แต่อะไรบ้างไม่รู้อันนี้คือฟังเค้ามา

ยากเปล่าไม่รู้ แต่ไทยไม่เคยมงเลย ไม่จับใจจู

ต่อให้ดีลหรือไม่ดีลวันนี้โอปอลก็ทำดีสุดเลยนะถ้าดูถ่ายทอดสดอ่ะสมมงเลยแหละ

แรงมากแม่

เปรียบเทียบ เครื่องประกับ ก็เหมือน แบรนด์

tiffany & coคือเรียบคราสสิค ตฃาดกาล อาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างแต่ว่ามันคราสสิค

อีกเวนึงMUก็เปรียบเครื่องประดับ แบบ cartierคือ ดูมีชื่อ8นรู้จักมาก แต่ก็มีของโหลมาก็อปเลียนแบบเยอะมาก คนใส่เกล่อมาก

คือต้องมีแสงทุกเคมเปญ ไม่ชนะก็ได้แต่ก็ต้องมีแสงหรือมีสิ่งที่เค้ามองภาพรวม
เวทีนี้นี้ไม่ได้ขายชาเลนจ์แต่ว่าเป็นแค่ส่วนนึงที่กรรมการจะดู ความพบาบาม ของนางงาม มากกว่า

การตอบคำถามต้องชนะขาดแบบไม่ค้านสายคาทุกคนทั่วโลก และต้องสวยด้วย เหี้ยๆก็ไม่เอา อีMUยังมีนางงามบางปีหน้าเหี้ยนิโกรหัวโล้นผมส้น

แต่มิสเวิร์ดไม่มีคะ ต้องสวยมากกกกกกกกกกกกกและฉลาดมากกกกกกกกกกไหวพริบดีมากกกกกกกกกกกกกกกก

ยากนะมึงยากกว่าMUมาก

ที่สำคัญอีMUมันเป็นธุรกิจไปแล้วตอนนี้ เป็นการดิลว่า ใครจ่ายเงินมากก็ได้รางวัลไป

เฮเลน ปทุมรัตน์ วรมาลี
แทน ธัญญา สื่อสันติสุข
หนูสิ สิริรัตน์ เรื่องศรี
เมญ่า นนธวรรณ ทองเหล็ง
ไดร์ จิณณ์ณิตา บุดดี
นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์
โอปอล สุชาตา ช่วงศรี

ละก็มีแค่ แทน ไดร์ นิโคลีน โอปอล
ที่เข้าถึง Top 20 ได้

แอ๋วมาเดินตามฝันค่ะ

แล้วถ้าแอนลดตัวไปเอง เหอๆๆๆๆๆๆ อย่าให้พูด

แอนโท เหมาะกับ MU แล้วถึงมา MW ก็ไม่รอดหรอก
MU มันหมดมนตราที่ดีแล้ว เพราะเจ้าของกำลังตกอับ
เน้นทำยังไงก็ได้ ให้ธุรกิจไปรอด ส่วนคนบริหารก็ฝีปากดี
ทะเลาะกับเขาไปหมด โดยเฉพาะเหนียงไก่ 555+
ดำเนินเวทีเพราะเงินและธุรกิจ ปัญหาจึงตามมามาก
แต่เก่งนะ เอาเวทีระดับลง ลงมาจอดดับสนิท มาขายน้ำพริกตลาดสด

สวนโอปอล คือเหมาะสมกับเวทีนี้ที่สุด จริงๆ ควรชนะ MU แล้ว
ก็พลาดเองไม่เลือกคนทรงคุณค่า อยากได้เเม่ค้าตลาดสด

ตอนนี้โอปอลชนะ MW กลายเป็นกลับลำมาด่า MU ว่าเอาแต่ธุรกิจ ใครมีเงิน ก็ชนะ
แหมๆๆๆๆ

จากอีแก่จู ตอนนี้กะเทยไทยสถาปนาเป็นท่านผู้หญิงจูแล้วสิคะ

MW คือ แบรนด์ Tiffany & Co.

คือแบรนด์ที่ไม่ใช่ดังมากในสายตาคนอื่น แต่มันก็ลักซู แบบเรียบๆนิ่งโก้คราสสิคผู้ดีเก่าไม่กะโตกกะตากหวือหวา แต่ว่ามันดูเป็นแบรนด์ แบบผู้ดี้ผู้ดี คัดเลือกคนใส่จริงๆ

ส่วน

MU คือ แบรนด์ Cartier

คือแบรนด์ที่ดังคนรู้จักมาก นิยมใส่แต่ก็ใส่แต่ก็มีของก็อปเยอะมาก เพราะแบรนด์มันดัง คนที่ใส่ก็อยากจะมีอยากจะใส่ พอคนใส่เยอะๆก็เลยดูโหล คนรวยปลอมหลายคนก็หาซื้อแบรนด์นี้แบบของก็อปเกรดAเพื่อมาใส่ มันเลยดูปลอมๆไปหน่อย คนใส่ดูจับฉ่ายเพราะมีเงินก็ซื้อได้หมด

มิสเวิลด์ ก่อตั้ง 1951 โดย สหราชอาณาจักร ส่วน มิสยูนิสเวอร์ส ก่อตั้ง 1952

ส่วน Tiffany & Co. มีอายุแบรนด์187ปี ส่วน Cartier มีอายุแบรนด์ 177 ปี

แต่ตอนนี้MU เป็นแค่ ของสำเพ็ง ไร้ราคา
เพราะใครมง ทุกคนก็จะด่าว่า มิสแม่ค้า ค่ะ

Miss World คือเวทีที่เก่าแก่ที่สุดและเริดสุดในบรรดา top 3 เวทีนางงาม

ซึ่ง top 3 ได้แก่

1. Miss World
2. Miss Universe
3. Miss International

เพราะว่าตอนนี้Miss Universeขาดทุนย่อยยับจนกลายเป็นเปิดดิลหลังบ้านของมงกัน ความขลังไม่เหมือนยุค90ที่กูดูเลย

อีกอย่างMiss Worldจอนคัด4ทวีปแล้วต้องมาลุ้นเข้ารอบ2คนอีดอกลุ้นมาก แล้วมาสุดอีกว่าใครเป็นตัวแทนทวีปอีก
ไหนจะการตอบคำถามที่ต้องทัชใจจริงๆ

ตอนที่โอปอล์ตอบกูงงมาก 2รอบ คือตอบได้ไงแบบนี้เป็นกูก็ตอบไม่ได้แน่ๆมันทัชใจมากไม่สั้นไม่ยาวแล้วอธิบายรวบลัดขยายความจบแบบเชือดมงไปเลย

หุ่นหน้าก็ต้องครบอีกดูยากกว่าMiss Universeมาก หลายปีคนชนะตอบคำถามได้เหี้ยมากบางทีก็ไปกะแสโว็คแบบน่าเบื่อดูเฟคมาก

พอตอนนี้มาขายให้ป้าไก่อีกมานั่งLiveขายของกูสงสารนางงามมากประกวดแทบตายมาหรอกประชาชนให้ซื้อสินค้าห่าลากไรไม่รู้

ใครขายของได้เก่งคือเข้ารอบ แม่งโครตตลก

แต่กระแสดีสุดก็ MU ป่ะ

.

.

.

.

.

.

.

เรียกง่ายๆว่าMWนางงามของมันต้องประกอบไปด้วย
1
2
3
ตรงตามนี้เป๊ะๆ
ไทยที่ผ่านมาเราก็มีนางงามไปเวทีนี้ไม่พร้อมขนาดนั้นขาดๆครึ่งๆเกินๆ ส่วนที่ปีนี้ไทยได้มงยอมรับเรามาครบจริงโอปอลล์เหมาะกับMWมากกว่า MU เพราะเวทีMUคำตองส่วนมากจะเฟี๊ยดๆหน่อยลองไปดูคำตองของคนที่ได้มงMUได้หลายคนเป็นตำนาน คือตามแบบไม่แคร์สื่อตอบจากใจตอบแบบไม่ประดิษฐ์คำพูดสวยหรู

ตรงข้ามกับMWคำตอบที่มงออกจากดูเฟคๆภาษษดอกไม้หน่อย คือสวยหรูรักเด็กรักโลกรักสังคมตอบแทนสังคมบลาๆๆอีจูนางชอบคำตอบไรแบบนี้

เปรียบเทียบลุค2เวทีคือ

มุตา มุนิน ไรแบบนั้นเลย คนละลุคกันชัดเจน

ที่จริงกะแสMUเพิ่งมาบูมช่วงที่เวทีเริ่มจับตลาดSEAมากขึ้น จำได้ยุค90 นางงามอินเดียคือเป็นตัวเต็งทุกปีที่ต้องคำรอบ เหมือนยังไงก็ต้องมีอินเดียเข้ารอบ10คนทุกปีในช่วง90

หมดหมดยุค90ไป20 ปัญญาเงินในองค์กรก็มากสะสมมากมาย หลัง
ๆทางMUก็มาจับตลาดSEAเมื่อก่อนปินส์คือเจ้าถิ่นของกลุ่มนี้ ตอนนี้ก็มีไทยเข้ามาเบียด พอไทยเราเข้าตลอดกะแสเวทีก็มีกะแสเรื่อยๆ

ต่างจากMWคือน้อยที่เราจะเข้าไปชิงมง กะแสมันก็เลยไม่ปัง

พล่ามเหี้ยอะไรเยอะแยะคะ
เวทีแม่ค้าน้ำพริกก็คือแม่ค้าค่ะ
เวทีอันดับ1 ก็คืออันดับ 1 ค่ะ

จำไว้กะเทยแฟนนางงาม เอารูปป้าจูมาค่า gif พายุหน้าฮี

เมื่อป้าจูฯ เข้ามากุมบังเหียนแทนผัวที่ตุย การประกวดนางงามปกติ เลยกลายเป็น Beauty with a purpose นอกจากจะสวย ต้องมีใจกุศล มี Mind Set ดี มีโครงการที่เคยทำ หรือทำมาก่อน ไม่ใช่มาประกวดแล้วเริ่ม อันนี้ก็ปัดตก

เวลาในการเก็บตัว 3-4 สัปดาห์ มีกิจกรรมให้ทำ ทั้ง เดินแบบ, Head to Head, Sport, Multimedia อะไรทำนองนั้น เพื่อเป็น Fast Track ในการเข้ารอบ

ในกิจกรรมที่ทำตลอดการเก็บตัว นอกจากผลแพ้ ชนะ ทีมงานทั้งหลายต่างเก็บคะแนนกันหมด Mind Set ยังไง พฤติกรรม การกิน การอยู่ การให้ความร่วมมือ มันก็เหมือนการเลือกพนักงานที่ดีที่สุดที่ต้องมาทำงานตัวติดกับป้าจูฯ ตลอด 1 ปี

และการทำกิจกรรมทั้งหมด ไม่เปิดโอกาสให้ ND หรือพี่เลี้ยงมายุ่งเลย บางกิจกรรมก็ได้แค่ดูห่าง ๆ ไม่สามารถล้วงลูก ดึงใครมาสัมภาษณ์ หรือถ่ายรูปใครโดยเฉพาะได้เลย อย่างรูปที่โอปอลนั่งถ่ายกับป้าจูฯ ทั้ง 108 คนก็ถ่ายเหมือนกันหมด ไม่มีใครโดดเด่นกว่าใคร ไม่มีสัญญาณให้รู้เลยว่ากองเล็งใครไว้

ถ้าดูการประกวด Final จะเห็นว่า จาก 108 คน เหลือ 40 คน เหลือ 20 คน เหลือ 8 คน มันโช๊ะ ๆ ๆ ก็เพราะคะแนนมันมาจากการเก็บตัวหมดแล้ว เหลือหัวกะทิ ทวีปละ 2 คน มา Head to Head กันอีกครั้ง เพื่อคัดควีนทวีป และมาตอบคำถามสุดท้าย จากกรรมการ ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่สามารถเตรียมได้ ดัดหลังเจ้าแม่ท่อง เพราะปกติคำถามเดียวที่จะถามคือ เป็น Miss World แล้วจะทำไง แต่ดันเอาไปถามรอบ Queen ทวีปแล้ว ปรากฎมาเจอคำถามจากกรรมการแขก เลยเห็น Martinique เลยใบ้แดกไง ปกติพูดแต่ฝรั่งเศส โปแลนด์ก็พูดไปเรื่อย เอธิโอเปียก็ตอบดี แต่โอปอลตอบแบบกลมกล่อมที่สุด และเป็นคำตอบที่ทัชใจ และใครก็ทำได้ เรื่องการเป็น Role Model

ถ้าคิดว่าง่าย ดูแค่พระเอกนักบุญที่ถามโอปอลสิคะ เจอสำเนียงอินเดีย ใครจะไปถูกคะ โชคดีที่นางงามเวทีแม่ปุ้ย โดนเคี่ยวเข็ญเรื่อง Keyword น้องเลยจับ Keyword และจับถูก ตอบได้กลมกล่อม มงก็ลง

เป็นเวทีที่ยากมาก แต่ถ้าคุณเป็นคนดีจริงจากเนื้อใน คุณได้เป็นควีนทวีปเป็นอย่างน้อย และถ้าไม่ตายไมค์ และจบได้ในคำตอบ ก็มงฯ ไม่เลือกแบบค้านสายตาค่ะ

คนไทยที่ยาก เพราะไม่มีโครงการที่ทำจริง ๆ ไม่มี Mind Set ที่เป็นนักบุญ นักสังคมสงเคราะห์ ไม่ดีจากเนื้อในจริง เลยไม่สามารถพิชิตมงฯ ได้ค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ใกล้ที่สุดก็นิโคลีน รอง 1 มาปีนี้ ไม่มีใครคาดคิดหรอกค่ะ ว่าไทยจะถึงมง เพราะทุกอย่างมันฉุกละหุกมาก แต่เพราะน้องเครื่องยังอุ่น ๆ เลยสามารถพิชิตมงฯ มาได้ค่ะ

ถ้าคิดว่าไม่ยาก เอาลูกหลานไปประกวดดูค่ะ แล้วฟังตอนนางกลับมาเล่า