ตอนที่ 152 วันต่อมา
ที่ห้องชมรมฟุตบอล
ไอ้หนุ่ม อาทิตย์หน้าไอ้อิฐกับไอ้แดงก็ต้องไปแข่งบอลยูลีกแล้ว พวกกูมีความคิดที่จะพามันไปเลี้ยงให้กำลังใจมันก่อนที่มันจะลงแข่งจริงว่ะ ที่ร้านเหล้าเปิดใหม่ข้างๆ มหาลัยนี่เอง มึงจะไปด้วยมั๊ย
ไอ้อู๋ หนึ่งในนักฟุตบอลหน้าใหม่ที่มาเข้าร่วมทีมด้วยถามผม ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบไปว่า
เลี้ยงเหล้ากันเหรอ ถ้าเป็นเหล้ากูขอบายนะ กูไม่ชอบแดกเหล้า
กับข้าวอื่นก็มีเยอะแยะ มึงไม่แดกเหล้าก็กินอย่างอื่นได้ ไปเหอะ ไปสนุกกันหน่อยน่า ให้กำลังใจเพื่อน เพื่อนจะไปลงสนามทั้งที มึงจะไม่ไปได้ลงคอเหรอวะ
ไอ้อู๋คะยั้นคะยอผมจนผมยอมไปด้วย
เอาวะ ถือว่าเลี้ยงให้กำลังใจเพื่อน ผมจะไม่ไปก็กระไรอยู่ ไปก็ไป
.
ตกเย็น ไอ้แดงกับไอ้อิฐมาถึงมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ทั้งทีมก็พากันยกโขยงไปที่ร้านเหล้าแห่งนั้นอย่างไม่รอช้า
..
2 ทุ่ม ที่ร้านเหล้าเปิดใหม่
ไอ้นันกระดกแก้วที่มีเหล้าอยู่ครึ่งแก้วเข้าปากอย่างรวดเร็ว ไอ้โจ้มองอย่างพอใจ แล้วควักบุหรี่ขึ้นมาสูบก่อนจะพูดขึ้นว่า
ไง สนุกมั๊ยมึง แดกเหล้ายังกะแดกน้ำแน่ะ เพลาๆ หน่อยก็ได้เพื่อน เดี๋ยวจะพับไปซะก่อน
อย่างกูเนี่ยเหรอจะพับ ไม่มีทางว่ะไอ้เพื่อนเลิฟ กูคอแข็งแค่ไหนมึงก็รู้
ไอ้นันนั่งโงนเงนไปมาด้วยความเมาจนเกือบจะตกเก้าอี้ แต่โชคดีที่มีมือขาวๆ มาดันไหล่มันไว้ให้นั่งตรงๆ ได้เหมือนเดิม ไอ้นันหันไปมองหน้าคนที่ดันไหล่มันแล้วก็ต้องยิ้ม
พี่ชายคนนั้นนั่นเอง
เมาแล้วนะเราน่ะ
เขาพูดยิ้มๆ ไอ้นันยิ้มแห้งๆ
ไม่เมาพี่ ไม่เมา ยังแดกได้อีกเยอะ
แล้วมันก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งของร้าน ผมและเพื่อนๆ กำลังคุยเฮฮากันอย่างสนุกสนาน ทุกคนอยู่ในอาการเมาจัดเพราะดื่มเข้าไปเยอะมาก ไอ้อิฐซึ่งดื่มเข้าไปน้อยกว่าเพื่อน ลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า
ขอกูไปเยี่ยวก่อนนะ
แล้วมันก็หันไปรอบๆ เพื่อจะหาป้ายทางไปห้องน้ำ แล้วสายตาของมันก็มาหยุดอยู่ที่โต๊ะๆ หนึ่ง
เด็กหนุ่มที่นั่งถองเหล้าอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนนั่น ทำไมหน้าตาคุ้นๆ จังวะ
. ไอ้อิฐนึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็สะกิดเรียกผมที่กำลังหัวเราะเสียงดังให้ลุกขึ้นยืน แล้วมันก็ชี้ไปที่โต๊ะนั้น พูดว่า
นั่น น้องมึงป่าววะหนุ่ม
ผมมองตามที่มันชี้แล้วก็ใจหายวาบ
นั่นไอ้นันน้องผมจริงๆ กำลังนั่งแดกเหล้ามันส์ไปเลย ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวแต่ยังนั่งกับเพื่อนอีก 2 คนซึ่งคนหนึ่งผมเห็นหน้าชัดเจน แต่ไม่รู้จัก คงจะเป็นเพื่อนมันนั่นแหละ แต่อีกคนหนึ่งไม่เห็นหน้าเพราะมันนั่งหันหลังให้ผมอยู่ นี่น้องผมแดกเหล้าด้วยเหรอเนี่ย ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้
ผมรีบเดินไปที่โต๊ะที่มันนั่งทันที แล้วกระชากแขนไอ้นันอย่างแรงจนมันหันมามองหน้า พอมันเห็นหน้าผมก็หน้าซีดลงทันที ผมพูดเสียงดัง
นัน มาทำอะไรที่นี่เนี่ย! ดูสิ กินเหล้าด้วย เหลวไหลจริงๆ ว่ะ
ไอ้นันอึ้งไปพูดอะไรไม่ออก ไอ้โจ้ที่นั่งอยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้นมาว่า
โธ่ พี่ ใจเย็นสิ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลย ใครๆ เค้าก็กินกัน เรื่องธรรมดาของผู้ชาย พี่เองก็มากินกับเค้าด้วยเหมือนกันใช่มั๊ยล่ะ ไม่งั้นไม่มาเจอกับพวกผมที่นี่หรอก
ผมหันขวับไปมองหน้าไอ้โจ้แล้วขึ้นเสียงกร้าว
พี่ไม่ได้มากินเหล้า นายเงียบๆ ไปเลยดีกว่า นี่มันเรื่องของพี่น้อง คนอื่นอย่าเสือก! นัน ออกไปคุยกับพี่ข้างนอกเดี๋ยวนี้ พี่มีเรื่องจะคุยกับนายยาวเลย
ไอ้นันส่ายหน้า แววตาร้อนรนเหมือนคนที่ทำความผิดมา มันพูดเสียงอ่อย
ไม่เอาพี่ ผมไม่มีอะไรจะต้องคุยกับพี่แล้ว
ต้องคุยโว้ย ไปคุยกันข้างนอก !
ไอ้โจ้ดึงมือของไอ้นันไว้แล้วพูดว่า
อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ดิพี่ชาย มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยจากันตรงนี้ก็ได้
ผมดึงมือไอ้นันออกจากมือไอ้โจ้แล้วตะคอกใส่มัน
หุบปาก! กูบอกว่าอย่าเสือกไง! พี่น้องเค้าจะคุยกัน ไป ไอ้นันไปข้างนอกกัน เร็วๆ
เฮ้ย! เฮ้ย! อะไรกันวะ
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผม พี่คนที่ไอ้นันชอบนั่นเอง เมื่อกี้มันนั่งหันหลังก้มหน้าก้มตาคุยโทรศัพท์อยู่ก็เลยไมได้หันมามองว่าผมเดินมาคุยกับไอ้นันและไอ้โจ้ พอมันคุยเสร็จแล้วถึงได้หันมาและเงยหน้าขึ้นมอง ผมหันกลับไปดูหน้าเจ้าของเสียง แล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
หน้าแบบนี้ใช่แน่ๆ
.จะเป็นใครไปไม่ได้
.นอกจาก
.
ไอ้ไผ่!