ถ้าชำนาญการพิเศษได้ x2 น่าจะมีแต่ครูค่ะ
ข้าราชการอื่น คง 5,600 อย่างเดียวอีกอย่างนะ ข้าราชการพลเรือน ไม่ใช่ทุกคนจะได้ชำนาญการพิเศษ ส่วนใหญ่จะตันที่ชำนาญการ
ที่ได้ชำนาญการพิเศษคือ ต้นห้อง ผอ ต้นห้องอธิบดี หรือมีคนดันให้
ถ้าไม่มีก็ต้องรอจังหวะดีๆ เช่น มีอายุราชการสูงสุดในกอง หรือกรมนั้น
สมมุติ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีโควต้าชำนาญการพิเศษ 1 คน
นาง ก ระดับชำนาญพิเศษ เกษียณ 2566
นาย ข ระดับชำนาญการ ที่มีอายุราชการสูงสุด หรือเจ้านายดัน จะให้
นาย ข ก็จะได้ตำแหน่งนี้ โดยสอบแข่งภายใน แต่ล็อกผลแล้ว
เพราะคนประเมินก็คือคนภายใน
แต่นาย ค อายุราชการรองลงมาจาก นาย ข
ถ้าจะได้ ก็ต้องรอนาย ข เกษียณ หรือตาย หรือย้ายไปกองอื่น กรมอื่น
สรุปคือมีโควตาชำนาญการพิเศษ ที่จะได้เงินค่าตำแหน่งนั้น 5,600 บาท
ต่างกับข้าราชการครู
นาย ก ครบเวลา สามารถยื่นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษได้เลย
นาย ข ครบเวลาพร้อมกับนาย ก นาย ข ก็ทำพร้อมกันได้เลย
ถ้าโรงเรียนนั้น วิทยาลัยอาชีวะนั้น กศน นั้น มีครูชำนาญการ 100 คน ที่มีสิทธิยื่นชำนาญการพิเศษ
ครู 100 คนนั้น ก็จะได้รับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษทุกคน (ถ้าคุณสมบัติได้)
ข้าราชครูไม่มีโควตา ไม่จำกัดจำนวน ขอแค่คุณสมบัติได้ ก็จะได้ทุกคน
แล้วได้คูณสองด้วย คือ 5,600x2=11,200 บาท/เดือน
ถ้านาย ก เงินเดือน 50,000 บาท วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
นาย ก ก็จะได้ 50,000+11,200 บาท รวม 61,200 บาท/เดือน
ข้าราชการครู มีระดับสูงกว่านั้นอีกคือ เชี่ยวชาญ และเชี่ยงชาญพิเศษ สูงกว่าชำนาญการพิเศษขึ้นไปอีก
เงินก็เยอะกว่านี้อีก สูงสุดเดือนละ 15,000 บาท คูณสองก็ 30,000 ไม่รวมเงินเดือน
ครูเป็นข้าราชการที่ทรงอำนาจ เงินเยอะ เงินขึ้นเร็ว ไม่จำกัดโควตา
ตำแหน่งก็โตได้เรื่อย ๆ ไม่อยากเป็นครูก็ไปเป็นผู้บริหารก็ได้ เปลี่ยนกระบอกเงินเดือนขึ้นไปอีก
ถ้าไม่ชอบบริหาร ก็เป็นครูวิทยฐานะสูงๆ เงินก็เยอะเหมือนกัน
โตไปจนถึงตำแหน่งเทียบอธิบดีก็ได้ ถ้าเทียบด้วยซีแบบเก่า (ตอนนี้ไม่ได้ใช้ซีแล้ว แต่เทียบเงินเดือนได้)
เงินเดือนครูตันยากกว่าข้าราชการอื่น ถ้าไม่ขี้เกียจยื่น ไม่ขี้เกียจทำแฟ้มส่ง
ข้าราชการอื่น รอโควตา และไม่ได้เงินคูณแบบครู เงินเดือนอยู่ที่นายเป็นหลัก
อันนี้ไม่เทียบกับผู้พิพากษา เพราะกระบอกเงินเดือนต่างกัน และผู้พิพากษาตำแหน่งน้อยกว่าครูมาก
ผู้พิพากษากว่าจะเข้าไปตำรงตำแหน่ง คือยากกว่าครู
ครู ขอแค่เรียนจบตามเอก มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ มีความสามารถที่จะสอบติดครูผู้ช่วย
แค่นี้ก็เข้าสังคมครูแล้ว
ไม่นับพนักงานราชการครู
ครูอัตราจ้าง
ที่เป็นฐานันดรต่ำกว่าข้าราชการครู ชีวิตน่าสงสารกว่า เหมือนคนละวรรณะ
ส่วนใหญ่คาบสอนก็เยอะกว่าข้าราชการ แบกงานช่วยข้าราชการ
บางโรงเรียนต้องซ่อมหลังคา ตัดหญ้า ทำงานช่วยภารโรง ประหยัดค่าจ้าง
ส่วนข้าราชการ เหมือนเป็นศักดินา เงินเดือนมาจากกรมบัญชีกลาง ไม่มีประเมินแบบครูจ้าง
จึงพบบ่อยๆ บางโรงเรียน หรือบางวิทยาลัย ข้าราชการครู กดขี่ ข่มเหง ครูจ้าง
แต่ข้าราชครูดีๆ ก็มีเยอะ เหมือนคนในสังคมทั่วไป ดีชั่วปะปนกัน