรงไปยังห้องนอนโดยอัตโนมัติ พบว่าแซมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
เจค: ไอ้แซม! พวกกูมาแล้ว! วันนี้มีมุกตลกใหม่ๆ เพียบ!
คาร์ล: เตรียมตัวฮาท้องแข็งเลยมึง!
แซมยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองมา
แซม: มาเร็วจัง วันนี้มีเรื่องอะไรสนุกๆ ล่ะ?
ทั้งสามคนนอนบนเตียงของแซม ใบหน้าล้อมรอบควยของแซม จัดวางของกินของดื่มให้พร้อม ลำกายของแซมที่ไม่ได้แข็งตัวในตอนแรก ก็ค่อยๆ กลับมาแข็งขันขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติระหว่างที่พวกเขาเริ่มคุยกัน
บิลลี่: วันนี้ไอ้เจคมันไปเจอเรื่องตลกที่ร้านเหล้ามา
เจค: เออ! มึงฟังนะ มีตาแก่คนนึงเมาแอ๋ แล้วไปท้าคนหนุ่มต่อย... (เล่าเรื่องตลกที่เจอมา)
คาร์ลเสริมด้วยเรื่องขำขันที่เขาไปเจอมาที่ทำงาน พวกเขาสลับกันเล่าเรื่องตลกและเรื่องราวในชีวิตประจำวันอย่างสนุกสนาน โดยมีแซมนอนฟังและหัวเราะไปด้วย
บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง เจคหรือคาร์ลก็จะเอื้อมมือมาหยอกล้อแซมบ้าง จับลำกายของเขาแผ่วๆ หรือแม้แต่แตะริมฝีปากเล็กน้อยในแบบขำๆ แล้วก็คุยกันต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วงล้อมรอบตัวแซมบนเตียงได้กลายเป็นจุดนัดพบใหม่ของพวกเขาจริงๆ แทนที่ห้องนั่งเล่นที่เคยใช้สังสรรค์กัน
คาร์ล: เออ ว่าแต่มึงเคยเจอเรื่องผีหลอกป่าววะ แซม?
แซม: ไม่เคยเจอแบบจริงๆ จังๆ ครับ แค่เคยได้ยินคนเล่า
เจค: แถวบ้านกูนี่มีเรื่องเล่าเยอะแยะเลย เดี๋ยววันหลังกูเล่าให้ฟัง
บิลลี่เองก็มีส่วนร่วมในการสนทนา แซมรู้สึกสบายใจและสนุกที่ได้อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้
การสังสรรค์รอบวงควยแซมยังคงดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นค่ำคืนแห่งเสียงหัวเราะ มิตรภาพ และความแปลกประหลาดที่ลงตัว
แซมเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจและตอบรับความตั้งใจที่จะสร้างบรรยากาศสนุกสนานของเจคและคาร์ล เขาเองก็ร่วมมือด้วยการเปลือยกายทุกครั้งที่เพื่อนทั้งสามมา
การที่ลำกายของเขาอยู่ตรงกลางวงสนทนา กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือส่วนหนึ่งของ "ธรรมเนียม" การพบปะของพวกเขาไปแล้ว
แซมไม่ได้รู้สึกเขินอายหรือขัดข้องอะไร เขากลับรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองกับเพื่อนๆ ของบิลลี่ การเปลือยกายของเขาไม่ได้มีความหมายทางเพศเสมอไป แต่เป็นเหมือนการสร้างบรรยากาศที่เปิดเผยและตลกขบขัน
บิลลี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังร่วมมือด้วยในบางครั้ง อาจจะมีการแซวแซม หรือมีปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยกับลำกายของแซมในแบบขำๆ
วงล้อมรอบตัวแซมที่เปลือยเปล่า กลายเป็นเหมือน "เวที" สำหรับการเล่าเรื่องตลก การพูดคุยเฮฮา และการสร้างความทรงจำร่วมกันของเพื่อนกลุ่มนี้
พวกเขาไม่ได้เน้นเรื่องเพศเป็นหลัก แต่ใช้สถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้สร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ
แซมเองก็ดูเหมือนจะสนุกกับ "วงล้อม" นี้เช่นกัน มันเป็นประสบการณ์ใหม่และแตกต่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน
ความสัมพันธ์ระหว่างแซม บิลลี่ เจค และคาร์ล... ยังคงพัฒนาไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้... แต่เต็มไปด้วยความจริงใจและเสียงหัวเราะ...
(แซมนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ลำกายของเขาตั้งแข็งสง่าอยู่ตรงกลางวงสนทนา เจค คาร์ล และบิลลี่นอนล้อมรอบควย กินขนมและดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน)
เจค: มึงเชื่อป่าววะ ไอ้ข่าวที่ว่าเจอสัตว์ประหลาดคล้ายเยติบนเขาลูกนั้นน่ะ?
คาร์ล: ไร้สาระน่าเจค พวกนั้นมันก็แค่เรื่องแต่ง
บิลลี่: กูว่าก็อาจจะมีอะไรที่เราไม่รู้อยู่ก็ได้นะ โลกมันกว้าง
(เจคเหลือบมองลำกายที่แข็งขันของแซมแล้วเกือบหลุดขำ แต่รีบกลั้นไว้)
เจค: เออๆ ว่าแต่... มึงเคยเจอเรื่องแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้บ้างป่าววะ บิลลี่?
บิลลี่: ก็มีบ้าง... อย่างตอนที่กูไปตกปลาคนเดียวกลางคืน แล้วได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนคนร้องไห้
คาร์ล: (แอบยิ้มขำๆ มองลำกายแซม) นั่นมันอาจจะเป็นแรคคูนก็ได้มั้ง
แซม: (ยิ้มเล็กน้อย) หรืออาจจะเป็น... อย่างอื่นก็ได้นะครับ
(คาร์ลเกือบหลุดหัวเราะ แต่รีบจิบเบียร์กลบเกลื่อน)
เจค: แล้วมึงล่ะ แซม? เคยเจออะไรแปลกๆ บ้างไหม? นอกจาก... เรื่องเอเลี่ยนของมึงน่ะนะ
แซม: (มองลำกายตัวเองแวบหนึ่ง) ก็... มีบ้างครับ บางทีก็... ฝันแปลกๆ
บิลลี่: ฝันถึงอะไรวะ? เล่าให้ฟังหน่อยสิ
แซม: ก็... ฝันว่าตัวเองบินได้บ้าง ฝันว่าคุยกับสัตว์รู้เรื่องบ้าง
คาร์ล: (กลั้นหัวเราะแทบแย่) ฝันได้โคตรเด็กน้อยเลยว่ะ
เจค: เออ จริง ฮ่าๆ
(ทั้งเจคและคาร์ลพยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้หลุดขำมากนัก ขณะที่สายตาก็ยังคงเหลือบมองลำกายที่แข็งขันของแซมเป็นระยะ)
บิลลี่: พวกมึงนี่มัน... ปล่อยให้แซมเล่าไปเถอะ
บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เปลี่ยนหัวข้อไปมา แต่ความ "โดดเด่น" ที่อยู่ตรงกลางวงสนทนาก็ยังคงดึงดูดสายตาเป็นระยะๆ สร้างบรรยากาศที่ตลกขบขันอย่างประหลาด
เจคและคาร์ลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะคุยกันตามปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมีความขำขันเจืออยู่ในน้ำเสียงและแววตา
วงล้อมสนทนารอบลำกายที่แข็งขันของแซม... ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ต่อไป...