23 มิ.ย. 2568 นสพ. Khmer Times ของกัมพูชา รายงานข่าว Minister Delegate to the Prime Minister: ‘Proud’ Thailand ‘is in a state of impasse and humiliation’ ระบุว่า Pen Bona โฆษกรัฐบาลกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับไทย เนื้อหาดังนี้..

ตั้งแต่ความตึงเครียดบริเวณชายแดนเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือน พ.ค. 2568 ประเทศไทยซึ่งมีกองทัพที่มีอำนาจเหนือกว่านายกรัฐมนตรี มักข่มขู่และกดดันกัมพูชาอยู่เสมอ

ประการแรก กองทัพไทยตัดสินใจปิดชายแดนฝ่ายเดียว จากนั้นขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดการนำเข้าสินค้า และสุดท้าย ขู่ว่าจะหยุดนำเข้าเชื้อเพลิงมายังกัมพูชา พร้อมอวดอ้างว่ากัมพูชาจะต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้

ADVERTISEMENT

ทัศนคติที่เหยียดหยามกัมพูชาเช่นนี้มีสาเหตุมาจากกองทัพไทยและนักการเมืองบางกลุ่มรวมทั้งกลุ่มหัวรุนแรงที่หลงระเริงในศักดิ์ศรีของตนเองและไม่ได้ศึกษากัมพูชาอย่างถ่องแท้ ทำให้พวกเขากระทำการโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ พวกเขายังคงรู้สึกว่ากัมพูชายังคงอยู่ในสถานการณ์เดียวกับในช่วงทศวรรษ 1980 (ปี 2523 - 2532) โดยดำรงชีวิตอยู่โดยอาศัยอากาศที่ประเทศไทยหายใจ ดังนั้นหากไทยกดดันกัมพูชาแม้เพียงเล็กน้อย กัมพูชาจะต้องพบกับความยากลำบากและต้องยอมจำนนต่อกัมพูชาอย่างแน่นอน

แต่ด้วยมาตรการตอบโต้อย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทยทั้งหมด กองทัพและรัฐบาลไทยก็เริ่มมองเห็นแสงสว่าง ในความเป็นจริง กัมพูชาไม่เพียงแต่ไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันและไม่ยอมแพ้ แต่ยังใช้มาตรการตอบโต้ก่อนที่ไทยจะทำเสียอีก

ฮุน มาเนต (Hun Manet) นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงอย่างชัดแจ้งว่า กัมพูชาไม่ใช่ผู้ยั่วยุ แต่สามารถจัดการกับไทยได้ทุกวิถีทาง สถานการณ์นี้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับไทย และอยู่ในภาวะที่หยุดชะงักและน่าอับอาย และต้องการหันหลังกลับ แต่เพราะพวกเขามีความอวดทะนงตนมาโดยตลอด ไทยจึงต้องหาข้ออ้างเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชาต้องการเจรจาเพื่อเปิดทางผ่านพรมแดนให้ดำเนินการได้ตามปกติ

นี่คือสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีของไทยโทรศัพท์หา ฮุน เซน (Hun Sen) ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกฯ กัมพูชาอย่างเงียบๆ และพยายามใช้ความรู้สึกเป็นมิตรเพื่อดึงดูดการเจรจา แต่กลวิธีดังกล่าวไม่สามารถหลอกนักการเมืองผู้มากประสบการณ์อย่างฮุน เซนได้

ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติสุดขีด พวกเขาอยากจะพอแล้ว ไม่ใช่เพราะความกระหยิ่มยิ้มย่องอวดทะนงตน แต่เป็นเพราะหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เศรษฐกิจจะเสียหายมากขึ้น ประชาชนจะไม่พอใจมากขึ้น ในขณะที่การเมืองภายในจะวุ่นวายมากขึ้น

“กัมพูชาไม่ได้ยั่วยุและต้องการเพียงสันติภาพ แต่กัมพูชาจะไม่ยอมให้ไทยมองข้ามอีกต่อไป ในทางกลับกัน กัมพูชาในยุคของ <ฮุน มาเนต และฮุน เซน> อาจทำลายความยะโสโอหังของไทยได้ หากไทยกล้าดูหมิ่น” โฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวในตอนท้าย

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.khmertimeskh.com/501705212/minister-delegate-to-the-prime-minister-proud-thailand-is-in-a-state-of-impasse-and-humiliation/

043...