We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: 【✪❤▐ ❤✪ อัปไลน์ที่รัก ✪❤▐ ❤✪ 】"
Posted by sarawatta on 06-Jan-13 at 08:03 PM
อัปไลน์ที่รัก - ตอนที่ 1

"อะไรครับเนี่ย หนังสืออะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างสงสัยเมื่อสาวใหญ่สาวน้อยสี่ห้าคนมายืนออกันอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าด้วยความชื่นชม หนึ่งในนั้นยื่นของให้ผมพร้อมกับบอกว่า

"หนังสือรวมภาพของพี่เล็กไงคะ พวกเราทำเองกับมือเลยนะคะ เปิดดูเลยค่ะ พี่เล็กต้องชอบแน่ๆ"

น้ำเสียงที่ตื่นเต้นนั้นทำให้ผมรับหนังสือที่น้องเขายื่นมาให้พร้อมกับต้องรีบเปิดดู เพราะผมเองก็อยากรู้ว่าสาวๆ กลุ่มนี้ทำอะไรมาให้

"ชอบมากๆ เลยครับ โห...ทำให้พี่ดีขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย แต่ว่า...ให้พี่ซื้อได้ไหม เห็นพวกเราทำอะไรมาให้เยอะแยะมากมายแบบนี้แล้วรู้สึกเกรงใจ จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะ แค่ให้กำลังใจกันก็พอแล้ว จริงๆ นะครับ" ผมไม่รู้ว่าพูดประโยคแบบนี้ไปกี่ครั้งแล้ว แต่บรรดาแฟนคลับของผมก็ไม่เคยมีใครทำตามที่ผมขอร้องเลยสักครั้ง พวกเขาก็ยังคงทำของมาให้ ซื้อของมาให้กิน จัดงานวันเกิดให้และอะไรต่อมิอะไรอีกสารพัด ไม่ว่าผมจะพูดอย่างไรก็ดูจะไม่ได้ช่วยทำให้สิ่งเหล่านี้น้อยลงไปเลย

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เล็ก พวกเราตั้งใจทำให้จริงๆ ค่ะ พี่เล็กไม่ต้องซื้อหรอก ถึงซื้อพวกเราก็ไม่เอาเงินอยู่ดี" สาวน้อยคนนั้นรีบตอบ

ผมได้แต่ยิ้มด้วยความซาบซึ้งใจ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะควักเงินออกมาให้ก็ใช่ที่ ก็เขาตั้งใจทำให้นี่นา ผมก็คงต้องรับไว้อีกตามเคย

"ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ แต่ทีหลังไม่ต้องให้อะไรมากมายแบบนี้ก็ได้นะครับ พี่พูดจริงๆ แค่มาให้กำลังใจก็พอ" ผมพยายามย้ำอีกครั้งทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเดี๋ยวอีกไม่นานนี้ผมก็ต้องได้สิ่งของมาจากพวกเขาอีก ทั้งจากกลุ่มใหม่และกลุ่มเดิมที่มีอยู่ แล้วผมก็คงต้องพูดแบบนี้ซ้ำๆ อีกเช่นเคย ไม่รู้สิ ผมเกรงใจพวกเขาจริงๆ นี่นา แค่มาให้กำลังใจ แค่คอยติดตามผลงานสม่ำเสมอ แค่ได้มาพบปะพูดคุยกันในโอกาสพิเศษเช่นวันนี้ ผมว่ามันก็เพียงพอแล้ว ผมไม่ต้องการให้พวกเขามาเสียเงินกับผมเลยจริงๆ

"วันนี้มีคาราโอเกะด้วยนะคะพี่เล็ก" สาวน้อยอีกคนร้องบอกพร้อมกับทำหน้ายิ้มๆ อย่างมีเลศนัย

ผมรีบร้องอ๋อทันทีเพราะรู้ว่าแฟนคลับของผมอยากให้ทำอะไร "อ๋อ...ได้ ได้ ได้ เดี๋ยวพี่ร้องเพลงเพี้ยนๆ ให้ฟังวันนี้" ผมบอกอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ ก็มันจริงนี่นา ผมน่ะร้องเพลงทีไรก็เพี้ยนตลอด

"แหมพี่ก็...พี่เล็กก็ร้องเพลงเพราะนะคะ ว่าไปนั่น ตอนที่พี่ประกวดร้องเพลงหนูก็ตามดูอยู่นะคะ ไม่เห็นจะเพี้ยนเท่าไรเลย" แฟนคลับของผมพยายามปลอบใจ แต่ยังไง้...ยังไง...ผมก็คิดว่าตัวเองร้องเพลงเพี้ยนอยู่วันยังค่ำ

"เพี้ยนสิครับ คอนเซ็ปต์ผมต้องร้องเพลงเพี้ยนอยู่แล้ว" ผมเถียงพลางขำเบาๆ แล้วก็หันไปมองอีกทางเมื่อมีแฟนคลับอีกกลุ่มเพิ่งมาถึงและเรียกชื่อผม

"แต่ตอนประกวดเดอะไชนิ่งสตาร์พี่ก็ได้ตั้งที่สามนะคะ" น้องคนนั้นยังคงแก้ตัวให้ผมอยู่

"โธ่...ผมรู้น่า ที่เขาโหวตให้ผมเพราะเขาคงสงสารคนร้องเพลงเพี้ยนๆ อย่างผมหรอก ก็เลยให้ที่สาม ขอบคุณนะครับที่โหวตให้ผม" ผมพูดพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณให้กับตากล้องจำเป็นที่ตามถ่ายผมอยู่เป็นระยะๆ

จากนั้นจึงผละตัวไปดูแลกลุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจัดมีตติ้งกับแฟนคลับ ผมออกเงินครึ่งหนึ่งสำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดมีตติ้งในสวนอาหารชานเมืองกรุงเทพ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งแฟนคลับช่วยกันออกให้ แม้ว่าผมจะบอกว่าไม่ต้อง แต่พวกเขาก็ไม่ยอมครับ ผมก็เลยต้องยอมให้พวกเขาช่วยออกด้วย ไม่งั้นมีเคืองหรืองอนกันแน่ๆ เลยครับ

ขณะที่ผมไปทักทายกับแฟนคลับอีกกลุ่มที่เพิ่งมาถึงร้านอาหารที่เรานัดกันไว้นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ดูก็รู้ว่ามีเชื้อจีนมาแบบเต็มๆ เลยเพราะดูตี๋ซะขนาดนั้น อายุคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับผมนี่แหละ เขานั่งอยู่เงียบๆ ตรงม้านั่งห่างจากกลุ่มแฟนคลับผมออกไปเล็กน้อย ผมขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย ปกติแฟนคลับผมส่วนมากจะเป็นผู้หญิงหรือไม่ก็ "ชายไม่แท้" ทั้งหลาย ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน หรือว่าจะเป็นแฟนคลับผมด้วย แต่ดูท่าทางของเขาก็ไม่ได้ส่อกิริยาไปทางนั้นเลย

ด้วยความสงสัย หลังจากที่ทักทายกับแฟนคลับที่เพิ่งมาถึงแล้ว ผมก็เดินปรี่มาหาชายหนุ่มคนที่ว่าทันที พอไปใกล้ตัว ผมก็ยิ้มพร้อมกับร้องทัก

"สวัสดีครับ เพิ่งมาใหม่เหรอครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณเลย ทำไมไม่เข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเราล่ะครับ เดี๋ยวอาหารจะมาเสิร์ฟแล้ว จะได้กินด้วยกัน เชิญเลยครับ"

สงสัยวันนี้ผมจะก้าวขาออกจากบ้านผิดข้างไป ไม่นึกเลยว่าแค่ผมทักทายด้วยไมตรีจิตจะทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับผมชนิดที่คาดไม่ถึงทีเดียว เขาพูดเสียงเขียวขึ้นมาว่า

"ผมเนี่ยนะเป็นแฟนคลับคุณ หลงตัวเองมากไปหรือเปล่า คิดว่าเป็นดาราแล้วจะต้องมีแต่คนชอบหรือไงครับ"

น้ำเสียงโมโหและท่าทางไม่พอใจของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ผมถึงกับสะดุ้งและหน้าซีดไปพอสมควร หนอยแน่ะ ถามดีๆ แล้วทำไมจะต้องมาว่ากันแบบนี้ด้วย ไปกินรังแตนมาจากไหนกัน จะไปรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่แฟนคลับ ก็เห็นมานั่งอยู่ในที่ที่ผมนัดแฟนคลับไว้ก็เลยสงสัยเท่านั้นเอง ถามดีๆ ทำไมจะต้องอารมณ์เสียขนาดนั้นด้วย

"อ๋อ...ขอโทษครับ ผมก็แค่ถามดูเท่านั้นแหละครับ พอดีเห็นคุณมานั่งแถวๆ นี้ก็เลยเข้าใจผิด" ผมบอกพลางทำท่าจะเดินหนี อารมณ์ที่ดีๆ มาทั้งวันกลับต้องมาหงุดหงิดกับเจ้าหมอนี่ซะแล้ว ไม่ได้ๆ วันนี้เป็นวันดีของผม จะมาหงุดหงิดกับคนแบบนี้ในตอนนี้ไม่ได้ แฟนคลับผมเขาตั้งใจจัดงานนี้ให้ ผมจะต้องยิ้มแย้มเข้าไว้

"ผมมาเป็นเพื่อนแฟนผม เขาเป็นแฟนคลับคุณ ก็ไม่ได้อยากจะมาหรอกนะ เสียเวลา ไร้สาระ"

ผมต้องหยุดชะงักและหันมามองชายหนุ่มขี้หงุดหงิดคนนี้เป็นรอบที่สอง รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย อย่างน้อยก็พอเข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ทำหน้าบูดบึ้งแบบนั้น

"อ๋อ...งั้นก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารด้วยกันก็ได้ครับ จะได้ทานข้าวด้วยกัน ไม่เห็นเป็นไรเลย" ผมพยายามทำน้ำเสียงให้ดูปกติ แต่ไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่เลยให้ตายสิ เก๊กท่าก็ปานนั้น อยากรู้จังว่าเป็นแฟนของแฟนคลับคนไหนของผม ทำไมถึงมาชอบผู้ชายหน้าตากวนประสาทแบบนี้ได้

"ไม่...ขอบคุณ ผมไม่ใช่กะเทยนะครับจะได้ไปนั่งคุยแต่กับกลุ่มผู้หญิงแบบนั้นได้"

นั่น...เอาอีกจนได้ จริงๆ ผมไม่น่าหันมาคุยกับหมอนี่อีกให้มันหลอกด่าเลย ชักจะมากไปแล้วนะ มาว่าผมเป็นกะเทยเหรอ

"ตามใจละกันครับ เดี๋ยวผมจะให้เขาเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ตรงนี้ละกัน เผื่อคุณหิว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ แต่ข้างในจริงๆ แล้วไม่พอใจอย่างมาก แล้วก็ทำท่าจะเดินหนีอีกครั้ง แต่สิ่งที่เจ้าหมอนั่นพูดตามมาก็ทำให้ผมต้องหันกลับมามองอีกเป็นรอบที่สามจนได้

"ไม่ต้องมายุ่งกับผมหรอก ไปจัดการแฟนคลับของคุณเถอะ ผมไม่ได้อยากมากินอะไรซะหน่อย"

ผมต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจเพราะกลัวจะอดโมโหไม่ได้ อยากจะตะคอกถามกลับไปเหลือเกินว่า "พูดดีๆ ไม่เป็นหรือไง" แต่ก็ต้องข่มใจครับ ไม่ได้ๆ วันนี้ผมจะมีเรื่องกับใครไม่ได้ เสียภาพลักษณ์แย่เลย มีนักข่าวจากหนังสือดารามาด้วย ไปดีกว่า อย่าอยู่ตรงนี้กับคนประสาทๆ แบบนี้เลย

ว่าแล้วผมก็เดินหนีออกมาจริงๆ จะพูดอะไรอีกผมก็จะไม่หันกลับไปให้มันหลอกด่าแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าเป็นแฟนของแฟนคลับผมนะ ได้เห็นดีกันแน่ หน้าตาก็ดีหรอกนะ แต่ปากนี่ไม่ไหวเลย

--------------------------------------------------------------------------------------------

แต่ในระหว่างที่กินข้าวกับแฟนคลับของผมอยู่ ผมก็เห็นเจ้าหมอนั่นเดินหน้าบึ้งมานั่งกินข้าวกับพวกเราด้วยครับ รู้ละว่าเป็นแฟนใคร น้องน้ำฝนนี่เอง แฟนคลับสาวสวยที่ตามมาเชียร์ผมได้หลายเดือนแล้ว ไม่รู้ว่าน้องน้ำฝนไปพูดอะไรกับเจ้าหมอนั่นถึงได้ยอมมานั่งกินข้าวด้วยกัน เขานั่งอยู่ห่างจากผมพอสมควร แต่พอได้ยินน้องน้ำฝนเรียกชื่อเจ้าหมอนั่น ผมก็แทบจะสำลักข้าวที่กินอยู่เลยทีเดียว

"พี่ขนมมานั่งตรงนี้สิคะ" น้องน้ำฝนเรียกพลางกวักมือให้มานั่งใกล้ๆ กับเธอ ดูเหมือนต้องใช้สายตาดุแกมบังคับด้วย เจ้าหมอนั่นถึงได้ยอมมานั่งด้วย

คนอะไรวะชื่อ "ขนม" หน้าตากวนประสาทแบบนั้นมีชื่อน่ารักๆ แบบนี้ด้วยเหรอ ไม่เข้ากับหน้าเลยจริงๆ ชื่อขนมนี่เอง มิน่าล่ะ ผมได้ยินคำว่า "ขนม" แว่วมาให้ได้ยินบ่อยๆ ตอนแรกก็นึกว่าแฟนคลับผมเขาพูดถึงขนมหรือของหวานกัน

นายขนมนั่นนั่งลงแล้วก็หันแวบมามองผมพร้อมกับขึงตาใส่ ตอนนั้นผมก็แอบขำชื่อเขาอยู่พอดี ก็เลยยักคิ้วใส่ไปทีหนึ่ง มีธุรกิจร้อยล้านพันล้านต้องทำหรือไงนะ กับอีแค่พาแฟนมาข้างนอกไม่นานแค่นี้ทำไมจะต้องอารมณ์เสียขนาดนั้นด้วย

แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า เพราะตลอดเวลาที่ผมคุยกับแฟนคลับของผม เจ้าหมอนี่ก็ดูเหมือนจะคอยจับตามองผมอยู่ตลอด บางทีหันไปเจอทีไรก็เหมือนเขาคอยมองดูผมอยู่ รู้สึกว่าจะทำหน้าเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นละ ค่อยดูน่ารักสมชื่อขึ้นมาหน่อย

พอถึงตอนที่ผมต้องออกไปร้องเพลงให้แฟนคลับฟัง เจ้าหมอนั่นก็เล่นทำเอาซะผมขาดความมั่นใจไปเลย รู้งี้ผมไม่หันไปมองมันดีกว่า เพราะพอผมร้องไปได้สักพัก ผมก็เห็นมันนั่งขำผมอยู่ ใช่...ผมรู้ว่ามันต้องขำผมแน่นอน คนที่วัวสันหลังหวะอย่างผมรู้ดี ผมร้องเพลงเพี้ยน มันคงขำที่ผมร้องเพลงเพี้ยนนั่นเอง ดูมันสิ ดูมันขำเข้า ถึงมันจะไม่ขำออกเสียง แต่สายตามันมองมาที่ผมแล้วก็ขำ

น้องน้ำฝนเหมือนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเห็นน้องเขาตบไหล่เจ้าขนมนั่นแล้วก็พูดอะไรบางอย่าง คงจะบอกให้มันหยุดหัวเราะนั่นเอง แต่ผมไม่ไหวแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะหยุดร้องก่อนที่เพลงจะจบ

"ไม่เอาดีกว่าครับ พี่ไม่อยากทรมานพวกเราแล้ว ฟังคนที่เขาร้องเพลงเพราะๆ ดีกว่าครับ มา...ใครมาช่วยร้องแทนผมหน่อย"

"ไม่เป็นไรค่ะพี่เล็ก ร้องเพลงเพี้ยนก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ ร้องต่อเถอะค่ะ พวกเราอยากฟัง" น้องน้ำฝนรีบชิงพูดให้กำลังใจ คนอื่นๆ ก็พลอยเห็นด้วยและคะยั้นคะยอให้ผมร้องต่อ ผมก็เลยต้องร้องเพลงเพี้ยนๆ ให้พวกเขาฟังต่อไป ดีที่ว่าเจ้าหมอนั่นเลิกขำผมละ คงจะโดนน้องน้ำฝนดุนั่นเอง แต่หน้ามันนี่ไม่ได้ดูว่าจะสำนึกอะไรตรงไหนเลย ให้ตายสิ ผมไม่ชอบหน้าเจ้าหมอนี่เลยจริงๆ ไม่เอา อย่าไปสนใจมัน อย่าหันไปมองมัน ผมบอกตัวเองอย่างนั้นแล้วก็ทำแบบนั้น นั่นแหละจึงทำให้ผมร้องเพลงต่อได้จนจบเพลง ท่ามกลางความโล่งใจของตัวเองและคนอื่นๆ จบได้เสียทีก็ดี เฮ้อ...หรือว่าผมควรจะไปเรียนร้องเพลงให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย เผื่อจะได้เป็นนักร้องกับเขาบ้าง เป็นช่องทางใหม่ในการหารายได้

------------------------------------------------------------------------------------------

"ร้องเพลงเพราะพิลึกเลยนะครับ"

เสียงจากคนข้างๆ ทำให้ผมหยุดชะงักและหันไปมอง นายขนมนั่นเอง ดันมาเข้าห้องน้ำเวลาเดียวกับผมเสียด้วย ดูมันยิ้มเยาะผมสิ หงุดหงิดชะมัดเลยมาเจอนายคนนี้ ผมหันกลับมาสนใจกับการล้างมือของตัวเองต่อ ไม่ได้พูดอะไร เช็ดมือแห้งแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่แปลกที่เจ้าหมอนั่นเดินตามผมมา

"เมื่อเช้าอ่านข่าวในเน็ต เขาว่าคุณเป็นพระเอกตกอับเหรอ เห็นว่าเล่นไปตั้งหลายเรื่องแล้วก็ไม่ได้ออกอากาศ"

นั่น...มันตามมาเยาะเย้ยผมนี่เอง จะเอายังไงกับผมกันแน่นายคนนี้ ผมไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาถึงได้ตามมาราวีผมไม่เลิกแบบนี้

ผมหยุดเดินแล้วหันไปมองด้วยสายตาที่บอกให้รู้ว่าผมไม่พอใจ แต่ดูเขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย

"เรื่องของผม" ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าอำมหิตที่สุด

"ทำอาชีพนี้มันก็แบบนี้แหละคุณ ต้องทำใจ บางทีนะ...เราเส้นไม่ใหญ่เท่าเขาก็สู้เขาไม่ได้หรอก"

เขาเล่นทำเอาผมมึนอีกรอบ นี่ตกลงเขากำลังปลอบใจผมหรือกำลังเยาะเย้ยผมกันแน่ ผมเลยได้แต่เงียบ ทำตัวไม่ถูกจริงๆ กับพฤติกรรมแปลกๆ ของนายคนนี้

"เออนี่...ผมขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมล่ะ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน"

อะไรนะ! ผมงงเป็นไก่ตาแตกอีกรอบ ทำท่ากวนประสาทผมมาเกือบทั้งวันยังมีหน้ามาขอเบอร์ผมอีกเหรอ มาไม้ไหนของเขาล่ะเนี่ย

"อะไรนะครับ คุณจะขอเบอร์ผมไปทำไม คุณก็ไม่ใช่แฟนคลับผมซะหน่อย จะมาติดต่อผมเรื่องอะไรเหรอครับ ผมไม่ให้หรอก"

"อ้าว...ก็เผื่อว่าคุณอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากผมไง รู้จักกันไว้ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ครับ"

ดูมันพูดเข้า ผมเนี่ยนะจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากมัน แค่รู้จักวันแรกผมยังอยากจะตั๊นหน้ามันสักร้อยรอบ ไม่ได้คิดอยากจะเจออีกเลย ให้ตายเถอะ

"อ๋อ...ผมคงไม่มีอะไระจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากคุณหรอกครับ ชีวิตผมก็ดีอยู่แล้ว ถึงละครจะถูกดองบ้าง แต่ผมก็มีงานเรื่อยๆ ไม่ได้ลำบากอะไร ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์เป็นห่วง" ผมตอบด้วยน้ำเสียงหยิ่งๆ แล้วก็เดินหนี

"เดี๋ยวผมไปขอจากน้ำฝนก็ได้ เขาก็น่าจะมีเบอร์คุณอยู่หรอก"

เสียงหมอนั่นพูดตามมา แต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อยากจะโทรมาก็โทรมาเลย ถ้าผมไม่พูดด้วยซะอย่างก็ไม่เห็นต้องไปกังวลอะไร ผมก็มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วว่าจะคุยหรือไม่คุยกับใครก็ได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------

"สวัสดีครับคุณเล็ก จำผมได้ไหมครับ ที่เจอกับคุณเมื่อสองวันก่อนไงครับ"

อยู่ๆ ก็มีไลน์จากคนที่ผมไม่รู้จักดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะขึ้นไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าชนิดหนึ่งอยู่ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใคร ตอนนั้นจำไม่ได้จริงๆ ครับ อีกอย่าง คนที่แอ๊ดผมมาก็มีเยอะ จนบางทีผมไม่ได้ระวัง เผลอรับแอ๊ดเขาไปทั่วเหมือนกัน

"ใครครับ จำไม่ได้จริงๆ" ผมตอบกลับไปขณะนั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมให้

"คุณเล็กน่าจะจำผมได้แม่นนะ ผมกวนประสาทคุณจะตาย"

เท่านั้นแหละครับ ผมก็นึกออกทันที นายขนมนั่นเอง ใช่...จำได้แม่นเลยล่ะ แม่นมากๆ ด้วย ผมเพ่งดูรูปในมือถือดีๆ ก็เห็นว่าเป็นนายขนมจริงๆ นี่ผมไปรับแอ๊ดมันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วนี่จะมากวนประสาทอะไรผมอีก

"อ๋อ...จำได้ครับ แต่ตอนนี้ผมไม่สะดวกคุย ไว้คุยทีหลังนะครับ" ผมรีบตัดบทไป

แต่เจ้าหมอนั่นก็ยังส่งไลน์ตอบกลับมาอีกสองสามครั้งแล้วก็เงียบไป ด้วยความอยากรู้ว่าเขาคุยอะไรมา ก่อนขึ้นไปบนเวทีผมก็เลยแอบเปิดอ่านซะหน่อย

"ครับ ไม่เป็นไรครับ ไว้สะดวกค่อยคุย"

"ขอโทษนะครับที่วันนั้นทำตัวไม่ค่อยน่ารัก พอดีผมหงุดหงิดอะไรบางอย่าง อย่าถือสากันนะครับ"

"ยังไงก็สู้ๆ นะครับ งานทุกอย่างมีปัญหาเหมือนกันหมด ทุกปัญหามีทางออกสำหรับคนสำเร็จ แต่คนที่ไม่สำเร็จ ทุกอย่างเป็นปัญหาครับ"

แน่ะ...พูดอะไรเข้าท่าก็เป็นเหมือนกันแฮะ ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่ยังรู้จักขอโทษ นึกว่าจะไม่รู้ตัวเสียอีกว่าทำอะไรลงไป

ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงเมื่อพิธีกรบนเวทีประกาศเรียกชื่อผม ช่วงนี้มีงานเข้ามาค่อนข้างเยอะ หลังจากที่ละครเรื่องหนึ่งที่ผมแสดงไว้นานแล้วออกอากาศไปก็ดูเหมือนว่าจะช่วยให้กระแสของผมกลับมาอีกครั้ง ผมเข้าวงการมาหลายปีแล้วล่ะ แต่ที่ผ่านมายังไม่ค่อยรุ่งเท่าไรนัก ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในสื่อบ้าง มีคนพอรู้จักบ้าง มีงานเข้ามาบ้าง แต่ละครที่ผมเล่นไว้หลายเรื่องก็โดนดองเกือบจะทุกเรื่อง มีเรื่องที่เพิ่งจบไปนี่แหละที่พ้นจากการถูกดองเก็บ งานก็เลยมีเข้ามาเยอะในช่วงนี้ ผมต้องทำงานหนักมากทีเดียว ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่บ้านเท่าไรนัก แต่ก็สนุกดีนะครับ ในช่วงที่เรายังอายุน้อยอยู่ ยังมีแรงอยู่ ก็ต้องรีบกอบโกยก่อนที่ช่วงนี้จะหมดไป มีงานก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ

เชื่อไหมครับว่า นายขนมไลน์มาหาผมทุกวันเลย นี่ก็ปาเข้าไปวันที่ห้าแล้วที่เขายังคงไลน์มาคุยกับผมเป็นประจำสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่คุยกัน เขาจะมีคำพูดหลายๆ คำพูดที่ทำให้ผมต้องฉุกคิดเสมอ เช่น

"ตอนวัยรุ่น เรามีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน พอทำงาน เรามีแรง มีเงิน แต่ไม่มีเวลา พอเราแก่ตัวลง เรามีเวลา มีเงิน แต่ไม่มีแรง แล้วเราจะไปใช้ชีวิตตอนไหนกัน"

อืม...ก็จริงของเขา ทุกวันนี้ผมก็ไม่มีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นเลย ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว แฟนก็ยังไม่มีกับเขาเพราะไม่มีเวลาไปหา เฮ้อ...

"งานที่มั่นคงเขาไม่ได้วัดกันตอนที่ทำหรอกครับ แต่เขาวัดกันตอนที่หยุดทำแล้วเรายังเหลืออะไรต่างหาก"

อืม...ก็ถูกอีก เพราะงานที่ผมทำ หยุดทำแล้วก็ไม่มีรายได้หรอก ยังไงก็ไม่มั่นคง มีทางเดียวก็คือ กอบโกยให้ได้มากที่สุดในช่วงที่ยังมีชื่อเสียงอยู่ แต่บางที ได้มามากก็ใช้ไปมากเหมือนกัน

"สามสิ่งที่รอไม่ได้ในชีวิตก็มี สุขภาพ การตอบแทนและความสำเร็จ" ก็ประมาณว่า เราจะผลัดการดูแลสุขภาพไว้หลังจากที่เราสำเร็จแล้วไม่ได้ สุขภาพต้องดูแลตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ใช่ทีหลัง ถ้าเรารอ มันอาจจะสายเกินไป การตอบแทนก็รอไม่ได้ วันนี้เราอายุเท่านี้ อีกสิบปีเราก็อาจจะไม่แก่มาก แต่พ่อกับแม่อาจจะรอเราไม่ไหว ต้องรีบตอบแทนให้เร็วที่สุด ส่วนความสำเร็จ จะทำให้เรามีมากขึ้น เราจะดูแลสุขภาพและตอบแทนคนที่มีบุญคุณกับเราได้มากขึ้น ดูแลคนอื่นๆ ได้มากขึ้น

อืม...ก็จริงของเขานะ ทุกวันนี้ผมทำงานหนัก ก็พอดูแลพ่อแม่ได้บ้าง แต่ให้ได้แต่เงิน ไม่ค่อยมีเวลาให้ สุขภาพก็ไม่ค่อยได้ดูแล ความสำเร็จก็ยังไม่มาก จะดูแลตัวเองก็ยังแทบจะไม่รอดเลย ก็ดูแลคนอื่นๆ ได้ลำบากอยู่

เอ...เขาไปเอาความคิดดีๆ แบบนี้มาจากไหนกันนะ ตอนนั้นผมสงสัยมากเลย เห็นท่าทางกวนประสาทๆ แบบนั้นไม่น่าจะมีความคิดดีๆ แบบนี้ได้

แต่ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ครับ

"ผมอยากเจอคุณเล็กครับ มีวันว่างๆ ช่วงนี้ไหมครับ มากินข้าวด้วยกัน"

เอ...นายหมอนี่คิดอะไรกับผมกันแน่ รู้จักกันก็ครั้งเดียว ไม่ได้ประทับใจอะไรด้วย ทำไมถึงคุยกับผมได้ทุกวัน ทำไมถึงอยากชวนผมไปกินข้าวด้วย แปลกมาก เขาเป็นเกย์แล้วชอบผมหรือเปล่า... แต่หน้าตาท่าทางก็ไม่น่าใช่นะ หรือว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับผม แต่ก็กวนประสาทซะขนาดนั้น

โอ๊ย...นี่เขาชวนผมไปกินข้าวด้วยทำไมล่ะเนี่ย ผมมีว่างตอนเย็นๆ อยู่วันหนึ่งพอดี แต่ไม่รู้จะตอบตกลงดีไหม ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรเขาถึงอยากเจอผม อยากชวนผมไปกินข้าวด้วย เอาไงดี....


TO BE CONTINUED

-----------------------------------------------------------------
ป.ล.
จะอัปเดตให้สัปดาห์ละ 1-2 ตอนนะครับ
บางตอนอาจจะเจาะลึกเข้าไปถึงวิธีการทำงานแบบนี้เพราะผมอยากให้เรารู้ลึกมากขึ้น มากกว่าแค่รู้เผินๆ
บางคนอาจจะรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แบบที่หลายคนรู้จัก ใช่ครับ.......
ไม่ใช่แบบที่เราส่วนมากเคยรู้จักแน่นอนครับ ถ้าเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้วก็ไม่น่าสนใจใช่ไหมครับ
มาเจาะลึกและตีแผ่อาชีพนี้กันครับ!!!

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.