We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค"
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 23-Feb-12 at 11:10 PM
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ คุณ oxford
.............................................

ตอนที่ 17

นั่งพักกันพอหายเหนื่อย ผมและเพื่อนๆ ก็แบกปืนเดินไปที่สถานีที่ 2 การพราง ที่ตั้งของสถานีนี้อยู่ในป่าลึก สถานีนี้ไม่เหนื่อย ทุกคนนั่งฟังครูฝึกอธิบายวิธีการพรางหน้าพอเข้าใจ แล้วครูฝึกก็ให้พรางหน้า โดยใช้สีฝุ่นสีดำทาให้ทั่วหน้าจนดำพรืดไปหมด สีฝุ่นที่ใช้กันมี 3 สี คือ แดง ดำ และเหลือง ครูฝึกกำหนดให้แต่ละหมวดพรางหน้าด้วยสีที่แตกต่างกัน หมวดของผมใช้สีดำ ซึ่งผมไม่ชอบเลยเพราะมันสกปรกที่สุด ถ้าเป็นสีเหลืองยังจะพอสะอาดกว่า แต่ผมจะทำไงได้ ก็เลยจำใจเอามือกอบสีฝุ่นสีดำขึ้นมาจากอ่างจนเต็มกำมือแล้วโปะไปจนทั่วหน้า เน้นตรงโหนกแก้มและคาง ไอ้อ๊อตและไอ้เทพรวมทั้งเพื่อนๆ ทุกคนในหมวดก็ทำแบบเดียวกับผม ในไม่ช้าหน้าของทุกคนก็ดำปี๋ ครูฝึกยังสั่งอีกว่า ห้ามล้างออกจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ! แย่จริงๆ เลย พอทุกคนพรางเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็ให้ทุกคนฝึกการซุ่มดูข้าศึกตามสุมทุมพุ่มไม้อีกซักพักใหญ่ แล้วจึงค่อยเดินไปสถานีที่ 3
สถานีที่ 3 เป็นสถานีการระวังข้าศึก ทุกคนต้องไปซุ่มดูข้าศึกที่กำลังจะมุ่งหน้ามาทางเรา เราฝึกกันเป็นคู่ คราวนี้ไอ้แมนเป็นคู่ฝึกของผม ครูฝึกให้ผมกับไอ้แมนเดินไปนั่งซุ่มเงียบๆ อยู่ที่พุ่มไม้ แล้วคอยสังเกตุข้าศึก เรา 2 คนต้องบันทึกรายละเอียดของข้าศึกที่กำลังจะเข้าโจมตีเราให้ได้มากที่สุด ทั้งลักษณะของข้าศึก เวลาที่ข้าศึกมา สถานที่ที่ข้าศึกอยู่ อาวุธที่ข้าศึกถือ ฯลฯ ผมกับไอ้แมนนั่งซุ่มดูอยู่เงียบๆ พักหนึ่ง เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาหลายคน แต่เห็นไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ไกลมาก แต่พอจะรู้ว่า ข้าศึกเป็นนักศึกษาวิชาทหารด้วยกันนี่แหละ แต่ละคนถือปืนแบบเดียวกับที่ผมและเพื่อนๆ ถือ ผมพยายามเพ่งมองและพูดลักษณะของข้าศึกให้ไอ้แมนฟัง ไอ้แมนเป็นคนจดบันทึกในสิ่งที่ผมพูด
" มองไม่ค่อยเห็นเลยว่ะ สัด อยู่ไกลชิบหาย แต่รู้ว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ หัวเกรียน เดินแบกปืนไปมา แล้วก็อีกคนเป็นผู้ชายผอม สูง แขนยาว อืมมมม เฮ้อ เดินไปเดินมาแบบนี้เวียนหัวว่ะ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แม่งตัวดำๆ เหมือนกันหมดเลย "
ไอ้แมนพยายามจดตามที่ผมพูด พอจดเสร็จมันก็เงยหน้าขึ้นจากกระดาษถามผมว่า
" แล้วพวกมันหล่อมั๊ยวะ เป้ามันตุงมั๊ย นายมองเห็นรึปล่าว "
ผมหัวเราะ แล้วตอบว่า
" 555 ถามเหี้ยไรวะ เออ หล่อทุกคนว่ะ ข้าศึกทุกคนคิ้วเข้ม หัวเกรียน หุ่นดี เป้างี้ตุงออกมาเป็นก้อนเลย เราชอบว่ะ อยากดูดควยแม่งทุกตัวเลย เฮ้ย ตรงนี้นายอย่าจดลงไปนะ "
ไอ้แมนยิ้มและเขยิบมานั่งจนชิดผม วางกระดาษกับปากกาลงกับพื้น แล้วเอามือโอบไหล่ผมแข็งๆ ของผมไว้ แล้วบีบเบาๆ ปากก็พูดช้าๆ
" แล้วเราล่ะหนุ่ม หล่อสู้พวกมันได้มั๊ย "
ผมสะดุ้ง กลัวคนอื่นเห็นว่าไอ้แมนกำลังโอบไหล่ผมอยู่ ก็เลยรีบแกะมือมันออกจากไหล่แล้วกระซิบเบาๆ
" เออ นายหล่อ แต่อย่าทำอย่างงี้ เดี๋ยวคนอื่นเห็นนะเว้ย จดต่อๆ "
ไอ้แมนยอมหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครเห็นการกระทำของไอ้แมนเมื่อกี้ แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ามีมือสากๆ ล้วงจากทางด้านข้างมาคลำตรงเป้ากางเกงผมพอดิบพอดี เนื่องจากตอนนี้ผมกับไอ้แมนนั่งอยู่กับพื้นในท่า " นั่งกางขา " อันเป็นท่าที่ครูฝึกสั่งให้ทุกคนนั่ง คือนั่งแล้วยืดขาไปข้างหน้าแล้วจึงชันเข่าขึ้นและกางหว่างขาออกจนกว้างเพื่อ ให้ทรงตัวได้ดี ( แบบรูปตัว V กลับหัว ) ตรงหว่างขาจึงกางอ้าซ่า เมื่อทุกคนนั่งท่านี้ สิ่งที่อยู่ภายในเป้ากางเกงซึ่งก็คือท่อนเอ็นก็จะต้องโด่ขึ้นฟ้าและไข่ก็จะห้อยลงระพื้นตามธรรมชาติ เพราะว่าท่านั่งมันเปิดเผยแบบนี้ ไอ้แมนจึงล้วงมาจับของสงวนของผมได้อย่างง่ายดาย มันกำลังเอามือลูบไล้ไปมาตรงเป้ากางเกงผมพอดี คลำไปคลำมาจนเจอท่อนเอ็นทั้งท่อนตั้งเด่อยู่ในกางเกง มันรีบเอามือรูดท่อนเอ็นนั้นทันที จนผมต้องร้องครางเบาๆ
" ซี๊ดดดดดดด นายจับโดนท่อนควยเราจังๆ เลยเพื่อน โอยยย เสียวววววววว "
ผมเคลิ้มไปนิดนึง เพราะไอ้แมนรูดเป้าควยของผมเก่งมาก ยิ่งรูดก็ยิ่งเสียว ถึงบางทีจะรูดไม่ถูกนักเพราะเป็นการรูดผ่านเนื้อผ้า แต่ผมก็ตั้งสติได้ รีบดึงมือไอ้แมนออกทันที แล้วพูดเสียงเข้ม
" พอก่อนเว้ย เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น ไว้ค่อยเล่นกันใหม่ ตรงนี้ไม่เหมาะ "
ไอ้แมนไม่พูดอะไร รีบหยิบกระดาษมาจดบันทึกต่อ ไม่นานครูฝึกก็ประกาศให้ปิดสถานการณ์ (จบการฝึกการระวังข้าศึก) แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อไป
ผมและเพื่อนๆ เดินมาหยุดที่จุดต่อไปเพื่อพักเหนื่อย ครูฝึกประจำจุดให้พวกเรานั่งพัก อากาศร้อนมาก ครูฝึกประจำจุดนี้ใจดี หน้าตาท่าทางออกสาวนิดหน่อย เขาเล่าเรื่องตลกๆ ให้พวกเราฟัง สอนให้พวกเราดูฉี่ดูอึของคนให้เป็น โดยเขาพูดถึงความแตกต่างระหว่างฉี่ของผู้หญิงกับฉี่ของผู้ชาย และฉี่ของคนท้อง เขาสามารถแยกได้หมด ส่วนอึนั้นเขาก็ดูรู้อีกว่า อึกองนี้ผ่านมากี่วันแล้ว น่าแปลกมากที่เขารู้ได้ขนาดนั้น ผมและเพื่อนๆ นั่งฟังเขาเล่าเพลินๆ พอให้หายเครียด แล้วครูฝึกก็ให้พวกเราเดินกลับไปยังที่ตั้งกอง เพื่อกินข้าวหลวง ผมยังคงเหนื่อยอยู่ แต่ไม่เหนื่อยเท่าเมื่อเช้า สงสัยร่างกายคงจะปรับให้แกร่งขึ้นมาบ้างแล้ว ผมรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาก ไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ค่อยเพลียเหมือนวันแรกๆ ที่เริ่มฝึก
พอเรากินข้าวเสร็จ ครูฝึกก็ให้พวกเราใช้บริการของ " หน่วยบริการความสดชื่น " ซึ่งก็คือร้านขายน้ำ ร้านขายน้ำนี้ต้องถือว่าเป็นสวรรค์ของพวกเราจริงๆ เพราะมันทำให้พวกเราหายเหนื่อยและสดชื่นขึ้นมาก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุราวกับอยู่กลางทะเลทราย ผมซื้อน้ำมาดื่มขวดหนึ่ง รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก นั่งพักกันอีกแป๊ปนึง ครูฝึกก็เรียกรวม เพื่อทำการฝึกในภาคบ่าย
ช่วงบ่ายนี้เราต้องฝึกอีกสถานีหนึ่ง คล้ายๆ กับสถานีที่ 1 ต่างกันตรงที่สถานีนี้มีป้ายบอกหมายเลขให้ยืนตามตำแหน่ง และเคลื่อนพลทีละหมวดเป็นแถวหน้ากระดาน ไอ้เด่นอยู่หัวแถว ผมอยู่ท้ายแถว ทุกคนต้องโผ หมอบ คลานสูง คลานต่ำ วิ่ง และลอดลวดหนามอีกครั้งตามสัญญาณนกหวีด พื้นที่ที่ทำการฝึกเป็นที่โล่งแจ้งไม่เหมือนกับสถานีที่ 1 ที่เป็นป่าค่อนข้างทึบ พื้นก็เต็มไปด้วยหินทรายร้อนๆ สยองน่าดู แต่ก็ต้องฝึก
ปี๊ด !
ครูฝึกเป่านกหวีดสั้นๆ แล้วก็ตะโกนว่า
" คลานสูง ! "
ผมรีบนอนลงคลานสูงทันที รู้สึกได้ถึงทรายร้อนๆ ที่สัมผัสกับร่างกายท่อนล่าง มันร้อนสุดๆ เลย ผมกัดฟันคลานไปด้วยความยากลำบาก ไหนจะหนักปืนที่ถือมาตลอดตั้งแต่เช้า แม้แต่ตอนคลานก็ยังต้องถืออยู่ แล้วยังต้องดูเพื่อนๆ ที่คลานในระนาบเดียวกัน เพื่อให้คลานได้ระนาบพอดีกันไม่ล้ำหน้าอีก ลำบากจริงๆ
ครูฝึกเป่านกหวีดอีกครั้งหนึ่งแล้วสั่งต่อ
" ลุก ! วิ่ง ! "
ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งด้วยความรวดเร็ว
" หมอบบบบบบบบบบบ ! "
ตอนนี้ไม่ว่าทุกคนจะวิ่งไปถึงตรงไหน ต่างก็รีบล้มตัวลงหมอบทันที แล้วครูฝึกก็สั่งให้ลุก วิ่ง แล้วก็ให้หมอบ คลานต่ำไปเรื่อยๆ และก็ลุกขึ้นวิ่งอีก ก่อนจะคลานสูงบ้าง ฯลฯ เป็นอย่างนี้ไปตลอดทาง ผมเหนื่อยแทบจะขาดใจ มือก็ถูกหินครูดเป็นแผลเลือดไหลหลายครั้งแล้ว เจ็บแต่ก็ต้องทน แถมอาการปวดขาเนื่องจากอุบัติเหตุในวันที่สองก็ยังไม่หายดีอีกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานเหลือเกิน
" เหยาะแหยะชิบหายเลยเว้ย อะไรวะ จะหมอบจะคลานชักช้าอืดอาดจริงๆ คลานให้มันกว่านี้สิโว้ย เร็วๆ ๆๆๆ !! ไอ้แว่นมึงก็คลานเร็วๆ สิวะ ห่าเอ๊ย "
ครูฝึกเร่งผมใหญ่ ผมกัดฟันพยายามคลานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เหงื่อไหลย้อยลงมาจากหน้าผากลงมาเข้าตา 2 ข้างของผมไม่ยอมหยุด แสบตาเหี้ยๆ แต่ก็ไม่มีเวลาแม้จะเอามือเช็ด หลังของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหนื่อยสุดยอดจริงๆ ผมหันไปมองดูเพื่อนคนอื่นๆ ทั้งไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้เด่น ไอ้แมน และไอ้ไก่ ทุกคนกำลังตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ แม้ว่าทุกคนจะมีสีหน้าที่ไม่สู้จะดีนักก็ตาม คลานไปเรื่อยๆ จนถึงลวดหนามเส้นยาวเหยียด ปราการด่านสุดท้ายของการฝึก ผมรีบพลิกตัวนอนหงายเอาปืนวางไว้ที่ร่องหว่างขาแล้วลอดข้ามไปด้วยความคล่อง แคล่ว ทุกคนลอดได้อย่างพร้อมเพรียงกันจริงๆ ครูฝึกมองอย่างพอใจแล้วตะโกนว่า
" ถึงที่หมายแล้ว พักได้ ! "
ผมรีบลุกขึ้นยืนทันที ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพรีบเดินเข้ามาหา ผมคุยกับมันสองสามคำแล้วก็ชวนกันไปใช้บริการของ หน่วยบริการความสดชื่น กันอีกครั้ง เรา 3 คนซื้อน้ำมานั่งดื่มกันเงียบๆ ซักพักไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็มานั่งคุยด้วย อากาศร้อนอบอ้าวมาก เราทุกคนรู้สึกเหนื่อยแบบสุดๆ หลังจากคุยกันไม่กี่คำแล้วก็พากันนั่งเงียบ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น ครูฝึกเดินเข้ามาตรงที่ๆ เรานั่ง แล้วพูดว่า
" ไง หมดสภาพกันแล้วเหรอพวกมึง นั่งแผ่ไข่หราเชียว วันนี้แค่ซ้อมเข้าตีนะ ยังแค่เบาะๆ พรุ่งนี้แหละของจริง พวกมึงต้องเข้าตีจริงๆ ระยะทางไกลกว่านี้มากเลย กูบอกไว้ก่อน แล้วพวกมึงจะเห็นว่า ที่ฝึกไปวันนี้ ขี้ๆ มากเลยว่ะ "
ครูฝึกพูดจบก็ตบไหล่ผมเบาๆ เพราะผมนั่งอยู่ใกล้จุดที่เขายืนพูดที่สุด ก่อนจะเดินไปพูดแบบนี้กับกลุ่มอื่นต่อ ผมมองหน้าเพื่อนๆ ไม่มีใครพูดอะไรกัน ได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อได้รู้ว่า พรุ่งนี้ต้องเหนื่อยกว่าวันนี้อีกหลายเท่า ตอนนี้พวกเราทุกคนเกือบจะหมดสภาพแล้วเพราะเหนื่อยมากจริงๆ เงียบไปพักหนึ่ง ผมก็เริ่มพูดกับไอ้อ๊อตว่า
" แม่ง พรุ่งนี้ตายแน่ๆ เลยสัด แค่วันนี้ก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว "
ไอ้อ๊อตมองหน้าผม แล้วพูดคำคมออกมาว่า
" ถ้ามึงตาย กูก็จะตายด้วย อย่างน้อย ตายในสนามรบก็ยังดีกว่าตายที่อื่นละวะ "
" กูเห็นด้วยกับไอ้อ๊อตว่ะ กูก็ยินดีตายเคียงข้างพวกมึง เพราะพวกมึงคือเพื่อนของกู "
ไอ้เด่นพูด แล้วโอบไอ้ไก่ช้าๆ ไอ้ไก่รีบซบลงไปที่ร่องอกล่ำๆ ไอ้เด่นทันที ผมมองหน้าไอ้แมน เห็นมันยิ้มให้ผม ผมก็เลยยิ้มตอบ ไม่พูดอะไรต่อเพราะพูดไม่ไหว มันเหนื่อยจริงๆ พวกเราก็เลยนั่งเงียบๆ ไปจนหมดเวลาพัก
......................
พอหมดเวลาพัก ครูฝึกก็เรียกรวมแล้วก็พาพวกเราเดินเข้าป่าไปยังสถานีต่อไป นั่นคือ สถานีการดำรงชีพในป่า (SURVIVAL) มีครูฝึกพิเศษมาบรรยาย เขาพูดสนุกดี สอนให้พวกเราดูผลไม้ สัตว์ และพืชที่เป็นพิษให้เป็น และสอนวิธีการใช้ชีวิตในป่า แถมยังสาธิตการจับงูชนิดต่างๆ ให้ดูอีกด้วย เขาจับงูเก่งมาก ทุกคนฟังด้วยความตื่นเต้นเร้าใจอยู่ตลอดเวลา บางทีเขาก็แกล้งทำเป็นจะโยนงูมาทางคนฟัง เล่นเอาพวกที่นั่งข้างหน้าอย่างไอ้เด่นและไอ้เทพวิ่งกันกระเจิงเลย ทำแบบนี้หลายครั้งอีกต่างหาก ขำมากๆ ทุกคนสนุกสนานเฮฮากันมาก ค่อยคลายความเหนื่อยจากการฝึกรบลงได้บ้าง ก็ดีเหมือนกัน
พอการบรรยายอันแสนสนุกจบลง ก็บ่ายแก่มากแล้ว ครูฝึกให้พวกเราทำอาหารแดกกันเอง เป็นการฝึกการทำอาหารแบบชาวป่า แต่ละหมู่ต้องทำอาหารแดกกันเองภายในหมู่ ครูฝึกให้หมูป่าและผักสดๆ มาหมู่ละ 1 กระป๋อง เอาไปทำกับข้าวกันเอง ผมกับไอ้แมนอาสาไปหาฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพไปหาน้ำ ส่วนไอ้เด่น ไอ้ไก่ และคนอื่นๆ ที่เหลือก็รับหน้าที่เป็นพ่อครัว ผมเดินกอดคอกับไอ้แมนไปหักไม้ฟืนที่กองสุมๆ กันอยู่แถวๆ นั้นมาเป็นจำนวนมาก เอามาทำเป็นฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเอากระป๋องไปรองน้ำจากแท็งค์น้ำ แล้วรีบกลับมาช่วยกันหุงข้าวโดยให้หม้อสนาม มีการดงข้าวด้วย ไอ้เด่นกับไอ้ไก่ช่วยกันหั่นหมูป่าเพื่อทำแกงหมูป่า คนอื่นๆ ก็ช่วยกันทำกับข้าวอย่างสุดฝีมือ ผมเองไมได้ช่วยทำกับข้าวเลยเพราะว่าผมทำกับข้าวไม่เป็น แต่ก็พยายามช่วยหั่นหมูและดงข้าว รวมทั้งเติมเชื้อฟืนให้ลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา ไม่นานข้าวก็หุงสุก แกงก็ทำเสร็จ แล้วพวกเราก็มานั่งล้อมวงตักข้าวตักแกงแดกกันตรงนั้นเลย ข้าวอร่อยดีแต่แฉะเกินไปหน่อย แกงมี 2 หม้อ หม้อหนึ่งเป็นแกงหมูป่า ไม่ค่อยอร่อยเพราะเค็มมาก อีกหม้อหนึ่งแกงอะไรก็ไม่รู้ ใส่แต่ผักเยอะมากๆ ผมกินไม่มากเพราะกินไม่ค่อยลง รสชาติของอาหารก็พิกล และผมก็ไม่คุ้นกับการกินอาหารแบบนี้ด้วย แต่ผมก็พยายามทำเป็นว่าอร่อยมาก เนื่องจากไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำกันสุดฝีมือทุกคน และดูๆ ไปเขาก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งนั้น ก็เลยต้องรักษาน้ำใจกันหน่อย
" อร่อยว่ะแม่ง มึงนี่ทำกับข้าวเก่งนี่หว่า ไอ้เด่น "
ไอ้อ๊อตพูด ขณะตักแกงเข้าปากอีก 1 ช้อน
ไอ้เด่นยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า
" ไม่ใช่ฝีมือกูคนเดียวหรอก ฝีมือพวกมึงทุกคนด้วยแหละ ก็พวกเราช่วยกันทำนี่หว่า ถ้ากูทำคนเดียวคงไม่ออกมาอร่อยแบบนี้หรอก "
เพื่อนๆ คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย แต่ไม่พูดอะไร เพราะปากกำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่
" อย่ามัวแต่คุยเลยว่ะ แดกสัด แดก แดกเยอะๆ เลย ตอนนี้เป็นเวลาแดกว่ะ แม่งหิวชิบหายเลย "
ไอ้แมนพูด เพื่อนๆ ทุกคนจึงไม่มีใครพูดต่อ ก้มหน้าก้มตาแดกอย่างตะกละตะกราม ผมมองเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ตอนนี้พวกเรารักกันมากขึ้น สามัคคีกันมากขึ้น เพราะเราใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว เราแดกด้วยกัน นอนด้วยกัน และมีอะไรด้วยกันแล้ว (มีกับบางคน) ก็เลยทำให้พวกเราสนิทกันมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะผมกับไอ้เด่น และไอ้ไก่ เราสนิทกันมากขึ้นจริงๆ
พอแดกข้าวเสร็จครูพิชิตก็เอากล้วยบวชชีมาให้ 1 กระป๋องซึ่งอันนี้พวกครูฝึกทำกันเอง รสชาติจึงอร่อยมาก พวกเราเลยแบ่งกันแดกจนอิ่มตื้อ พอทุกคนแดกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และเพื่อนคนอื่นๆ อาสาเอาหม้อและช้อนไปล้าง ส่วนผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพช่วยกันแบกปืนของทุกคนไปรออยู่ตรงที่รวมพล
.........................
ไม่นานครูฝึกก็เรียกแถว ตอนนี้เย็นมากแล้ว จากจุดที่พวกเราทำอาหารกัน เราต้องเดินกลับไปที่ตั้งของเราเพื่อไปเอาเป้สนามที่วางทิ้งเอาไว้ทาวางไว้ ที่ลานนอน ใต้ต้นไม้ คืนนี้เราต้องนอนในป่าเรียงกันเป็นแถวยาวเหยียด แบบหัวชนหัว ครูฝึกเป็นคนจัดที่นอนให้ว่าใครนอนตรงไหน ข้างซ้ายของผมเป็นไอ้แมน ส่วนข้างขวาเป็นเพื่อนโรงเรียนอื่น ผมรีบวางสัมภาระ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียว เพื่อนโรงเรียนอื่นดูหรูมาก ผ้าปูเป็นแบบพิเศษหนานุ่มผืนใหญ่มาก กินที่ผมอีก แต่ก็ดีตอนดึกๆ จะได้อาศัยนอนบนผ้าปูด้วย (ท่าทางจะนุ่มน่าดูเลยนะ) ส่วนไอ้แมนก็พันธุ์เดียวกับผม ไม่หรูแต่ติดดิน และก็แมนสมชื่อ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียวแบบธรรมดาๆ เหมือนของผมเลย ทุกคนต่างวางเป้สนามไว้ตรงหัวนอน กะจะใช้เป้สนามต่างหมอนหนุนหัว ผมพยายามทำเป้ให้เรียบๆ จะได้นอนได้สบายหัวไม่กระเดิก
ปูผ้าเสร็จ แต่ยังไม่ทันจะจัดสัมภาระ ก็ได้ยินเสียงนกหวีดเรียกอีกแล้ว ผมต้องทิ้งสัมภาระไว้อย่างนั้นแล้วรีบคว้าปืนวิ่งไปเข้าแถวทันที เดี๋ยวนี้ปืนกลายเป็นอาวุธประจำตัวของผมและของทุกคนไปซะแล้ว ต้องแบกต้องถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมันสำคัญสุดชีวิตจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกรักปืนขึ้นมาแล้วสิครับ จากเดิมที่เกลียดเข้าไส้เพราะมันหนักโคตร!
" แถว ตรง หน้า เดิน ! "
ครูพิชิตสั่งเสียงดังปานฟ้าผ่า ผมและเพื่อนๆ หมวด 2 ทุกคนรีบเดินไปยังพื้นที่ฝึกอีกจุดหนึ่ง พอพวกเราทุกคนไปถึง ท้องฟ้าก็มืดซะแล้ว ผมเหลือบดูนาฬิกา ทุ่มครึ่งพอดี


Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.