แต่แบบ …มันอดคิดไม่ได้จริงๆนะ ว่าทำไมเกาหลี ยังไม่เลิกสันดานแบบนี้สักที ประเทศก็รวย เจริญ พัฒนาไปอยู่แถวหน้าของเอเชีย และของโลกได้แล้ว

แต่ทำไม ยังมีนิสัยเลือกปัฎิบัติแบบนี้อยู่อีก

อย่างครั้งนี้ มันชัดเลย ว่าจงใจตัดลิซ่าออกมาให้ดูอ่อมสุด

กูเห็น อย่างวง Babymonster ของ YG นี่ดันเด็กไทยโคตรเด่น น่าจะเด่นสุดเลยด้วย เด่นว่าเด็กเกาหลี ญี่ปุ่น ในวงเองด้วยซ้ำ

ค่ายอื่นๆ เขาก็ดันเด็กไทยเด่นมาก นัทตี้ วง kiss of life นี่ ก็เด่นสุด และอีกมากมาย

ทำไมมีแต่ติ่งวง Blackpink ที่ชอบคิดว่าคนโน้นคนนี้กันซีนี่ลิซ่า แกล้งลิซ่า โยงไปเชื้อชาติ เหยีดยคนไทย ไปโน้น โอ้ยยย ลิเก ละครช่อง7เกิน แม่คูนนนน

ค่ายเพลงมันนายทุน ในโลกทุนนิยมนะคะสาว ใครขายได้ ได้เงิน เขาก็ดันหมดค่ะ อย่าดราม่าควีนให้มาก

สมาชิกคนไหน มีกระแสในเกาหลีมากสุด ค่ายก็ให้คนนั้นเด่นสุด เพราะเขาแคร์ตลาดในประเทศเขามากที่สุด

วงห้วนม คือวง K-Pop ของเกาหลีใต้ ร้องเพลงเกาหลี อย่าลืม fact ข้อนี้

ป๊อกแป๊ก มันคะแนนนิยมต่ำสุดเสมอในเกาหลี ถ้าเทียบกับสมาชิกคนอื่นๆ ต้องยอมรับ

สไตล์ ป๊อปแป๊ก คนเกาหลีชอบน้อยสุดในวง ไม่ใช่ไทป์ที่คนเกาหลีชอบเลยค่ะ

ครั้งสุดท้ายเเล้วเเหละ เเยกย้ายละ

ในฐานะที่ชั้นตามแทกุกไลน์เป็นหลัก เบม่อน จูบชีวิต เมมมันดังพอๆกันจ้า

วงอื่นๆเมมเบอร์มันดังไม่ต่างกันมากจ้า มันเลยให้ซีนเท่าๆกันได้
แต่อิปป. มันมีศักยภาพ ที่จะแซงคนอื่นแบบมากๆๆ
YG มันเลยกดๆๆนางไว้ (หัวนมมันก็ดังทุกคน แต่อิปป.จะได้ซีนน้อยสุด คอสตูมมักจะบ้งกว่าคนอื่น ในงานวงตลอด)

เอาที่ชัดสุด ยอดบั้ม solo นาง ควรจะเป็น kpop ล้านบั้มคนแรก แต่อยู่ดีๆยอดหายเงียบ ทุกวันนี้ยังไม่มียอดอัพเดท

กลัวต่างชาติได้ดีกว่าชัดๆ

งานนี้ วายผี ทำดี ทำสวควรแล้ว มันจะกันซีนรึปล่าวไม่รู้
ถ้าออกมาแบบนี้ไม่น่าเกลียด
ต้องคอยดูเพลง และMvเต็มถึงจะว่าได้เต็มปากI

อีควาย ไปเปิดยูทูปลิซ่าของมึงวนทำยอดต่อไปเหมือนอีป๊อกแป๊กสีซอให้ควายฟัง

เอาเพลงอีห่านี่ไปเปิดสวดศพให้แม่ของมึงฟังในนรก​ อีเหี้ย

ถือเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับแฟนๆ ทั่วโลกเมื่อ BLACKPINK ได้ปล่อยทีเซอร์โปรโมตเวิลด์ทัวร์ “BLACKPINK WORLD TOUR: Deadline” ออกมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมาอย่างมาเป็นทางการ กระแสในโลกออนไลน์ก็เริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วทั้งเรื่องการคัมแบ็กพร้อมหน้าพร้อมตากันของสี่สาวอย่าง 'ลิซ่า-ลลิษา' , 'Jennie' , 'Rose' และ 'Jisoo' เรื่อยไปจนถึงประเด็นที่กลายเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามคงหนีไม่พ้นการปรากฏตัวของลิซ่าในคลิปเพียงสั้นๆ และแทบไม่มีบทบาทเด่นเมื่อเทียบกับอีกสามสมาชิกของวงที่เหลือ ซึ่งทีเซอร์ที่มีความยาวประมาณ 40 วินาทีนั้น เริ่มต้นด้วยฉากที่โรเซ่รับสายโทรศัพท์ แล้วค่อยๆ ตัดสลับไปยังภาพของแต่ละสมาชิกตามลำดับ ถึงแม้แต่ละคนจะมีช่วงเวลาสั้นใกล้เคียงกัน ทว่าหลายคนสังเกตได้ว่าภาพของลิซ่านั้นได้แอร์ไทม์เฉพาะช่วงโคลสอัปใบหน้าประมาณ 2 วินาทีเท่านั้น และไม่มีฉากเคลื่อนไหวหรือภาพกว้างเหมือนสมาชิกคนอื่นจนสังเกตได้

ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลต่อความรู้สึกของแฟนคลับจำนวนมากที่มองว่านี่ไม่ใช่เพียงการตัดต่อคลิปธรรมดา แต่สะท้อนความลำเอียงหรือความไม่เท่าเทียมในการจัดการโปรโมต เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลิซ่าถูกตั้งคำถามเรื่อง "ช่วงแอร์ไทม์ออกสื่อน้อยกว่าสมาชิกคนอื่น" ตั้งแต่ช่วงผลงานเดี่ยวในปี 2019 ไปจนจนถึงการทำกิจกรรมร่วมกับวง เทคนิคการตัดต่อที่เลือกจะให้ลิซ่าอยู่ในฉากที่สั้นและไม่มีบริบทชัดเจนเมื่อเทียบกับฉากของเจนนี่ที่มีการเดินเข้ากล้อง หรือจีซูที่เผยใบหน้าชัดเจน และโรเซ่ที่เปิดเรื่องด้วยบทพูด ทำให้แฟนๆ บางส่วนรู้สึกว่าเธอถูกลดทอนความสำคัญหรือ 'ถูกกันซีน' อย่างไม่ยุติธรรม

แน่นอนว่าการเกิดขึ้นของกระแสนี้ไม่ได้สะท้อนแค่เรื่องความรู้สึกของเหล่าแฟนๆ เท่านั้น ทว่ายังสะท้อนความละเอียดอ่อนในการทำคอนเทนต์ของศิลปินระดับโลก ที่ทุกวินาทีในการโปรโมตหรืออกสื่อนั้นถูกวิเคราะห์ และทุกการตัดสินใจสามารถถูกตั้งคำถามได้จากทั้งผู้ชมทั่วไปและผู้ติดตามอย่างใกล้ชิดได้เสมอ ในกรณีของ BLACKPINK ที่สมาชิกแต่ละคนมีฐานแฟนคลับทั่วโลก ความสมดุลในการนำเสนอจึงควรถูกให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพียงเพื่อความยุติธรรมของตัวศิลปินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับภาพลักษณ์ของต้นสังกัดอีกด้วย

แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางเสียงในโลกโซเชียลที่พยายามมองในมุมกลางโดยให้ความเห็นว่าอาจจะเกิดความคิดมากหรือการถกเถียงมากเกินความเป็นจริง เพราะทีเซอร์นี้อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแคมเปญที่อาจจะมีคลิปหรือคอนเทนต์อื่นๆ ตามมาซึ่งอาจจะเน้นไปที่ลิซ่าในช่วงต่อไปก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามความรู้สึกเหล่าแฟนๆ ที่รู้สึกว่า “สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ” ทำให้คำอธิบายเช่นนี้อาจไม่เพียงพอ และยิ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าในฐานะศิลปินที่มีอิทธิพลระดับโลก ค่ายต้นสังกัดควรมีความระมัดระวังมากกว่านี้ในการนำเสนอภาพลักษณ์ของสมาชิกแต่ละคนให้เท่าเทียมกัน

กล่าวโดยสรุป กระแสวิจารณ์ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของทีเซอร์ไม่กี่วินาที แต่เป็นจุดสะสมของความรู้สึกที่แฟนๆ มีต่อการบริหารจัดการของทีมงาน และความหวังที่พวกเขาอยากให้ศิลปินคนโปรดได้รับ 'ความยุติธรรม' และ 'การยอมรับ' ในระดับเท่าเทียมกับเพื่อนร่วมวง หากประเด็นนี้ไม่ถูกคลี่คลายหรือได้รับการชี้แจงจากทางต้นสังกัดก็อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว บางทีต้นสังกัดอาจต้องจัดการปัญหาเช่นนี้ที่เกิดขึ้นมาเรื้อรังหลายปีอย่างจริงจังเสียที...

เอางี้มั้ย ถ้าแค้นนักก็ตั้งวง GG ที่สมาชิกเป็นไทยหมด แล้วไปอิมพอร์ตชะนีเกาหลีมาแจมคนเดียว แล้วก็รุมหาเรื่องเหยียด ลำเอียง กลั่นแกล้งแบบมาหยารัศมีแกล้งดาวพระศุกร์ ดูซิคนเกาหลีจะมาโวยวายว่าคนไทยเหยียด ดีมั้ยคะอีดอก