>บางทีก็อยากจะขำมนุษย์กะลาแลนด์ เรื่องดารามีชู้อย่างอีโตโน่
>ร้องกรี๊ดรับไม่ได้
>ประหนึ่งว่าคนไทยทุกคนถูกเคลือบด้วยศีลธรรมตั้งแต่หัวจดตีน
>และประหนึ่งว่าอีคนร้องกรี๊ดนี่แม่งมีศีลธรรมฉิบหาย
>เรื่องนี้มองได้หลายแบบ
>นอกจากเรื่องศีลธรรมดัดจริตของคนไทยแล้ว
>ก็เป็นเรื่องความคาดหวังของคนไทยต่อเซเล็ปที่ตัวเองชื่นชม
>คือถ้าผิดหวังนี่เกลียดเลย แต่ถ้าชอบแล้ว ใครมาแตะไม่ได้
>ใครมาวิจารณ์หรือด่า กูเอาตๅย กลายเป็นแฟนคลับคลั่ง
>เอาเซเล็บมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
>แม้ว่าคนวิจารณ์บางครั้งก็เพื่อให้เซเล็ป/ศิลปินคนนั้นพัฒนาต่อไปได้
>แต่ไม่ค่ะ ถ้าชั้นรักแล้ว คำวิจารณ์ชั้นก็ไม่อยากฟัง อ้อ
>แล้วอีกเรื่อง
>ไอ้อารมณ์คลั่งศีลธรรมของคนไทยนี่ไร้ความคงเส้นคงวา
>(inconsistent) อย่างมาก เกลียดนักร้องที่หลอกลวง
>แต่โอเคกับนักการเมือง/พรรคการเมืองที่หลอกลวง
>ด่านักร้องเล่นชู้ แต่เจ้าเล่นชู้นั่นคือเรื่องของเจ้า
>ทุกอย่างมีข้อยกเว้นหมด นั่นหมายถึง
>การยึดมั่นในศีลธรรมของคนพวกนี้แม่งมีเงื่อนไขตามแต่ความพอใจของตัวเอง
ที่เขาด่าดาราเพราะดาราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมไง
เด็ก ๆ เขาเห็นดาราเขาทำตาม ถ้าดาราทำตัวอัปรีย์แล้วลูกหลานเธอทำตาม
เธอคิดว่าดีไหม หรือ อยากให้ลูกหลาน ร่าน อัปรีย์
ส่วนที่ไม่ด่านักการเมืองมากเพราะภาพลักษณ์มันเลวอยู่แล้ว
ไม่มีใครเขาไปทำตามอยู่แล้ว
และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เฉพาะสังคมไทย ทั่วโลกเขาเป็นกัน