แนะนำให้ทำแค่ 36 - 40 ชั่วโมง พอ (ถ้าทนได้ 40 ชม. ก็พอ) เพราะแค่นี้ร่างกายก็เกิดกระบวนการ autophagy ได้แล้ว ซึ่งต้องกินแค่น้ำเท่านั้น ห้ามกินอย่างอื่น ควรทำในวันที่เรามีวันหยุด เช่น เย็นวันศุกร์ แล้ววันเสาร์ทั้งวัน อาจจะออกจากกระบวนการนี้ได้ตอนสายๆ วันอาทิตย์ กินแค่น้ำเปล่า
แต่มีข้อตกลงว่า ถ้าทำไปแล้วระหว่างทาง เหนื่อยและเวียนหัว ถ้าเริ่มเวียนหัวให้หยุดทำนะ เพราะแปลว่าน้ำตาลในเลือดต่ำลงมาก จนทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายแล้ว
เราเคยทำ ประมาณเดือนละครั้ง ก็โอเคนะ ปีหนึ่งเราทำประมาณ 7 -8 ครั้ง บางรอบเราทำทุก 2 เดือน แต่บางรอบเราทำทุกเดือน
ซึ่งหากทำทุก 2 เดือน แปลว่าในช่วงสองเดือนนั้นทำ IF ที่กินแค่ข้าวเที่ยงและข้าวเย็น (ไม่เกิน 2 ทุ่ม) โดยลดคาร์โบไฮเดรต ลงกินแค่ 20% ของมื้อ ที่เหลือกินผักหลากสี 50% โปรตีน 30%
การอดยาวถึง 40 ชม. ได้ เป็นการกระตุ้น autophagy กำจัดเซลล์ไม่ดีของร่างกาย มันเหมือน refresh ระบบในร่างกาย กำจัดเซลล์ไม่ดีออกไป มันช่วยได้จริง แต่ต้องทำแบบมีระบบ
และต้องเข้าใจวิธีการทำนะ อย่าฝืนร่างกายตัวเอง และต้องทำควบคู่ IF ด้วย
เคยพยายามทนให้ครบ 48 ชม. แต่เหนื่อยและเวียนหัว ถ้าเริ่มเวียนหัวให้หยุดทำ
หลังออกจากกระบวนการอดเกือบ 40 ชม. เพื่อกระตุ้น autophagy แล้ว ให้กินอาหารอ่อนๆ เช่น ซุปข้าวโพด หรือซุปเห็ด หรือโจ๊กข้าวกล้อง หรือโจ๊กข้าวไรซ์เบอรี่ต้มเป็นมื้อแรก
อย่าไปกินของที่ให้ความหวานมาก
พอมื้อสองในวันนั้น ค่อยเริ่มกินอาหารแนว IF คือคาร์โบไฮเดรตต่ำ เน้นผักจำนวนมาก และโปรตีน 25-30%
โดยโปรตีนทั้งหมดที่กินช่วง IF ต้องไม่ใช่พวกเนื้อแดงจากหมูและวัว ควรเน้นปลา ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืดได้หมด แต่ปลาทะเลก็จะดีกว่า กินปลากระป๋องได้ได้นะ บางมื้อ
แต่ต้องไม่กินซอสแดงๆ มันเพราะมีน้ำตาลเยอะ ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลากระพง ปลาทูน่า ปลาแม็คเคอเรล ได้หมด พวกนี้คือปลาชั้นดีเลย
ใน 1 อาทิตย์ อาจจะกินอกไก่ หรือเนื้อไก่ส่วนที่ไม่มันได้ (ไม่เอาหนังไก่) ส่วนไข่กินได้เลย วันละ 1 - 2 ฟองก็ได้ กินทั้งไข่แดงด้วย
โปรตีนตัวอื่นที่กินได้ในช่วง IF คือกุ้ง และปู
แต่ช่วงทำการอดยาวที่กินแต่น้ำ ต้องกินแต่น้ำจริง ๆ นะ พอออกจากกระบวนการ ก็ทำ IF ต่อ
พอทำ IF สัก 2 - 4 อาทิตย์ (แล้วแต่ทำได้) ก็ค่อยมากินอาหารปรกติมากขึ้น เช่น เพิ่มคาร์โบไฮเดรตได้ แต่แนะนำ ทำ IF ถ้าได้ 1 เดือน จะดีมาก
แล้วก็หยุดไปสัก 2 อาทิตย์ ค่อยเริ่มใหม่ได้