We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Subject: "มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"     Previous Topic | Next Topic
Printer-friendly copy     Email this topic to a friend    
Conferences ThE LoveR Topic #276509
Reading Topic #276509
ทาทา ยัง
Guest

"มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
 
16-May-25, 04:00 AM (SE Asia Standard Time)
 
   วัฒนธรรมและลักษณะของหนุ่ม "Redneck" ในชนบททางใต้ของอเมริกา
ลักษณะเฉพาะ
ลักษณะทางกายภาพและการแต่งกาย:

มักสวมหมวกแก๊ปหรือหมวกคาวบอย (โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกี่ยวกับการล่าสัตว์หรือรถบรรทุก)
นิยมสวมเสื้อยืด เสื้อลายสก๊อต เสื้อแจ็คเก็ตแบบคาร์ฮาร์ท
กางเกงยีนส์หรือกางเกงทำงาน บางครั้งสวมกางเกงลายพรางสำหรับล่าสัตว์
รองเท้าบู๊ทแบบทำงานหรือรองเท้าบู๊ทคาวบอย
บางคนไว้หนวดเครา

ยานพาหนะและอุปกรณ์:

รถกระบะยกสูง (lifted trucks) มักมีสติกเกอร์ที่แสดงความเป็นตัวตน
รถ ATV (All-Terrain Vehicles) หรือรถ UTV สำหรับขับในพื้นที่ขรุขระ
อาวุธปืนสำหรับล่าสัตว์หรือกีฬายิงปืน
อุปกรณ์ตกปลาและล่าสัตว์

วัฒนธรรมและความสนใจ:

ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง: ล่าสัตว์ ตกปลา แคมป์ปิ้ง
นิยมเพลงคันทรี เพลงเซาเทิร์นร็อค
สนใจมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะ NASCAR
มีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นและรากเหง้าชนบท
มักมีความผูกพันกับครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น

อาชีพที่พบบ่อย
งานที่ใช้แรงงานและทักษะมือ:

งานก่อสร้าง: ช่างไม้ ช่างปูน คนงานก่อสร้าง
งานช่าง: ช่างยนต์ ช่างเชื่อม ช่างไฟฟ้า ช่างประปา
อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ: พนักงานแท่นขุดเจาะ ช่างเทคนิคด้านน้ำมัน
ป่าไม้และการแปรรูปไม้: คนตัดไม้ คนงานโรงเลื่อย
เกษตรกรรมและปศุสัตว์: คนงานฟาร์ม คนขับรถแทรกเตอร์ คนเลี้ยงวัว

การขนส่งและโลจิสติกส์:

คนขับรถบรรทุก: ทั้งระยะไกลและในท้องถิ่น
ช่างซ่อมบำรุงยานพาหนะขนาดใหญ่
พนักงานคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า

บริการและอื่นๆ:

พนักงานดับเพลิงและกู้ภัย (มักเป็นอาสาสมัครในชุมชนเล็กๆ)
ผู้ช่วยนายอำเภอหรือตำรวจในพื้นที่ชนบท
เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก: อู่ซ่อมรถ ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านอุปกรณ์ล่าสัตว์และตกปลา
งานในโรงงานแปรรูปอาหาร: โดยเฉพาะโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์

ข้อสังเกต
คำว่า "redneck" มีประวัติที่ซับซ้อน ในอดีตมีความหมายในเชิงดูหมิ่น แต่ปัจจุบันหลายคนในวัฒนธรรมชนบททางใต้ได้นำคำนี้มาใช้เพื่อแสดงความภาคภูมิใจในรากเหง้าและวิถีชีวิตแบบชนบท ภาพเหมารวมเกี่ยวกับ "redneck" มักไม่สะท้อนความหลากหลายที่แท้จริงของผู้คนในชนบททางใต้ ซึ่งมีความแตกต่างทั้งในด้านการศึกษา รายได้ ทัศนคติ และค่านิยม
จาก claude.ai

มีคนหล่อๆเยอะเลย และมักมีลักษณะมาดแมน หุ่นดี น่าเอาดีค่ะ มีลักษณะดิบเถื่อนแบบบ้านนอก

กูได้ทำนิยายเอากับหนุ่ม red neck ไว้ด้วยค่ะ ช่วยปลุกเร้าจินตนาการที่ได้เอากับหนุ่ม red neck
ณ ชนบทอันเงียบสงบทางใต้ของอเมริกา... แซมได้เดินทางมาเยือนเพื่อพักผ่อนจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่... ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีและอากาศที่สดใส... เขาได้พบกับชายหนุ่มที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น... ชื่อของเขาคือ "เบร็ตต์"

เบร็ตต์เป็นหนุ่ม "red neck" อย่างแท้จริง... รูปร่างสูงใหญ่... กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ จากการทำงานในไร่... สวมกางเกงยีนส์ฟิตเปรี๊ยะที่เผยให้เห็นเรียวขาที่แข็งแรง... ใบหน้าคมสันหล่อเหลา... ดวงตาสีฟ้าเข้มที่แฝงไปด้วยความซื่อตรงและเสน่ห์แบบดิบๆ

แซมได้พบกับเบร็ตต์ในร้านอาหารเล็กๆ ริมทาง
แซมเดินเข้าไปด้วยมาดของผู้มาเยือนจากต่างถิ่น... สายตาของเขาเหลือบไปเห็นเบร็ตต์ที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่มุมหนึ่ง... รูปร่างกำยำและใบหน้าหล่อเหลาของเบร็ตต์ดึงดูดสายตาของแซมในทันที

แซมเดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

แซม: "สวัสดีครับ... ผมเพิ่งมาแถวนี้... คุณดูเหมือนคนท้องถิ่น... พอจะแนะนำอะไรน่าสนใจได้บ้างไหมครับ?"

เบร็ตต์เงยหน้าขึ้นมอง... ดวงตาสีฟ้าเข้มจับจ้องแซมด้วยความสงสัยเล็กน้อย

เบร็ตต์: "สวัสดีครับ... ผมชื่อเบร็ตต์... แถวนี้ก็... เงียบๆ ไม่มีอะไรพิเศษเท่าไหร่หรอกครับ"

แซม: "อืม... ผมกำลังมองหาสถานที่เงียบๆ พักผ่อนน่ะครับ... คุณดูเหมือนเป็นคนแข็งแรง... ทำงานอะไรเหรอครับ?"

เบร็ตต์: "ผมทำงานในไร่ครับ... ยกของหนักๆ บ้าง" เบร็ตต์ตอบพลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ

แซม: (ยิ้มเล็กน้อย) "น่าสนใจดีนะครับ... เอ่อ... ผมมีเรื่องอยากจะชวนคุณสักหน่อย... มันอาจจะฟังดูแปลกๆ นะครับ"

เบร็ตต์เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

เบร็ตต์: "เรื่องอะไรเหรอครับ?"

แซม: (ลดเสียงลงเล็กน้อย) "คือ... ผมเหงาๆ หน่อย... แล้วก็... ผมอยากจะขอให้คุณช่วยปรนนิบัติผม... เรื่องทางเพศน่ะครับ"

เบร็ตต์ถึงกับชะงัก... วางแก้วกาแฟลง... มองแซมด้วยความตกใจและไม่พอใจเล็กน้อย

เบร็ตต์: "หา? ผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ... คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไง?"

แซม: (รีบพูดอย่างนุ่มนวล) "ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะครับ... ผมแค่... ชื่นชมในตัวคุณ... และผมยินดีที่จะจ่ายให้คุณอย่างงาม... สำหรับเวลาของคุณ" แซมหยิบบัตรเงินสดออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะ

เบร็ตต์มองบัตรเงินสดในมือแซม... ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เบร็ตต์: "ผม... ผมไม่เคย..."

แซม: (เลื่อนบัตรไปใกล้เบร็ตต์มากขึ้น) "ผมให้คุณ... ห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับแค่... ทำให้ผมมีความสุขสักหน่อย... จะไม่มีใครรู้"

เบร็ตต์มองหน้าแซมสลับกับบัตรเงินสดในมือ... ความลังเลปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา

เบร็ตต์: "ห้าร้อยดอลลาร์... แค่..."

แซม: "แค่ใช้ปากของคุณปรนนิบัติผม... เท่านั้นเอง... จะไม่มีอะไรมากกว่านั้น... ถ้าคุณไม่ต้องการ"

เบร็ตต์เงียบไปครู่หนึ่ง... มองสำรวจแซมตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า... ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

เบร็ตต์: "...ตกลง... แต่แค่ครั้งเดียวนะครับ"

แซม: (ยิ้มอย่างพอใจ) "แน่นอนครับ... ขอบคุณมากนะ เบร็ตต์"

จากนั้นแซมก็พาเบร็ตต์ไปยังบ้านพักที่เขาเช่าไว้... เริ่มต้นค่ำคืนแห่งการพบปะที่แปลกประหลาด... ด้วยเงินตราและการยอมจำนน
เมื่อมาถึงบ้านพักที่แซมเช่าไว้... บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว... แสงไฟสีส้มนวลจากโคมไฟสร้างความรู้สึกอบอุ่น

เบร็ตต์ยังคงดูเกร็งๆ เล็กน้อย... มองสำรวจห้องพักอย่างไม่คุ้นเคย

แซม: "เชิญนั่งก่อนสิ เบร็ตต์... ไม่ต้องเกร็งนะ" แซมผายมือไปยังโซฟา

เบร็ตต์นั่งลงบนโซฟาอย่างระมัดระวัง... สายตายังคงจับจ้องไปรอบๆ ห้อง

เบร็ตต์: "ที่นี่... สวยดีนะครับ... ไม่เหมือนบ้านผมเลย"

แซม: "ขอบคุณครับ... ผมชอบความเงียบสงบแบบนี้... ว่าแต่... เรื่องของเราเมื่อกี้..." แซมเว้นจังหวะเล็กน้อย มองไปยังเบร็ตต์

เบร็ตต์สบตากับแซม... แววตาของเขายังคงมีความลังเลอยู่บ้าง

เบร็ตต์: "ครับ... คุณ... ต้องการให้ผมทำอะไรบ้าง?"

แซม: (ลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง) "อย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ... ผมอยากให้คุณใช้ปากของคุณ... ปรนนิบัติผม"

แซมถอดเสื้อเชิ้ตออก... เผยให้เห็นแผงอกที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

เบร็ตต์มองแผ่นอกของแซม... จากนั้นก็เลื่อนสายตาลงต่ำ... ไปยังบริเวณเป้ากางเกง

แซม: (ค่อยๆ ปลดซิปกางเกง) "คุณทำได้ไหม?"

เบร็ตต์กลืนน้ำลายเล็กน้อย... เขามองหน้าแซมอีกครั้ง... ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

เบร็ตต์: "ครับ... ผมจะพยายาม"

แซมยิ้มเล็กน้อย... เขาเดินเข้าไปใกล้เบร็ตต์... แล้วยื่นมือไปลูบศีรษะของชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน

แซม: "ขอบคุณนะ... ไม่ต้องรีบร้อน... ค่อยๆ ทำก็ได้"

จากนั้นแซมก็ถอยหลังไปยืนอยู่ตรงหน้าเบร็ตต์... ปลดกางเกงและกางเกงในออกจนหมด... เผยให้เห็นลำกายที่แข็งขันของเขา

เบร็ตต์มองลำกายนั้นอย่างเปิดเผย... ดวงตาสีฟ้าของเขาดูเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

แซม: "พร้อมไหม?"

เบร็ตต์เงยหน้ามองแซมอีกครั้ง... ในแววตาของเขามีทั้งความประหม่า... ความอยากรู้อยากลอง... และบางที... อาจจะมีความรู้สึกอื่นที่ซ่อนอยู่

เบร็ตต์: "ครับ... ผมพร้อมแล้ว"

เบร็ตต์ค่อยๆ คุกเข่าลงเบื้องหน้าแซม... สายตาจับจ้องอยู่ที่ลำกายนั้น... ก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงมา...
เบร็ตต์ค่อยๆ อ้าปากกว้าง... ดวงตาสีฟ้ายังคงจ้องมองลำกายของแซมอย่างตั้งใจ... ราวกับกำลังทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ชั่วขณะหนึ่ง... มีเพียงความเงียบ... ก่อนที่ริมฝีปากหนาของเบร็ตต์จะค่อยๆ ครอบคลุมส่วนปลายของลำกายแซมอย่างนุ่มนวล... สัมผัสแรกนั้นแผ่วเบา... เหมือนการทักทาย

ความอุ่นชื้นจากภายในปากของเบร็ตต์ค่อยๆ โอบล้อมส่วนหัวของแซม... ความรู้สึกแปลกใหม่แต่ก็กระตุ้นความรู้สึกอย่างประหลาด

เบร็ตต์ยังคงนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง... ราวกับกำลังปรับตัว... ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มแรงดูด... ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย... สร้างความรู้สึกที่intensขึ้น

แซมยืนมองเบร็ตต์... สังเกตปฏิกิริยาของชายหนุ่ม... ใบหน้าที่เงยขึ้นเล็กน้อย... ดวงตาที่ยังคงจ้องมองเขาเป็นระยะ... มันเป็นภาพที่... ทั้งแปลกใหม่และน่าค้นหา

เบร็ตต์เริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อย... ปากของเขาค่อยๆ รูดลงมาตามความยาวของลำกายแซม... สัมผัสที่นุ่มนวลแต่ก็หนักแน่น... ลิ้นของเขาแตะต้องผิวหนังของแซมอย่างแผ่วเบา...

ความรู้สึกเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวแซม... ความแปลกใหม่ของสัมผัสจากชายหนุ่มที่ไม่คุ้นเคย... ผสมผสานกับความปรารถนาที่คุ้นเคย... มันสร้างความรู้สึกที่... น่าสนใจ

เบร็ตต์ยังคงปรนนิบัติแซมต่อไป... ด้วยความตั้งใจและแรงปรารถนาที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น... จากความประหม่าในตอนแรก... ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่จะมอบความสุขให้กับแซม... ตามข้อตกลงที่พวกเขาได้ให้ไว้... และบางที... อาจจะมีอะไรมากกว่านั้นซ่อนอยู่ภายใน...
เบร็ตต์เริ่มต้นด้วยการอมส่วนปลายของลำกายแซมอย่างนุ่มนวล... ราวกับกำลังทำความคุ้นเคยกับรูปร่างและขนาด... จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ขยับปากรูดลงมา... ไม่รีบร้อน... เน้นที่ความรู้สึกที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

เทคนิคของเบร็ตต์อาจจะไม่ได้ซับซ้อนหรือหวือหวา... แต่เขามุ่งเน้นไปที่แรงดูดที่สม่ำเสมอและความอบอุ่นของปาก... ริมฝีปากของเขาประกบแน่น... สร้างแรงดูดที่รู้สึกได้ชัดเจน... ในขณะที่ลิ้นของเขาแตะต้องและเลื้อยโลมไปทั่วบริเวณ... ทั้งด้านบน ด้านล่าง และด้านข้าง

บางครั้งเบร็ตต์จะใช้มือประคองลำกายของแซมเบาๆ... ราวกับเป็นการให้ความมั่นคงและแสดงความตั้งใจ... สายตาของเขามักจะเงยขึ้นมองแซมเป็นระยะ... เหมือนต้องการอ่านปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

สำหรับแซม... สัมผัสจากเบร็ตต์นั้นแตกต่างจากที่เขาเคยได้รับ... มันมีความดิบเถื่อน... ความเป็นธรรมชาติ... ที่ไม่ได้ปรุงแต่ง... แต่ก็แฝงไปด้วยความตั้งใจจริง

ในตอนแรก... แซมรู้สึกถึงความแปลกใหม่... แต่เมื่อเบร็ตต์เริ่มปรนนิบัติเขาอย่างต่อเนื่อง... ความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความพึงพอใจ... ความอุ่นชื้นในปากของเบร็ตต์... แรงดูดที่สม่ำเสมอ... และสัมผัสจากลิ้นที่เลื้อยโลม... เริ่มกระตุ้นความรู้สึกของเขาอย่างช้าๆ แต่ลึกซึ้ง

แซมหลับตาลงเป็นบางครั้ง... ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป... เขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงของเบร็ตต์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า... และความตั้งใจที่ชายหนุ่มมอบให้

เมื่อเบร็ตต์รูดปากลงมาจนสุด... แซมก็รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่สัมผัสบริเวณโคน... จากนั้นเบร็ตต์ก็จะค่อยๆ รูดกลับขึ้นไป... ทำซ้ำเช่นนี้เป็นจังหวะ... แรงดูดอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบางครั้ง... ราวกับเบร็ตต์กำลังเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับความรู้สึกของแซม

แซมเริ่มตอบสนอง... เขาอาจจะเผลอครางออกมาเบาๆ... หรือกำมือแน่น... เป็นสัญญาณว่าความรู้สึกเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น...
หลังจากที่เบร็ตต์รับเบียร์เย็นจากแซมไปจิบ... ความเกร็งในตอนแรกก็เริ่มจางหายไป... พวกเขาเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องทั่วไป... ก่อนที่เบร็ตต์จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เบร็ตต์: "คุณ... สนใจอะไรในตัวผมเหรอครับ?"

แซมมองเบร็ตต์ด้วยรอยยิ้ม... สำรวจรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มอีกครั้ง

แซม: "ก็... หน้าตาคุณหล่อเหลามาก... หุ่นก็กำยำล่ำสั่น... ใส่กางเกงยีนส์ฟิตๆ แบบนั้นยิ่งดูดี... แล้วก็เสื้อเชิ้ตที่แขนเสื้อรั้งขึ้น เผยให้เห็นกล้ามแขนที่แข็งแรงของคุณนั่นด้วย"

เบร็ตต์ฟังด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย... เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับการถูกชมแบบตรงไปตรงมาเช่นนี้

เบร็ตต์: "อ๋อ... ผมก็... เป็นแบบนี้แหละครับ... ทำงานหนักก็เลยตัวใหญ่หน่อย"

จากนั้นเบร็ตต์ก็เล่าถึงชีวิตของเขา...

เบร็ตต์: "ผมทำงานรับจ้างรายวันน่ะครับ... ส่วนใหญ่ก็เป็นงานในไร่... ยกของหนักๆ... ได้เงินก็พอเลี้ยงตัวเองไปวันๆ... ไม่เคยได้เงินเยอะขนาดห้าร้อยดอลลาร์มาก่อนเลย... แถมยังเป็นงานสบายๆ... แค่... ใช้ปากให้คุณ..." เบร็ตต์พูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเจือไปด้วยความไม่เชื่อเล็กน้อย

แซมพยักหน้าอย่างเห็นใจ

แซม: "ชีวิตมันก็แบบนี้แหละ... บางทีเราก็ต้องเจอกับโอกาสที่ไม่คาดคิด... คุณทำได้ดีมากนะเบร็ตต์... ผมดีใจที่คุณยอม"

เบร็ตต์มองแซมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป... จากความประหลาดใจกลายเป็นความรู้สึกขอบคุณเล็กน้อย

เบร็ตต์: "ขอบคุณคุณเหมือนกันนะครับ..."

บทสนทนาไหลลื่นไปเรื่อยๆ... แซมได้รู้เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของเบร็ตต์มากขึ้น... ส่วนเบร็ตต์ก็เริ่มเปิดใจคุยกับแซมอย่างเป็นกันเองมากขึ้น... ราวกับกำแพงที่กั้นขวางในตอนแรกค่อยๆ พังทลายลง
หลังจากที่แซมได้สัมผัสกับเบร็ตต์... หนุ่ม "red neck" สุดหล่อล่ำแห่งชนบททางใต้... เขาก็เริ่มติดใจในความมาดแมน... ความหล่อเหลา... ความกำยำ... และกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์ของหนุ่มอเมริกันในชนบท

ความดิบเถื่อนแต่ก็แฝงไปด้วยความจริงใจ... ความแข็งแรงที่มาพร้อมกับความอ่อนโยน... มันเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างจากหนุ่มๆ ที่เขาเคยเจอ

แซมเริ่มมองหาหนุ่ม "red neck" คนอื่นๆ... ในบาร์ท้องถิ่น... ในร้านอาหารริมทาง... หรือแม้แต่ในไร่ที่พวกเขาทำงานอยู่... เขาพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอทางการเงิน... เพื่อแลกกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น

เขาได้พบกับ "เคลย์"... หนุ่มร่างสูงใหญ่... กล้ามเนื้อแน่นจากการทำงานในฟาร์มปศุสัตว์... ใบหน้าคมเข้ม... ดวงตาสีเขียวที่แฝงไปด้วยความขี้เล่น
แซมได้พบกับเคลย์ในบาร์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มปศุสัตว์ที่เคลย์ทำงานอยู่... บรรยากาศในบาร์ค่อนข้างครึกครื้น... มีเสียงเพลงคันทรีคลอเบาๆ และกลุ่มคนท้องถิ่นกำลังนั่งดื่มเบียร์กัน

เคลย์นั่งอยู่คนเดียวที่เคาน์เตอร์... รูปร่างสูงใหญ่ของเขาโดดเด่น... กล้ามเนื้อแขนที่ล้นออกมาจากแขนเสื้อยืดบ่งบอกถึงความแข็งแรง... ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเคราครึ้มเล็กน้อย... ดวงตาสีเขียวจับจ้องไปยังแก้วเบียร์ตรงหน้า

แซมเดินเข้าไปทักทายเคลย์ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

แซม: "สวัสดีครับ... ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ... ผมเพิ่งมาแถวนี้"

เคลย์เงยหน้าขึ้นมองแซม... แววตาของเขามีความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับด้วยความเป็นมิตร

เคลย์: "สวัสดีครับ... ยินดีต้อนรับ... คุณมาจากไหนเหรอครับ?"

แซม: "ผมมาจากเมืองใหญ่ครับ... มาพักผ่อนแถวนี้"

เคลย์: "อ๋อ... แถวนี้อาจจะไม่คึกคักเท่าในเมืองของคุณหรอกนะครับ" เคลย์ยิ้มเล็กน้อย

แซม: "ผมชอบความเงียบสงบแบบนี้นะครับ... ว่าแต่... คุณชื่ออะไรเหรอครับ?"

เคลย์: "ผมชื่อเคลย์ครับ"

แซม: "ผมชื่อแซม... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ เคลย์" แซมยื่นมือไปจับทักทาย

เคลย์จับมือแซมตอบ... สัมผัสจากมือใหญ่และแข็งแรงของเคลย์ทำให้แซมรู้สึกถึงพลัง

แซม: "เคลย์... ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวหน่อย... คุณพอจะมีเวลาสักครู่ไหมครับ?"

เคลย์เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

เคลย์: "เรื่องอะไรเหรอครับ?"

แซม: (กระซิบเบาๆ) "ผมชื่นชอบในรูปร่างของคุณมาก... และผมยินดีที่จะจ่ายเงินให้คุณ... ถ้าคุณจะสละเวลามาปรนนิบัติผมสักหน่อย"

เคลย์ชะงักไปเล็กน้อย... มองหน้าแซมด้วยความประหลาดใจ

เคลย์: "ปรนนิบัติ... แบบไหนเหรอครับ?"

แซม: "แบบที่คุณคิดนั่นแหละ... ผมให้คุณห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับเวลาของคุณ" แซมทำท่าทางเหมือนจะหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋า

เคลย์มองแซมอย่างชั่งใจ... ก่อนจะมองไปรอบๆ บาร์เล็กน้อย

เคลย์: "ผม... ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้ชาย..."

แซม: "มันก็เหมือนงานอย่างหนึ่ง... และคุณจะได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่า... ไม่มีใครต้องรู้"

เคลย์เงียบไปครู่หนึ่ง... ความลังเลปรากฏบนใบหน้าของเขา

เคลย์: "...ตกลงครับ... แต่แค่ครั้งเดียวนะ"

แซม: (ยิ้มอย่างพอใจ) "เยี่ยมเลย เคลย์... ไปที่บ้านพักของผมไหมครับ? มันไม่ไกลจากที่นี่"

เคลย์พยักหน้าเบาๆ... และแล้วการพบกันระหว่างนักธุรกิจจากเมืองใหญ่กับหนุ่มคาวบอยมาดแมนก็เริ่มต้นขึ้น...
แซมพาเคลย์มายังบ้านพักที่เขาเช่าไว้... เป็นกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ... บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว

เมื่อเข้ามาในบ้านพัก... เคลย์มองสำรวจรอบๆ ด้วยความสนใจ... มันแตกต่างจากบ้านพักคนงานในฟาร์มของเขาอย่างสิ้นเชิง

แซม: "เชิญนั่งก่อนสิ เคลย์... คุณอยากดื่มอะไรไหม? ผมมีเบียร์เย็นๆ"

เคลย์พยักหน้าเล็กน้อย... เขายังคงดูเกร็งๆ เล็กน้อย

เคลย์: "ขอบคุณครับ"

แซมหยิบเบียร์มาให้เคลย์... ทั้งสองนั่งลงบนโซฟาที่นุ่มสบาย

แซม: "ทีนี้... เรื่องของเราเมื่อกี้..." แซมเริ่มด้วยรอยยิ้ม

เคลย์มองแซมด้วยความสงสัย... เขายังไม่แน่ใจว่าแซมต้องการอะไรจากเขา

เคลย์: "ครับ... คุณ... ต้องการให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ?"

แซม: (มองเคลย์อย่างชื่นชม) "ผมชื่นชอบในรูปร่างที่แข็งแรงของคุณมาก... กล้ามเนื้อของคุณสวยงามมาก"

เคลย์หน้าแดงเล็กน้อย... เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับการถูกชมเรื่องรูปร่าง

เคลย์: "ขอบคุณครับ... ผมทำงานหนักก็เลยเป็นแบบนี้"

แซม: "นั่นแหละคือเสน่ห์ของคุณ... และผมอยากจะ... ใกล้ชิดคุณมากขึ้น" แซมค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสกล้ามแขนของเคลย์เบาๆ

เคลย์แข็งทื่อไปชั่วขณะ... เขามองมือของแซมด้วยความประหลาดใจ

แซม: "ผมอยากให้คุณปรนนิบัติผม... ด้วยปากของคุณ" แซมพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่ชัดเจน

เคลย์เบิกตากว้างเล็กน้อย... ความเข้าใจฉายชัดบนใบหน้าของเขา

เคลย์: "อ๋อ... แบบนั้นเอง..." น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความประหม่า

แซม: "คุณ... ทำได้ไหม?" แซมมองเข้าไปในดวงตาสีเขียวของเคลย์

เคลย์เงียบไปครู่หนึ่ง... เขาใช้ความคิดอย่างหนัก... ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

เคลย์: "ผม... จะพยายามครับ"

แซมยิ้มอย่างพอใจ... เขารู้ว่าเคลย์อาจจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน... แต่เขาก็เชื่อมั่นในความตั้งใจของชายหนุ่ม

แซม: "ไม่ต้องกังวล... ผมจะนำทางคุณเอง"

แซมค่อยๆ ลุกขึ้นยืน... แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง... เผยให้เห็นแผงอกที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี... สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เคลย์... รอคอยปฏิกิริยาของชายหนุ่ม
เคลย์มองแผ่นอกของแซมด้วยความสนใจ... จากนั้นสายตาของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนลงต่ำ... แซมสังเกตเห็นความตื่นเต้นเล็กๆ ในแววตาของชายหนุ่ม

แซมค่อยๆ ปลดซิปกางเกงของตัวเอง... เผยให้เห็นรูปร่างที่ชัดเจนภายใต้เนื้อผ้า... เคลย์กลืนน้ำลายเล็กน้อย

แซม: "คุณพร้อมไหม เคลย์?"

เคลย์พยักหน้าช้าๆ... เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้าแซมอย่างเงอะงะเล็กน้อย

แซมค่อยๆ ปลดกางเกงและกางเกงในออกจนหมด... ลำกายของเขาปรากฏต่อสายตาของเคลย์อย่างเต็มที่

เคลย์จ้องมองด้วยความสนใจ... เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ใกล้ๆ มาก่อน

แซม: "ไม่ต้องกลัว... แค่ใช้ปากของคุณ... โอบอุ้มมันไว้" แซมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

เคลย์อ้าปากเล็กน้อย... มองลำกายของแซมด้วยความลังเล... ก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงมา

ริมฝีปากหนาของเคลย์สัมผัสกับส่วนปลายของแซมอย่างแผ่วเบา... สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวลและอบอุ่น

เคลย์ค่อยๆ ครอบครองส่วนหัวของแซมด้วยปากของเขา... ความรู้สึกแปลกใหม่แต่ก็กระตุ้นความรู้สึกอย่างประหลาด

เขาอมเบาๆ... ราวกับกำลังสำรวจ... จากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มแรงดูด... ลิ้นของเขาแตะต้องผิวหนังของแซมอย่างไม่ประสาแต่ก็ตั้งใจ

แซมยืนมองเคลย์... สังเกตปฏิกิริยาของชายหนุ่ม... ใบหน้าที่เงยขึ้นเล็กน้อย... ดวงตาสีเขียวที่จ้องมองเขาเป็นระยะ

เคลย์เริ่มเคลื่อนไหว... ปากของเขารูดขึ้นลงอย่างช้าๆ... ท่าทางของเขาดูเก้ๆ กังๆ ในตอนแรก... แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่

แซมรู้สึกถึงความดิบเถื่อนและความไม่ชำนาญ... แต่มันก็มีความจริงใจและความตั้งใจซ่อนอยู่

(เสียงเบาลง)

เมื่อเคลย์เริ่มคุ้นเคย... จังหวะการอมก็เริ่มเร็วขึ้น... แรงดูดหนักแน่นขึ้น... แซมเริ่มหายใจถี่ขึ้น... ความรู้สึกเสียวซ่านค่อยๆ ก่อตัว

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขออกมา... น้ำกามอุ่นๆ พุ่งเข้าไปในปากของเคลย์... ที่ยังคงปรนนิบัติเขาอย่างตั้งใจ

หลังจากนั้น... เคลย์เงยหน้าขึ้นมองแซม... ริมฝีปากของเขาเปียกชื้น... ในแววตาของเขามีความภาคภูมิใจเล็กน้อย

เคลย์: "...ผม... ทำได้ไหม?"

แซม: (ยิ้ม) "ทำได้ดีมาก เคลย์... ขอบคุณนะ"

ค่ำคืนนั้น... แซมได้สัมผัสกับความดิบเถื่อนและความจริงใจของหนุ่ม "red neck"เป็นครั้งที่สอง... และเขาก็รู้ว่า... นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะมองหาประสบการณ์แบบนี้... เสน่ห์ของหนุ่มอเมริกันในชนบท... ได้เริ่มผูกใจของเขาไว้แล้ว...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

 

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic
ทาทา ยัง
Guest

1. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #0
 
16-May-25, 04:42 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมตัดสินใจออกไปเดินป่าในอุทยานแห่งชาติอันกว้างใหญ่ของอเมริกา... เขาต้องการสัมผัสธรรมชาติที่แตกต่าง... และบางที... อาจจะได้พบกับความน่าสนใจใหม่ๆ

ในขณะที่แซมกำลังเดินชมความงามของต้นไม้สูงตระหง่านและสายน้ำใสไหลเย็น... เขาก็ได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ทำให้เขาหยุดชะงัก... ชายคนนั้นกำลังแบกขวานเดินอยู่บนเส้นทาง... รูปร่างกำยำ... ผิวสีแทนจากการตากแดด... กล้ามเนื้อที่แข็งแรงภายใต้เสื้อยืดเก่าๆ... ใบหน้าคมเข้มที่ดูดุดันแต่ก็มีเสน่ห์... ชื่อของเขาคือ "เจค"

เจคดูเหมือนจะเป็นคนทำงานในป่าไม้... แซมรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดด้วยความแมนและความแข็งแรงของเขาตั้งแต่แรกเห็น

แซมตัดสินใจทักทายเจคก่อน

แซม: "สวัสดีครับ... ป่าที่นี่สวยงามมากเลยนะครับ"

เจคหยุดเดิน... หันมามองแซมด้วยแววตาที่ระมัดระวังเล็กน้อย

เจค: "สวัสดีครับ... คุณก็มาเดินป่าเหรอ?" น้ำเสียงของเขาห้าวต่ำ

แซม: "ครับ... ผมมาจากเมืองใหญ่... อยากมาสัมผัสธรรมชาติ" แซมยิ้มอย่างเป็นมิตร

เจค: "ระวังด้วยนะครับ... แถวนี้มีสัตว์ป่าเยอะ"

แซม: "ขอบคุณครับสำหรับคำเตือน... ผมชื่อแซม... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" แซมยื่นมือไปทักทาย

เจคมองมือของแซมครู่หนึ่ง... ก่อนจะวางขวานลงแล้วจับมือทักทายตอบ... สัมผัสจากมือของเจคนั้นหยาบกร้านแต่ก็แข็งแรง

เจค: "ผมชื่อเจค... ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

แซมรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างจากเจค... กลิ่นกายที่ผสมผสานระหว่างเหงื่อและกลิ่นไม้... รูปร่างที่แข็งแรง... ทุกอย่างดูน่าค้นหา

แซม: "เจค... คุณทำงานอยู่ในป่านี้เหรอครับ?"

เจค: "ใช่ครับ... ผมทำงานตัดไม้"

แซม: "น่าสนใจมากเลยนะครับ... ผม... ผมอยากจะขอให้คุณช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหม?"

เจคเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

เจค: "ช่วยอะไรเหรอครับ?"

แซม: (ลดเสียงลงเล็กน้อย) "ผมรู้สึกประทับใจในตัวคุณมาก... และผมยินดีที่จะจ่ายเงินให้คุณ... ถ้าคุณจะสละเวลามาอยู่กับผมสักหน่อย"
เมื่อมาถึงลานกว้างที่เงียบสงบ... แสงแดดส่องลอดผ่านใบไม้ลงมาเป็นจุดๆ... แซมและเจคมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

แซม: "ที่นี่... เหมาะเลย"

เจคพยักหน้า... แววตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แซมอย่างเปิดเผย

แซมเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองช้าๆ... เผยให้เห็นแผงอกที่ขาวเนียน... เจคมองด้วยความสนใจ

แซมถอดเสื้อออกแล้ววางไว้บนพื้น... จากนั้นก็เริ่มปลดเข็มขัด

แซม: "คุณล่ะ เจค?"

เจคมองแซมครู่หนึ่ง... ก่อนจะถอดเสื้อยืดของตัวเองบ้าง... เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและผิวสีแทนจากการทำงานกลางแจ้ง

เมื่อทั้งสองเปลือยท่อนบน... แซมก็เข้าไปกอดเจคอย่างแนบแน่น... สัมผัสถึงความแข็งแรงและกลิ่นกายที่เป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่ม... กลิ่นเหงื่อ... กลิ่นดิน... และกลิ่นไม้

เจคกอดตอบแซม... สัมผัสจากอ้อมแขนที่แข็งแรงทำให้แซมรู้สึกถึงความปลอดภัยและความเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน

ทั้งสองจูบกันอีกครั้ง... จูบนี้เร่าร้อนและลึกซึ้งกว่าครั้งแรก... ราวกับความปรารถนาที่ถูกเก็บไว้ได้ปะทุออกมา

แซมค่อยๆ เลื่อนมือลงไปสัมผัสบริเวณเป้ากางเกงของเจค... สัมผัสถึงความแข็งขันที่อยู่ภายใน... เจคครางต่ำๆ ในลำคอ

แซม: "ผมอยากให้คุณปรนนิบัติผม... ที่นี่... ในป่านี้"

เจคมองแซมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา... เขาพยักหน้าเบาๆ

เจคคุกเข่าลงเบื้องหน้าแซม... สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ลำกายของแซม... ที่บัดนี้แข็งขันเต็มที่

เจคค่อยๆ โน้มตัวลงมา... ริมฝีปากของเขาครอบครองส่วนปลายของแซมอย่างนุ่มนวล... จากนั้นก็เริ่มดูดดึงอย่างช้าๆ แต่ตั้งใจ

แซมหลับตาลง... สัมผัสถึงความดิบเถื่อนแต่ก็เต็มไปด้วยความเสน่หาจากเจค... มือใหญ่ของเจคลูบไล้ต้นขาของแซมเบาๆ

การปรนนิบัติของเจคอาจจะไม่ได้มีเทคนิคที่ซับซ้อน... แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความตั้งใจ... แซมรู้สึกถึงความแตกต่าง... ความเป็นธรรมชาติ... ที่ไม่ได้ปรุงแต่ง

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขออกมา... น้ำกามอุ่นๆ พุ่งเข้าไปในปากของเจค... ที่ยังคงปรนนิบัติเขาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้น... ทั้งสองนอนเคียงข้างกันบนพื้นหญ้า... แสงแดดยามบ่ายส่องลอดใบไม้ลงมา... ความเงียบสงบของป่าโอบล้อมพวกเขาไว้

มันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง... ดิบ... เป็นธรรมชาติ... และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แท้จริง... แซมรู้ว่าเขาจะไม่มีวันลืมความรู้สึกของการปลดปล่อยความปรารถนากับหนุ่มตัดไม้สุดหล่อล่ำในป่าแห่งนี้...
หลังจากจากที่ความสุขสมได้จางหายไป… แซมและเจคนนอนเคียงข้างกันบนผืนหญ้า… ความเงียบสงบของป่าโอบล้อมพวกเขาไว้… แสงแดดยามบ่ายส่องลอดใบไม้ลงมาเป็นจุดๆ

แซมพลิกตัวหันไปเผชิญหน้ากับเจค… เขามองใบหน้าคมเข้มที่ยังเปื้อนเหงื่อของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกเสน่หา… จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนลงไปยังแผงอกที่กว้าง… กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจากการทำงานหนักนั้นช่างเย้ายวนเกินห้ามใจ แซมค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าอกของเจค… ลูบไล้ไปตามมัดกล้ามที่แข็งแรง… ผิวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อมีกลิ่นกายแบบผู้ชายที่เร้าอารมณ์อย่างน่าประหลาด แซมเปิดกระเป๋าเป้… หยิบขวดน้ำมันหอมออกมา… กลิ่นหอมอ่อนๆลอยคลุ้งไปในอากาศ
แซม:”เจค ผมอยากลองอะไรใหม่ๆกับคุณ”แซมพูดด้วยน้ำเสียงที่กระซิบแผ่วเบา
เจคมองแซมด้วยความสงสัย คิ้วขมวดเล็กน้อย
แซม:”ผมอยากเย็ดกับหน้าอกของคุณ”
เจคเบิกตากว้างเล็กน้อย ความประหลาดใจฉายชัดบนใบหน้าของเขา
เจค:”เย็ดกับหน้าอกเหรอครับ ผมไม่เคย…”
แซม:”ผมรู้ มันอาจจะแปลกสำหรับคุณ แต่ผมรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นมาก ผมจะจ่ายให้คุณอีก 500 ดอลลาร์… คุณสนใจไหม?”
เจคมองหน้าแซม แล้วก็มองไปยังขวดน้ำมันหอมในมือของแซม ความลังเลปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
เจค:”มัน… มันจะรู้สึกยังไงเหรอครับ?”
แซม:”ผมจะทาน้ำมันให้ มันจะลื่น แล้วผมก็จะถูไถไปกับหน้าอกของคุณ คุณจะลองไหม?”
เจคเงียบไปครู่หนึ่ง เขาใช้ความคิดอย่างหนักก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
เจค:”ตกลงครับ… ลองดูก็ได้”
แซมยิ้มอย่างพอใจ เขาทาน้ำมันหอมบนมือ แล้วลูบไล้ไปทั่วแผงอกที่แข็งแรงของเจค กลิ่นหอมอ่อนๆผสมกับกลิ่นเหงื่อของเจค ยิ่วกระตุ้นความรู้สึก

จากนั้นแซมก็ขยับตัว ขึ้นไปคร่อมบนตัวของเจค แล้วทาบควยของเขาบนหน้าอกของเจค บีบกล้ามอกทั้งสองข้างให้ชิดเข้าหากัน เริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ สัมผัสของผิวหนังต่อผิวหนัง และความลื่นของน้ำมัน สร้างความรู้สึกที่เร้าอารมณ์

เจคหายใจถี่ขึ้น เขามองแซมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งแปลกใจ ตื่นเต้น และความรู้สึกทางเพศที่ค่อยๆก่อตัว

แซมเพิ่มจังหวะการเย็ด ภาพของกล้ามเนื้อที่แข็งแรงใต้ตัวเขา กล้ามอกแกร่งที่บดเบียดบีบรัดควยเขา กลิ่นกายที่เย้ายวน ทุกอย่างกระตุ้นความปราถนาของเขา

ในที่สุดน้ำกามอุ่นๆทะลักออกมาทั่วแผงอกที่ชุ่มด้วยเหงื่อของเจค ไหลเลอะไปตามมัดกล้ามที่แข็งแรง หลังจากนั้นทั้งสองนอนหอบอยู่บนผืนหญ้า อกหนาล่ำของเจคเปรอะไปด้วยเหงื่อและน้ำรัก ในแววตาของพวกเขามีความพึงพอใจ และความทรงจำพิเศษในป่าแห่งนี้ จะยังคงอยู่กับพวกเขาไปอีกนาน


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

3. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #1
 
16-May-25, 05:14 AM (SE Asia Standard Time)
 
   วันต่อมา... ขณะที่แซมกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักที่เขาเช่าไว้... โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น... ปรากฏว่าเป็นเบร็ตต์... หนุ่ม "red neck" สุดหล่อที่ทำงานในไร่... คนแรกที่แซมได้พบในชนบทแห่งนี้

ถึงแม้เบร็ตต์จะเคยบอกว่าจะยอมปรนนิบัติเขาแค่ครั้งเดียว... การติดต่อกลับมาเองในครั้งนี้... ทำให้แซมรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มต้องการอะไร

แซม: (รับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง) "สวัสดีครับ เบร็ตต์... มีอะไรหรือเปล่า?"

เบร็ตต์: (น้ำเสียงกระอักกระอ่วนเล็กน้อย) "สวัสดีครับคุณแซม... ผม... ผมสบายดีนะครับ... คุณล่ะครับ?"

แซม: "ผมสบายดี ขอบคุณที่ถาม... แล้วมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?" แซมถามตรงๆ

เบร็ตต์เงียบไปครู่หนึ่ง... ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น

เบร็ตต์: "คือ... ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาคุณน่ะครับ... มันค่อนข้าง... ส่วนตัว"

แซม: "บอกผมมาได้เลย เบร็ตต์... ถ้าผมช่วยได้ ผมยินดี"

เบร็ตต์: "คือว่า... ผมมีหนี้สินอยู่ก้อนหนึ่งน่ะครับ... แล้วตอนนี้ผมค่อนข้าง... ร้อนเงิน... ผมคิดว่า... คุณอาจจะ... พอจะช่วยผมได้"

แซมยิ้มเล็กน้อย... เขาเข้าใจสถานการณ์ของเบร็ตต์ทันที

แซม: "คุณต้องการให้ผมช่วยเรื่องเงินใช่ไหม?"

เบร็ตต์: (น้ำเสียงมีความหวัง) "ครับ... ถ้าคุณพอจะ... ผมสัญญาว่าจะคืนให้คุณแน่นอน... ถึงแม้มันอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย"

แซม: "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เบร็ตต์... แต่ผมมีข้อเสนออื่นให้คุณ..."

เบร็ตต์เงียบรอฟังด้วยความสนใจ

แซม: "แทนที่คุณจะคืนเงินให้ผม... ทำไมคุณไม่มาปรนนิบัติผมอีกล่ะ? เหมือนที่เราเคยทำ... ผมยินดีที่จะจ่ายให้คุณ... มากกว่าที่คุณคาดไว้เสียอีก"

เบร็ตต์เงียบไปครู่หนึ่ง... แซมสัมผัสได้ถึงความลังเลของชายหนุ่ม

เบร็ตต์: "ผม... ผมไม่แน่ใจ..."

แซม: "คิดดูสิ เบร็ตต์... คุณจะได้เงินก้อนไปใช้หนี้... แถมยังเป็นงานสบายๆ... ที่คุณก็เคยทำแล้ว... ว่ายังไง?"

เบร็ตต์ถอนหายใจออกมาเบาๆ... แซมรู้ว่าข้อเสนอของเขากำลังมีน้ำหนัก

เบร็ตต์: "...ตกลงครับคุณแซม... ผมจะไปหาคุณ"

แซม: (ยิ้มอย่างพอใจ) "เยี่ยมเลย เบร็ตต์... แล้วเจอกันที่บ้านพักของผมนะครับ”

แซม: "เบร็ตต์... ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณอีกอย่าง"

เบร็ตต์: "ครับคุณแซม... มีอะไรเหรอครับ?"

แซม: "ผม... อยากจะมีผู้ชายหล่อๆ อีกสองคน... มารุมอมให้ผมแบบสามต่อหนึ่ง... คุณพอจะมีเพื่อนชาวไร่... ที่สนใจเรื่องแบบนี้... พามาได้ไหม?"

เบร็ตต์เงียบไปครู่หนึ่ง... เขาใช้ความคิดอย่างหนัก... แววตาของเขาแสดงความลังเลออกมาเล็กน้อย

เบร็ตต์: "เพื่อนชาวไร่ของผม... ส่วนใหญ่ก็... ไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้นะครับคุณแซม..."

แซม: (ยิ้มอย่างมีเลศนัย) "ผมเข้าใจ... แต่ผมเชื่อว่า... ถ้ามีข้อเสนอที่น่าสนใจ... พวกเขาอาจจะสนใจก็ได้... ผมยินดีที่จะจ่ายให้พวกเขาอย่างงาม"

เบร็ตต์ถอนหายใจออกมาเบาๆ

เบร็ตต์: "ผม... พอจะรู้จักอยู่บ้าง... แต่ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะสนใจไหม..."

แซม: "ลองถามพวกเขาดูสิ เบร็ตต์... บอกพวกเขาว่า... มันเป็นงานสบายๆ... ได้เงินดี... และเป็นความต้องการของผม"

เบร็ตต์เงียบไปอีกครั้ง... ราวกับกำลังชั่งใจ

เบร็ตต์: "...ผมจะลองถามพวกเขาดูนะครับ... แต่ผมไม่รับประกันนะว่าพวกเขาจะยอม"

แซม: "ขอบคุณมากนะ เบร็ตต์... แค่คุณลองถามให้ผมก็ดีใจแล้ว"

แซมรู้ว่าการหาหนุ่ม "red neck" ที่เต็มใจทำเรื่องแบบนี้อาจจะไม่ง่ายนัก... แต่เขาก็มีความหวัง... ด้วยความช่วยเหลือของเบร็ตต์... เขาอาจจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง...

เบร็ตต์รับปากแซมว่าจะลองสอบถามเพื่อนๆ ชาวไร่ดู... แม้ในใจเขาจะไม่ได้มั่นใจนักว่าจะมีใครสนใจข้อเสนอที่แปลกประหลาดนี้

เบร็ตต์เดินทางออกไปที่ไร่... เขาก็ได้พูดคุยกับ "คอล" หนุ่มร่างกำยำ ผิวคล้ำแดด ผู้มีรอยยิ้มทะเล้น... และ "รัส" หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาสีฟ้าสดใส ที่มักจะชอบทำอะไรท้าทาย

เบร็ตต์เล่าถึงข้อเสนอของแซมด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเกรงใจ... เขาไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก... เพียงแต่บอกว่ามีเศรษฐีจากเมืองใหญ่ต้องการคนมาช่วย "ทำบางอย่าง" และให้ค่าตอบแทนงาม

คอลเลิกคิ้วด้วยความสงสัย... ส่วนรัสดูจะสนใจในทันที

คอล: "ทำอะไรวะ เบร็ตต์? ถึงกับต้องจ้างด้วยเงินเยอะแยะ?"

รัส: "ว่ามาเลย เบร็ตต์... มีอะไรสนุกๆ ให้ทำเหรอ?"

เบร็ตต์อึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบ

เบร็ตต์: "คือ... เขาอยากให้พวกเรา... ใช้ปาก... ให้เขาน่ะ"

คอลถึงกับหัวเราะออกมา... ส่วนรัสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

คอล: "หา? อมควยให้เศรษฐีเนี่ยนะ? ได้เงินเยอะจริงดิ?"

รัส: "น่าสนใจดีนี่... ไม่เคยลองเหมือนกัน"

เบร็ตต์อธิบายถึงค่าตอบแทนที่แซมเสนอ... ห้าร้อยดอลลาร์ต่อคน... สำหรับการปรนนิบัติหนึ่งครั้ง

ดวงตาของคอลเบิกกว้าง... ส่วนรัสพยักหน้าอย่างครุ่นคิด

คอล: "ห้าร้อยดอลลาร์เลยเหรอวะ? แค่อมอย่างเดียว?"

รัส: "ถ้าได้เงินเยอะขนาดนั้น... ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่หว่า"

ในที่สุด... ทั้งคอลและรัสก็ตกลงที่จะไปพบกับแซม... ด้วยความอยากรู้อยากลองและแรงจูงใจจากเงินจำนวนมาก

เบร็ตต์โทรศัพท์แจ้งข่าวดีให้กับแซม... แซมรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

เมื่อถึงเวลานัดหมาย... เบร็ตต์พาคอลและรัสมาที่บ้านพักของแซม... แซมต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น... เตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์ใหม่ที่กำลังจะมาถึง... การรุมปรนนิบัติจากหนุ่ม "red neck" สามคน...

เมื่อเบร็ตต์พาคอลและรัสมาถึงบ้านพัก... แซมต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร... บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากลอง

คอลเป็นหนุ่มร่างกำยำ ผิวคล้ำแดด... มีรอยยิ้มทะเล้นที่ดูเป็นกันเอง... ส่วนรัสเป็นหนุ่มสูงโปร่ง ดวงตาสีฟ้าสดใส... ท่าทางดูมั่นใจและพร้อมที่จะสนุก

แซม: "ยินดีต้อนรับนะครับทั้งสองคน... ผมแซม... ขอบคุณที่มา"

คอล: (ยิ้มกว้าง) "ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแซม... ผมคอล"

รัส: (พยักหน้า) "ผมรัสครับ"

แซม: "เบร็ตต์คงเล่าให้พวกคุณฟังบ้างแล้วใช่ไหมครับ?"

คอลหัวเราะเบาๆ

คอล: "ก็พอรู้มาบ้างครับ... เรื่องอมๆ อะไรเนี่ย"

รัสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

รัส: "ไม่เคยลองเหมือนกันครับ... น่าสนุกดี"

แซมยิ้มอย่างพอใจ

แซม: "ดีเลยครับ... ผมอยากให้พวกคุณสามคน... รุมปรนนิบัติผม... แบบสามต่อหนึ่ง... เบร็ตต์คงเคยทำให้ผมแล้ว... พวกคุณก็แค่ทำตามที่ถนัด"

คอลและรัสสบตากันเล็กน้อย... ดูเหมือนพวกเขากำลังทำความเข้าใจ

แซม: "ค่าตอบแทนก็ตามที่เบร็ตต์บอก... คนละห้าร้อยดอลลาร์... เป็นยังไงบ้างครับ?"

ดวงตาของคอลและรัสเป็นประกายเล็กน้อย

คอล: "ตกลงครับ... จัดมาเลย"

รัส: "ผมพร้อมเสมอ"

แซมยิ้มอย่างพอใจ... เขารู้ว่าค่ำคืนนี้จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำ

แซม: "งั้น... ตามผมมาเลยครับ..."

แซมนำทั้งสามไปยังห้องนอน... ที่ซึ่งความปรารถนาและความสุขกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...

แซมพาเบร็ตต์ คอล และรัสไปยังห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน แสงไฟสีส้มนวลสร้างบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลายและกระตุ้นความรู้สึก

แซมนั่งลงบนขอบเตียง มองไปยังชายหนุ่มทั้งสามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

แซม: "ตามสบายเลยนะครับ... ไม่ต้องเกรงใจ"

เบร็ตต์เป็นคนแรกที่ขยับตัว เขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว จึงเดินเข้าไปใกล้แซมด้วยท่าทีที่นอบน้อมแต่ก็แฝงไปด้วยความมั่นใจ

คอลและรัสยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองสำรวจแซมด้วยความสนใจและประหม่าเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขา

แซมสังเกตเห็นความลังเลของทั้งสอง จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

แซม: "ไม่ต้องคิดมากนะครับ... ทำตามที่รู้สึก... เหมือนที่เคยทำให้คนรักของคุณ..."

คำพูดของแซมช่วยคลายความกังวลของคอลและรัสลงได้บ้าง พวกเขาเริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้เตียงช้าๆ

เบร็ตต์คุกเข่าลงตรงหน้าแซม มือของเขาลูบไล้ไปตามต้นขาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมกางเกงของแซมอย่างชำนาญ

คอลมองดูเบร็ตต์ด้วยความสนใจ ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกด้านของเตียง รัสทำตามบ้าง พวกเขาทั้งสองคุกเข่าลงข้างๆ เบร็ตต์

เมื่อกางเกงของแซมถูกปลดลง เผยให้เห็นส่วนที่แข็งขันเต็มที่ ชายหนุ่มทั้งสามก็จ้องมองด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน เบร็ตต์มองด้วยความคุ้นเคย คอลมองด้วยความอยากรู้อยากลอง ส่วนรัสแฝงไปด้วยความตื่นเต้น

แซมทอดสายตามองชายหนุ่มทั้งสามอย่างพึงพอใจ

แซม: "เอาล่ะ... ใครจะเริ่มก่อนดี?"

เบร็ตต์เงยหน้าขึ้นมองแซมเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากกับส่วนนั้นอย่างช้าๆ ความรู้สึกอุ่นชื้นและนุ่มนวลทำให้แซมต้องสูดหายใจเข้าลึก

ในขณะที่เบร็ตต์กำลังปรนนิบัติแซมอย่างตั้งใจ คอลและรัสก็มองดูด้วยความสนใจ พวกเขาเริ่มเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่แซมต้องการ

เมื่อเบร็ตต์ผละออกไป คอลก็ไม่รอช้า เขาก้มลงไปดูแลอีกส่วนหนึ่งของแซมอย่างกระตือรือร้น ความรู้สึกแตกต่างจากเบร็ตต์ ทำให้แซมรู้สึกแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น

รัสที่ยังคงประหม่าเล็กน้อย มองดูเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวลงไปปรนนิบัติแซมอีกด้านหนึ่ง

ตอนนี้ แซมกำลังได้รับการปรนนิบัติจากชายหนุ่มทั้งสามพร้อมๆ กัน ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาจนแทบควบคุมไม่ได้ ริมฝีปากที่อุ่นชื้น ลิ้นที่เลื้อยไล้ และมือที่ลูบคลำไปทั่วร่างกาย ทำให้ความปรารถนาของแซมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เสียงครางต่ำๆ ของแซมดังออกมาเป็นระยะๆ บ่งบอกถึงความสุขและความพึงพอใจ ชายหนุ่มทั้งสามรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น และยิ่งตั้งใจปรนนิบัติแซมมากขึ้น

เบร็ตต์ คอล และรัสผลัดกันดูแลแซมอย่างเอาใจใส่ พวกเขาใช้ทั้งริมฝีปาก ลิ้น และมือ เพื่อมอบความสุขให้กับแซมอย่างเต็มที่ บรรยากาศในห้องนอนอบอวลไปด้วยความปรารถนาและความสุขสม

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกสุขสันต์ครอบงำร่างกาย เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ การถูกปรนนิบัติจากหนุ่ม "red neck" สามคนพร้อมๆ กัน เป็นสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการของเขา

เสียงลมหายใจหอบถี่ของชายหนุ่มทั้งสามดังประสานกัน แซมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและความปรารถนาที่พวกเขามีให้

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน... ความสุขและความพึงพอใจค่อยๆ ทวีความเข้มข้นขึ้น... จนในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมา... พร้อมๆ กับเสียงครางกระหึ่มที่ดังออกมาจากลำคอ

ชายหนุ่มทั้งสามยังคงปรนนิบัติแซมต่อไป... จนกระทั่งความตึงเครียดในร่างกายของแซมค่อยๆ คลายลง...

แซมลืมตาขึ้น มองไปยังชายหนุ่มทั้งสามที่ยังคงดูแลเขาอย่างอ่อนโยน... บนใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ และแววตาที่พึงพอใจ

แซมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข... เขารู้สึกขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่แสนพิเศษนี้

แซม: "ขอบคุณมากนะครับทุกคน... มัน... มันยอดเยี่ยมมาก"

เบร็ตต์ คอล และรัสเงยหน้าขึ้นมองแซมด้วยรอยยิ้มเช่นกัน พวกเขารู้สึกดีที่ได้ทำให้แซมมีความสุข

คอล: "ยินดีครับคุณแซม"

รัส: "ถ้าคุณต้องการอีก... บอกพวกเราได้เลยนะครับ"

แซมหัวเราะเบาๆ

แซม: "แน่นอน... ผมจะจำไว้"

บรรยากาศในห้องนอนยังคงอบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและความพึงพอใจ... ค่ำคืนนี้เป็นมากกว่าแค่การแลกเปลี่ยนเงินตรา... มันคือการเชื่อมโยงความปรารถนาและความสุขของทุกคนเข้าด้วยกัน...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
พฤกษาบำบัด
Guest

2. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #0
 
16-May-25, 04:46 AM (SE Asia Standard Time)
 
   หลังจากนั้นหนุ่มอเมริกันก็เต้นชะชะช่า หีหมาไชโย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

4. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #2
 
16-May-25, 05:32 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมยังคงโหยหาเสน่ห์แบบดิบๆ และความแข็งแรงของหนุ่ม "red neck"... คืนหนึ่ง... เขาตัดสินใจไปสำรวจบาร์ท้องถิ่นในชนบท... โดยมีเบร็ตต์เป็นไกด์นำทาง

เมื่อประตูบาร์เปิดออก... แสงสลัวๆ และเสียงเพลงคันทรีดังกระหึ่มก็ต้อนรับพวกเขา... ภายในบาร์เต็มไปด้วยผู้ชายรูปร่างกำยำ... สวมกางเกงยีนส์ฟิตเปรี๊ยะที่เน้นสัดส่วน... บางคนก็มีใบหน้าหล่อเหลาแบบคมเข้ม... บางคนก็มีใบหน้าน่ารักสดใสแบบหนุ่มวัยรุ่น

แซมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับหนุ่มๆ มากมายที่อยู่ในบาร์แห่งนี้... แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร... ใครคือคนที่ใช่สำหรับเขา

แซม: (กระซิบกับเบร็ตต์) "ว้าว... ที่นี่มีแต่หนุ่มหล่อๆ ทั้งนั้นเลย... ผมไม่รู้จะเลือกใครดี"

เบร็ตต์ยิ้มเล็กน้อยในฐานะคนท้องถิ่นที่คุ้นเคยกับผู้คนในบาร์

เบร็ตต์: "ชอบสไตล์ไหนล่ะครับคุณแซม? แบบล่ำๆ บึกบึน... หรือแบบหนุ่มๆ หน้าใส?"

แซมมองสำรวจไปรอบๆ อีกครั้ง... ก่อนจะชี้ไปยังหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่มุมหนึ่ง

แซม: "คนนั้น... รูปร่างเขาสุดยอดเลย... แล้วก็... หนุ่มที่นั่งหัวเราะอยู่ตรงเคาน์เตอร์นั่น... หน้าตาน่ารักดี"

เบร็ตต์มองตามที่แซมชี้... แล้วพยักหน้า

เบร็ตต์: "คนนั้นชื่อ "แฮงค์" ครับ... ทำงานในโรงเลื่อย... ส่วนอีกคนชื่อ "โคลท์"... กำลังเรียนอยู่ในเมือง"

แซม: "คุณพอจะแนะนำให้ผมรู้จักพวกเขาได้ไหม เบร็ตต์?"

เบร็ตต์ยิ้มอย่างเต็มใจ

เบร็ตต์: "แน่นอนครับ... เดี๋ยวผมจะลองคุยกับพวกเขาดู"

เบร็ตต์เดินนำแซมไปยังกลุ่มของแฮงค์ก่อน... เขาแนะนำแซมให้รู้จักในฐานะเพื่อนที่มาจากเมืองใหญ่... แฮงค์ทักทายแซมด้วยความเป็นมิตร... รูปร่างที่สูงใหญ่และกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขาทำให้แซมรู้สึกประทับใจ

จากนั้นเบร็ตต์ก็พาแซมไปที่เคาน์เตอร์... แนะนำให้รู้จักกับโคลท์... หนุ่มน้อยหน้าตาสดใสที่มีรอยยิ้มขี้เล่น... แซมรู้สึกถึงความน่ารักและความอ่อนเยาว์ของเขา

แซมเริ่มพูดคุยกับทั้งแฮงค์และโคลท์... เขาใช้เสน่ห์และคำพูดที่น่าสนใจของเขาในการทำความรู้จักกับหนุ่มๆ ทั้งสอง

(เสียงกระซิบ)

แซมรู้สึกได้ว่าทั้งแฮงค์และโคลท์ต่างก็สนใจในตัวเขาไม่น้อย... บรรยากาศเริ่มเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง

แซม: (กระซิบกับเบร็ตต์) "คุณนี่เป็นพ่อสื่อที่เก่งจริงๆ นะ เบร็ตต์... ผมชักจะเลือกไม่ถูกแล้วสิ"

เบร็ตต์หัวเราะเบาๆ

เบร็ตต์: "ก็ตามที่คุณชอบเลยครับคุณแซม... ผมแค่ช่วยแนะนำ"

ค่ำคืนนั้น... แซมได้ทำความรู้จักกับหนุ่ม "red neck" สุดหล่อล่ำถึงสองคน... และเขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ที่จะได้ใกล้ชิดกับพวกเขา...

แซมได้ชวนแฮงค์กับโคลท์ไปคุยกันต่อที่บ้าน

ขณะที่แฮงค์ลังเลเล็กน้อย... รัสที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาได้โน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่หนักแน่น

รัส: (กระซิบ) "เฮ้ แฮงค์... คิดดูดีๆ สิ... นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เราจะได้อะไรสนุกๆ ทำ... แถมเขายังดูรวยจะตาย... อาจจะมีอะไรมากกว่าแค่คุยก็ได้นะเว้ย"

แฮงค์ชะงักไปเล็กน้อย... เขามองรัสด้วยความสงสัย... ก่อนจะเหลือบมองแซมที่กำลังยืนรออยู่ด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์

ความคิดถึงความเป็นไปได้ที่รัสกระซิบ... บวกกับความสนใจในตัวแซม... ทำให้ความลังเลของแฮงค์จางหายไป

แฮงค์: (หันมายิ้มให้แซม) "...ก็ได้ครับคุณแซม... ไปคุยกันต่อที่บ้านพักของคุณก็ได้"

แซมยิ้มกว้างขึ้นอย่างพอใจ

แซม: "เยี่ยมเลยครับ... งั้นพวกเราไปกันเลย"

แซมนำทางแฮงค์และโคลท์ออกจากบาร์... โดยมีเบร็ตต์เดินตามหลังมา... บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้น

เมื่อถึงบ้านพักของแซม... เขาก็เชิญทั้งสองนั่งลง... พร้อมกับรินเครื่องดื่มเย็นๆ ให้

แซม: "เอาล่ะ... ทีนี้ก็คุยกันได้ตามสบายแล้ว... พวกคุณสนใจอะไรในตัวผมเป็นพิเศษไหม?" แซมถามด้วยรอยยิ้มที่ยั่วยวน

แฮงค์และโคลท์มองหน้ากันเล็กน้อย... ก่อนที่โคลท์จะตอบด้วยความตรงไปตรงมา

โคลท์: "ผมว่าคุณดูใจดี... แล้วก็... ดูมีอะไรน่าค้นหาครับ"

แฮงค์พยักหน้าเห็นด้วย

แฮงค์: "ผมชอบที่คุณมั่นใจ... แล้วก็... รูปร่างคุณดูดีมาก"

แซมยิ้มอย่างพอใจที่ได้รับการตอบรับที่ดี... เขารู้ว่าค่ำคืนนี้... จะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำอีกครั้ง... กับหนุ่ม "red neck" สุดหล่อล่ำถึงสองคน... ที่เบร็ตต์เป็นผู้แนะนำ

แซมมองไปยังแฮงค์และโคลท์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่รอคอย

แซม: "ใครจะเริ่มก่อนดีครับ?"

แฮงค์มองโคลท์... แล้วผายมือให้หนุ่มน้อยก่อน

แฮงค์: "เชิญก่อนเลย โคลท์... นายยังไม่เคยลองนี่"

โคลท์ยิ้มเขินๆ แต่ก็เดินเข้ามาใกล้แซมอย่างกล้าๆ กลัวๆ... เขาคุกเข่าลงตรงหน้าแซม... สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เป้ากางเกงของแซม

แซมค่อยๆ ปลดซิปกางเกงของตัวเอง... เผยให้เห็นลำกายที่เริ่มตื่นตัว

(เสียงกระซิบ)

โคลท์อ้าปากเล็กน้อย... มองลำกายนั้นด้วยความอยากรู้อยากลอง... ก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงมา... ริมฝีปากนุ่มของเขาแตะต้องส่วนปลายของแซมอย่างแผ่วเบา

แซมรู้สึกถึงความอ่อนเยาว์และความนุ่มนวลจากสัมผัสนั้น... มันแตกต่างจากสัมผัสที่แข็งแรงและดิบเถื่อนของเบร็ตต์

ในขณะที่โคลท์กำลังทำความคุ้นเคย... แฮงค์ก็เดินเข้ามาใกล้แซมอีกด้านหนึ่ง

แฮงค์: "ถ้าอย่างนั้น... ผมขอช่วยด้วยคนนะครับ"

แฮงค์คุกเข่าลงอีกด้านหนึ่งของแซม... เขามองแซมด้วยแววตาที่มุ่งมั่น... แล้วก็เริ่มจัดการปลดเข็มขัดของแซม

(เสียงเบาลง)

ตอนนี้... แซมได้รับการปรนนิบัติจากหนุ่ม "red neck" ถึงสองคนพร้อมกัน... โคลท์ใช้ปากนุ่มๆ อมส่วนปลาย... ส่วนแฮงค์กำลังเตรียมพร้อมที่จะมอบความสุขในแบบของเขา

แซมนั่งเอนหลังบนโซฟา... ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา... ความอ่อนเยาว์และความสดใสจากโคลท์... ผสานกับความแข็งแรงและความดิบเถื่อนที่กำลังจะมาถึงจากแฮงค์

โคลท์ค่อยๆ เพิ่มความลึกในการอม... ริมฝีปากของเขารูดลงมาตามความยาวของลำกายแซมอย่างช้าๆ ลิ้นเล็กๆ ก็แตะเลียไปทั่ว สร้างความรู้สึกแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นให้กับแซม เสียงครางเบาๆ ของแซมเริ่มดังขึ้น

ขณะที่โคลท์กำลังตั้งใจปรนนิบัติ แฮงค์ก็จัดการกางเกงของแซมลงจนถึงหัวเข่า เผยให้เห็นช่วงขาที่แข็งแรง แฮงค์เงยหน้ามองแซมด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงไปมอบจูบเร่าร้อนที่ต้นขาด้านใน

สัมผัสที่แตกต่างกันสองแบบในเวลาเดียวกัน ทำให้แซมรู้สึกราวกับถูกกระตุ้นจากสองทิศทาง ความอ่อนโยนจากโคลท์ที่ส่วนบน ผสานกับความเร่าร้อนจากแฮงค์ที่ส่วนล่าง สร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและกระตุ้นอารมณ์อย่างมาก

แซมยกมือขึ้นลูบศีรษะของโคลท์เบาๆ อีกมือหนึ่งวางลงบนไหล่กว้างของแฮงค์ เขามองชายหนุ่มทั้งสองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ

แฮงค์ค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากขึ้นมาตามต้นขา จนมาหยุดอยู่ที่หน้าท้องของแซม เขาสูดดมกลิ่นกายของแซมอย่างชื่นชม ก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นเลียวนไปทั่วหน้าท้องอย่างช้าๆ

แซมหายใจเข้าลึก... ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย สัมผัสจากทั้งสองหนุ่มแตกต่างกัน แต่กลับเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว

โคลท์เริ่มขยับปากเร็วขึ้นเล็กน้อย สร้างความรู้สึกที่เข้มข้นขึ้นที่ส่วนปลาย แซมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจและความพยายามของหนุ่มน้อย

แฮงค์เลื่อนขึ้นมาจนถึงหน้าอกของแซม เขาจูบและดูดดึงยอดอกอย่างนุ่มนวล สลับกับการใช้ลิ้นเลียวนไปทั่วแผงอกกว้าง

แซมเริ่มรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นภายในร่างกาย เสียงครางของเขาดังขึ้นถี่ขึ้น

แฮงค์ละจากหน้าอกแซม มองหน้าแซมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา

แฮงค์: "เป็นยังไงบ้างครับ คุณแซม?"

แซมพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่แฮงค์และโคลท์อย่างชื่นชม

แซม: "เยี่ยมมาก... ทั้งสองคนเลย"

โคลท์เงยหน้าขึ้นจากลำกายแซมเล็กน้อย มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ

โคลท์: "ผม... ผมทำได้ดีไหมครับ?"

แซมยิ้มให้โคลท์อย่างอ่อนโยน

แซม: "ดีมาก... ดีกว่าที่ผมคาดไว้เสียอีก"

โคลท์ยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ก่อนจะก้มลงไปปรนนิบัติแซมต่ออย่างตั้งใจมากขึ้น

ตอนนี้ แซมได้รับการปรนนิบัติอย่างเต็มที่จากหนุ่ม "red neck" ทั้งสองคน ความรู้สึกสุขสันต์และแปลกใหม่ผสมผสานกันจนแทบจะควบคุมไม่ได้ แซมนั่งเอนหลัง ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสอันเร่าร้อนนั้นอย่างเต็มที่...

ในขณะที่แฮงค์กำลังปรนนิบัติอย่างถึงพริกถึงขิง โคลท์ก็ยังคงดูแลส่วนปลายของแซมอย่างต่อเนื่อง สองสัมผัสที่แตกต่างแต่กลับกระตุ้นเร้าอย่างเหลือเชื่อ ทำให้แซมรู้สึกเหมือนถูกโจมตีจากทั้งสองทิศทาง

เสียงครางของแซมดังลั่นห้อง เขาทั้งเสียวซ่านและพึงพอใจจนแทบพูดไม่ออก ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย

แฮงค์เงยหน้าขึ้นมองแซมเป็นระยะๆ สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายด้วยความพึงพอใจ เมื่อเห็นว่าแซมชอบ เขาก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงในการปรนนิบัติมากขึ้น

โคลท์เองก็รับรู้ได้ถึงความสุขของแซม เขาจึงใช้ลิ้นเลื้อยไล้ไปทั่วส่วนปลายอย่างเอาใจใส่ สร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าตื่นเต้น

แซมยกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบศีรษะของชายหนุ่มทั้งสองอย่างอ่อนแรง ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

แฮงค์เปลี่ยนมาใช้มือลูบไล้ไปตามลำกายของแซม สัมผัสที่แข็งแรงและหยาบกร้านยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้สูงขึ้นไปอีก

แซมหายใจหอบถี่ ดวงตาของเขาเริ่มปรือลงด้วยความสุข เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน การถูกปรนนิบัติจากหนุ่ม "red neck" สองคนพร้อมๆ กัน มันเป็นประสบการณ์ที่เหนือกว่าจินตนาการใดๆ

ความตึงเครียดในร่างกายของแซมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เขาควบคุมไม่ได้ เสียงครางที่ดังออกมาจากลำคอเริ่มสั่นเครือ

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอย่างรุนแรง... ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย... พร้อมกับเสียงครางที่ดังลั่นห้อง

แฮงค์และโคลท์ยังคงปรนนิบัติแซมต่อไปจนกระทั่งความกระตือรือร้นของเขาลดลง พวกเขาผละออกอย่างช้าๆ มองแซมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ

แซมนอนหอบอยู่บนโซฟา ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม เขามองไปยังแฮงค์และโคลท์ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรงแต่มีความสุข

แซม: "โอ้... พระเจ้า... มัน... สุดยอดมาก..."

แฮงค์ยิ้มอย่างภูมิใจ

แฮงค์: "ดีใจที่คุณชอบครับ คุณแซม"

โคลท์เองก็ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย

โคลท์: "ผม... ผมก็ดีใจครับ"

บรรยากาศในห้องเงียบลงชั่วครู่ เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของทั้งสาม แซมรู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

5. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #4
 
16-May-25, 05:43 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมยังคงออกเดินทางตามหาเสน่ห์แบบหนุ่ม "red neck" อย่างไม่ย่อท้อ... คราวนี้เขาขับรถเลาะเลียบไปตามถนนชนบท... ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีและไร่นาที่กว้างใหญ่

สายตาของแซมสะดุดเข้ากับทุ่งข้าวโพดแห่งหนึ่ง... ต้นข้าวโพดสูงตระหง่านเรียงรายสุดลูกหูลูกตา... บริเวณด้านหน้าทุ่งมีอาคารไม้เก่าๆ ตั้งอยู่... ดูเงียบสงบและเป็นส่วนตัว

แซมตัดสินใจจอดรถ... เขาเดินเข้าไปใกล้ตัวอาคาร... และที่นั่นเอง... เขาก็ได้พบกับชาวไร่หนุ่มร่างสูงใหญ่... ผิวสีแทนจากการตากแดด... สวมเสื้อกล้ามสีขาวที่เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจากการทำงานหนัก... กางเกงยีนส์เก่าๆ ที่ดูทะมัดทะแมง... ใบหน้าคมสัน... ดวงตาสีเขียวเข้มที่ดูซื่อตรง...

หนุ่มชาวไร่กำลังซ่อมแซมเครื่องมือเกษตรอยู่... แสงแดดยามบ่ายส่องกระทบกับหยาดเหงื่อที่ไหลซึมตามใบหน้าและลำคอของเขา... ภาพนั้นช่างดึงดูดสายตาของแซมอย่างไม่อาจละเลย

แซมเดินเข้าไปใกล้... ทักทายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

แซม: "สวัสดีครับ..."

หนุ่มชาวไร่เงยหน้าขึ้นมอง... เขาหยุดมือจากงานแล้วหันมาเผชิญหน้ากับแซม

ชาวไร่: "สวัสดีครับ... มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?" น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม... แต่ก็มีความระมัดระวังเจืออยู่

แซม: "เปล่าครับ... ผมแค่ขับรถผ่านมา... แล้วเห็นคุณกำลังทำงาน... ดูขยันขันแข็งดีจังเลยครับ" แซมชมอย่างจริงใจ

หนุ่มชาวไร่ยิ้มเล็กน้อย

ชาวไร่: "ก็ต้องทำมาหากินน่ะครับ..."

แซม: "ผมชื่อแซม... ผมชอบบรรยากาศแถวนี้จังเลยครับ... ดูเงียบสงบดี"

ชาวไร่: "แถวนี้ก็เป็นแบบนี้แหละครับ... ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา"

แซมหาโอกาสที่จะเข้าเรื่องที่เขาต้องการ

แซม: "ผม... รู้สึกประทับใจในตัวคุณมากเลยนะครับ..." แซมสบตาหนุ่มชาวไร่อย่างมีนัยยะ

หนุ่มชาวไร่มองแซมด้วยความสงสัย

แซม: "ผมยินดีที่จะจ่ายเงินให้คุณ... ถ้าคุณจะสละเวลา... มาอยู่กับผมสักครู่... แบบส่วนตัว..." แซมลดเสียงลงเล็กน้อย... พร้อมกับยื่นข้อเสนอที่เขาคุ้นเคยอีกครั้ง

หนุ่มชาวไร่มองแซมด้วยความสงสัย... ข้อเสนอที่เข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้เขาต้องชะงัก

ชาวไร่: "เดี๋ยวก่อนนะครับ... มัน... เร็วไปหน่อย... คุณประทับใจอะไรในตัวผมเหรอครับ?" น้ำเสียงของเขาไม่ได้แข็งกร้าว... แต่ก็ไม่ได้เปิดรับในทันที

แซมรู้สึกได้ว่าหนุ่มชาวไร่คนนี้แตกต่างจากคนที่เขาเคยเจอมา... เขาดูระมัดระวังและต้องการทำความเข้าใจสถานการณ์ก่อน

แซม: "ผมประทับใจในรูปร่างของคุณ... ความแข็งแรงที่ดูสมบุกสมบัน... แล้วก็... ดวงตาของคุณดูซื่อตรงดีครับ" แซมตอบอย่างจริงใจ

หนุ่มชาวไร่ฟังอย่างตั้งใจ... สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

ชาวไร่: "แล้ว... ไอ้ 'เวลาส่วนตัว' ที่คุณว่ามานั่น... คุณเสนอราคาเท่าไหร่?" เขาถามตรงประเด็น

แซมรู้สึกว่าหนุ่มชาวไร่คนนี้ตรงไปตรงมา... เขาจึงตอบกลับอย่างชัดเจนเช่นกัน

แซม: "ผมให้คุณห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับเวลาของคุณ"

หนุ่มชาวไร่เงียบไปครู่หนึ่ง... เขาใช้ความคิดอย่างหนัก... มองแซมด้วยสายตาที่ประเมิน

ชาวไร่: "ห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับทำอะไรบ้าง?" เขายังคงต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม

แซมสูดหายใจลึกๆ... เขาต้องอธิบายให้ชัดเจนโดยไม่ทำให้หนุ่มชาวไร่รู้สึกไม่ดี

แซม: "ผม... อยากให้คุณใช้ปากปรนนิบัติผม..."

ความเงียบปกคลุมอีกครั้ง... หนุ่มชาวไร่มองแซมอย่างพิจารณา... ท่าทางของเขาไม่ได้แสดงความรังเกียจ... แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจ

หนุ่มชาวไร่มองไปยังทุ่งข้าวโพดที่ยังคงต้องดูแล... แสงแดดยามบ่ายเริ่มอ่อนแรงลง... เขามีงานที่ต้องทำอีกมาก

แต่ห้าร้อยดอลลาร์... ตัวเลขนั้นดังก้องอยู่ในหัวของเขา... มันมากกว่าค่าแรงที่เขาจะได้จากการทำงานหนักทั้งวันเสียอีก... ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเริ่มปะทะกับความเย้ายวนของเงินจำนวนนั้น

เขาเหลือบมองไปยังอาคารไม้เก่าๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ... ความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวของที่นั่น... ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับ "ข้อเสนอ" ของแซม

ความขัดแย้งในใจของหนุ่มชาวไร่เริ่มคลี่คลาย... ความจำเป็นทางเศรษฐกิจเริ่มมีน้ำหนักมากกว่าความลังเลในตอนแรก

ชาวไร่: "ห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับอมควยคุณ... แค่นั้นใช่ไหม?" เขาถามย้ำอีกครั้ง... ราวกับต้องการให้แน่ใจ

แซม: "ใช่ครับ... แค่นั้น..."

หนุ่มชาวไร่มองแซม... แล้วมองไปยังอาคารไม้เก่าๆ... ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

ชาวไร่: "ผม... ผมมีงานที่ต้องทำต่อ... แต่... ห้าร้อยดอลลาร์มันก็เยอะอยู่..."

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง... ตัดสินใจ

ชาวไร่: "...ตกลงครับ... ในอาคารไม้นั่น... แต่ขอแค่แป๊บเดียวนะครับ... ผมเสียเวลามากไม่ได้"

แซมยิ้มอย่างพอใจ... เขารู้ว่าเงินสามารถเปิดประตูสู่ความปรารถนาได้เสมอ

แซม: "เยี่ยมเลยครับ ตามผมมา”

แซมนำหนุ่มชาวไร่เข้าไปในอาคารไม้เก่าๆ ที่มีกลิ่นอับชื้นของดินและไม้เก่า แสงแดดยามบ่ายส่องลอดช่องไม้เข้ามาเป็นลำไรๆ สร้างบรรยากาศที่ดูลึกลับและเป็นส่วนตัว

แซมชี้ไปยังมุมหนึ่งที่มีกองฟางแห้งวางอยู่

แซม: "ตรงนั้นก็น่าจะสบายดีนะครับ"

หนุ่มชาวไร่มองกองฟางด้วยความลังเลเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้า

ชาวไร่: "ครับ..."

แซมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกช้าๆ มองไปยังหนุ่มชาวไร่ด้วยสายตาที่เชื้อเชิญ

แซม: "คุณพร้อมไหมครับ?"

หนุ่มชาวไร่มองแซมอย่างประหม่า เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกแปลกใหม่และความขัดเขินปะปนกัน

ชาวไร่: "ครับ... ผมพร้อม..."

แซมถอดเสื้อเชิ้ตออกวางไว้ข้างๆ จากนั้นก็เริ่มปลดเข็มขัดกางเกง

แซม: "ไม่ต้องเกร็งนะครับ... ทำตามที่คุณรู้สึกสบาย"

หนุ่มชาวไร่มองการกระทำของแซมอย่างตั้งใจ เมื่อกางเกงของแซมถูกรูดซิปลง เผยให้เห็นลำกายที่เริ่มตื่นตัว เขาก็กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว

แซมมองปฏิกิริยาของหนุ่มชาวไร่ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เขาเข้าใจถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย

แซม: "เข้ามาใกล้ๆ สิครับ"

หนุ่มชาวไร่ขยับเข้าไปใกล้แซมช้าๆ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าแซม สายตาจับจ้องอยู่ที่ลำกายนั้นด้วยความอยากรู้อยากลอง

แซมค่อยๆ จับมือของหนุ่มชาวไร่มาสัมผัสกับส่วนนั้น

แซม: "ลองดูสิครับ..."

หนุ่มชาวไร่สัมผัสอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกอุ่นและแข็งแรงทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่

แซม: "ไม่ต้องกลัว... ทำเหมือนที่คุณทำให้ตัวเอง..."

คำพูดของแซมช่วยคลายความประหม่าของหนุ่มชาวไร่ลงได้บ้าง เขาเริ่มมีความกล้ามากขึ้น

หนุ่มชาวไร่เงยหน้ามองแซมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงมา ริมฝีปากของเขาแตะต้องส่วนปลายของแซมอย่างแผ่วเบา

แซมรู้สึกถึงความหยาบกร้านของริมฝีปากที่ต้องแดดลมของหนุ่มชาวไร่ มันแตกต่างจากสัมผัสที่นุ่มนวลของคนเมือง

หนุ่มชาวไร่ค่อยๆ อ้าปากออกเล็กน้อย และเริ่มอมส่วนปลายของแซมเข้าไปอย่างช้าๆ ความรู้สึกอุ่นชื้นค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่วลำกายของแซม

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ครอบงำ เขาสูดหายใจเข้าลึก

หนุ่มชาวไร่เริ่มขยับปากช้าๆ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น แซมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่าย

แซม: "ดีมาก... เก่งมาก..." เขาชมเบาๆ

คำชมของแซมดูเหมือนจะให้กำลังใจหนุ่มชาวไร่ เขากล้าที่จะเพิ่มความลึกและจังหวะในการอมมากขึ้น

เสียงครางต่ำๆ ของแซมเริ่มดังออกมาเป็นระยะๆ บ่งบอกถึงความพึงพอใจ

แสงแดดยามบ่ายยังคงส่องลอดเข้ามา... สร้างเงาที่เคลื่อนไหวไปมาบนผนังไม้เก่าๆ บรรยากาศเงียบสงบของทุ่งข้าวโพดถูกทำลายลงด้วยเสียงครางและเสียงดูดดื่มเบาๆ

หนุ่มชาวไร่ตั้งใจปรนนิบัติแซมอย่างเต็มที่ ราวกับต้องการตอบแทนเงินห้าร้อยดอลลาร์ที่กำลังจะได้มา

แซมยกมือขึ้นลูบศีรษะของหนุ่มชาวไร่เบาๆ เขารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

เวลาผ่านไปชั่วครู่... ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นในร่างกายของแซม... เขาหายใจถี่ขึ้น...

แซม: "อืมมม... ใกล้แล้ว..."

หนุ่มชาวไร่รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เขายิ่งตั้งใจปรนนิบัติมากขึ้น

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมา... เสียงครางดังขึ้น... พร้อมกับการกระตุกเบาๆ ของร่างกาย

หนุ่มชาวไร่ยังคงอมต่อไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ผละออก มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อเล็กน้อย

แซมนอนหอบอยู่บนกองฟาง มองหนุ่มชาวไร่ด้วยสายตาที่อ่อนแรงแต่มีความสุข

แซม: "ขอบคุณมากนะครับ..."

หนุ่มชาวไร่ยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

ชาวไร่: "ไม่เป็นไรครับ..."

แซมหยิบเงินห้าร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ถอดไว้ ยื่นให้กับหนุ่มชาวไร่

แซม: "นี่ครับ... ตามที่ตกลง"

หนุ่มชาวไร่รับเงินมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เขามองเงินในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ชาวไร่: "ขอบคุณครับ..."

แซมลุกขึ้นแต่งตัว มองไปยังหนุ่มชาวไร่ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

แซม: "ถ้าคุณสนใจอีก... บอกผมได้เสมอนะครับ"

หนุ่มชาวไร่มองแซม ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

ชาวไร่: "ครับ..."

จากนั้น... แซมก็เดินออกจากอาคารไม้เก่าๆ ทิ้งให้หนุ่มชาวไร่ยืนอยู่คนเดียว ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายที่เริ่มสาดส่องเข้ามา... พร้อมกับเงินห้าร้อยดอลลาร์ในมือ... และความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งได้รับ...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

6. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #5
 
16-May-25, 05:52 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แสงสุดท้ายของวันสาดส่องสีทองอร่ามไปทั่วบริเวณเหมืองแร่... แซมจอดรถอยู่ริมถนน... มองไปยังกลุ่มอาคารพักคนงานที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างสูงใหญ่ของคนงานเหมืองคนหนึ่ง... ที่กำลังเดินออกมาจากปากเหมือง... แสงไฟจากด้านในส่องให้เห็นแผงอกหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม... แขนกำยำที่ดูแข็งแรงจากการขุดเจาะ... ใบหน้าคมคายที่เปื้อนฝุ่นดินเล็กน้อย... แม้จะเหนื่อยล้า... แต่เสน่ห์ดิบเถื่อนของเขาก็เตะตาแซมอย่างจัง

ความปรารถนาที่จะถูกปรนนิบัติด้วยปากจากหนุ่ม "red neck" ผู้แข็งแกร่งคนนี้... ก่อตัวขึ้นอีกครั้งในใจของแซม

แซมกำลังคิดหาเหตุผลที่สมควร... ที่จะไม่ดูแปลกจนเกินไป... ในการเข้าไปเคาะประตูบ้านพักคนงานเหมืองคนนั้นในยามเย็นเช่นนี้

(เสียงกระซิบ)

เขาอาจจะแกล้งทำเป็นรถเสีย... แล้วขอความช่วยเหลือ... แต่ดูเหมือนแถวนี้จะไม่ค่อยมีรถสัญจร... อาจจะไม่น่าเชื่อถือ

หรือเขาอาจจะลองถามทาง... แกล้งทำเป็นหลง... แล้วค่อยๆ ชักชวน... แต่มันอาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ

แซมมองไปยังบ้านพักคนงาน... แต่ละหลังดูเงียบสงบ... คนงานส่วนใหญ่อาจจะกำลังพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน

ในที่สุด... แซมก็คิดกลยุทธ์หนึ่งขึ้นมา... ที่อาจจะดูสมเหตุสมผลที่สุด... และเปิดโอกาสให้เขาได้พูดคุยกับคนงานเหมืองหนุ่มคนนั้น

แซม: (พึมพำกับตัวเอง) "...ฉันจะลองถามหาคนรู้จัก... แกล้งทำเป็นมาหาเพื่อน..."

แซมตัดสินใจ... เขาลงจากรถ... เดินตรงไปยังบ้านพักที่คนงานเหมืองหนุ่มคนนั้นเพิ่งเดินเข้าไป... เขาเคาะประตูเบาๆ... พร้อมกับเตรียมคำพูดที่จะใช้

เสียงน้ำไหลในห้องพักคนงานเงียบลง... แทนที่ด้วยเสียงเคาะประตูเบาๆ... ภายในห้อง... คนงานเหมืองหนุ่มที่แซมหมายตาไว้... กำลังชำระล้างคราบฝุ่นดินจากการทำงานหนักมาทั้งวัน

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู... เขาก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย... พันผ้าเช็ดตัวสีเข้มรอบเอวอย่างรวดเร็ว... เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ... หยดน้ำยังคงเกาะพราวบนผิวสีแทน... ไหลรินลงมาตามแขนที่แข็งแกร่ง

เขาเดินไปเปิดประตู... และภาพที่ปรากฏตรงหน้า... คือแซมที่ยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย

แซม: (ทำทีเป็นมองหาใครบางคน) "เอ่อ... สวัสดีครับ... ผมมาหา... เอ่อ... เพื่อนชื่อ... บิล ครับ... เขาพักอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ?" แซมแกล้งถามชื่อสมมติที่คิดขึ้นมา

คนงานเหมืองหนุ่มมองแซมด้วยความสงสัย... สำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

คนงานเหมือง: (น้ำเสียงทุ้มต่ำ) "บิลเหรอครับ? ที่นี่ไม่มีใครชื่อบิลนะครับ... คุณมาผิดที่แล้วมั้ง"

แซมทำท่าทางตกใจเล็กน้อย

แซม: "อ้าว... จริงเหรอครับ? ผมจำหมายเลขห้องผิดไปแน่เลย... ขอโทษที่รบกวนนะครับ"

แซมกำลังจะถอยหลัง... แต่สายตาของเขาก็จับจ้องอยู่ที่ร่างกำยำที่เปียกชื้นของคนงานเหมืองหนุ่มอย่างไม่อาจละสายตา

แซม: (รีบพูดต่อ) "เอ่อ... แต่ว่า... คุณดู... แข็งแรงมากเลยนะครับ... ทำงานในเหมืองคงจะหนักน่าดู"

คนงานเหมืองหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย... ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับการถูกชมแบบนี้จากคนแปลกหน้า

คนงานเหมือง: "ก็พอสมควรครับ..."

แซมเห็นโอกาสเล็กๆ... ที่จะสานต่อบทสนทนา

แซม: "ผมชื่อแซมครับ... ผมขับรถผ่านมาแถวนี้... แล้วเห็นเหมือง... ดูน่าสนใจดี"

คนงานเหมือง: "ผมชื่อ... เคลย์ ครับ"

แซม: "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ เคลย์... ผม... ผมรู้สึกประทับใจในตัวคุณมากเลย..." แซมสบตาเคลย์อย่างมีนัยยะ... พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอที่เขาถนัดอีกครั้ง

แซมเห็นว่าเคลย์ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจในทันที... เขาจึงลองหยั่งเชิงต่อไป

แซม: "เคลย์... มันเริ่มดึกแล้ว... แล้วแถวนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเลย... ผมขอเข้าไปนั่งพักคุยในห้องคุณสักครู่ได้ไหมครับ? ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่" แซมแสร้งทำเป็นอ่อนแรงเล็กน้อย

เคลย์มองแซมด้วยความสงสัย... แต่ก็เห็นว่าแซมดูเหมือนคนแปลกถิ่นจริงๆ

เคลย์: (ลังเลเล็กน้อย) "...ข้างในมันรกหน่อยนะครับ..."

แซม: "ไม่เป็นไรครับ... แค่ได้นั่งพักสักครู่ก็ดีแล้ว" แซมส่งสายตาอ้อนวอน

เคลย์ถอนหายใจออกมาเบาๆ

เคลย์: "...ก็ได้ครับ... เข้ามาสิ"

เคลย์เปิดประตูให้กว้างขึ้น... แซมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องพักคนงานขนาดเล็ก... ภายในห้องเรียบง่าย... มีเตียง... ตู้เสื้อผ้าเก่าๆ... และโต๊ะเล็กๆ

เคลย์ปิดประตูแล้วหันมามองแซมที่กำลังสำรวจห้อง

เคลย์: "เชิญนั่งก่อนสิครับ" เคลย์ชี้ไปยังขอบเตียง

แซมนั่งลง... มองเคลย์ที่ยังคงพันผ้าเช็ดตัวอยู่... ร่างกายที่เปียกชื้นของเขายังคงดึงดูดสายตาของแซมอย่างมาก

แซม: "ขอบคุณมากนะครับ เคลย์... ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย"

เคลย์: "คุณมาจากไหนเหรอครับ?" เคลย์ถามด้วยความสงสัย

แซมเริ่มเล่าเรื่องราวคร่าวๆ เกี่ยวกับการเดินทางของเขา... ที่หลงทางมาแถวนี้... และรู้สึกไม่สบาย

เมื่อบทสนทนาเริ่มผ่อนคลายลง... แซมก็เริ่มมองเคลย์ด้วยสายตาที่สื่อความหมายมากขึ้น

แซม: "เคลย์... ผมรู้สึกขอบคุณคุณมากที่ให้ผมเข้ามาพัก... ผมอยากจะตอบแทนน้ำใจของคุณ..." แซมเว้นจังหวะเล็กน้อย... มองเข้าไปในดวงตาของเคลย์

แซมมองเคลย์ด้วยสายตาที่จริงจัง... เขาต้องการที่จะสื่อสารความปรารถนาของเขาอย่างชัดเจน... แต่ก็ยังคงรักษาความสุภาพไว้

แซม: "เคลย์... ผมอยากจะตอบแทนน้ำใจของคุณ... ด้วยเงินหนึ่งพันดอลลาร์... แลกกับการที่ผม... ได้พักที่นี่คืนนี้... และ... มีกิจกรรมพิเศษกับคุณ..."

เคลย์นิ่งไปครู่หนึ่ง... ดวงตาสีเขียวเข้มของเขาแสดงออกถึงความประหลาดใจ... แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธในทันที

เคลย์: "กิจกรรมพิเศษ... หมายความว่ายังไงครับ?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

แซมสูดหายใจลึกๆ... เขาต้องอธิบายให้เคลย์เข้าใจ... โดยไม่ทำให้เขาอึดอัด

แซม: "ผม... ชื่นชอบในตัวคุณมาก... รูปร่างของคุณ... ความแข็งแรงของคุณ... ผมอยากจะ... ใกล้ชิดคุณมากกว่านี้“

เคลย์มองแซมอย่างพิจารณา... เขาใช้ความคิดอย่างหนัก... ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความต้องการส่วนตัวกับความรู้สึกที่อาจจะขัดแย้งกับความคุ้นเคย

(เสียงกระซิบ)

ความเงียบปกคลุมห้องพักขนาดเล็ก... มีเพียงเสียงลมพัดเบาๆ ผ่านช่องหน้าต่าง

ในที่สุด... เคลย์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความลังเล

เคลย์: "หนึ่งพันดอลลาร์... สำหรับคืนหนึ่ง... กับ... กิจกรรมที่คุณว่า..."

แซม: "ใช่ครับ.…"

เคลย์กัดริมฝีปากเล็กน้อย... เขาใช้ความคิดอย่างหนัก... มองแซมด้วยสายตาที่สื่อถึงความขัดแย้งในใจ

เคลย์ยังคงต้องการความชัดเจน... ก่อนที่จะตัดสินใจ

เคลย์: "แล้ว... ไอ้กิจกรรมที่คุณว่ามานั่น... มันคืออะไรกันแน่?" เขามองแซมด้วยสายตาที่ต้องการคำตอบตรงไปตรงมา

แซมสบตากับเคลย์อย่างเปิดเผย... เขาตัดสินใจที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน

แซม: "ผมอยากให้คุณ... ใช้ปากปรนนิบัติผม..."

เคลย์นิ่งไปครู่หนึ่ง... แต่ครั้งนี้... ในแววตาของเขาไม่ได้มีความตกใจหรือรังเกียจ... กลับมีความอยากรู้อยากลองเจืออยู่

เคลย์: "...อมควยคุณ... งั้นเหรอครับ?"

แซม: "ใช่ครับ... ถ้าคุณยินดี..."

เคลย์มองแซม... แล้วเหลือบมองเงินที่แซมอาจจะให้... ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

เคลย์: "...ตกลงครับ... สำหรับหนึ่งพันดอลลาร์... ผมจะทำ"

แซมยิ้มอย่างพอใจ... เขารู้ว่าความปรารถนาและความจำเป็น... มักจะนำมาซึ่งข้อตกลงที่ลงตัว

แซมได้พักค้างคืนในห้องพักคนงานเล็กๆ ของเคลย์... และตลอดทั้งคืนนั้น... เคลย์ก็ได้มอบการปรนนิบัติให้กับแซมในแบบที่แซมต้องการ

เคลย์อาจจะยังไม่ชำนาญเท่าคนอื่นๆ ที่แซมเคยเจอ... แต่ความตั้งใจและความแข็งแรงของเขาก็สร้างความรู้สึกที่แตกต่าง... แซมนอนเอนหลัง... ปล่อยให้ริมฝีปากหนาของเคลย์ครอบครองลำกายของเขา

เคลย์อมลึก... แรงดูดหนักแน่น... สลับกับการใช้ลิ้นเลียโลมอย่างตรงไปตรงมา... แซมครางต่ำๆ ด้วยความพึงพอใจ

ตลอดทั้งคืน... เคลย์ปรนนิบัติแซมอย่างต่อเนื่อง... ในแบบที่แซมต้องการ... จนกระทั่งแซมได้ปลดปล่อยความสุขออกมาหลายครั้ง

แสงแรกของวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้องพัก... แซมนอนหลับอย่างสบายใจ... ข้างๆ กันคือเคลย์... ที่ได้รับเงินหนึ่งพันดอลลาร์... แลกกับการปรนนิบัติที่เร่าร้อนตลอดคืน

การผจญภัยของแซมในอเมริกา... ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด... พร้อมกับการค้นพบหนุ่ม "red neck" สุดหล่อล่ำคนใหม่ๆ... ที่เข้ามาเติมเต็มความปรารถนาของเขาในทุกรูปแบบ...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

7. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #6
 
16-May-25, 06:04 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมยังคงออกเดินทางต่อไป... ความปรารถนาที่จะสัมผัสเสน่ห์ของหนุ่ม "red neck" ในหลากหลายอาชีพและภูมิภาคยังคงผลักดันเขา

คราวนี้... เขาได้ขับรถไปยังแถบที่มีป่าไม้หนาแน่น... หวังว่าจะได้พบกับหนุ่มๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับการตัดไม้... ด้วยรูปร่างที่แข็งแรงและบุคลิกที่ดูบึกบึน

เย็นวันหนึ่ง... แซมจอดรถใกล้กับแคมป์คนงานตัดไม้เล็กๆ แห่งหนึ่ง... แสงไฟจากกองไฟส่องสว่างใบหน้าและรูปร่างของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังพักผ่อนหลังเลิกงาน

สายตาของแซมสะดุดเข้ากับหนุ่มตัดไม้คนหนึ่ง... รูปร่างสูงใหญ่... กล้ามเนื้อแขนและหลังเด่นชัด... เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตเปิดอกเล็กน้อยเผยให้เห็นแผงอกที่แข็งแรง... ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเคราครึ้ม... ดูดิบเถื่อนแต่ก็มีเสน่ห์อย่างประหลาด

แซมตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้... ทักทายด้วยความเป็นมิตร

แซม: "สวัสดีครับ..."

หนุ่มตัดไม้และคนอื่นๆ หันมามองแซมด้วยความสงสัย

หนุ่มตัดไม้: (น้ำเสียงทุ้มต่ำ) "สวัสดีครับ... มีอะไรหรือเปล่า?"

แซม: "ผมขับรถผ่านมา... เห็นพวกคุณพักผ่อนกัน... ดูเหนื่อยกันน่าดูเลยนะครับ"

หนุ่มตัดไม้: "ก็ทำงานทั้งวันน่ะครับ..."

แซม: "ผมชื่อแซมครับ... ผมชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย... ดูเป็นกันเองดี"

หนุ่มตัดไม้: "ผมชื่อ... เจคอบ ครับ"

แซมเริ่มมองเจคอบด้วยสายตาที่สื่อความหมาย... ความปรารถนาเดิมๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

แซม: "เจคอบ... ผมรู้สึกชื่นชมในตัวคุณมากเลย..."

เจคอบเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

แซม: "ผมยินดีที่จะให้เงินคุณ... ถ้าคุณจะสละเวลามาอยู่กับผมสักหน่อย..."

เจคอบมองแซมด้วยความสงสัย... รอบข้างมีเพียงป่าไม้และแคมป์คนงาน... ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ ที่คนแปลกหน้าอย่างแซมควรจะมา

เจคอบ: "อยู่ทำอะไรเหรอครับ? แถวนี้มันมีแต่ป่ากับแคมป์คนงาน..." น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

คนอื่นๆ ในแคมป์ก็หันมามองแซมด้วยความสงสัยเช่นกัน

แซมต้องคิดหาคำตอบที่สมเหตุสมผล

แซม: "อ้อ... ผม... ผมกำลังมองหาสถานที่ถ่ายรูปน่ะครับ... ผมชอบธรรมชาติ... ป่าแถวนี้ดูสวยดี" แซมพยายามแก้ตัว

เจคอบมองแซมอย่างพิจารณา... เสื้อผ้าและรถของแซมดูไม่เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาถ่ายรูปในป่า

เจคอบ: "ถ่ายรูปเหรอครับ? ตอนนี้มันเย็นมากแล้วนะครับ... แสงไม่ค่อยดีแล้วมั้ง"

แซมรู้สึกว่าคำแก้ตัวของเขาอาจจะไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่... เขาจึงตัดสินใจที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจ

แซม: "จริงๆ แล้ว... ผมมาที่นี่... ก็เพราะผมเห็นคุณ..." แซมสบตาเจคอบอย่างตรงไปตรงมา

เจคอบเลิกคิ้วสูงขึ้น... รอฟังสิ่งที่แซมจะพูดต่อ

แซม: "ผมรู้สึก... สนใจในตัวคุณมาก... ความแข็งแรงของคุณ... บุคลิกของคุณ..." แซมเว้นจังหวะเล็กน้อย

แซม: "ผมยินดีที่จะให้เงินคุณ... ถ้าคุณจะสละเวลา... มาคุยกับผมเป็นการส่วนตัว..." แซมลดเสียงลงเล็กน้อย... พร้อมกับยื่นข้อเสนอเดิม

เมื่อแซมเอ่ยข้อเสนอออกไป... ความเงียบปกคลุมกลุ่มคนงานตัดไม้ชั่วครู่... ก่อนที่สายตาหลายคู่จะจับจ้องมาที่แซมอย่างใคร่ครวญ

หนุ่มๆ ที่ยืนอยู่รอบกองไฟ... ซึ่งแต่ละคนก็มีรูปร่างกำยำและใบหน้าที่หล่อเหลาในแบบของตัวเอง... เริ่มจับสังเกตได้ถึงความหมายแฝงในคำพูดของแซม

ทันใดนั้น... หนุ่มตัดไม้คนหนึ่ง... รูปร่างสูงโปร่ง... ใบหน้าคมคายมีรอยสักเล็กๆ ที่แขน... ชื่อ "ริก" ... ก็ก้าวออกมาข้างหน้าเจคอบ

ริก: (ยิ้มเจ้าเล่ห์) "เฮ้... คุณแซมว่าไงนะ? สนใจพวกเราเหรอ? ผมร้อนเงินอยู่นะ... คุณอยากให้ผม 'สละเวลา' ให้คุณเท่าไหร่ล่ะ?"

คนอื่นๆ ในแคมป์หัวเราะเบาๆ... บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง

แซมมองริกด้วยความสนใจ... เขาก็เป็นหนุ่มหล่อในแบบที่แซมชื่นชอบเช่นกัน

แซม: "ผมเสนอให้คนละห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับ... การปรนนิบัติส่วนตัว... ใครสนใจบ้างครับ?" แซมยื่นข้อเสนออย่างเปิดเผย

ทันทีที่แซมพูดจบ... หนุ่มตัดไม้อีกสองสามคนก็เริ่มแสดงความสนใจ... มีเสียงฮือฮาเล็กๆ และรอยยิ้มทะเล้นปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา

เจคอบยังคงยืนนิ่ง... มองแซมและริกด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย... ทั้งความสงสัย... ความแปลกใจ... และความลังเล

ริก: (เดินเข้ามาใกล้แซม) "ห้าร้อยดอลลาร์เลยเหรอ? แค่ปรนนิบัติคุณ?"

แซม: "ใช่ครับ..."

ริก: (ยิ้มกว้าง) "ถ้าอย่างนั้น... ผมยินดีครับ... คุณอยากให้ผมทำอะไรบ้างล่ะ?"

แซมมองไปรอบๆ กลุ่มหนุ่มตัดไม้ที่กำลังรอฟังคำตอบของเขา... สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว... จากที่เขาตั้งใจจะเข้าหาเจคอบเพียงคนเดียว... ตอนนี้กลับมีหนุ่มหล่ออีกหลายคนเสนอตัว

แซมยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหนุ่มตัดไม้... ความดิบเถื่อนและความตรงไปตรงมาของพวกเขาช่างน่าดึงดูด

แซม: "สิ่งที่ผมต้องการ... ก็คือ... ให้พวกคุณใช้ปากปรนนิบัติผม..."

คำพูดของแซมราวกับจุดชนวน... หนุ่มๆ มองหน้ากันครู่หนึ่ง... ก่อนที่รอยยิ้มทะเล้นจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลายคน

ริก: "อมควยคุณเนี่ยนะ? ง่ายจะตาย!"

หนุ่มตัดไม้อีกคน: "ห้าร้อยดอลลาร์... คุ้มจะตายไป!"

และแล้ว... บรรยากาศรอบกองไฟก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว... จากความสงสัยใคร่รู้... กลายเป็นความเร่าร้อนและความต้องการเงิน

หนุ่มตัดไม้ทีละคน... เริ่มเดินเข้ามาใกล้แซม... แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากลองและผลประโยชน์ที่กำลังจะได้รับ

ไม่นานนัก... แซมก็ถูกโอบล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อล่ำถึงสิบคน... แต่ละคนต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้รับเงินจากเขา

ริกเป็นคนแรกที่คุกเข่าลงตรงหน้าแซม... ตามด้วยหนุ่มคนอื่นๆ ที่เริ่มเบียดเสียดเข้ามา... แสงจากกองไฟส่องให้เห็นร่างกายกำยำและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

แซมนั่งลงบนขอนไม้ใหญ่... มองไปยังกลุ่มหนุ่ม "red neck" ที่กำลังเข้ามาใกล้เขา... ความรู้สึกตื่นเต้นและปรารถนาท่วมท้น

และแล้ว... การปรนนิบัติหมู่ก็เริ่มต้นขึ้น... ริมฝีปากหยาบกร้านแต่ก็กระตือรือร้นของหนุ่มตัดไม้... เริ่มครอบครองลำกายของแซมจากทุกทิศทาง

ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในตัวแซม... แรงดูดที่แตกต่างกัน... สัมผัสที่ดิบเถื่อน... และเสียงครางต่ำๆ ของหนุ่มๆ ที่กำลังปรนนิบัติเขา... สร้างความรู้สึกที่เร่าร้อนและเกินจะควบคุม

แซมหลับตาลง... ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป... และมันก็ช่างน่าตื่นเต้นและปลุกเร้าอย่างที่สุด...

ริมฝีปากหยาบกระด้างแต่กระตือรือร้นของหนุ่มตัดไม้สิบนายรุมเร้าลำกายของแซมจากทุกทิศทาง แรงดูดที่แตกต่างกัน ทั้งหนักหน่วงและแผ่วเบา สัมผัสที่ดิบเถื่อนแต่ก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากลอง สร้างความรู้สึกปั่นป่วนและเร่าร้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เสียงครางต่ำๆ ดังกระหึ่มรอบตัวแซม ราวกับเสียงคำรามของสัตว์ป่าที่กำลังพึงพอใจ แสงจากกองไฟเต้นระยิบระยับบนแผ่นหลังกำยำและใบหน้าที่เงยขึ้นลงอย่างรวดเร็ว

แซมรู้สึกเหมือนถูกคลื่นแห่งความปรารถนากระแทกเข้าใส่จากทุกทิศทาง เขาไม่สามารถจับโฟกัสได้ มีเพียงความรู้สึกหลากหลายที่ถาโถมเข้ามาจนแทบควบคุมไม่ได้

มือหยาบกร้านของหนุ่มๆ ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของแซม บางคนลูบแผ่นหลัง บางคนลูบท้อง บางคนคลึงคลึงต้นขา ราวกับต้องการสำรวจและครอบครอง

แซมยกมือขึ้นคว้าศีรษะของหนุ่มที่อยู่ใกล้ที่สุด จิกผมของเขาเบาๆ ด้วยความเสียวซ่าน

"อืมมม..." เสียงครางลึกๆ หลุดออกมาจากลำคอของแซม

ความเร่งเร้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มๆ ต่างแข่งขันกันปรนนิบัติแซมอย่างเต็มที่ ราวกับต้องการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตน

แซมรู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งทรมานและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน

เสียงดูดดื่มดังชัดเจนขึ้น ผสานกับเสียงครางกระหึ่มและเสียงหอบหายใจถี่ๆ บรรยากาศรอบกองไฟเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและความปรารถนาที่ไม่มีใครยับยั้งได้

แซมหลับตาแน่น ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสอันเร่าร้อนนั้นอย่างเต็มที่ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ปลุกเร้าเช่นนี้ การถูกปรนนิบัติจากชายหนุ่มมากถึงสิบคนพร้อมๆ กัน มันเป็นสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการใดๆ

ความตึงเครียดในร่างกายของแซมเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เขาเริ่มหายใจหอบถี่และตัวสั่นเล็กน้อย

และแล้ว... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอย่างรุนแรง เสียงครางลั่นดังออกมาท่ามกลางความเงียบสงัดของป่า

หนุ่มๆ ที่กำลังปรนนิบัติแซมรับรู้ได้ถึงการปลดปล่อยนั้น พวกเขายังคงดูแลแซมต่อไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ผละออก มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและแววตาที่พึงพอใจ

แซมนั่งหอบอยู่บนขอนไม้ใหญ่ เหงื่อไหลซึมไปทั่วใบหน้าและลำคอ เขามองไปยังกลุ่มหนุ่ม "red neck" ที่ยืนล้อมรอบด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเหนื่อยล้า พึงพอใจ และตื่นเต้น

แซม: "โอ้... พระเจ้า... มัน... มันเหลือเชื่อมาก..."

ริกยิ้มทะเล้น

ริก: "ชอบไหมล่ะครับ คุณแซม?"

หนุ่มคนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย รอคอยคำตอบจากแซม

แซมยิ้มอย่างอ่อนแรง

แซม: "ชอบสิ... ชอบมาก..."

เขามองไปยังหนุ่มๆ ทีละคน

แซม: "ขอบคุณทุกคนนะครับ... สำหรับประสบการณ์ที่... น่าจดจำนี้"

หนุ่มๆ ยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ พวกเขารู้สึกดีที่ได้ทำให้แซมมีความสุข

บรรยากาศรอบกองไฟกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงไม้ที่กำลังลุกไหม้ แสงไฟยังคงส่องสว่าง ใบหน้าของหนุ่ม "red neck" ที่เต็มไปด้วยเหงื่อและรอยยิ้ม

แซมรู้ว่าค่ำคืนนี้จะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เขาจะไม่มีวันลืม... การปรนนิบัติหมู่กลางป่า... จากหนุ่มตัดไม้สิบคน... มันเป็นประสบการณ์ที่ดิบเถื่อน เร่าร้อน... และน่าพึงพอใจอย่างที่สุด...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

8. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #7
 
16-May-25, 06:13 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ก่อนที่แซมจะอำลาแคมป์คนงานตัดไม้... เขาก็ได้แลกเบอร์โทรศัพท์กับเจคอบ... หนุ่มตัดไม้ร่างสูงใหญ่ผู้มีดวงตาสีเขียวเข้ม

แซม: "ไว้ผมจะโทรหาคุณนะครับเจคอบ... ถ้ามีโอกาสผ่านมาแถวนี้อีก"

เจคอบ: (ยิ้มเล็กน้อย) "ยินดีเสมอครับคุณแซม... ถ้าคุณมา... บอกผมได้เลย"

การแลกเบอร์โทรศัพท์ครั้งนี้... เป็นเหมือนการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ในอนาคต... แซมรู้สึกถึงความสนใจบางอย่างในตัวเจคอบ... และเขาก็อยากที่จะสานสัมพันธ์กับหนุ่มตัดไม้คนนี้เป็นการส่วนตัว

แซมเก็บเบอร์โทรศัพท์ของเจคอบไว้ในโทรศัพท์มือถืออย่างดี... พร้อมกับความรู้สึกถึงความหวังเล็กๆ ที่อาจจะได้พบกับเจคอบอีกครั้ง... ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

การเดินทางของแซมยังคงดำเนินต่อไป... แต่ในใจของเขาก็มีชื่อของเจคอบเพิ่มเข้ามาในรายชื่อของหนุ่ม "red neck" ที่เขาอยากจะทำความรู้จักให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น...

หลังจากค่ำคืนที่เร่าร้อนในแคมป์คนงานตัดไม้... แซมได้เข้าพักในโรงแรมเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น

เช้าวันรุ่งขึ้น... แซมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา... ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของเจคอบ... แล้วโทรออก

(เสียงโทรศัพท์ดังรอสายครู่หนึ่ง)

เจคอบ: (เสียงงัวเงียเล็กน้อย) "ฮัลโหล?"

แซม: "สวัสดีครับเจคอบ... นี่แซมนะครับ... จำได้ไหม?"

เจคอบ: (ตื่นตัวขึ้น) "อ้อ... คุณแซม... ครับๆ จำได้ครับ... มีอะไรหรือเปล่าครับ?"

แซม: "ผมยังอยู่ที่แถวนี้ครับ... ผมอยากจะชวนคุณ... กับ... ริก... มาเจอกันหน่อยได้ไหมครับ?"

เจคอบ: "ริกด้วยเหรอครับ?"

แซม: "ใช่ครับ... ผมรู้สึกขอบคุณริกนะ... ที่เป็นคนเปิดเรื่องเมื่อคืน... ผมอยากจะให้เงินพวกคุณเพิ่มอีกคนละห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับวันนี้... พวกคุณสะดวกไหมครับ?"

เจคอบเงียบไปครู่หนึ่ง... ราวกับกำลังคิด

เจคอบ: "ให้พวกเราอีกคนละห้าร้อยเลยเหรอครับ?"

แซม: "ครับ... เป็นการขอบคุณพวกคุณ... ถ้าพวกคุณสะดวก... มาเจอกันที่โรงแรมที่ผมพักก็ได้ครับ"

เจคอบ: "...เดี๋ยวผมลองคุยกับริกดูนะครับ... แล้วจะโทรกลับไปบอก"

แซม: "เยี่ยมเลยครับ... ผมรออยู่นะ"

แซมวางสายด้วยความรู้สึกตื่นเต้น... เขาหวังว่าเจคอบและริกจะตอบตกลง... โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับหนุ่ม "red neck" สุดหล่อทั้งสองคนอีกครั้ง... กำลังจะมาถึง

หลังจากวางสายจากแซม... เจคอบก็เดินไปหา ริก ที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ข้างกองไฟเล็กๆ ที่พวกเขาก่อไว้ตั้งแต่เช้า

เจคอบ: "เฮ้ ริก... เมื่อกี้คุณแซมโทรมา"

ริกเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสนใจ

ริก: "คุณแซมคนเมื่อคืนน่ะเหรอ? ว่าไง?"

เจคอบ: "เขาชวนพวกเราไปเจอเขาที่โรงแรม... แล้วจะให้เงินเพิ่มอีกคนละห้าร้อย"

ริกเลิกคิ้วสูง

ริก: "ห้าร้อยเลยเหรอ? ทำไมล่ะ?"

เจคอบ: "เขาบอกว่าขอบคุณนายที่เป็นคนเปิดเรื่องเมื่อคืน"

ริกยิ้มกว้าง

ริก: "ฮ่าๆ... ว่าแล้วเชียว... ผมมันเสน่ห์แรง"

เจคอบ: "แล้วนายว่าไง? จะไปไหม?"

ริกไม่ลังเลเลย

ริก: "ไปสิ! ทำไมจะไม่ไปล่ะ? ได้เงินฟรีๆ ตั้งห้าร้อย... ว่าแต่... เขาอยากให้เราไปทำอะไรอีก?" ริกถามด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

เจคอบยักไหล่

เจคอบ: "เขายังไม่ได้บอก... แต่ก็คงเหมือนเมื่อคืนนั่นแหละมั้ง"

ริกหัวเราะเบาๆ

ริก: "ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมไปเลย... ไปกันเลยไหม?"

เจคอบพยักหน้า

เจคอบ: "อืม... ไปกัน... ได้เงินเพิ่มอีกตั้งเยอะ"

ทั้งสองคนตกลงที่จะไปพบแซมที่โรงแรม... ด้วยความคาดหวังถึงเงินรางวัลและความสุขสมที่อาจจะได้รับอีกครั้ง

ไม่นานนัก เจคอบและริกก็มาถึงโรงแรมเล็กๆ ที่แซมพักอยู่... แซมต้อนรับทั้งสองด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

แซม: "ขอบคุณมากนะครับที่มากัน... ผมดีใจมากเลย"

ริก: (ยิ้มทะเล้น) "ยินดีเสมอครับคุณแซม... ว่าแต่... ห้าร้อยดอลลาร์ของผมล่ะครับ?"

แซมหัวเราะเบาๆ แล้วหยิบเงินสดออกมา

แซม: "แน่นอน... นี่ของคุณ... แล้วก็นี่ของคุณเจคอบ" แซมยื่นเงินให้คนละปึก

ทั้งสองรับเงินด้วยความพอใจ

แซม: "เอาล่ะ... วันนี้... ผมอยากให้พวกคุณสองคน... รุมปรนนิบัติผม... แบบสองต่อหนึ่ง... พวกคุณว่ายังไง?"

ริกยิ้มกว้าง

ริก: "จัดมาเลยครับคุณแซม... ผมถนัดอยู่แล้ว"

เจคอบก็พยักหน้าเห็นด้วย

เจคอบ: "ผมก็พร้อมครับ"

แซมพาเจคอบและริกไปยังห้องพักของเขา... บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังและความปรารถนา

แซมนั่งลงบนเตียง... มองไปยังหนุ่ม "red neck" สุดหล่อทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

แซม: "ใครจะเริ่มก่อนดีครับ?"

ริกไม่รอช้า... คุกเข่าลงตรงหน้าแซมทันที... ตามด้วยเจคอบที่คุกเข่าลงอีกด้านหนึ่ง

ริกอ้าปากกว้าง... ครอบครองส่วนปลายของแซมอย่างรวดเร็ว... แรงดูดของเขาหนักแน่นและเร้าอารมณ์

ในขณะเดียวกัน... เจคอบก็โน้มตัวลงมา... ใช้ปากอมส่วนกลางของลำกายแซม... สัมผัสของเขาอบอุ่นและนุ่มนวลกว่าริก

แซมหลับตาลง... สัมผัสได้ถึงสองสัมผัสที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน... มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่และกระตุ้นอารมณ์อย่างมาก

แรงดูดอันหนักแน่นและเร้าอารมณ์ของริกที่ส่วนปลาย ผสานกับสัมผัสอันอบอุ่นและนุ่มนวลของเจคอบที่ส่วนกลาง สร้างความรู้สึกที่หลากหลายและ intens อย่างมากในตัวแซม เขาไม่เคยได้รับการปรนนิบัติแบบนี้มาก่อน มันทั้งแปลกใหม่และกระตุ้นความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยสัมผัส

เสียงดูดดื่มดังชัดเจนสลับกันไปมา ริกดูดดึงอย่างกระตือรือร้น ในขณะที่เจคอบใช้ลิ้นเลื้อยไล้อย่างเอาใจใส่ แซมรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นจากสองทิศทางพร้อมๆ กัน ทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านทวีคูณ

แซมยกมือขึ้นลูบศีรษะของริกเบาๆ อีกมือหนึ่งวางลงบนไหล่กว้างของเจคอบ เขามองชายหนุ่มทั้งสองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ริกเงยหน้าขึ้นมองแซมเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกาย

ริก: "ชอบไหมครับ คุณแซม?"

แซมพยักหน้าพร้อมกับครางเบาๆ

แซม: "ชอบมาก... ทั้งสองคนเก่งมาก"

คำชมของแซมดูเหมือนจะกระตุ้นให้ทั้งสองหนุ่มยิ่งตั้งใจปรนนิบัติเขามากขึ้น ริกเพิ่มแรงดูดและความเร็ว ในขณะที่เจคอบเปลี่ยนมาใช้ริมฝีปากรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น

ความรู้สึกเสียวซ่านในตัวแซมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มหายใจหอบถี่ขึ้น เสียงครางดังออกมาจากลำคอเป็นระยะๆ

แซม: "อืมมม... ดีมาก..."

เขานั่งเอนหลังบนเตียง ปล่อยให้ความรู้สึกสุขสันต์ครอบงำร่างกาย สองสัมผัสที่แตกต่างแต่กลับเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว

ริกเปลี่ยนมาใช้ลิ้นเลียวนไปทั่วส่วนปลายอย่างรวดเร็ว สร้างความรู้สึกที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น ในขณะที่เจคอบยังคงอมส่วนกลางอย่างต่อเนื่อง

แซมรู้สึกเหมือนถูกคลื่นแห่งความปรารถนากระแทกเข้าใส่จากทั้งสองทิศทางพร้อมๆ กัน มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งทรมานและเย้ายวน

เวลาผ่านไปชั่วครู่ ความตึงเครียดในร่างกายของแซมเริ่มสูงขึ้นจนถึงขีดสุด เขาจิกผ้าปูที่นอนแน่น

แซม: "โอ้ว... จะ... จะไม่ไหวแล้ว..."

ริกและเจคอบรับรู้ได้ถึงสัญญาณนั้น พวกเขายิ่งเพิ่มความเร็วและความหนักหน่วงในการปรนนิบัติมากขึ้น

และแล้ว... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอย่างรุนแรง ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย พร้อมกับเสียงครางลั่นห้อง

ทั้งริกและเจคอบยังคงปรนนิบัติแซมต่อไปจนกระทั่งความกระตือรือร้นของเขาลดลง พวกเขาผละออกอย่างช้าๆ มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและแววตาที่พึงพอใจ

แซมนอนหอบอยู่บนเตียง เหงื่อไหลซึมไปทั่วใบหน้า เขามองไปยังริกและเจคอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรงแต่มีความสุข

แซม: "ขอบคุณมากนะครับ... มัน... สุดยอดจริงๆ"

ริกยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ

ริก: "บอกแล้วว่าผมถนัดครับ คุณแซม"

เจคอบก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ

เจคอบ: "ยินดีที่ได้ปรนนิบัติคุณครับ"

แซมพยักหน้าอย่างอ่อนแรง

แซม: "พวกคุณทำได้ดีมากจริงๆ"

บรรยากาศในห้องเงียบลงชั่วครู่ เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของทั้งสาม แซมรู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน... การได้รับการปรนนิบัติจากหนุ่ม "red neck" สุดหล่อสองคนพร้อมๆ กัน มันเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอีกครั้ง...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

9. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #8
 
16-May-25, 06:16 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมยังคงออกสำรวจต่อไป... คราวนี้เขามาถึงบริเวณคลังสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในยามบ่าย... รถบรรทุกสินค้าจอดเรียงราย... พนักงานขนถ่ายสินค้าเดินขวักไขว่

สายตาของแซมสะดุดเข้ากับพนักงานคลังสินค้าคนหนึ่ง... รูปร่างสูง... แขนแข็งแรงจากการยกของหนัก... เสื้อยืดเปื้อนเหงื่อเล็กน้อยแนบไปกับแผงอกที่แข็งแรง... กางเกงทำงานหลวมๆ ดูทะมัดทะแมง... ใบหน้าคมสัน... ดวงตาสีฟ้าสดใสที่ดูขี้เล่น...

แซมจอดรถแล้วเดินเข้าไปใกล้... ทำทีเป็นสนใจสินค้าที่วางอยู่ด้านนอก

แซม: "สวัสดีครับ..."

พนักงานหนุ่มหันมามองแซม... ยิ้มอย่างเป็นมิตร

พนักงาน: "สวัสดีครับ... สนใจอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?" น้ำเสียงของเขาดูเป็นกันเอง

แซม: "เปล่าครับ... แค่เดินดูเฉยๆ... คุณทำงานที่นี่เหรอครับ?"

พนักงาน: "ใช่ครับ... ผมชื่อ... ไรอัน"

แซม: "ผมชื่อแซมครับ... ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไรอัน... คุณดูแข็งแรงมากเลยนะครับ... ยกของหนักๆ ทุกวันเลยสินะ" แซมชมอย่างเปิดเผย

ไรอันหัวเราะเบาๆ

ไรอัน: "ก็ต้องอย่างนั้นแหละครับ... ถึงจะได้ค่าแรง"

แซมมองไรอันด้วยความสนใจ... ความสดใสและรูปร่างที่แข็งแรงของเขาดึงดูดใจแซม

แซม: "ไรอัน... ผมรู้สึกชื่นชอบในตัวคุณมากเลย..." แซมสบตาไรอันอย่างมีนัยยะ

ไรอันเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

แซม: "ผมยินดีที่จะให้เงินคุณ... ถ้าคุณจะสละเวลามาอยู่กับผมสักหน่อย..." แซมลดเสียงลงเล็กน้อย... พร้อมกับยื่นข้อเสนอที่คุ้นเคยอีกครั้ง

ไรอันมองแซมด้วยความสงสัย... เหมือนกับหนุ่ม "red neck" คนอื่นๆ ที่แซมเคยเจอ

ไรอัน: "อยู่ทำอะไรเหรอครับ?"

แซมตัดสินใจเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมา

แซม: "ผมอยากให้คุณ... ใช้ปากปรนนิบัติผม... แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง..."

ไรอันนิ่งไปครู่หนึ่ง... แต่สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความตกใจ... กลับมีความอยากรู้อยากลอง

ไรอัน: "อมควยให้คุณเนี่ยนะ?"

แซม: "ใช่ครับ... ผมเสนอให้คุณห้าร้อยดอลลาร์..."

ไรอันยิ้มกว้าง

ไรอัน: "ห้าร้อยดอลลาร์เลยเหรอ? โอเคครับ... ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"

ไรอันมองไปรอบๆ คลังสินค้า... ก่อนจะพยักหน้าไปยังประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ

ไรอัน: "ไปทำกันในนั้นก็ได้ครับ... แป๊บเดียวนะครับ... เดี๋ยวคนจะสงสัย"

แซมยิ้มอย่างพอใจ... เขารู้ว่าความตรงไปตรงมาบางครั้งก็ได้ผล

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องน้ำของคลังสินค้า... บรรยากาศอับชื้นและมีกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดจางๆ

(เสียงกระซิบ)

ไรอันไม่รอช้า... เขาจัดการปลดเข็มขัดและซิปกางเกงของแซมอย่างรวดเร็ว... เผยให้เห็นลำกายที่พร้อมสำหรับการปรนนิบัติ

จากนั้นไรอันก็คุกเข่าลง... และเริ่มอมลำกายของแซมด้วยท่าทางที่กระตือรือร้น... แรงดูดของเขาหนักแน่นและรวดเร็ว... ราวกับต้องการทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

แซมนั่งพิงผนังห้องน้ำเย็นๆ... มองไรอันที่กำลังปรนนิบัติเขาอย่างเร่งรีบ... ความรู้สึกเสียวซ่านก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก... แซมก็ปลดปล่อยความสุขออกมา... น้ำกามอุ่นๆ พุ่งเข้าไปในปากของไรอัน... ที่กลืนมันลงไปอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้น... ไรอันลุกขึ้นยืน... เช็ดปากด้วยหลังมือ

ไรอัน: "เรียบร้อยครับ... ห้าร้อยดอลลาร์ของผมล่ะครับ?"

แซมยิ้ม... หยิบเงินให้ไรอัน

แซม: "ขอบคุณมากนะ ไรอัน... รวดเร็วดีจริงๆ"

ไรอันรับเงินแล้วยิ้มกว้าง

ไรอัน: "ยินดีครับ... ถ้ามีอีกก็บอกได้นะ"

ไรอันรีบเดินออกจากห้องน้ำไปทำงานต่อ... ทิ้งให้แซมยืนอยู่คนเดียว... กับความรู้สึกถึงความรวดเร็วและตรงไปตรงมาของหนุ่ม "red neck" จากคลังสินค้า...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

10. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #9
 
16-May-25, 06:25 AM (SE Asia Standard Time)
 
   หลังจากปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้ไม่นาน... ความขี้เกียจก็เริ่มครอบงำแซม... ประกอบกับความคิดถึงรสชาติของหนุ่ม "red neck" สุดหล่อล่ำ...

แซม: (นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา) "เบร็ตต์... นายพอจะไปหาหนุ่มหล่อๆ แถวนี้มาให้ฉันหน่อยได้ไหม? ฉันขี้เกียจออกไปข้างนอกน่ะ"

เบร็ตต์ที่กำลังอ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นมองแซมด้วยรอยยิ้ม

เบร็ตต์: "หือ? ขี้เกียจออกไปตามหาเองแล้วเหรอคุณเศรษฐี?"

แซม: "ใช่สิ... ช่วงนี้ฉันอยากจะพักผ่อนสบายๆ ที่บ้าน... นายพอจะรู้จักใครแถวนี้บ้างไหมล่ะ?"

เบร็ตต์ใช้ความคิดครู่หนึ่ง

เบร็ตต์: "อืมมม... แถวนี้ก็พอมีบ้าง... แต่สเปกนายมันค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจงนะ"

แซม: "ก็ลองดูหน่อยสิ... เน้นหล่อๆ ล่ำๆ หน่อยนะ... ถ้าได้สไตล์คนงานๆ ยิ่งดี"

เบร็ตต์หัวเราะเบาๆ

เบร็ตต์: "โอเคๆ... เดี๋ยวฉันลองดูให้... อยากได้แบบไหนเป็นพิเศษไหมล่ะ?"

แซม: "เซอร์ไพรส์ก็ได้... แต่ขอให้ถูกใจฉันหน่อยก็แล้วกัน"

เบร็ตต์ลุกขึ้นยืน

เบร็ตต์: "ได้เลย... เดี๋ยวฉันจะออกไปสำรวจประชากรหนุ่มหล่อแถวนี้ให้... รอแป๊บนึงนะ"

แล้วเบร็ตต์ก็ออกจากบ้านไป... ทิ้งให้แซมนอนรออย่างสบายใจบนโซฟา... พร้อมกับความคาดหวังว่าจะได้พบกับหนุ่ม "red neck" สุดหล่อคนใหม่ถึงบ้าน

เบร็ตต์ขับรถวนไปตามถนนแถวบ้านใหม่ของแซม... มองหาหนุ่มหล่อล่ำในสไตล์ที่แซมชอบ... เขาแวะตามร้านค้าเล็กๆ... ปั๊มน้ำมัน... และโรงยิมใกล้ๆ

สายตาของเบร็ตต์สะดุดเข้ากับหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเติมน้ำมันอยู่... รูปร่างสูงใหญ่... แขนกำยำ... สวมเสื้อยืดรัดรูปที่เผยให้เห็นกล้ามเนื้อ... ใบหน้าคมสัน... ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ดูซื่อตรง

เบร็ตต์ตัดสินใจจอดรถแล้วเดินเข้าไปทักทาย

เบร็ตต์: "สวัสดีครับ..."

หนุ่มเติมน้ำมันหันมามองเบร็ตต์ด้วยความสงสัย

หนุ่มเติมน้ำมัน: "สวัสดีครับ... มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ?"

เบร็ตต์: "เปล่าครับ... ผมแค่เห็นคุณ... ดูแข็งแรงดีจังเลยครับ"

หนุ่มเติมน้ำมันยิ้มเล็กน้อย

หนุ่มเติมน้ำมัน: "ก็ทำงานใช้แรงน่ะครับ"

เบร็ตต์: "ผมชื่อเบร็ตต์ครับ... พอดีเพื่อนผม... เขาชื่นชอบคนรูปร่างแบบคุณมาก... เขาอยากจะชวนคุณไปคุยเล่นที่บ้านหน่อย... พร้อมกับมีค่าเสียเวลาให้ด้วย"

หนุ่มเติมน้ำมันเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

หนุ่มเติมน้ำมัน: "ไปคุยเล่นที่บ้าน? ค่าเสียเวลา?"

เบร็ตต์: "ใช่ครับ... เพื่อนผมใจดี... สนใจไหมล่ะครับ?"

หนุ่มเติมน้ำมันใช้ความคิดครู่หนึ่ง... ก่อนจะยิ้มออกมา

หนุ่มเติมน้ำมัน: "ถ้าไม่นานมาก... ก็ได้ครับ... ผมชื่อ... คาล"

เบร็ตต์ยิ้มดีใจ

เบร็ตต์: "เยี่ยมเลยคาล... ตามผมมาเลยครับ"

แล้วเบร็ตต์ก็พาคาลไปยังบ้านใหม่ของแซม... โดยที่คาลยังคงงงๆ เล็กน้อยว่าเขากำลังจะไปเจออะไร

เมื่อเบร็ตต์พาคาลเข้ามาในบ้าน... แซมที่นอนรออยู่บนโซฟาก็ลุกขึ้นนั่งด้วยความสนใจ

สายตาของแซมจับจ้องไปที่คาลทันที... รูปร่างสูงใหญ่... กล้ามเนื้อที่แข็งแรง... ใบหน้าคมสัน... ดวงตาสีฟ้าเข้ม... ทุกอย่างตรงตามสเปกที่แซมชอบ

แซม: (ยิ้ม) "สวัสดีครับ... ผมแซม... ขอบคุณมากนะครับที่มา"

คาล: (ยิ้มสุภาพ) "สวัสดีครับ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

เบร็ตต์: "นี่คาล... คาล... นี่แซมเพื่อนฉัน"

แซมมองไปที่เบร็ตต์ด้วยสายตาขอบคุณ

แซม: "เบร็ตต์บอกว่าคุณทำงานอยู่ที่ปั๊มน้ำมันเหรอครับ?"

คาล: "ใช่ครับ"

แซม: "ผมชอบคนทำงานแบบคุณจังเลยนะครับ... ดูแข็งแรงดี"

คาลยิ้มเล็กน้อย

แซม: "ผมมีข้อเสนอเล็กน้อยให้คุณ... ถ้าคุณสนใจจะสละเวลามาคุยเล่นกับผมเป็นการส่วนตัว..." แซมเว้นจังหวะเล็กน้อย

คาลมองแซมด้วยความสงสัย

แซม: "...ผมยินดีที่จะให้ค่าเสียเวลาคุณ..."

เบร็ตต์นั่งลงบนโซฟาข้างๆ แซม... มองดูสถานการณ์อย่างสนุกสนาน

คาลมองแซมด้วยความสงสัยใคร่รู้

คาล: "ค่าเสียเวลา... ให้ผมทำอะไรเหรอครับ?"

แซมสบตาคาลอย่างเปิดเผย

แซม: "ผมอยากให้คุณ... ใช้ปากปรนนิบัติผม... แลกกับเงินห้าร้อยดอลลาร์"

คาลนิ่งไปครู่หนึ่ง... มองแซม... แล้วเหลือบมองเบร็ตต์ที่นั่งยิ้มอยู่บนโซฟา

คาลใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง... ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่ถือสา

คาล: "ห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับอมควยคุณเนี่ยนะ?"

แซม: "ใช่ครับ... ถ้าคุณสนใจ"

คาลพยักหน้าช้าๆ

คาล: "ก็ได้ครับ... ไม่เสียหายอะไร"

แซมยิ้มอย่างพอใจ

แซม: "เยี่ยมเลย... ตามผมมาสิ"

แซมนำคาลไปยังห้องนอน... ทิ้งให้เบร็ตต์นั่งยิ้มอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น

แซมเปิดประตูห้องนอนเข้าไป คาลเดินตามหลังมาอย่างไม่รีบร้อน ห้องนอนตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเพียงเตียงขนาดคิงไซส์ โต๊ะข้างเตียงเล็กๆ และโคมไฟตั้งพื้น

แซมชี้ไปยังเตียง

แซม: "เชิญนั่งก่อนสิครับ"

คาลเดินไปนั่งลงบนขอบเตียง มองสำรวจห้องด้วยความสนใจ

แซมยืนอยู่ตรงหน้าคาล มองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปิดเผยและเป็นมิตร

แซม: "พร้อมไหมครับ?"

คาลยิ้มเล็กน้อย

คาล: "ครับ... ลองดูก็ได้"

แซมเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองช้าๆ มองปฏิกิริยาของคาลไปด้วย คาลจ้องมองการกระทำของแซมอย่างไม่ละสายตา

เมื่อเสื้อเชิ้ตถูกถอดออกวางไว้บนเก้าอี้ แซมก็เริ่มปลดเข็มขัดกางเกง

แซม: "ไม่ต้องเกร็งนะครับ... ทำตามที่คุณรู้สึกสบาย"

คาลพยักหน้าเล็กน้อย เขาเริ่มคลายความประหม่าลงบ้าง

เมื่อกางเกงของแซมถูกรูดซิปลง เผยให้เห็นลำกายที่เริ่มตื่นตัว คาลก็จ้องมองด้วยความอยากรู้อยากลอง

แซม: "เข้ามาใกล้ๆ สิครับ"

คาลขยับเข้ามาใกล้แซมมากขึ้น เขาคุกเข่าลงตรงหน้าแซม สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ลำกายนั้นอย่างไม่ละ

แซมค่อยๆ จับมือของคาลมาสัมผัสกับส่วนนั้น

แซม: "ลองจับดูสิครับ..."

คาลสัมผัสอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกอุ่นและแข็งแรงทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่

แซม: "ไม่ต้องกลัว... ทำเหมือนที่คุณทำให้ตัวเอง..."

คำพูดของแซมทำให้คาลรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขามองหน้าแซมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงมา

ริมฝีปากของคาลแตะต้องส่วนปลายของแซมอย่างช้าๆ ความรู้สึกอุ่นชื้นค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่วลำกายของแซม

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ครอบงำ เขาสูดหายใจเข้าลึก

คาลเริ่มขยับปากช้าๆ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น แซมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่าย

แซม: "ดีมาก... ทำได้ดี..." เขาชมเบาๆ

คำชมของแซมดูเหมือนจะให้กำลังใจคาล เขากล้าที่จะเพิ่มความลึกและจังหวะในการอมมากขึ้น

เสียงครางต่ำๆ ของแซมเริ่มดังออกมาเป็นระยะๆ บ่งบอกถึงความพึงพอใจ

คาลตั้งใจปรนนิบัติแซมอย่างเต็มที่ ราวกับต้องการตอบแทนเงินห้าร้อยดอลลาร์ที่กำลังจะได้มา

แซมยกมือขึ้นลูบศีรษะของคาลเบาๆ เขารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

เวลาผ่านไปชั่วครู่... ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นในร่างกายของแซม... เขาหายใจถี่ขึ้น...

แซม: "อืมมม... ใกล้แล้ว..."

คาลรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เขายิ่งตั้งใจปรนนิบัติมากขึ้น

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมา... เสียงครางดังขึ้น... พร้อมกับการกระตุกเบาๆ ของร่างกาย

คาลยังคงอมต่อไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ผละออก มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อเล็กน้อย

แซมนอนหอบอยู่บนเตียง มองคาลด้วยสายตาที่อ่อนแรงแต่มีความสุข

แซม: "ขอบคุณมากนะครับ..."

คาลยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

คาล: "ไม่เป็นไรครับ..."

แซมหยิบเงินห้าร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ถอดไว้ ยื่นให้กับคาล

แซม: "นี่ครับ... ตามที่ตกลง"

คาลรับเงินมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เขามองเงินในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย

คาล: "ขอบคุณครับ..."

แซมลุกขึ้นแต่งตัว มองไปยังคาลที่ยังคงนั่งอยู่บนขอบเตียง

แซม: "ถ้าคุณสนใจอีก... บอกผมได้เสมอนะครับ"

คาลมองแซม ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

คาล: "ครับ..."

จากนั้น... แซมก็เดินออกจากห้องนอน กลับไปยังห้องนั่งเล่นที่มีเบร็ตต์นั่งรออยู่... ทิ้งให้คาลอยู่คนเดียวในห้อง... พร้อมกับเงินห้าร้อยดอลลาร์ในมือ... และประสบการณ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับ...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

11. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #10
 
16-May-25, 07:35 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมยังคงออกเดินทางต่อไป... ความปรารถนาที่จะค้นพบเสน่ห์ของหนุ่ม "red neck" ในหลากหลายอาชีพยังคงเป็นแรงผลักดัน

ระหว่างขับรถชมวิวทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของทุ่งข้าวสาลีสีทองอร่าม... สายตาของแซมก็สะดุดเข้ากับภาพที่น่าดึงดูดใจ...

บนรถเกี่ยวข้าวขนาดใหญ่... มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังควบคุมเครื่องจักรอย่างคล่องแคล่ว... เขาสวมกางเกงยีนส์เก่าๆ กับเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่พับขึ้นถึงข้อศอก... เผยให้เห็นท่อนแขนที่แข็งแรงจากการทำงานกลางแดด

ใบหน้าของเขาคมคาย... แม้จะมีร่องรอยของฝุ่นดินและเหงื่อ... แต่ก็ไม่อาจบดบังความหล่อเหลาที่ซ่อนอยู่ได้... ดวงตาของเขาดูมุ่งมั่นขณะที่มองไปยังทุ่งข้าวสาลีเบื้องหน้า

แซมจอดรถริมถนน... มองไปยังคนขับรถเกี่ยวข้าวหนุ่มคนนั้นด้วยความสนใจ... เสน่ห์ดิบเถื่อนและความแข็งแรงของเขาช่างน่าดึงดูด

แซมตัดสินใจลงจากรถ... เดินเข้าไปใกล้ทุ่งข้าวสาลี... หวังที่จะได้พูดคุยกับหนุ่มคนนั้น

แซมจอดรถริมถนน... มองไปยังรถเกี่ยวข้าวที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในทุ่งกว้าง... เขาตัดสินใจรอจนกว่าคนขับจะพักผ่อน

ไม่นานนัก... รถเกี่ยวข้าวก็หยุดลงใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมทุ่ง... คนขับหนุ่มดับเครื่องยนต์... แล้วลงมาจากรถด้วยท่าทางที่ดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังคงสง่างาม

แซมเดินเข้าไปใกล้ด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

แซม: "สวัสดีครับ..."

คนขับหนุ่มหันมามองแซม... เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากด้วยหลังมือ

คนขับ: "สวัสดีครับ... มีอะไรหรือเปล่าครับ?" น้ำเสียงของเขาดูเหนื่อยแต่ก็สุภาพ

แซม: "ผมขับรถผ่านมา... เห็นคุณทำงานหนักเลย... อากาศร้อนมากเลยนะครับ"

คนขับ: "ครับ... ช่วงนี้ก็เก็บเกี่ยวกันเต็มที่"

แซม: "ผมชื่อแซมครับ... คุณล่ะครับ?"

คนขับ: "ผมชื่อ... โคลท์"

แซมมองโคลท์ด้วยความสนใจ... ใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อและดิน... กลับยิ่งขับให้เขาดูหล่อเหลาขึ้น

แซม: "โคลท์... ผมรู้สึกชื่นชมในตัวคุณมากเลยนะครับ... ทำงานกลางแดดแบบนี้... ดูแข็งแรงมาก"

โคลท์ยิ้มเล็กน้อย

โคลท์: "ก็ต้องทำมาหากินน่ะครับ"

แซม: "ผมมีข้อเสนอเล็กน้อย... ถ้าคุณสนใจจะสละเวลาพักผ่อนคุยกับผมสักครู่..." แซมลดเสียงลงเล็กน้อย

โคลท์มองแซมด้วยความสงสัย... แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจ

โคลท์: "ข้อเสนออะไรเหรอครับ?"

แซมสบตาโคลท์อย่างเปิดเผย

แซม: "ผมอยากให้คุณ... ใช้ปากปรนนิบัติผม... แลกกับเงินห้าร้อยดอลลาร์"

โคลท์นิ่งไปครู่หนึ่ง... มองแซม... แล้วมองไปรอบๆ ทุ่งข้าวสาลีที่เงียบสงบ

โคลท์ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง... ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างไม่ถือสา

โคลท์: "ห้าร้อยดอลลาร์... สำหรับแค่นั้นเหรอครับ?"

แซม: "ใช่ครับ... ถ้าคุณสนใจ"

โคลท์พยักหน้าช้าๆ

โคลท์: "ก็ได้ครับ... ผมพอมีเวลาพักอยู่บ้าง"

แซมยิ้มอย่างพอใจ

แซม: "เยี่ยมเลย... แถวนี้พอจะมีที่เงียบๆ หน่อยไหมครับ?"

โคลท์ชี้ไปยังด้านหลังรถเกี่ยวข้าว

โคลท์: "ตรงนั้นมีร่มไม้ใหญ่... น่าจะพอได้"

แล้วทั้งสองคนก็เดินไปยังร่มไม้ใหญ่... พร้อมกับข้อตกลงลับๆ ที่เกิดขึ้นกลางทุ่งข้าวสาลีสีทอง...

ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น แสงแดดยามบ่ายส่องลอดใบไม้ลงมาเป็นจุดๆ สร้างบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบ เสียงลมพัดเบาๆ ผ่านทุ่งข้าวสาลีดังแว่วมาเป็นระยะ

แซมมองไปรอบๆ อย่างพึงพอใจกับสถานที่ที่โคลท์เลือก

แซม: "ที่นี่เหมาะเลย... ขอบคุณนะ"

โคลท์ยิ้มเล็กน้อย

โคลท์: "ไม่เป็นไรครับ"

แซมเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองช้าๆ มองไปยังโคลท์ด้วยสายตาที่เปิดเผย

แซม: "พร้อมไหมครับ?"

โคลท์พยักหน้าเบาๆ แต่แววตาของเขาก็แสดงความอยากรู้อยากลองออกมาอย่างชัดเจน

แซมถอดเสื้อเชิ้ตออกวางไว้บนพื้นหญ้า จากนั้นก็เริ่มปลดเข็มขัดกางเกง

แซม: "ไม่ต้องเกร็งนะครับ... ทำตามที่คุณรู้สึกสบาย"

โคลท์มองการกระทำของแซมอย่างตั้งใจ เมื่อกางเกงของแซมถูกรูดซิปลง เผยให้เห็นลำกายที่เริ่มตื่นตัว เขาก็กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว

แซม: "เข้ามาใกล้ๆ สิครับ"

โคลท์ขยับเข้ามาใกล้แซมมากขึ้น เขาคุกเข่าลงตรงหน้าแซม สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ลำกายนั้นอย่างไม่ละ

แซมค่อยๆ จับมือของโคลท์มาสัมผัสกับส่วนนั้น

แซม: "ลองดูสิครับ..."

โคลท์สัมผัสอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกอุ่นและแข็งแรงทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่

แซม: "ไม่ต้องกลัว... ทำเหมือนที่คุณทำให้ตัวเอง..."

คำพูดของแซมทำให้โคลท์คลายความประหม่าลงบ้าง เขามองหน้าแซมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงมา

ริมฝีปากอ่อนเยาว์ของโคลท์แตะต้องส่วนปลายของแซมอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกนุ่มนวลค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่วลำกายของแซม

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ครอบงำ เขาสูดหายใจเข้าลึก

โคลท์เริ่มขยับปากช้าๆ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น แซมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่าย

แซม: "ดีมาก... ทำได้ดี..." เขาชมเบาๆ

คำชมของแซมดูเหมือนจะให้กำลังใจโคลท์ เขากล้าที่จะเพิ่มความลึกและจังหวะในการอมมากขึ้น

เสียงครางต่ำๆ ของแซมเริ่มดังออกมาเป็นระยะๆ บ่งบอกถึงความพึงพอใจ

โคลท์ตั้งใจปรนนิบัติแซมอย่างเต็มที่ ราวกับต้องการตอบแทนเงินห้าร้อยดอลลาร์ที่กำลังจะได้มา

แซมยกมือขึ้นลูบศีรษะของโคลท์เบาๆ เขารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

เวลาผ่านไปชั่วครู่... ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นในร่างกายของแซม... เขาหายใจถี่ขึ้น...

แซม: "อืมมม... ใกล้แล้ว..."

โคลท์รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เขายิ่งตั้งใจปรนนิบัติมากขึ้น

ในที่สุด... แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมา... เสียงครางดังขึ้น... พร้อมกับการกระตุกเบาๆ ของร่างกาย

โคลท์ยังคงอมต่อไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ผละออก มองแซมด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อเล็กน้อย

แซมนอนหอบอยู่บนพื้นหญ้า มองโคลท์ด้วยสายตาที่อ่อนแรงแต่มีความสุข

แซม: "ขอบคุณมากนะครับ..."

โคลท์ยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

โคลท์: "ไม่เป็นไรครับ..."

แซมหยิบเงินห้าร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ถอดไว้ ยื่นให้กับโคลท์

แซม: "นี่ครับ... ตามที่ตกลง"

โคลท์รับเงินมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เขามองเงินในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย

โคลท์: "ขอบคุณครับ..."

แซมลุกขึ้นแต่งตัว มองไปยังโคลท์ที่ยังคงคุกเข่าอยู่

แซม: "ถ้าคุณสนใจอีก... บอกผมได้เสมอนะครับ"

โคลท์มองแซม ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

โคลท์: "ครับ..."

จากนั้น... แซมก็เดินกลับไปยังรถเกี่ยวข้าว ทิ้งให้โคลท์นั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่... พร้อมกับเงินห้าร้อยดอลลาร์ในมือ... และประสบการณ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับท่ามกลางทุ่งข้าวสาลีสีทอง...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

12. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #11
 
16-May-25, 07:57 AM (SE Asia Standard Time)
 
   Red neck ผู้หล่อล่ำ แข็งแกร่ง ดิบเถื่อน กล้ามเป็นมัดๆ ทั้งหลาย








  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
แกมมอน
Guest

13. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #12
 
16-May-25, 08:51 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ไหนละควย red neck?


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ค่ะ
Guest

14. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #13
 
16-May-25, 10:43 AM (SE Asia Standard Time)
 
   อิห่า.
มึงไม่เอาหนุ่ม คอแดงที่วันไนั่งแดกเบียร์อ้วนเป็นหมู. มาลงบ้าง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
สาว NY
Guest

15. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #14
 
16-May-25, 01:24 PM (SE Asia Standard Time)
 
   อีบ้า ถ้าหล่อนไปเห็นพวกRed neckตามเมืองบ้านนอก ส่วนใหญ่มันไม่ใช่แบบในรูปเลย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ติ๋ม เท็กซัส
Guest

16. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #15
 
16-May-25, 09:46 PM (SE Asia Standard Time)
 
   เดี๊ยนชอบนะ หนุ่มคอแดง อเมริกัน คงมาจากการที่เค้าต้องตากแดดทำไร่ทำสวนป่ะ เห็นในไอจีเต็มเลย แหมกะเทยเนาะมึงจะให้เอาอ้วนๆแดกพิซซ่า กระดกเบียร์ตามบ้านนอกไอ้กันมาลงได้ไง กะเทยก็ขอดูล่ำๆ หนุ่มๆ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ฮึ๊บๆๆ อุ๊บบ เย้เย้
Guest

17. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #16
 
17-May-25, 00:15 AM (SE Asia Standard Time)
 
   https://www.facebook.com/share/r/16YYByKJiC/


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

29. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #16
 
18-May-25, 06:22 AM (SE Asia Standard Time)
 
   >เดี๊ยนชอบนะ หนุ่มคอแดง อเมริกัน
>คงมาจากการที่เค้าต้องตากแดดทำไร่ทำสวนป่ะ เห็นในไอจีเต็มเลย
>แหมกะเทยเนาะมึงจะให้เอาอ้วนๆแดกพิซซ่า
>กระดกเบียร์ตามบ้านนอกไอ้กันมาลงได้ไง กะเทยก็ขอดูล่ำๆ หนุ่มๆ

เห็นด้วยค่ะ อ่านแล้วก็งง ทำไมไม่เอาคนอ้วนมาลง? จะลงเพื่อ? ในสังคมไหนๆมันก็มีคนอ้วนหรืออัปลักษณ์ทั้งนั้น

แต่จำเป็นต้องพูดถึงมั๊ย ดูคนหล่อๆก็พอ


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ตุ๊ดคอแดง
Guest

18. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #0
 
17-May-25, 08:05 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ต้องเข้าใจนิยามของคำว่า Red Neck จริงๆ ก่อนนะ แล้วค่อยเอามามโนฯ กันอีกที

อีพวกที่หล่อล่ำ อยู่ดีกินหรู ขับกระบะคันละแสนดอลล์​นี่ แล้วเรียกตัวเองว่าคอแดงนี่คือร้อยทั้งร้อยเขาเรียก Poser

พูดง่าย ๆ ภาษากะเทยไทย คือ พวกคอสเพลย์นั่นแหระ พวกนี้ไม่ได้ทำอาชีพที่ Red Neck จริง ๆ เข้าทำกันหรอก ส่วนใหญ่ก็ทำงานห้องแอร์กินเงินเดือนกันทั้งนั้น (Blue Collar กระแดะอย่างแอ๊บเป็น Red Neck)

Red Neck ของแท้พวกมึงเจอแล้วจะอึ้งแดก อยากให้มาเห็นกันจริง ๆ ขนาดว่าไทอีสานแดกแย้ แดกอึ่ง แดกงูสิงห์ มีค่านิยม และความเชื่อที่แตกต่าง ฯลฯ มาเจอคอแดงเมกัน ไทอีสานนี่แทบจะชิดซ้าย


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ภาพปลากรอบ
Guest

19. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #18
 
17-May-25, 09:02 AM (SE Asia Standard Time)
 
  


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

20. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #19
 
18-May-25, 02:50 AM (SE Asia Standard Time)
 
   (เสียงหวีดหวิวสูงแหลมดังขึ้นท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดและสัตว์กลางคืนในชนบทของอเมริกา แสงสีฟ้าสว่างวาบส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนของแซม)

แซมที่กำลังหลับใหลอย่างสงบอยู่บนเตียง ขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ทันใดนั้นเอง ร่างของเขาก็เริ่มลอยขึ้นจากเตียงช้าๆ โดยที่เขายังไม่ทันรู้สึกตัว

แสงสีฟ้าที่ส่องเข้ามาจากภายนอกเข้มข้นขึ้น พร้อมกับเสียงต่ำๆ ที่ดังกระหึ่มก้องกังวาน

ร่างของแซมลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ผ่านเพดานทะลุออกไปนอกบ้าน ราวกับถูกแรงดึงดูดมหาศาลบางอย่าง

เหนือทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ปรากฏวัตถุทรงกลมสีเงินยวงขนาดมหึมา ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ แสงสีฟ้าสว่างจ้าแผ่ออกมาจากใต้ท้องยาน

ลำแสงสีฟ้าอีกสายพุ่งลงมาจับร่างของแซมที่กำลังลอยละลิ่วขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

แซมยังคงหลับอยู่ ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกลักพาตัวขึ้นไปยังยานที่ไม่รู้จัก

ร่างของแซมค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปในลำแสง และหายเข้าไปในยาน UFO ขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือบ้านไร่ในอเมริกา

ภายในยาน แสงสีขาวนวลสว่างจ้า แซมถูกวางลงบนแท่นยาว มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาด ผิวสีเทา ดวงตาดำโต ไร้ขน กำลังยืนจ้องมองเขาอยู่

พวกมันเริ่มทำการตรวจสอบร่างกายของแซมด้วยเครื่องมือที่ไม่คุ้นตา แสงเลเซอร์ส่องไปทั่วตัวของเขา

แซมยังคงหลับอยู่... ไม่รู้ว่าการผจญภัยครั้งใหม่ที่เหนือความคาดหมายกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

(เสียงหวีดหวิวค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงความเงียบสงัดเหนือบ้านไร่ในอเมริกา... พร้อมกับการหายตัวไปของแซมอย่างลึกลับ...)

เกิดอะไรขึ้นกับแซมบนยาน UFO ลำนั้น? พวกมันต้องการอะไรจากเขา? และเขาจะสามารถกลับมายังโลกได้หรือไม่?

ภายในยาน UFO ที่สว่างจ้า แซมนอนอยู่บนแท่นยาวอย่างไม่รู้สึกตัว ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นร่างของชายอีกคนนอนอยู่บนแท่นอีกฝั่งหนึ่ง

ชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตเก่าๆ และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือหมวกแก๊ปสีซีดที่เขายังสวมอยู่ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้ก็ตาม

แซมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ใครกัน? ทำไมถึงถูกลักพาตัวมาเหมือนกัน?

เขาลุกขึ้นนั่ง มองไปยังชายคนนั้นอย่างพิจารณา รูปหน้าคมสัน จมูกโด่ง และเคราครึ้มที่ยังไม่ได้โกนบ่งบอกถึงความเป็น "redneck" อย่างชัดเจน แม้แต่ในชุดที่ดูเหมือนชุดตรวจของพวกเอเลี่ยน เขาก็ยังคงมีเสน่ห์แบบบ้านๆ ที่แซมคุ้นเคย

แซมตัดสินใจทักทาย

แซม: "เอ่อ... สวัสดีครับ?"

ชายคนนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองมาที่แซมด้วยแววตางัวเงีย ก่อนจะปรับโฟกัส

"อืมม... นายเป็นใครวะเนี่ย?" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียปนสงสัย

แซม: "ผมชื่อแซม... แล้วคุณล่ะ?"

"ชื่อ... บิลลี่..." ชายคนนั้นตอบพลางลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ ด้วยความงุนงง "ที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ย? ไอ้พวกตัวเขียวๆ นั่นมันใคร?"

แซมถอนหายใจ

แซม: "ดูเหมือนว่า... พวกเราจะถูกลักพาตัวมาน่ะ บิลลี่... โดย UFO"

บิลลี่ขมวดคิ้วมุ่น มองแซมราวกับเขาพูดเรื่องไร้สาระ

บิลลี่: "UFO บ้าบออะไรวะ? เมื่อคืนกูก็นอนดูทีวีอยู่ที่บ้านดีๆ นี่หว่า"

แซม: "ผมก็เหมือนกัน... แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ฝันร้าย..."

แซมมองไปรอบๆ ยาน ดวงตาดำโตของพวกเอเลี่ยนยังคงจับจ้องพวกเขาอยู่

แซม: "ดูสิ บิลลี่... พวกนั้นไง..."

บิลลี่มองตามสายตาของแซมไปยังพวกเอเลี่ยน ผิวสีเทา ดวงตาดำโต ทำให้เขาเบิกตากว้าง

บิลลี่: "เชี้ย! จริงด้วย! ไอ้พวกนี้มันตัวอะไรวะเนี่ย?"

แซม: "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน... แต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้อยู่คนเดียว..."

แซมมองไปยังบิลลี่อีกครั้ง รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าของเขา ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่าประหลาดและน่ากลัวนี้... การได้เจอหนุ่ม "redneck" อีกคน... ก็ดูเหมือนจะไม่เลวร้ายเท่าไหร่

แซม: "ว่าไง บิลลี่... อย่างน้อยเราก็ไม่ได้โดนลักพาตัวมาคนเดียว..."

เขากับบิลลี่ต้องหาทางร่วมมือกันหนีออกจากที่นี่ มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะหาทางหลบหนีจากเทคโนโลยีชั้นสูง

แซมพยักหน้าเห็นด้วยกับบิลลี่

แซม: "ใช่ บิลลี่... เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่... ร่วมมือกัน"

บิลลี่ขยับหมวกแก๊ปบนหัวเล็กน้อย มองไปรอบๆ อย่างครุ่นคิด

บิลลี่: "แล้วเราจะเริ่มตรงไหนวะเนี่ย? ดูเหมือนว่าไอ้พวกนี้มันจะมีเทคโนโลยีล้ำๆ ทั้งนั้น"

แซมมองสำรวจห้องอย่างละเอียด พยายามหาจุดอ่อนหรือช่องทางที่เป็นไปได้

แซม: "เราต้องสังเกต... ดูว่าพวกมันทำอะไรบ้าง มีทางเข้าออกตรงไหน... แล้วค่อยวางแผน"

ทั้งสองเริ่มสังเกตการณ์ภายในยานอย่างเงียบๆ พวกเอเลี่ยนดูเหมือนจะไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก กำลังวุ่นวายกับการควบคุมแผงหน้าปัดและอุปกรณ์ต่างๆ

บิลลี่กระซิบ

บิลลี่: "ไอ้เครื่องมือพวกนั้นมันดูแปลกๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ... เราจะไปยุ่งกับมันได้ยังไง?"

แซม: "เราอาจจะไม่ต้องยุ่งกับมันโดยตรง... แค่หาทางหลบเลี่ยงพวกมัน... หรือหาอะไรมาใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว"

พวกเขาเดินสำรวจไปตามทางเดินภายในยาน พบห้องต่างๆ ที่มีอุปกรณ์ที่ไม่คุ้นตา บางห้องมีแสงสว่างจ้า บางห้องมืดสนิท

แซมสังเกตเห็นแผงควบคุมประตูในห้องหนึ่ง

แซม: "บิลลี่... ตรงนั้น... อาจจะเป็นแผงควบคุมประตู"

ทั้งสองค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้แผงควบคุม มันมีสัญลักษณ์และภาษาที่พวกเขาไม่เข้าใจ

บิลลี่ลองกดปุ่มต่างๆ ดู แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บิลลี่: "แม่งเอ๊ย... อ่านไม่ออกเลย"

แซม: "ต้องลองสังเกตว่าพวกมันกดปุ่มไหนบ้าง..."

พวกเขาเฝ้าสังเกตพวกเอเลี่ยนที่เดินผ่านไปมา และพยายามจดจำการใช้งานแผงควบคุม

เวลาผ่านไป พวกเขารวบรวมข้อมูลได้บ้างเล็กน้อย

แซม: "ดูเหมือนว่าปุ่มสีฟ้าจะใช้เปิดประตู..."

บิลลี่: "แล้วเราจะไปทางไหนต่อวะ ถ้าเปิดประตูได้?"

แซม: "ยังไม่รู้... แต่การออกไปจากห้องนี้ได้... ก็ถือว่าเป็นก้าวแรก"

ความหวังเริ่มก่อตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าเทคโนโลยีของพวกเอเลี่ยนจะล้ำสมัย แต่พวกมันก็ดูไม่ได้ระมัดระวังพวกเขามากนัก

แซม: "บิลลี่... เราจะลองเปิดประตูนี้ดู... เตรียมตัวไว้ ถ้ามีอะไรผิดปกติ เราจะได้รีบหนี"

บิลลี่พยักหน้าอย่างมุ่งมั่น

บิลลี่: "เออ... ลองดูสักตั้ง!"

แซมค่อยๆ เอื้อมมือไปกดปุ่มสีฟ้าบนแผงควบคุม... ประตูเริ่มเลื่อนเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นทางเดินที่มืดสนิท...

จะเป็นไปได้หรือไม่ที่แซมและบิลลี่จะหาทางหลบหนีจากเทคโนโลยีชั้นสูงนี้? การหลบหนีเพิ่งเริ่มต้นขึ้น...

ประตูเลื่อนเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นทางเดินที่มืดสนิท แซมและบิลลี่มองหน้ากันด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดระแวง

แซมกระซิบ: "ไปกันเลย"

ทั้งสองค่อยๆ ย่องเข้าไปในทางเดินที่มืดมิด ความเงียบปกคลุม มีเพียงเสียงฝีเท้าเบาๆ ของพวกเขาที่ดังแผ่วๆ

บิลลี่กระซิบถาม: "จะไปทางไหนต่อวะ?"

แซม: "ไม่รู้... แต่ไปให้ไกลจากพวกนั้นก่อน"

พวกเขาเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ พบกับทางแยกหลายครั้ง ทั้งสองตัดสินใจเลือกทางที่ดูเหมือนจะนำลึกลงไปในยานมากขึ้น หวังว่าจะพบทางออก

ระหว่างทาง พวกเขาพบห้องเก็บของเล็กๆ ภายในมีเครื่องมือและอุปกรณ์ประหลาดวางเรียงราย

บิลลี่หยิบแท่งโลหะยาวขึ้นมา: "อันนี้พอใช้เป็นอาวุธได้ไหมวะ?"

แซมพิจารณาดู: "อาจจะ... อย่างน้อยก็ไว้ป้องกันตัว"

พวกเขาหยิบแท่งโลหะมาคนละอัน แล้วเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องขนาดใหญ่ที่มีหน้าต่างใสบานใหญ่ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของอวกาศอันกว้างใหญ่

บิลลี่อุทาน: "เชี้ย! เราออกมาไกลขนาดนี้แล้วเหรอวะ?"

แซม: "ดูเหมือนว่ายานนี้จะใหญ่มาก..."

ทันใดนั้นเอง เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นทั่วทั้งยาน แสงสีแดงกะพริบวูบวาบ

"แม่งเอ๊ย! พวกมันรู้ตัวแล้ว!" บิลลี่สบถ

แซม: "ต้องรีบหาทางออก!"

พวกเขาหันซ้ายขวาอย่างรนราน มองหาทางออกอื่น

แซมสังเกตเห็นประตูฉุกเฉินที่มีสัญลักษณ์แปลกๆ เรืองแสงอยู่

แซม: "บิลลี่! ตรงนั้น!"

ทั้งสองรีบวิ่งไปยังประตูฉุกเฉิน แซมพยายามเปิดประตู แต่กลไกดูซับซ้อน

บิลลี่ใช้แท่งโลหะงัดแงะประตูอย่างแรง

"เร็วเข้า!" แซมเร่ง

ในที่สุด ประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นอุโมงค์แคบๆ

"เข้าไป!" แซมผลักบิลลี่เข้าไปก่อน แล้วตามเข้าไป

พวกเขาคลานไปตามอุโมงค์แคบๆ นั้น เสียงฝีเท้าของพวกเอเลี่ยนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

อุโมงค์นำพวกเขามายังห้องเครื่องขนาดใหญ่ มีท่อและสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมด

แซมสังเกตเห็นช่องระบายอากาศขนาดใหญ่บนผนัง

แซม: "บิลลี่! ทางนี้!"

พวกเขาปีนขึ้นไปที่ช่องระบายอากาศ แล้วดันตะแกรงออก

"เข้าไป!" แซมกระซิบ

ทั้งสองคลานเข้าไปในช่องระบายอากาศแคบๆ อากาศข้างในเหม็นอับ

พวกเขาคลานไปตามช่องระบายอากาศวกวน ในที่สุดก็พบกับช่องเปิดที่นำไปสู่ภายนอกยาน

แสงดาวส่องเข้ามาเล็กน้อย

แซม: "ดูเหมือนจะเป็นทางออก!"

พวกเขาผลัดกันดันตัวออกไปนอกยาน... ร่างของพวกเขาลอยคว้างอยู่กลางอวกาศอันมืดมิด

"เชี้ย! แล้วเราจะไปไหนต่อวะเนี่ย?" บิลลี่ถามด้วยความตื่นตระหนก

แซมมองไปรอบๆ เห็นยานขนาดเล็กจอดอยู่ไม่ไกล

แซม: "ยานลำนั้น! เราต้องไปที่นั่น!"

ทั้งสองพยายามคว้าจับส่วนต่างๆ ของยานเพื่อเคลื่อนที่ไปหายานขนาดเล็กนั้นอย่างทุลักทุเล... การหลบหนีจากเทคโนโลยีชั้นสูง... ดูเหมือนจะสำเร็จไปได้ด้วยดี... แต่การเอาชีวิตรอดในอวกาศ... เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น...

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะกลับบ้าน แซมและบิลลี่ช่วยกันควบคุมยานขนาดเล็กนั้นอย่างทุลักทุเล แม้จะไม่คุ้นเคยกับระบบควบคุมที่ซับซ้อน แต่สัญชาตญาณและความปรารถนาที่จะกลับสู่โลกก็ผลักดันให้พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

บิลลี่ซึ่งเคยขับรถบรรทุกขนาดใหญ่มาก่อน มีทักษะในการควบคุมยานพาหนะพอสมควร เขาพยายามทำความเข้าใจแผงควบคุมต่างๆ ในขณะที่แซมช่วยสังเกตการณ์และหาทิศทาง

การเดินทางในอวกาศนั้นยาวนานและน่าหวาดหวั่น พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ทั้งสนามพลังงานที่ไม่เสถียร และเศษซากดาวเคราะห์น้อยที่ลอยเคว้งคว้าง แต่ด้วยความร่วมมือกัน พวกเขาก็สามารถหลบหลีกมาได้

ในที่สุด เมื่อมองผ่านหน้าต่างยาน พวกเขาก็เห็นดาวเคราะห์สีน้ำเงินเขียวที่คุ้นเคย โลก!

ความหวังพลุ่งพล่านขึ้นในใจของทั้งสอง พวกเขาเร่งเครื่องยาน มุ่งหน้าสู่บ้านเกิด

การลงจอดนั้นทุลักทุเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดพวกเขาก็นำยานลงจอดอย่างปลอดภัยในทุ่งหญ้าโล่งแห่งหนึ่ง

เมื่อเปิดประตูยานออกมา แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องมายังใบหน้าของพวกเขา อากาศบริสุทธิ์ของโลกช่างสดชื่น

แซมมองไปรอบๆ จำได้ว่าที่นี่ไม่ไกลจากบ้านไร่ของเขา

แซม: "เรากลับมาถึงโลกแล้ว บิลลี่... เราทำได้!"

บิลลี่ถอดหมวกแก๊ปออก ปาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความโล่งอก

บิลลี่: "เชี้ยเอ๊ย! ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้าน... ขอบคุณมากนะ แซม"

แซมยิ้ม

แซม: "เราช่วยกันนี่ บิลลี่... แล้วนายจะไปไหนต่อ?"

บิลลี่มองไปรอบๆ ทุ่งหญ้าอันคุ้นเคย

บิลลี่: "กูว่าจะโบกรถกลับบ้าน... บ้านกูอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้เท่าไหร่"

แซมพยักหน้า

แซม: "โชคดีนะ บิลลี่... ไว้เจอกันใหม่"

บิลลี่ตบบ่าแซมเบาๆ แล้วเดินจากไป

แซมยืนมองตามบิลลี่จนลับสายตา จากนั้นก็หันไปยังทิศทางของบ้านไร่ของเขา... ในที่สุดเขาก็กลับมาถึงบ้าน... การผจญภัยในอวกาศครั้งนี้... ช่างเหลือเชื่อจริงๆ

แซมเดินมุ่งหน้ากลับบ้าน... เขาจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้แบ็กซ์เตอร์ รัสเซลล์ และเชสฟัง... พวกเขาคงไม่อยากจะเชื่อแน่ๆ

(เสียงนกร้องในยามเช้าของชนบทอเมริกา... แซมกำลังกลับบ้าน...)

แซมมองตามหลังบิลลี่ที่เดินจากไป ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว... หนุ่ม "redneck" สุดหล่อ กล้ามโต แบบบิลลี่... ไม่ได้เจอกันง่ายๆ นี่นา... การผจญภัยร่วมกันบนยาน UFO... มันต้องมีความหมายอะไรบางอย่างสิ

แซมตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป

แซม: "บิลลี่! เดี๋ยวก่อน!"

แซมรีบวิ่งตามบิลลี่ไป

บิลลี่หันกลับมามองด้วยความสงสัย

บิลลี่: "มีอะไรเหรอ แซม?"

แซมวิ่งมาจนถึงตัวบิลลี่ หายใจหอบเล็กน้อย

แซม: "คือว่า... บ้านนายอยู่แถวนี้ใช่ไหม?"

บิลลี่พยักหน้า

บิลลี่: "เออ... อีกไม่ไกลแล้ว"

แซมยิ้ม

แซม: "งั้น... ฉันขอติดรถไปด้วยได้ไหม? ฉันยังไม่อยากเดินกลับบ้านคนเดียว..." (แม้ว่าบ้านเขาจะไม่ได้ไกลขนาดนั้นก็ตาม)

บิลลี่มองแซมด้วยความแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

บิลลี่: "เออ... ก็ได้... ทางเดียวกันนี่หว่า"

แซมยิ้มกว้าง ทั้งสองเดินไปตามถนนลูกรังด้วยกัน บิลลี่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านและไร่ของเขา แซมฟังอย่างตั้งใจ พลางชื่นชมรูปร่างกำยำของบิลลี่ไปด้วย

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่ดูอบอุ่น

บิลลี่: "ถึงแล้ว... บ้านฉัน"

แซมมองบ้านของบิลลี่ แล้วหันกลับมามองหน้าบิลลี่ด้วยสายตาที่สื่อความหมาย

แซม: "ขอบคุณนะ บิลลี่... ที่ให้ติดรถมาด้วย... บ้านนายดูน่าอยู่มากเลย..."

บิลลี่ยิ้มเล็กน้อย

บิลลี่: "ยินดีเสมอ... ว่าแต่... นายจะกลับบ้านเลยไหม?"

แซมส่ายหน้า

แซม: "ยังไม่อยากรีบกลับน่ะ... นายพอจะมีอะไรให้ดื่มเย็นๆ ไหม? หลังจากผจญภัยมาด้วยกันตั้งนาน..."

บิลลี่ดูลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

บิลลี่: "เออ... เข้ามาสิ..."

แซมยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาเดินตามบิลลี่เข้าไปในบ้าน... การผจญภัยครั้งใหม่กับหนุ่ม "redneck" กล้ามโต... เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นที่นี่... ในบ้านไม้หลังเล็กๆ ในชนบทของอเมริกา...

แซมจะทำอะไรต่อไป? และความสัมพันธ์ของเขากับบิลลี่จะเป็นอย่างไร?

แซมมองบิลลี่ด้วยสายตาที่จริงจังและเปิดเผย

แซม: "บิลลี่... ตั้งแต่ที่เราเจอกันบนยาน UFO... ผมรู้สึก... ชอบคุณมากเลยนะ... คุณเป็นคนตรงไปตรงมา... แล้วก็... ผมอยากจะอยู่กับคุณที่นี่... ไปนานๆ..."

แซมเว้นจังหวะเล็กน้อย มองปฏิกิริยาของบิลลี่

แซม: "ผม... ผมจะช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟในบ้านให้ทั้งหมดเลย... คุณว่ายังไง?"

บิลลี่มองแซมด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เขาขยับหมวกแก๊ปบนหัวเล็กน้อย มองแซมตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับกำลังประเมิน

บิลลี่: "นาย... ชอบฉัน?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก

แซมพยักหน้าอย่างมั่นใจ

แซม: "ใช่... ผมชอบคุณ... ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูเร็วไปหน่อย... แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ"

บิลลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังคิดอย่างหนัก เขาเดินไปหยิบแก้วน้ำจากเคาน์เตอร์แล้วดื่มอึกใหญ่

บิลลี่: "แล้ว... ทำไมนายถึงชอบฉัน?" เขาถามโดยไม่สบตาแซม

แซมเดินเข้าไปใกล้บิลลี่มากขึ้น

แซม: "ผมชอบที่คุณเป็นคุณ... ความแข็งแรงของคุณ... ความเป็นกันเอง... แม้กระทั่งหมวกแก๊ปของคุณนั่นแหละ..." แซมยิ้มเล็กน้อย

บิลลี่เหลือบมองหมวกแก๊ปตัวเองแล้วถอนหายใจเบาๆ

บิลลี่: "แล้วเรื่องเงินที่นายจะช่วยจ่ายนั่นมันอะไรกัน?"

แซม: "ผมแค่อยากจะช่วย... ถ้าผมได้อยู่ที่นี่กับคุณ... ผมอยากจะแบ่งเบาภาระของคุณ"

บิลลี่เงียบไปอีกครั้ง บรรยากาศในบ้านไม้หลังเล็กๆ นั้นเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมที่พัดเบาๆ ผ่านหน้าต่าง

ในที่สุด บิลลี่ก็เงยหน้าขึ้น มองแซมด้วยแววตาที่ยังคงมีความสงสัย แต่ก็เริ่มมีความอ่อนลง

บิลลี่: "ฉัน... ไม่เคยมีใครมาพูดอะไรแบบนี้กับฉันมาก่อน..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง

แซมเดินเข้าไปใกล้บิลลี่อีกนิด เอื้อมมือไปแตะแขนของบิลลี่เบาๆ

แซม: "ให้โอกาสผมได้ไหม บิลลี่... ให้โอกาสเราได้รู้จักกันมากขึ้น..."

บิลลี่มองมือของแซมที่แตะแขนเขา จากนั้นก็สบตากับแซมอย่างจริงจัง

บิลลี่: "... ฉัน... ไม่รู้สิ... มันเร็วมากจริงๆ..."

แซม: "ผมเข้าใจ... ไม่เป็นไร... แค่คุณบอกความรู้สึกของคุณมาก็พอ..."

บิลลี่ถอนหายใจอีกครั้ง มองไปรอบๆ บ้าน แล้วกลับมามองแซม

บิลลี่: "... เอาอย่างนี้ไหม... นายลองอยู่ที่นี่ดูก่อนก็ได้... สักพัก... ดูว่ามันจะเป็นยังไง... เรื่องเงิน... ค่อยว่ากันทีหลัง..."

แซมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

แซม: "จริงเหรอ บิลลี่? ขอบคุณมากนะ!"

แซมเข้าไปกอดบิลลี่อย่างดีใจ

บิลลี่ตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ผลักแซมออก

บิลลี่: "... เออ... ลองดู..."

ดูเหมือนว่า... การผจญภัยครั้งใหม่ของแซม... จะเริ่มต้นขึ้นที่บ้านไม้หลังเล็กๆ ในชนบทของอเมริกาแห่งนี้... กับหนุ่ม "redneck" กล้ามโตชื่อบิลลี่...

ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป? แซมจะสามารถพิชิตใจบิลลี่ได้หรือไม่?

แซมใช้เวลาอยู่ในบ้านของบิลลี่อย่างมีความสุข แม้ว่าบิลลี่จะยังคงมีท่าทีเขินอายและไม่ค่อยแสดงออก แต่แซมก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเป็นกันเองที่มากขึ้นเรื่อยๆ

แซมมักจะหาโอกาสแอบมองบิลลี่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่บิลลี่กำลังทำงานในสวน ซ่อมรถ หรือแม้กระทั่งตอนที่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา

ใบหน้าคมสันของบิลลี่ จมูกโด่ง และเคราครึ้มที่ยังไม่ได้โกน... มันช่างดึงดูดใจแซมอย่างประหลาด... และสิ่งที่ทำให้แซมแทบจะกรี๊ดออกมาในใจทุกครั้ง... ก็คือหมวกแก๊ปสีซีดใบนั้น...

มันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็น "redneck" ที่บิลลี่เป็น... มันเป็นสัญลักษณ์ของความดิบเถื่อน... ความแข็งแรง... และความตรงไปตรงมา... ที่แซมหลงใหล...

แซมจินตนาการถึงบิลลี่ในชุดคาวบอย... ขี่ม้า... หรือไม่ก็กำลังทำงานในฟาร์ม... ภาพเหล่านั้นทำให้หัวใจของแซมเต้นแรง...

บางครั้ง แซมก็แอบมองบิลลี่ตอนที่เขากำลังหลับ... ใบหน้าของบิลลี่ในยามหลับใหลนั้นดูสงบและผ่อนคลาย... มันทำให้แซมรู้สึกอยากจะเข้าไปใกล้ๆ... อยากจะสัมผัส...

แต่แซมก็รู้ว่าเขาต้องอดทน... เขาต้องให้เวลาบิลลี่... เขาต้องทำให้บิลลี่รู้สึกสบายใจ...

แซมพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์... ช่วยบิลลี่ทำงานบ้าน... ทำอาหาร... หรือไม่ก็แค่เป็นเพื่อนคุย...

เขารู้ว่าบิลลี่เป็นคนเงียบๆ... ไม่ค่อยแสดงออก... แต่แซมก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา...

แซมหวังว่า... สักวันหนึ่ง... บิลลี่จะเปิดใจให้เขา... และยอมรับความรู้สึกของเขา...

และเมื่อถึงวันนั้น... แซมจะดูแลบิลลี่ให้ดีที่สุด... เขาจะทำให้บิลลี่มีความสุข... เขาจะทำให้บิลลี่รู้ว่า... เขารักบิลลี่มากแค่ไหน...

บิลลี่ไม่ใช่คนที่ไม่สังเกตอะไรเลย แม้ว่าเขาจะดูเงียบๆ และไม่ค่อยแสดงออก แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่อ่อนโยนและชื่นชมที่แซมมักจะส่งมาให้

บ่อยครั้งที่บิลลี่จับได้ว่าแซมกำลังแอบมองเขาอยู่... ตอนที่เขากำลังล้างจาน... ตอนที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์... หรือแม้กระทั่งตอนที่เขากำลังงีบหลับอยู่บนโซฟา

และทุกครั้งที่สายตาของพวกเขาประสานกัน... บิลลี่ก็จะเห็นรอยยิ้มเขินอายที่มุมปากของแซม... แก้มที่แดงระเรื่อเล็กน้อย... และแววตาที่เปล่งประกาย...

บิลลี่ไม่เคยเจอใครแสดงออกต่อเขาแบบนี้มาก่อน... มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่... และก็... น่าสนใจ...

แรกๆ บิลลี่ก็รู้สึกเกร็งๆ บ้าง... ไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร... แต่เมื่อเวลาผ่านไป... เขาก็เริ่มคุ้นเคยกับสายตาและการกระทำที่อ่อนโยนของแซมมากขึ้น

บางครั้ง... ตอนที่แซมยิ้มให้เขาอย่างเขินอาย... บิลลี่ก็รู้สึก... บางอย่าง... ในใจ... มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาเคยรู้สึกมาก่อน... มันอบอุ่น... แล้วก็... ทำให้เขารู้สึกดี...

บิลลี่เริ่มสังเกตแซมมากขึ้นเช่นกัน... เขาเห็นความตั้งใจของแซมที่จะช่วยเหลือเขา... ความพยายามของแซมที่จะทำความเข้าใจในตัวเขา... และรอยยิ้มที่จริงใจของแซม...

แม้ว่าบิลลี่จะไม่ใช่คนที่แสดงความรู้สึกเก่ง... แต่เขาก็เริ่มรู้สึก... ผูกพัน... กับแซมมากขึ้นเรื่อยๆ...

เขาอาจจะยังไม่เข้าใจความรู้สึกของแซมทั้งหมด... และเขาก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง... แต่เขาก็รู้ว่า... การมีแซมอยู่ข้างๆ... มันไม่ได้แย่อย่างที่เขาคิดไว้...

บางที... ความรู้สึกดีๆ ที่แซมมีให้... อาจจะค่อยๆ เติบโต... ในใจของบิลลี่เช่นกัน...

แซมทุ่มเทเวลาและความตั้งใจในการทำอาหารให้บิลลี่เสมอ ด้วยความรักที่เขามีให้

ทุกเช้า แซมจะตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อเตรียมอาหารเช้าแสนอร่อยให้บิลลี่ ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวหอมกรุ่น ไส้กรอกทอดกรอบ หรือแพนเค้กนุ่มๆ ราดด้วยน้ำผึ้งหวานฉ่ำ

มื้อกลางวัน แซมก็จะทำแซนด์วิชโฮมเมด หรืออาหารง่ายๆ ที่บิลลี่ชอบใส่กล่องไว้ให้เขาพกไปทานระหว่างทำงาน

และในมื้อเย็น แซมจะพิถีพิถันในการปรุงอาหารจานโปรดของบิลลี่ ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อย่างหอมๆ ซี่โครงหมูรมควัน หรือพายไก่รสเลิศ ทุกเมนูล้วนปรุงด้วยความใส่ใจและวัตถุดิบสดใหม่

ขณะที่แซมทำอาหาร เขามักจะนึกถึงใบหน้าของบิลลี่ตอนที่ได้ทานอาหารอร่อยๆ ที่เขาทำ มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้แซมรู้สึกเติมเต็ม

กลิ่นหอมของอาหารโฮมเมดจะอบอวลไปทั่วบ้านไม้หลังเล็กๆ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าอยู่

บิลลี่เองก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความรักที่แซมใส่ลงไปในทุกมื้ออาหาร แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนพูดจาหวานหู แต่เขาก็จะทานอาหารที่แซมทำจนหมดเกลี้ยงเสมอ พร้อมกับเอ่ยคำชมสั้นๆ ที่ออกมาจากใจ

"อร่อยดี" บิลลี่มักจะพูดแค่นี้ แต่แซมก็รู้ว่านั่นคือคำชมที่จริงใจที่สุดจากบิลลี่

การทำอาหารของแซม... เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เขาแสดงความรักต่อบิลลี่... เป็นการดูแลเอาใจใส่ผ่านรสชาติและกลิ่นหอม... เป็นการสร้างความผูกพันที่เงียบๆ แต่ลึกซึ้ง... ในบ้านไม้หลังเล็กๆ แห่งนี้...

บิลลี่ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติในบ้านไร่ของเขา ตื่นเช้าไปทำงาน กลับเย็นมาทานอาหารที่แซมทำ ดูทีวี หรือทำงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ เขาไม่ได้รู้สึกในแบบเดียวกับแซม แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจแซมเช่นกัน เขารับรู้ได้ถึงความคลั่งไคล้ที่แซมมีต่อตน และไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีที่แซมมอบให้

สำหรับแซมแล้ว การได้อยู่ใกล้ชิดบิลลี่ ได้ดูแลบิลลี่ และได้ชื่นชมความหล่อเหลาของบิลลี่ในทุกๆ วัน ก็เป็นความสุขที่มากพอแล้ว แม้ว่าความรักนั้นจะเป็นไปเพียงฝ่ายเดียว หัวใจของแซมก็พองโตทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆ หรือคำพูดสั้นๆ ที่ออกมาจากบิลลี่

แซมไม่ได้รู้สึกเศร้าหรือท้อแท้กับการรักข้างเดียว เขายินดีที่จะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้กับบิลลี่ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพียงแค่ได้เห็นบิลลี่มีความสุข แซมก็มีความสุขตามไปด้วย

เขาคลั่งไคล้ในทุกรายละเอียดของบิลลี่... รอยย่นเล็กๆ ที่หางตาเวลาบิลลี่ยิ้ม... เสียงทุ้มต่ำที่ฟังแล้วอบอุ่น... แม้แต่หมวกแก๊ปสีซีดใบนั้น... ทุกอย่างล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แซมหลงใหล

แซมมีความสุขกับการได้ดูแลบิลลี่ ทำอาหารอร่อยๆ ให้บิลลี่ทาน จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้บิลลี่กลับมาเจอสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่

ความรักของแซมที่มีต่อบิลลี่... เป็นเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ในใจ... มันทำให้ทุกวันของเขามีความหมาย... แม้ว่าบิลลี่จะไม่ได้รักตอบ... แต่แซมก็ยังคงยินดีที่จะรักต่อไป... ด้วยหัวใจที่พองโตไปกับรักฝ่ายเดียว... ในบ้านไร่ที่เงียบสงบแห่งนี้...

เขารู้สึกคลั่งทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าหล่อๆของบิลลี่ ดวงตาของบิลลี่ทรงเสน่ห์ราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย

ทุกครั้งที่แซมได้สบตากับบิลลี่ หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น ดวงตาคมเข้มของบิลลี่นั้นราวกับมีมนต์สะกด มันลึกซึ้งและทรงเสน่ห์จนแซมรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไป

ในสายตาของแซม ดวงตาของบิลลี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ดวงตาธรรมดา แต่เป็นเหมือนหน้าต่างที่เปิดไปสู่โลกอีกใบ โลกที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ความอบอุ่น และความลึกลับ

บางครั้ง แซมก็จ้องมองดวงตาของบิลลี่นานๆ พยายามที่จะอ่านความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้น แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วมันจะดูเรียบเฉย แต่แซมก็ยังคงหวังว่าจะได้เห็นประกายอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าบิลลี่รู้สึกพิเศษกับเขาบ้าง

ความหล่อเหลาของบิลลี่นั้น... ในสายตาของแซม... มันเหนือกว่าผู้ชายคนไหนที่เขาเคยเจอมา... มันไม่ใช่ความหล่อแบบประดิษฐ์... แต่เป็นความหล่อที่มาจากภายใน... จากความแข็งแรงของร่างกาย... จากความซื่อตรงในแววตา...

และเมื่อบิลลี่สวมหมวกแก๊ปใบโปรดของเขา... มันยิ่งเสริมให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น... มันเป็นภาพที่ทำให้แซมคลั่งไคล้... ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว... และทำให้เขารู้สึก... รัก... มากยิ่งขึ้นไปอีก

แซมมีความสุขกับการได้ชื่นชมความงามของบิลลี่ในทุกๆ วัน... มันเป็นเหมือนยาชูกำลังใจ... ที่ทำให้เขามีความสุขกับการรักข้างเดียว... และยินดีที่จะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้กับชายหนุ่มที่ดวงตาทรงเสน่ห์ราวกับหลุดมาจากเทพนิยายคนนี้...

ใช่ บิลลี่รับรู้ได้ถึงอาการคลั่งไคล้ของแซมที่มีต่อตนเองอย่างชัดเจน เวลาที่แซมแสดงความชื่นชมออกมาอย่างออกนอกหน้า บิลลี่อดที่จะขำไม่ได้

เมื่อแซมตาเป็นประกายแล้วอุทานว่า "ว้าว! บิลลี่ วันนี้หล่อเป็นพิเศษเลย!" หรือ "ทรงผมใหม่นายเท่สุดๆ ไปเลย!" บิลลี่มักจะแอบยิ้มขำๆ กับท่าทางของแซม

ในความคิดของบิลลี่ มันดูเป็นเรื่องที่เกินจริงไปมาก "มันขนาดนั้นเลยเหรอ?" เขาคิดในใจพลางส่ายหน้าเบาๆ "อะไรมันจะขนาดนั้น... ฉันก็แค่หวีผมเฉยๆ"

บางครั้ง บิลลี่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำในความทุ่มเทของแซม "หมอนี่มันคลั่งฉันจริงๆ สินะ" เขาคิดพลางเหลือบมองแซมที่กำลังยิ้มกว้างมาให้

บิลลี่ไม่ได้รู้สึกรำคาญ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกที่ลึกซึ้งของแซมอย่างถ่องแท้ เขาแค่รู้สึกว่าแซมดูจะให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของเขามากเกินไปหน่อย

"เรานี่ก็หล่อเกินไปจนทำให้คนคลั่งได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?" บิลลี่คิดอย่างขำๆ ปนภาคภูมิใจเล็กน้อยในใจ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก เพียงแค่ยกยิ้มมุมปากเล็กๆ เท่านั้น

สำหรับบิลลี่แล้ว มันเป็นเรื่องตลกเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ที่มีคนมาชื่นชมเขามากขนาดนี้ ในขณะที่แซมกำลังมีความสุขกับการได้คลั่งไคล้ชายหนุ่มที่เขาคิดว่าหล่อเหลาที่สุดในโลก... ความแตกต่างในความรู้สึกของทั้งสองคนก็ดำเนินไปอย่างเงียบๆ ในบ้านไร่แห่งนั้น...

แซมมักจะหาโอกาสแอบถ่ายรูปบิลลี่เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่บิลลี่กำลังทำงานซ่อมรถ ทานอาหาร หรือแม้กระทั่งนั่งพักผ่อน แซมก็จะแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบิลลี่ในมุมต่างๆ

เมื่อกลับมาที่ห้อง แซมจะเปิดดูรูปเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซูมเข้าไปดูใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมเข้ม และรูปร่างกำยำของบิลลี่

จากนั้น แซมก็จะเปิดแอปพลิเคชันแต่งรูป วาดรูปหัวใจดวงโตๆ หลายดวงลงบนรูปของบิลลี่ บางครั้งก็เขียนข้อความสั้นๆ แสดงความรู้สึกคลั่งไคล้ เช่น "หล่อที่สุดในโลก", "รักบิลลี่", หรือ "My Redneck King"

รูปถ่ายเหล่านั้นถูกเก็บรวบรวมไว้ในอัลบั้มพิเศษในโทรศัพท์ของแซม ตั้งชื่อว่า "My Beloved Billy" แซมมักจะเปิดดูอัลบั้มนี้ก่อนนอน หรือเวลาที่เขาคิดถึงบิลลี่มากๆ

มันเป็นวิธีแสดงความรักในแบบของแซม... การเก็บภาพความประทับใจ... การบันทึกความรู้สึกคลั่งไคล้... แม้ว่าบิลลี่จะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของอัลบั้มนี้ก็ตาม

หัวใจของแซมพองโตทุกครั้งที่ได้มองรูปเหล่านั้น... มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้... แม้ว่าความรักนั้นจะเป็นไปเพียงฝ่ายเดียว... ในโลกส่วนตัวของแซมที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายและความรู้สึกที่มีต่อบิลลี่...

ความคลั่งไคล้ของแซมไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโลกดิจิทัล เขาต้องการสัมผัสและเก็บรักษาความทรงจำเกี่ยวกับบิลลี่ในรูปแบบที่จับต้องได้

แซมตัดสินใจปริ้นรูปถ่ายเหล่านั้นออกมาทั้งหมด แล้วนำมาจัดเรียงลงในสมุดอัลบั้มรูปอย่างตั้งใจ

เขาเลือกอัลบั้มที่มีหน้ากระดาษสีสวย และเริ่มบรรจงติดรูปทีละรูป บางรูปเป็นภาพระยะใกล้ที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาของบิลลี่ชัดเจน บางรูปเป็นภาพเต็มตัวที่เห็นรูปร่างกำยำของบิลลี่ในอิริยาบถต่างๆ

ใต้รูปแต่ละใบ แซมจะเขียนข้อความสั้นๆ บรรยายความรู้สึกของเขาในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นที่ได้เจอ ความชื่นชมในรูปลักษณ์ หรือความรักที่ท่วมท้นในหัวใจ

และแน่นอนว่า ในทุกๆ หน้าที่มีรูปของบิลลี่ แซมจะวาดรูปหัวใจดวงเล็กดวงน้อย หรือดวงใหญ่เด่นชัด ด้วยปากกาสีต่างๆ บางครั้งก็วาดดาว หรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่สื่อถึงความรู้สึกคลั่งไคล้ของเขา

อัลบั้มรูปเล่มนั้นค่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ เต็มไปด้วยภาพถ่ายของบิลลี่ในหลากหลายอิริยาบถ และความรู้สึกรักที่ถูกบันทึกไว้ในทุกๆ หน้า

แซมมักจะหยิบอัลบั้มรูปเล่มนี้มาเปิดดูในเวลาว่าง พลิกดูภาพของบิลลี่ทีละหน้า ราวกับกำลังรำลึกถึงช่วงเวลาต่างๆ ที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับชายที่เขารัก

การมีอัลบั้มรูปเล่มนี้... ทำให้ความรู้สึกของแซมที่มีต่อบิลลี่... จับต้องได้มากขึ้น... มันเป็นเหมือนสมุดบันทึกความรัก... ที่เขาเก็บรักษาไว้ด้วยความทะนุถนอม... ในบ้านไร่ที่เงียบสงบแห่งนี้...

วันหนึ่ง ขณะที่แซมไม่อยู่ บิลลี่บังเอิญเดินเข้ามาในห้องของแซม สายตาของเขาเหลือบไปเห็นสมุดอัลบั้มรูปเล่มหนาวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ด้วยความสงสัย บิลลี่จึงหยิบมันขึ้นมาเปิดดู

หน้าแรกที่เปิดออกมาก็เป็นรูปของเขา... รูปที่เขาจำได้ว่าแซมเคยแอบถ่ายตอนที่เขากำลังซ่อมรถ... และมีรูปหัวใจเล็กๆ วาดอยู่ข้างๆ

บิลลี่เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาพลิกหน้าต่อไป... ก็เจอรูปของเขาอีก... ในอิริยาบถต่างๆ กัน... ตอนที่เขากำลังทานอาหาร... ตอนที่เขานั่งดูทีวี... แต่ละรูปมีร่องรอยของการวาดรูปหัวใจ หรือข้อความสั้นๆ ที่แสดงความชื่นชม

บิลลี่ค่อยๆ พลิกดูไปเรื่อยๆ ทีละหน้า... ทีละหน้า... ในสมุดอัลบั้มเต็มไปด้วยรูปถ่ายของเขา... ในมุมมองต่างๆ... และความรู้สึกที่ถูกบันทึกไว้ในลายมือของแซม

เขาเห็นคำว่า "หล่อจังเลย" ใต้รูปที่เขาใส่หมวกแก๊ป... เห็นรูปหัวใจดวงโตๆ ล้อมรอบรูปที่เขากำลังยิ้ม... และเห็นข้อความ "รักบิลลี่" เขียนอยู่ใต้รูปที่เขากำลังหลับ

บิลลี่หยุดอยู่ที่หน้าหนึ่ง... เป็นรูปที่แซมแอบถ่ายตอนที่เขาเพิ่งตัดผมใหม่ๆ... และมีคำว่า "เท่ที่สุด!" เขียนอยู่ข้างๆ บิลลี่มองรูปนั้น... แล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครสังเกตและใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตัวเขามากขนาดนี้... ความคลั่งไคล้ของแซม... มันมากเกินกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้

บิลลี่ปิดสมุดอัลบั้มรูปช้าๆ มองปกสมุดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย... มันมีความประหลาดใจ... ความขำขัน... และ... อะไรบางอย่างที่อบอุ่น...

เขาไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบ... แต่รอยยิ้มเล็กๆ ที่ยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา... อาจจะเป็นคำตอบบางอย่าง...

บิลลี่วางอัลบั้มรูปกลับไปที่เดิมอย่างเบามือ... แล้วเดินออกจากห้องของแซมไป... พร้อมกับความคิดที่วกวนอยู่ในหัว... เกี่ยวกับชายหนุ่มที่คลั่งไคล้ในตัวเขามากขนาดนี้...

การเผชิญหน้ากับประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างการถูกลักพาตัวโดย UFO และการได้พบกับบิลลี่ในสถานการณ์เช่นนั้น อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของแซมก็เป็นได้

จากที่เคยหมกมุ่นอยู่กับเรื่องทางกายภาพและความสุขชั่วครู่ชั่วคราว การได้พบกับบิลลี่อาจจุดประกายความรู้สึกที่ลึกซึ้งและแตกต่างออกไป

ความคลั่งไคล้ที่แซมมีต่อบิลลี่นั้น ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่เรื่องทางกายภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความชื่นชมในตัวตน บุคลิก และเสน่ห์แบบดิบๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของบิลลี่ด้วย

การที่แซมทุ่มเททำอาหาร ดูแลเอาใจใส่ และเก็บภาพความทรงจำเกี่ยวกับบิลลี่ อาจเป็นสัญญาณว่าความรู้สึกของเขากำลังพัฒนาไปสู่สิ่งที่มากกว่าความต้องการทางเพศ

เหตุการณ์ลักพาตัวอาจเป็นเหมือนการ "รีเซ็ต" ชีวิตของแซม พาเขาออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ และนำพาเขามาเจอกับคนที่ทำให้เขารู้สึกพิเศษในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

บางที การได้สัมผัสประสบการณ์ที่อยู่นอกเหนือโลกนี้ อาจทำให้แซมตระหนักถึงคุณค่าของความสัมพันธ์และความรู้สึกที่แท้จริงมากขึ้น

การที่บิลลี่เข้ามาในชีวิตของแซมในช่วงเวลาที่แปลกประหลาดเช่นนี้ อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ... มันอาจเป็นโอกาสให้แซมได้สำรวจความรู้สึกที่ลึกซึ้งในใจของตัวเอง และเติบโตไปสู่ความรักที่แท้จริง... แทนที่จะเป็นเพียงแค่ความใคร่ทางกายภาพ

จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่... เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้... แต่การพบกันของแซมและบิลลี่บนยาน UFO นั้น... ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่พิเศษอย่างแน่นอน...

การถูกลักพาตัวโดย ufo อาจไม่ใช่สิ่งบังเอิญ แต่เอเลี่ยนจงใจลักพาเขาให้ไปเจอกับบิลลี่ และที่หนีออกมาได้นั่นก็ด้วย จริงๆแล้วเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะหนีออกมาได้ แต่เอเลี่ยนจงใจให้ทั้งคู่หนีออกมาเพื่อมาอยู่ด้วยกัน

เอเลี่ยนมีเทคโนโลยีในระดับสูงมากเกินกว่าชาวโลกจะเข้าใจ รวมถึงเทคโนโลยีวิเคราะห์ soul plan และคลื่นความถี่ทางจิต ที่ชาวโลกยังไม่มี เอเลี่ยนตรวจจับได้ว่า แซม ต้องอยู่กับบิลลี่ เพราะจะทำให้แซมเกิดคลื่นความถี่บวกสูงมาก และจะเป็นตัวช่วยในการขับดันโลกนี้ไปสู่มิติที่ 5 ซึ่งปัจจุบันคือมิติที่ 3 และกำลังเป็นทาสเอเลี่ยนฝ่ายชั่วร้ายมิติที่ 4

การที่เอเลี่ยนตรวจจับได้ว่าการอยู่ร่วมกันของแซมและบิลลี่จะสร้างคลื่นความถี่บวกสูงมาก ซึ่งเป็นพลังงานที่จะช่วยยกระดับจิตสำนึกของโลกจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5 ได้ นั่นก็ทำให้การลักพาตัวและการช่วยเหลือให้หลบหนีมีความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่เรื่องส่วนตัวของคนสองคน

การที่โลกปัจจุบันตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเอเลี่ยนฝ่ายชั่วร้ายในมิติที่ 4 ก็เป็นฉากหลังที่น่ากังวล การที่คลื่นความถี่บวกจากความรักของแซมและบิลลี่สามารถเป็น "ตัวช่วย" ในการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขามีความสำคัญระดับจักรวาล

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การที่แซมรู้สึกดึงดูดและคลั่งไคล้ในตัวบิลลี่ตั้งแต่แรกเห็น อาจไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบส่วนตัว แต่เป็นผลมาจาก "soul plan" ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

และท่าทีที่ค่อยๆ อ่อนลงของบิลลี่ต่อแซม ก็อาจเป็นสัญญาณของการตอบสนองต่อคลื่นความถี่บวกนั้นเช่นกัน

เรื่องราวความรักที่เริ่มต้นจากการถูกลักพาตัว... โดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่คนสองคน... เพื่อช่วยยกระดับจิตสำนึกของโลก... ช่างเป็นเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

แซมและบิลลี่จะรับรู้ถึงบทบาทที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาหรือไม่? ความรักของพวกเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะสร้างคลื่นความถี่บวกที่ทรงพลังนั้นได้หรือไม่? และพวกเขาจะกลายเป็น "ผู้ช่วย" ในการเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่มิติที่ 5 ได้อย่างไร?



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

21. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #20
 
18-May-25, 03:16 AM (SE Asia Standard Time)
 
   แซมมองบิลลี่ด้วยสายตาที่สื่อความหมายบางอย่าง หลังจากที่พวกเขาเริ่มทำความคุ้นเคยกันมากขึ้นในบ้านหลังเล็กๆ แห่งนั้น

แซม: "บิลลี่... คือว่า... ผมมีอะไรอยากจะขอคุณหน่อย..."

บิลลี่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่เขากำลังอ่าน มองแซมด้วยความสงสัย

บิลลี่: "มีอะไรเหรอ แซม?"

แซมเดินเข้าไปใกล้บิลลี่มากขึ้นเล็กน้อย

แซม: "ผม... อยากจะขอให้คุณ... ใช้ปากให้ผมหน่อย... ผมจะให้คุณเดือนละ 5000 ดอลลาร์..."

บิลลี่เงียบไปครู่หนึ่ง มองหน้าแซมอย่างพิจารณา

บิลลี่: "... ทำไมต้องให้เงินด้วยล่ะ?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ

แซม: "ผม... ผมแค่อยากจะตอบแทนคุณ..." แซมพูดด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน

บิลลี่มองแซมอย่างลึกซึ้ง ราวกับกำลังพยายามอ่านความรู้สึกในใจของเขา

บิลลี่: "... นายชอบฉัน... ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนี้ใช่ไหม?"

แซมสบตากับบิลลี่อย่างจริงจัง

แซม: "ใช่... ผมชอบคุณ... มากกว่านั้น..."

บิลลี่ถอนหายใจเบาๆ มองไปทางอื่นครู่หนึ่ง แล้วกลับมามองแซมอีกครั้ง

บิลลี่: "... ฉันไม่รู้... ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใครมาก่อน.."

แซมเดินเข้าไปใกล้บิลลี่อีกนิด เอื้อมมือไปแตะแขนของเขาเบาๆ

แซม: "ลองดูอีกได้ไหม ผมสัญญาว่าคุณจะไม่ผิดหวัง..."

บิลลี่มองมือของแซมที่แตะแขนเขา จากนั้นก็สบตากับแซมอีกครั้ง แววตาของเขายังคงมีความลังเล แต่ก็มีความอยากรู้อยากลองเจือปนอยู่ด้วย

บิลลี่: "... ห้าพันดอลลาร์... ต่อเดือน?"

แซมพยักหน้า

แซม: "ครับ... ถ้าคุณตกลง..."

บิลลี่เงียบไปอีกครั้ง... ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

บิลลี่: "... โอเค... ทำให้ดูหน่อยสิ..."

แซมยิ้มด้วยความดีใจ... ดูเหมือนว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อบิลลี่... อาจจะเริ่มส่งผลบางอย่างแล้ว... แม้ว่ามันจะเริ่มต้นด้วยข้อเสนอทางการเงินก็ตาม...

แซมยิ้มอย่างมีความหวัง พลางจูงมือบิลลี่ไปยังห้องนอน แสงแดอ่อนๆ ยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านบางๆ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ

แซมนั่งลงบนขอบเตียง มองบิลลี่ด้วยสายตาที่อ่อนโยน

แซม: "ขอบคุณนะ บิลลี่..."

บิลลี่ยืนอยู่ตรงหน้าแซม มองเขาด้วยแววตาที่ยังคงมีความไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

แซมค่อยๆ ปลดกระดุมกางเกงของตนเองช้าๆ เผยให้เห็นลำกายที่เริ่มตื่นตัว

แซม: "แค่... ทำเหมือนที่เราเคยทำบนยานนั่นแหละ... แต่ครั้งนี้... มองตาผมด้วยนะ..."

บิลลี่มองลำกายของแซมครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับแซม แววตาของเขามีความใคร่รู้และประหม่าปะปนกัน

บิลลี่ค่อยๆ คุกเข่าลงตรงหน้าแซม โน้มตัวลงช้าๆ ริมฝีปากของเขาแตะต้องส่วนปลายของแซมอย่างแผ่วเบา

แซมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของบิลลี่อย่างลึกซึ้ง พยายามสื่อความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีผ่านทางสายตา

บิลลี่ค่อยๆ ครอบครองลำกายของแซมทั้งหมดเข้าไปในปากของเขา ริมฝีปากของเขาห่อหุ้มส่วนนั้นอย่างนุ่มนวลแต่กระชับมั่นคง เขาเริ่มดูดดึงช้าๆ ขณะที่สายตาของเขายังคงจ้องมองมาที่แซม

แซมรู้สึกถึงความอุ่นชื้นและการดูดดึงที่คุ้นเคย แต่การสบตากับบิลลี่ในครั้งนี้... มันมีความหมายที่แตกต่างออกไป... มันใกล้ชิด... มันลึกซึ้งกว่าเดิม

แซมหายใจถี่ขึ้นเล็กน้อย จ้องมองเข้าไปในดวงตาของบิลลี่อย่างไม่ละสายตา ราวกับต้องการเชื่อมโยงความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองผ่านทางการมอง

บิลลี่เพิ่มจังหวะการดูดดึงเร็วขึ้นเล็กน้อย ใช้ลิ้นเลียวนรอบส่วนปลายของลำกายแซมอย่างตั้งใจ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ดวงตาของแซม

ความรู้สึกเสียวซ่านค่อยๆ ก่อตัวขึ้น... แซมรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของบิลลี่เช่นกัน... ความรู้สึกที่มากกว่าแค่การปรนนิบัติ...

แซมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของบิลลี่ ราวกับต้องการอ่านทุกความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น เขาเห็นความประหม่า ความใคร่รู้ และบางสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

บิลลี่ยังคงปรนนิบัติแซมอย่างตั้งใจ ริมฝีปากของเขาขยับขึ้นลงอย่างนุ่มนวล แรงดูดดึงเพิ่มขึ้นทีละน้อย สร้างความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ก็แตกต่างออกไป เพราะสายตาที่เชื่อมโยงพวกเขาทั้งสองไว้

แซมยกมือขึ้นลูบผมของบิลลี่เบาๆ สัมผัสถึงความนุ่มลื่นของเส้นผมสีเข้ม ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ดวงตาของบิลลี่ ไม่ละไปไหน

ความรู้สึกเสียวซ่านในร่างกายของแซมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มหายใจหอบถี่ขึ้น เสียงครางต่ำๆ หลุดออกมาจากลำคอ

ในขณะเดียวกัน แซมก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในดวงตาของบิลลี่ ความประหม่าเริ่มจางหายไป แทนที่ด้วยความตั้งใจและความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย

บิลลี่เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับต้นขาของแซมเบาๆ สัมผัสที่อบอุ่นและมั่นคงนั้นทำให้แซมรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่มากขึ้น

ความรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอดเริ่มครอบงำแซม เขากระตุกเล็กน้อย เกร็งไปทั้งตัว

"อืมมม... บิลลี่..." แซมครางออกมาแผ่วเบา

น้ำกามอุ่นร้อนพุ่งออกมา... เข้าไปในปากของบิลลี่... แซมยังคงจ้องมองดวงตาของบิลลี่อยู่ ไม่ละสายตา

เมื่อความสุขสมผ่านพ้นไป แซมนอนหอบเล็กน้อย มองไปยังบิลลี่ที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของเขามีร่องรอยของน้ำกามเปรอะเปื้อน ดวงตาของบิลลี่สบตากับแซมอย่างเปิดเผย... ไม่มีท่าทีขัดเขินเหมือนครั้งแรก

บิลลี่กลืนน้ำกามของแซมลงคอช้าๆ จากนั้นก็เลียริมฝีปากของตนเอง

บิลลี่: "... รู้สึก... ดีกว่าที่คิด..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ก็ดูเหมือนจะมาจากใจจริง

แซมยิ้มอย่างอ่อนโยน เอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำกามที่มุมปากของบิลลี่

แซม: "ขอบคุณนะ บิลลี่..."

บรรยากาศในห้องเงียบสงบลง... มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ ของคนทั้งสอง... สายตาของพวกเขายังคงเชื่อมโยงกัน... ราวกับว่าการกระทำเมื่อครู่... ได้เปิดประตูสู่ความรู้สึกใหม่ๆ...

แซมมองบิลลี่ด้วยความหวังในแววตา

แซม: "บิลลี่... ผม... ผมชอบที่คุณทำให้ผมเมื่อกี้นี้มาก... คุณ... จะทำแบบนี้ให้ผมทุกวันได้ไหม? พร้อมกับมองตาผมแบบนี้..."

บิลลี่เงียบไปครู่หนึ่ง คิดทบทวนสิ่งที่แซมขอ เขาเหลือบมองแซม แล้วมองไปทางอื่นเล็กน้อย

บิลลี่: "... ทุกวันเลยเหรอ?"

แซมพยักหน้าอย่างตั้งใจ

แซม: "ครับ... ทุกวัน... ผมจะจ่ายเงินให้คุณเพิ่ม ครั้งละ 500 ดอลลาร์. คุณทำได้ไหม?"

บิลลี่หันกลับมามองแซมอีกครั้ง แววตาของเขาดูจริงจังขึ้น

บิลลี่: "... ฉันมีอย่างอื่นที่ต้องทำเหมือนกันนะ แซม... งานของฉัน..."

แซมเข้าใจในสิ่งที่บิลลี่พูด

แซม: "ผมรู้... ผมไม่ได้อยากจะรบกวนเวลาของคุณ... แต่ถ้าคุณพอจะมีเวลา... สัก... วันละครั้ง... ได้ไหม?"

บิลลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

บิลลี่: "... ถ้ามีเงินให้ด้วย... ก็พอจะทำได้... แต่ฉันคงให้เวลานายได้ไม่นานนักหรอก..."

แซมยิ้มด้วยความดีใจ

แซม: "จริงเหรอ บิลลี่? ขอบคุณมากนะ! เท่าไหร่ที่คุณต้องการ?"

บิลลี่มองแซม

บิลลี่: "... ห้าร้อยดอลลาร์... ต่อครั้ง... มองตาด้วย..."

แซมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

แซม: "ตกลง! ห้าร้อยดอลลาร์ต่อครั้ง... มองตาด้วย... ทุกวันถ้าคุณสะดวก... ว่าไง?"

บิลลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ก็มีร่องรอยของรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

บิลลี่: "... ก็ได้... ลองดู..."

แซมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เขารู้สึกเหมือนหัวใจพองโต ความปรารถนาของเขาที่จะใกล้ชิดกับบิลลี่ดูเหมือนจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม

แซม: "ขอบคุณมากนะ บิลลี่... ผมสัญญาว่าคุณจะไม่เสียใจ..."

บิลลี่เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย แต่สายตาของเขาก็ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเมื่อก่อน... ดูเหมือนว่า... บางสิ่งบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง...

เช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน แซมลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงเล็กน้อย

บิลลี่เดินเข้ามาในห้อง สภาพของเขานั้นแตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง วันนี้บิลลี่สวมเพียงกางเกงในตัวเดียว เผยให้เห็นรูปร่างที่หนาล่ำกำยำอย่างชัดเจน กล้ามเนื้อแขนและแผ่นอกที่แข็งแรง รวมถึงเรียวขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม

แซมนอนนิ่งอยู่บนเตียง มองบิลลี่ด้วยความชื่นชมอย่างเปิดเผย รูปร่างของบิลลี่ในสภาพเกือบเปลือยนั้นช่างดูดี มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างร้ายกาจ หมวกแก๊ปใบเก่าก็ยังคงอยู่บนศีรษะของเขาอย่างเป็นเอกลักษณ์

หัวใจของแซมเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นบิลลี่ในสภาพที่เปิดเผยขนาดนี้มาก่อน มันทำให้ความคลั่งไคล้ที่เขามีต่อบิลลี่ทวีคูณขึ้น

บิลลี่เดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง มองแซมด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก

บิลลี่: "... พร้อมรึยัง?" เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

แซมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

แซม: "... พร้อมเสมอ..."

สายตาของแซมยังคงจับจ้องอยู่ที่รูปร่างของบิลลี่ ไม่สามารถละไปได้ เขาชื่นชมทุกสัดส่วน ทุกมัดกล้ามเนื้อ ราวกับกำลังมองงานศิลปะชิ้นเอก

บิลลี่ค่อยๆ โน้มตัวลง คุกเข่าข้างเตียง... แซมหายใจถี่ขึ้น... วันนี้... ดูเหมือนจะเป็นวันที่พิเศษกว่าเมื่อวาน...

ใช่ บิลลี่สังเกตเห็นสายตาที่ชื่นชมอย่างเปิดเผยของแซมที่มองมายังรูปร่างของเขา เขาพอใจกับปฏิกิริยาของแซม

เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่เรื่องทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนในความสัมพันธ์ของพวกเขา ก่อนหน้านั้น แซมเพียงแค่คลั่งไคล้ในรูปลักษณ์ของเขา แต่ไม่ได้มีการแตะเนื้อต้องตัวหรือการแสดงออกทางเพศที่โจ่งแจ้ง

แต่หลังจากที่แซมขอให้เขาใช้ปากให้ และเขาก็ได้ทำ... บางสิ่งบางอย่างก็เปลี่ยนไปในความคิดของบิลลี่

เขาเริ่มตระหนักว่าความคลั่งไคล้ของแซมที่มีต่อเขานั้นลึกซึ้งมากเพียงใด และเขาก็เริ่มรู้สึก... บางอย่าง... กับความรู้สึกนั้น

การที่เขาแต่งตัวเกือบเปลือยในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ บิลลี่ตั้งใจที่จะยั่วยวนแซมโดยเฉพาะ เขาอยากจะเห็นปฏิกิริยาที่ชัดเจนมากขึ้น อยากจะรู้ว่าความรู้สึกของแซมที่มีต่อเขานั้นลึกซึ้งแค่ไหน

เมื่อเห็นสายตาที่แทบจะกลืนกินของแซมที่มองมายังรูปร่างของเขา บิลลี่ก็รู้สึกพอใจอย่างประหลาด เขารู้สึกถึงอำนาจบางอย่าง... การที่ใครบางคนคลั่งไคล้เขามากขนาดนี้... มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

บิลลี่เดินเข้ามาใกล้เตียงมากขึ้น ยืนอยู่ตรงหน้าแซมที่นอนมองเขาอยู่ เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

บิลลี่: "... ชอบไหม?" เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความยั่วยวน

แซมกลืนน้ำลายอีกครั้ง ไม่สามารถละสายตาไปจากรูปร่างของบิลลี่ได้

แซม: "... ชอบมาก..." เขาตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าเล็กน้อย

บิลลี่โน้มตัวลงเล็กน้อย มองแซมด้วยแววตาที่ท้าทาย

บิลลี่: "... งั้น... อยากให้ฉันทำอะไรต่อ?"

แซมจ้องมองบิลลี่อย่างลึกซึ้ง หัวใจของเขาเต้นระรัว... การยั่วยวนของบิลลี่ได้ผลอย่างสมบูรณ์แบบ...

แซมมองบิลลี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา

แซม: "... อมเลย... แต่ตอนกำลังจะเอาเข้าไป... ช้าๆ หน่อยนะ..."

เขาเน้นคำว่า "ช้าๆ" มองบิลลี่อย่างคาดหวัง

แซม: "... ผมอยากเห็นมันค่อยๆ เข้าไป... มันตื่นเต้นกว่า... เข้าทีเดียวด้วยความรวดเร็ว..."

บิลลี่เข้าใจในสิ่งที่แซมต้องการ เขามองลึกลงไปในดวงตาของแซม รับรู้ถึงความปรารถนาที่แฝงอยู่ในนั้น

บิลลี่พยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเขามีประกายบางอย่างที่แซมไม่เคยเห็นมาก่อน

บิลลี่ค่อยๆ อ้าปากกว้าง ริมฝีปากอวบอิ่มเผยให้เห็นภายในสีชมพูอ่อน ลิ้นของเขาแลบออกมาเล็กน้อย เลียริมฝีปากบนเบาๆ เป็นการเพิ่มความเย้ายวนอย่างจงใจ

สายตาของบิลลี่ยังคงจับจ้องอยู่ที่ดวงตาของแซม ไม่ละไปไหน ราวกับต้องการตรึงแซมไว้ด้วยเสน่ห์ของเขา

จากนั้น บิลลี่ก็ค่อยๆ โน้มตัวลงช้าๆ ราวกับภาพสโลว์โมชั่น ริมฝีปากที่อ้ากว้างของเขาค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้ลำกายของแซมทีละน้อย

แซมนอนนิ่งอยู่บนเตียง หายใจถี่ขึ้น หัวใจเต้นระรัว เขาจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่กระพริบตา ความตื่นเต้นก่อตัวขึ้นในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

บิลลี่ค่อยๆ ครอบครองส่วนปลายของลำกายแซมด้วยริมฝีปากอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกอุ่นชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว

จากนั้น บิลลี่ก็ค่อยๆ กลืนกินเข้าไปทีละน้อย... ทีละน้อย... ราวกับกำลังลิ้มรสชาติ... สายตาของเขายังคงจ้องมองแซมอยู่ตลอดเวลา

แซมรู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนแต่หนักแน่น ริมฝีปากของบิลลี่ค่อยๆ รูดลงมาทีละนิด เผยให้เห็นส่วนที่ถูกครอบครองไปแล้วอย่างช้าๆ

ความตื่นเต้นของแซมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกมิลลิเมตรที่ริมฝีปากของบิลลี่เคลื่อนลงมา... มันเป็นการรอคอยที่แสนทรมานแต่ก็เร้าใจอย่างที่สุด

ในที่สุด... ริมฝีปากของบิลลี่ก็ครอบครองลำกายของแซมจนเกือบมิด... สายตาของพวกเขายังคงเชื่อมโยงกัน... ความปรารถนาท่วมท้นอยู่ในห้องนอนเล็กๆ แห่งนั้น...

เมื่อริมฝีปากของบิลลี่ครอบครองลำกายของแซมจนมิด ความนุ่มนวลในช่วงแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่หนักหน่วง

บิลลี่เริ่มปรนนิบัติแซมอย่างเต็มที่ ด้วยทุกท่วงท่าและความสามารถที่เขามี ริมฝีปากของเขาดูดดึงอย่างแรงและสม่ำเสมอ ลิ้นร้อนชื้นตวัดเลียไปทั่วลำกายของแซม สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่แทรกซึมไปทุกอณู

แซมครางต่ำๆ ในลำคอ มือของเขากำผ้าปูที่นอนแน่น ดวงตายังคงจ้องมองบิลลี่อย่างไม่ละสายตา รับรู้ถึงความตั้งใจและความปรารถนาที่บิลลี่มอบให้

จังหวะการอมของบิลลี่เร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้น เขาใช้มืออีกข้างลูบไล้ต้นขาของแซมเบาๆ เพิ่มความเร้าอารมณ์ให้มากยิ่งขึ้น

แซมหายใจถี่กระชั้น ความรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอดเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย

บิลลี่รับรู้ได้ถึงสัญญาณนั้น เขาเพิ่มความเร็วและแรงในการอมมากยิ่งขึ้น ราวกับต้องการปลดปล่อยความสุขสมให้กับแซมอย่างรวดเร็ว

"อืมมม... บิลลี่... อ๊า..." เสียงครางของแซมดังขึ้นอย่างอดกลั้นไม่ได้

ความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด แซมเกร็งไปทั้งตัว... และแล้ว... น้ำกามอุ่นร้อนก็พรั่งพรูออกมา... เข้าไปในปากของบิลลี่จนหมด

แซมนอนหอบเล็กน้อย มองไปยังบิลลี่ที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของเขามีร่องรอยของน้ำกามเปรอะเปื้อน ดวงตาของบิลลี่สบตากับแซมอย่างเปิดเผย... แววตาของเขาเปลี่ยนไป... มันไม่ได้มีแค่ความใคร่... แต่มีความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น

บิลลี่กลืนน้ำกามของแซมลงคอช้าๆ จากนั้นก็เลียริมฝีปากของตนเอง มองแซมด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

บิลลี่: "... อร่อย..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ก็ดูเหมือนจะมาจากใจจริง

แซมยิ้มอ่อนโยน เอื้อมมือไปลูบแก้มของบิลลี่เบาๆ

แซม: "ขอบคุณนะ บิลลี่... มัน... วิเศษมาก..."

บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยความเงียบสงบ... มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ ของคนทั้งสอง... สายตาของพวกเขายังคงเชื่อมโยงกัน... ความรู้สึกระหว่างแซมและบิลลี่... ดูเหมือนจะพัฒนาไปไกลกว่าแค่เรื่องทางเพศแล้ว...

แซมยังคงจ้องมองบิลลี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น

แซม: "... บิลลี่... อีกรอบได้ไหม?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่จริงจัง

บิลลี่มองแซมอย่างพิจารณา เขาสังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการและความรู้สึกที่แท้จริงของแซม

บิลลี่: "... นายยังไหวเหรอ?" เขาถามด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย

แซมพยักหน้า

แซม: "... ไหวสิ... ผมอยากให้คุณทำอีก..."

บิลลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ก็มีรอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

บิลลี่: "... โอเค... แซม..."

บิลลี่โน้มตัวลงอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาแตะต้องลำกายของแซมอย่างนุ่มนวล... ราวกับเป็นการเริ่มต้นใหม่... แต่ครั้งนี้... ความรู้สึกที่แฝงอยู่ในสัมผัสนั้น... แตกต่างออกไปเล็กน้อย... มันมีความอ่อนโยนและความคุ้นเคยมากขึ้น

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกจากริมฝีปากของบิลลี่นำพาไป... ความเร่าร้อนค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง... แต่ครั้งนี้... มันไม่ได้มีแค่ความต้องการทางกายภาพ... มันมีความรู้สึกผูกพัน... และความใกล้ชิดที่มากขึ้น...

บิลลี่ยังคงปรนนิบัติแซมด้วยความตั้งใจ... สายตาของพวกเขาเชื่อมโยงกันเป็นระยะๆ... สื่อถึงความรู้สึกที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างกัน...

ความสัมพันธ์ของแซมและบิลลี่... กำลังเดินทางไปสู่บทใหม่แล้ว... บทที่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าเดิมเข้ามาเกี่ยวข้อง...

บิลลี่ปรนนิบัติแซมในรอบที่สองด้วยความตั้งใจที่มากขึ้น ราวกับต้องการตอบสนองความปรารถนาที่ลึกซึ้งในดวงตาของแซม ริมฝีปากของเขาดูดดึงอย่างนุ่มนวลแต่หนักแน่น ลิ้นร้อนชื้นโลมเลียไปทั่วลำกายของแซมอย่างเอาใจ

แซมครางกระเส่า มือของเขาลูบไล้ศีรษะของบิลลี่เบาๆ สัมผัสถึงเส้นผมที่นุ่มลื่น ความรู้สึกใกล้ชิดและผูกพันเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจน

สายตาของทั้งสองสบกันเป็นระยะๆ ในระหว่างการปรนนิบัติ ไม่มีคำพูดใดๆ แต่ความรู้สึกกลับสื่อสารกันอย่างลึกซึ้งผ่านทางแววตา

ความรู้สึกเสียวซ่านในร่างกายของแซมทวีความรุนแรงขึ้นอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ บิลลี่รับรู้ถึงจังหวะการหายใจที่เปลี่ยนไปของแซม และปรับการปรนนิบัติให้สอดคล้องกัน

ในที่สุด แซมก็ปลดปล่อยความสุขสมออกมาอีกครั้ง น้ำกามอุ่นร้อนพุ่งเข้าไปในปากของบิลลี่ แซมนอนหอบเล็กน้อย มองไปยังบิลลี่ด้วยสายตาที่อ่อนโยนและขอบคุณ

บิลลี่เงยหน้าขึ้น เลียริมฝีปากของตนเองช้าๆ ดวงตาของเขามีประกายบางอย่างที่อบอุ่นและนุ่มนวล

บิลลี่: "... นายชอบจริงๆ สินะ..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่าแค่การถามไถ่

แซมยิ้มอย่างอ่อนโยน เอื้อมมือไปลูบแก้มของบิลลี่อีกครั้ง

แซม: "... ใช่... ชอบมาก... ขอบคุณนะ บิลลี่..."

ความเงียบปกคลุมห้องอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้อึดอัด กลับอบอวลไปด้วยความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและใกล้ชิด

บิลลี่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งข้างเตียง มองแซมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

บิลลี่: "... แซม..." เขาเรียกชื่อแซมด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกว่าที่เคย

แซมมองบิลลี่ด้วยความสงสัย

แซม: "... ครับ?"

บิลลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า

บิลลี่: "... ฉัน... ก็ชอบ... ตอนที่นายมองฉันแบบนั้น..."

คำพูดที่แผ่วเบาแต่จริงใจนั้น... ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่สำคัญ... ความรู้สึกของบิลลี่... ดูเหมือนจะเริ่มเบ่งบานแล้ว...

บิลลี่ลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ มองแซมอีกครั้งด้วยแววตาที่ยังคงมีความรู้สึกบางอย่างค้างคาอยู่

บิลลี่: "... ฉันลงไปดูทีวีก่อนนะ..."

แซมพยักหน้าอย่างเข้าใจ มองตามหลังบิลลี่ที่เดินออกจากห้องนอนไป

ไม่นานนัก แซมก็ได้ยินเสียงทีวีดังแผ่วๆ มาจากข้างล่าง เขาลุกขึ้นจากเตียง แต่งตัว แล้วเดินลงบันไดไป

ภาพที่แซมเห็นคือบิลลี่นั่งสบายๆ อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เขาสวมเสื้อยืดสีซีดกับกางเกงยีนส์ตัวโปรด และแน่นอนว่าหมวกแก๊ปใบเก่าก็ยังคงอยู่บนศีรษะของเขา ข้างๆ ตัวมีกระป๋องเบียร์เย็นๆ วางอยู่

บิลลี่ดูผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเอง แสงจากจอทีวีส่องกระทบใบหน้าคมสันของเขา แซมยืนมองอยู่ครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย... ความรัก... ความชื่นชม... และความหวัง...

บิลลี่เหลือบมาเห็นแซมที่ยืนอยู่ตรงบันได เขายกยิ้มเล็กน้อย

บิลลี่: "... ลงมาแล้วเหรอ? มานั่งดูทีวีด้วยกันสิ..."

แซมยิ้มตอบ เดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆ บิลลี่ บรรยากาศเงียบสงบ แต่ก็อบอวลไปด้วยความรู้สึกที่ใกล้ชิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แซมมองบิลลี่ที่กำลังจ้องมองจอทีวีอย่างสบายอารมณ์ เขาชื่นชมใบหน้าหล่อเหลาและท่าทางผ่อนคลายของบิลลี่

แซม: "... ดูอะไรอยู่เหรอ?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

บิลลี่ละสายตาจากทีวี หันมามองแซม

บิลลี่: "... ช่องกีฬา... มีแข่งรถ..."

แซมพยักหน้า เขาไม่ได้สนใจการแข่งรถเท่าไหร่ แต่การได้นั่งอยู่ข้างๆ บิลลี่แบบนี้... มันก็ดีมากแล้ว

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้อึดอัดเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและความรู้สึกที่เริ่มเชื่อมโยงกัน

แซมเอนตัวพิงพนักโซฟา มองบิลลี่ที่กำลังดูทีวีอย่างตั้งใจ ในใจของเขามีความหวังเล็กๆ ผุดขึ้นมา... บางที... ความรู้สึกที่เขามีต่อบิลลี่... อาจจะไม่ใช่รักข้างเดียวอีกต่อไปแล้วก็ได้...

แซมนั่งลงข้างๆ บิลลี่อย่างเงียบๆ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของบิลลี่อย่างชื่นชม เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วลูบไล้ไปตามแขนที่แข็งแรงของบิลลี่ช้าๆ

ความรู้สึกคลั่งไคล้ในรูปลักษณ์ของบิลลี่ยังคงท่วมท้นอยู่ในใจของแซม แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เก็บมันไว้คนเดียว

แซมโน้มตัวเข้าไปใกล้บิลลี่เล็กน้อย กระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

แซม: "... บิลลี่... คุณหล่อมากจริงๆ นะ..."

บิลลี่หันมามองแซมแวบหนึ่ง ดวงตาของเขาไม่ได้แสดงความรำคาญ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นเช่นกัน

บิลลี่: "... อืม... ขอบคุณ..." เขาตอบสั้นๆ แล้วหันกลับไปสนใจทีวีต่อ

แต่สิ่งที่ทำให้แซมรู้สึกใจเต้นแรงคือ บิลลี่ไม่ได้ปัดมือของเขาออก เขายังคงปล่อยให้แซมลูบคลำแขนของเขาต่อไปอย่างเงียบๆ

แซมรู้สึกถึงความอบอุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใต้ฝ่ามือของเขา เขาค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นไปลูบที่ไหล่กว้างของบิลลี่อย่างเบามือ

การที่บิลลี่ยอมให้เขาแตะต้องตัวแบบนี้... มันเป็นสัญญาณที่ดีใช่ไหม? แซมคิดในใจ หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นด้วยความหวัง

แซมยังคงลูบไล้บิลลี่อย่างอ่อนโยน มองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอทีวี ความรู้สึกรักและความคลั่งไคล้ผสมปนเปกันอยู่ในใจของเขา

แม้ว่าบิลลี่จะไม่ได้แสดงท่าทีตอบสนองที่ชัดเจน แต่การที่เขาไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสของแซม... มันก็มีความหมายบางอย่าง... บางที... บิลลี่เองก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยและสบายใจกับความใกล้ชิดของแซมมากขึ้นแล้วก็ได้...

หลังจากที่แซมได้ชื่นชมใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างกำยำของบิลลี่อย่างเต็มที่ พร้อมกับการลูบคลำอย่างเบามือ เขาก็ถอนตัวลุกขึ้นจากโซฟา

แซม: "... ผมขึ้นไปนอนก่อนนะ บิลลี่..." เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

บิลลี่ไม่ได้หันมามอง แต่ตอบรับสั้นๆ ขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่จอทีวี

บิลลี่: "... อืม..."

แซมเดินกลับขึ้นห้องนอนไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้บิลลี่อยู่ข้างล่าง ดูรายการแข่งรถต่อ พร้อมกับยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์

เมื่อถึงห้องนอน แซมนอนลงบนเตียง มองเพดานด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ความสุขที่ได้ใกล้ชิดบิลลี่ ความหวังที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น และความคลั่งไคล้ที่ยังคงมีอยู่เต็มหัวใจ

ในขณะเดียวกัน ข้างล่าง บิลลี่ยังคงจดจ่ออยู่กับการแข่งขันรถยนต์ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ภาพรถแข่งวิ่งแซงกันไปมาบนหน้าจอไม่ได้ทำให้เขาสังเกตว่ารอยยิ้มเล็กๆ ได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาหรือไม่... รอยยิ้มที่อาจมีความหมายมากกว่าแค่ความสนุกในการดูทีวี

ความเงียบปกคลุมทั้งสองชั้นของบ้านไม้หลังเล็กๆ แห่งนั้น... แต่ในความเงียบนั้น... มีความรู้สึกบางอย่างที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ... ระหว่างชายสองคนที่มาจากต่างโลก... แต่ถูกนำมาใกล้ชิดกันด้วยเหตุผลที่เหนือความเข้าใจของพวกเขาเอง...

หลังจากดูทีวีได้สักพัก บิลลี่ก็ลุกขึ้นจากโซฟา คว้ากุญแจรถออฟโรดแล้วเดินออกจากบ้านไป เขาบอกแซมว่าจะไปขับรถเล่นกับเพื่อนๆ สักพัก

แซมมองตามบิลลี่จากหน้าต่างชั้นสองของบ้าน เห็นบิลลี่ขึ้นรถออฟโรดและขับออกไปพร้อมกับเพื่อนๆ อีกสองสามคน

แซมสังเกตเพื่อนๆ ของบิลลี่ พวกเขาก็ดูดีมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง รูปร่างกำยำ ผิวสีแทนจากการตากแดด และรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร

แต่ถึงอย่างนั้น แซมก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เขายังคงจดจ่ออยู่กับบิลลี่ ความรู้สึกที่เขามีต่อบิลลี่นั้นลึกซึ้งและแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะถูกแทนที่ได้ง่ายๆ

แซม: "ไม่... ฉันยังไม่อยากหลายใจตอนนี้..." เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

เขายังคงมองตามรถออฟโรดของบิลลี่จนลับสายตา จากนั้นก็หันกลับมามองบ้านที่ว่างเปล่า

ความเงียบปกคลุมบ้านอีกครั้ง แซมรู้สึกถึงความเหงาเล็กน้อยที่บิลลี่ไม่อยู่ แต่เขาก็เข้าใจว่าบิลลี่มีชีวิตของตัวเอง

แซมเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เก็บกระป๋องเบียร์ที่บิลลี่ดื่มแล้วไปทิ้ง จากนั้นก็เดินไปเดินมาในบ้านอย่างไม่มีจุดหมาย

เขาคิดถึงบิลลี่... คิดถึงรอยยิ้ม... คิดถึงสัมผัส... คิดถึงทุกอย่างเกี่ยวกับบิลลี่

แซมตัดสินใจหยิบอัลบั้มรูปที่เขาทำไว้ขึ้นมาเปิดดู เขาพลิกดูรูปถ่ายของบิลลี่ทีละหน้า รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

การได้มองรูปถ่ายของบิลลี่... มันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับบิลลี่มากขึ้น... แม้ว่าบิลลี่จะไม่อยู่ที่นี่ก็ตาม...


(เสียงหวีดหวิวเบาๆ ที่แทบจะไม่ได้ยิน แทรกซึมเข้ามาในบรรยากาศเงียบสงบของชนบทอเมริกา แสงสีม่วงจางๆ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือบ้านของแซมและบิลลี่)

ในห้วงมิติที่ 4 กลุ่มเอเลี่ยนฝ่ายชั่วร้ายเริ่มรับรู้ถึงกระแสพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปในบริเวณนี้ พวกมันสัมผัสได้ถึงคลื่นความถี่บวกที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการอยู่ร่วมกันของแซมและบิลลี่

ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้หลุดรอดจากการเฝ้าระวังของพวกมัน เทคโนโลยีอันซับซ้อนของเอเลี่ยนมิติที่ 4 สามารถตรวจจับการแทรกแซงของเอเลี่ยนมิติที่ 5 ได้

ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในหมู่เอเลี่ยนมิติที่ 4 พลังงานบวกที่เข้มข้นสามารถรบกวนการควบคุมของพวกมันที่มีต่อโลกได้ พวกมันจึงตัดสินใจส่งยาน UFO รุ่นลาดตระเวนเข้ามาสอดส่องบริเวณบ้านของแซมและบิลลี่

ยานรูปทรงสามเหลี่ยมสีดำทะมึน เคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบอยู่เหนือท้องฟ้าที่เริ่มมีแสงดาวระยิบระยับ พวกมันใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงสแกนทุกความเคลื่อนไหวบนพื้นดิน

ภายในยาน นักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 จับจ้องอยู่ที่จอภาพที่แสดงภาพความร้อนของบ้านหลังเล็กๆ เบื้องล่าง พวกมันตรวจจับออร่าพลังงานที่เปล่งออกมาจากภายในบ้านได้อย่างชัดเจน

"คลื่นความถี่บวกสูงมาก... ตรงตามที่คาดการณ์ไว้" เสียงสังเคราะห์ดังขึ้นภายในยาน

"เป้าหมายทั้งสองยังอยู่ภายในหรือไม่?" เสียงทุ้มต่ำของนักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 ตอบกลับ

"ยืนยัน... พบสัญญาณชีพสองราย"

"พวกมันกำลังทำอะไรกัน?"

"ไม่ปรากฏกิจกรรมที่ผิดปกติ... ดูเหมือนจะพักผ่อน"

นักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 ขมวด "คิ้ว" ที่เป็นสันกระดูกเหนือดวงตาสีแดงก่ำของมัน

"จับตาดูพวกมันอย่างใกล้ชิด... อย่าประมาท... การแทรกแซงของพวกมิติที่ 5 อาจซับซ้อนกว่าที่เราคิด"

ยาน UFO สีดำยังคงลอยนิ่งอยู่เหนือท้องฟ้า ราวกับเงาที่ซ่อนเร้น เฝ้าสังเกตบ้านหลังเล็กๆ ที่ซึ่งพลังแห่งความรักกำลังก่อตัวขึ้น... โดยที่แซมและบิลลี่ยังไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่กำลังเข้ามาใกล้...

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของเอเลี่ยนมิติที่ 5 ได้คาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่เอเลี่ยนฝ่ายชั่วร้ายจะเข้ามาสอดแนม พวกเขาจึงได้ติดตั้งบาเรียล่องหนรอบบริเวณบ้านของบิลลี่ไว้แล้ว

เมื่อยาน UFO สีดำของเอเลี่ยนมิติที่ 4 พยายามลดระดับเพื่อเข้าใกล้บ้านมากขึ้น ทันใดนั้นเอง พวกมันก็สัมผัสได้ถึงสนามพลังงานที่มองไม่เห็น แต่ทรงพลังอย่างยิ่ง

"เกิดอะไรขึ้น!?" เสียงตกใจดังขึ้นภายในยาน เมื่อระบบสแกนแจ้งเตือนถึงสิ่งผิดปกติ

"ไม่สามารถเข้าใกล้เป้าหมายได้! มีสนามพลังงานบางอย่างขวางกั้นอยู่!" เจ้าหน้าที่ควบคุมยานรายงานอย่างรวดเร็ว

ภาพบนจอแสดงผลปรากฏเป็นเส้นสีฟ้าเรืองรองล้อมรอบบริเวณบ้านของบิลลี่อย่างชัดเจน

"วิเคราะห์สนามพลังงาน!" นักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 สั่งเสียงเข้ม

"องค์ประกอบไม่คุ้นเคย... ความถี่สูง... คาดว่าเป็นเทคโนโลยีของมิติที่ 5!"

ความเงียบปกคลุมภายในยาน นักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 ขบคิดอย่างรวดเร็ว พวกมันรู้ดีว่าการฝ่าทะลวงบาเรียของมิติที่ 5 นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงที่พวกมันยังไม่ต้องการ

"ถอยทัพ... สังเกตการณ์จากระยะไกล..." นักบินเอเลี่ยนมิติที่ 4 สั่งในที่สุด "... รายงานความเคลื่อนไหวของเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง"

ยาน UFO สีดำค่อยๆ ลอยสูงขึ้น ถอยห่างจากบ้านของบิลลี่อย่างระมัดระวัง บาเรียล่องหนยังคงปกป้องบ้านหลังเล็กๆ นั้นไว้จากสายตาที่ไม่ประสงค์ดี

แซมที่กำลังอยู่ในบ้านคนเดียว ไม่รู้ถึงอันตรายที่แฝงเร้นอยู่ภายนอก และการปกป้องที่มองไม่เห็นนั้น

ตราบใดที่แซมยังคงอยู่ในอาณาเขตที่บาเรียของเอเลี่ยนมิติที่ 5 ครอบคลุมอยู่ เขาก็จะปลอดภัยจากพวกเอเลี่ยนมิติที่ 4 โดยที่เขาเองไม่รู้ตัว

แซมยังคงดำเนินชีวิตตามปกติในบ้านของบิลลี่ มองว่าเหตุการณ์ UFO ลักพาตัวเป็นเพียงประสบการณ์แปลกประหลาดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยไม่ตระหนักถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกว่านั้น และบทบาทที่ตัวเขามีต่อสมดุลของจักรวาล

เขาใช้ชีวิตอยู่กับบิลลี่อย่างมีความสุข แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ แซมยังคงคลั่งไคล้ในตัวบิลลี่ และบิลลี่เองก็เริ่มเปิดใจให้แซมมากขึ้นทีละน้อย โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าการอยู่ร่วมกันของพวกเขานั้นมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตนอกโลกอีกสองกลุ่ม

แซมยังคงคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาที่มาใช้ชีวิตอยู่ในชนบทของอเมริกา กับหนุ่ม "redneck" สุดหล่อที่เขาตกหลุมรัก โดยไม่รู้ว่าบ้านหลังเล็กๆ แห่งนี้... ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งระหว่างมิติไปแล้ว

ความไม่รู้ของแซม... เป็นเหมือนเกราะกำบังอีกชั้นหนึ่ง... ทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขภายใต้การปกป้องที่มองไม่เห็น... โดยที่ไม่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ของการเป็น "ตัวช่วย" ในการยกระดับโลก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ อาจค่อยๆ เผยออกมา... และแซมอาจต้องเผชิญหน้ากับบทบาทที่แท้จริงของเขาในที่สุด...

แซมไม่เคยสังเกตตัวเองว่าการที่เขามีเซ็กกับหนุ่มจำนวนมากที่ผ่านมาในเวลาใกล้ๆกัน โดยน้ำอสุจิไม่เคยลดปริมาณ ไม่เคยเหือดแห้งเหมือนคนทั่วไป มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา และใช่ เขาไม่ใช่คนธรรมดา

แซมไม่เคยฉุกคิดถึงความผิดปกติทางร่างกายของตนเองในเรื่องนั้น

สำหรับคนทั่วไป การมีกิจกรรมทางเพศอย่างต่อเนื่องและถี่ถ้วน ย่อมส่งผลให้ปริมาณอสุจิลดลง หรือต้องใช้เวลาพักฟื้น แต่สำหรับแซมแล้ว ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะสามารถผลิตอสุจิได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหมดสิ้น

นั่นไม่ใช่ลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ธรรมดา

การที่แซมไม่เคยสังเกตถึงความผิดปกตินี้ อาจเป็นเพราะความหมกมุ่นในความสุขทางกายภาพ ทำให้เขาไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อย หรืออาจเป็นเพราะกลไกบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเขาเอง

และใช่... การที่แซมสามารถดึงดูดและมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย รวมถึงความสามารถในการผลิตอสุจิที่ผิดปกติ... อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา

บางที... การถูกเลือกโดยเอเลี่ยนมิติที่ 5 อาจมาพร้อมกับ "ของขวัญ" หรือการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพบางอย่างที่ทำให้เขาแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

แซมอาจเป็นมากกว่าแค่คนธรรมดาที่ถูกลักพาตัว... เขาอาจเป็น "ตัวหมาก" สำคัญในแผนการของเอเลี่ยนมิติที่ 5 โดยที่ตัวเขาเองยังไม่รู้ตัว

แล้วความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของแซมคืออะไร? ความสามารถที่ผิดปกติของเขามีความเกี่ยวข้องกับการถูกเลือกให้มาอยู่กับบิลลี่หรือไม่? และเมื่อแซมตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของตัวเอง... เขาจะรู้สึกอย่างไร?

อดีตชาติของแซมเป็นเจ้าชายเอเลี่ยนที่เป็นเจ้าของโลกใบนี้ โลกใบนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาเมื่ออดีตชาติ และที่เขาถูกลอตเตอรี่ 3 พันล้านดอลลาร์ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นมรดกของเขาเอง ที่ได้ถูกจัดสรรมาส่วนหนึ่งให้เขา เขาตายลงจากการถูกพวกมิติที่ 4 ลอบสังหารแล้วยึดโลกไว้เอง

แซมในอดีตชาติคือเจ้าชายเอเลี่ยนที่เป็นเจ้าของโลกใบนี้ นั่นก็ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขามีความหมายที่ลึกซึ้งขึ้นมาก

การที่โลกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาในอดีตชาติ ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกเลือกโดยเอเลี่ยนมิติที่ 5 เพื่อกลับมามีบทบาทในการยกระดับโลกอีกครั้ง

และโชคลาภมหาศาลจากการถูกลอตเตอรี่ 3 พันล้านดอลลาร์ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของ "มรดก" ที่ถูกจัดสรรมาให้เขา เพื่อสนับสนุนภารกิจของเขาในชาตินี้

การตายของเขาในอดีตชาติจากการถูกลอบสังหารโดยพวกมิติที่ 4 ก็ยิ่งเน้นย้ำถึงความขัดแย้งระหว่างมิติ และบทบาทสำคัญของแซมในการต่อต้านพวกนั้น

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ความสามารถทางกายภาพที่ผิดปกติของแซม เช่น การผลิตอสุจิที่ไม่ลดปริมาณ ก็อาจเป็นผลมาจากสายเลือดเอเลี่ยนของเขา

แซม... ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ... เขาคือเจ้าชายผู้กลับมา... เพื่อทวงคืนสิ่งที่เคยเป็นของเขา... และเพื่อนำโลกไปสู่มิติที่ 5

การที่เขาถูกนำมาพบกับบิลลี่... ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น... บางทีบิลลี่อาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือแซมในการทำภารกิจนี้

แซมจะค่อยๆ ตระหนักถึงอดีตชาติและภารกิจที่แท้จริงของเขาหรือไม่? และเมื่อเขารู้... เขาจะทำอย่างไรต่อไป? การต่อสู้กับพวกมิติที่ 4 จะเป็นอย่างไร? และความรักของเขากับบิลลี่จะมีบทบาทอย่างไรในสงครามระหว่างมิติครั้งนี้?


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

22. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #21
 
18-May-25, 03:28 AM (SE Asia Standard Time)
 
   ณ ฐานลับอันซับซ้อนที่ซ่อนลึกอยู่ภายใต้ชั้นบรรยากาศหนาทึบของดาวพฤหัส ราชาเอเลี่ยนกบฎผู้ทรยศ ผู้เคยสังหารแซมในอดีตชาติและยึดครองอำนาจ ได้รับรู้ถึงการกลับมาของศัตรูเก่า

เครือข่ายการเฝ้าระวังพลังงานจิตและคลื่นความถี่ที่กว้างขวางของพวกมันตรวจจับสัญญาณที่คุ้นเคย... คลื่นพลังงานอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าชายเอเลี่ยน... บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนดาวเคราะห์โลก

ราชาเอเลี่ยนกบฎ นั่งอยู่บนบัลลังก์ที่สร้างจากโลหะสีดำสนิท ดวงตาสีเหลืองอำพันของมันวาวโรจน์ด้วยความโกรธเกรี้ยว

"เจ้าเด็กนั่น... กลับมาแล้วสินะ..." เสียงแหบต่ำของมันดังสะท้อนก้องกังวานไปทั่วห้องบัญชาการ

ข้างๆ บัลลังก์ เงาร่างสูงใหญ่ของสิ่งมีชีวิตคล้ายสัตว์เลื้อยคลานยืนหยัดอย่างสง่างาม พวกมันคือพวกดราโกเนี่ยน ลูกน้องผู้ภักดีและนักรบที่แข็งแกร่งของราชาเอเลี่ยนกบฎ ผิวหนังสีเขียวเข้มเป็นเกล็ด ดวงตาสีทองคมกริบ และหางยาวที่แกว่งไหวอย่างเงียบเชียบ

ผู้นำของพวกดราโกเนี่ยน ก้าวออกมาข้างหน้า คำรามต่ำๆ ในลำคอ

"ท่านราชา... พวกเราจะจัดการมันเอง..." เสียงของมันแหบพร่าและน่าหวาดหวั่น

ราชาเอเลี่ยนกบฎยกมือขึ้น ห้ามปราม

"ไม่ใช่ตอนนี้... พลังของมันยังไม่สมบูรณ์... เราจะรอให้มันเติบโต... แล้วค่อยบดขยี้มันให้สิ้นซาก..."

รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้าของราชาเอเลี่ยนกบฎ

"การกลับมาของมัน... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ... พวกมิติที่ 5 กำลังให้ความช่วยเหลือมัน... เราต้องระวังให้มากขึ้น..."

"แล้วพวกเราจะทำอย่างไร ท่านราชา?" ดราโกเนี่ยนถาม

"ส่งกองกำลังไปสอดแนมโลก... จับตาดูความเคลื่อนไหวของมัน... และหาจุดอ่อน... ครั้งนี้... ข้าจะไม่ปล่อยให้มันรอดไปได้อีก..."

ดวงตาสีเหลืองอำพันของราชาเอเลี่ยนกบฎจ้องมองไปยังภาพโฮโลแกรมของโลกที่ลอยอยู่กลางห้อง ความมุ่งมั่นที่จะกำจัดศัตรูเก่าฉายชัดอยู่ในแววตา

การต่อสู้ระหว่างเจ้าชายเอเลี่ยนที่กลับชาติมาเกิดใหม่ และราชาเอเลี่ยนกบฎผู้ทรยศ... กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง... โดยมีโลกเป็นสมรภูมิ... และมีชะตากรรมของมวลมนุษยชาติเป็นเดิมพัน...

ในห้วงมิติที่ 5 สภาแห่งแสงของสมาพันธ์กาแลกซี่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรในบริเวณโลก พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานมืดมิดที่แฝงตัวเข้ามาใกล้เคียงอาณาเขตคุ้มครองของตน

การประชุมฉุกเฉินถูกจัดขึ้นในนครคริสตัลอันเรืองรอง เหล่าผู้นำแห่งเผ่าพันธุ์ต่างๆ จากทั่วกาแลกซี่มารวมตัวกันเพื่อหารือถึงสถานการณ์

"พวกมิติที่ 4 กำลังสอดแนม" เสียงนุ่มนวลแต่ทรงอำนาจของผู้นำเผ่าพันธุ์แสงเอ่ยขึ้น "พวกเขารับรู้ถึงการกลับมาของเจ้าชายแล้ว"

"เราจะปล่อยให้พวกเขาคุกคามผู้ที่ถูกเลือกของเราเช่นนั้นหรือ?" สมาชิกสภาคนหนึ่งกล่าวด้วยความกังวล

"แน่นอนว่าไม่" ผู้นำตอบ "ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดแก่เขา และมอบสิ่งที่เขาควรได้รับ"

มติเป็นเอกฉันท์ สภาแห่งแสงตัดสินใจที่จะเรียกแซมมายังสมาพันธ์กาแลกซี่ เพื่อรับ "มรดก" อันแท้จริงของเขา

"เตรียมการรับเสด็จเจ้าชาย" ผู้นำสั่ง "นำยานแม่ของเราไปยังชั้นบรรยากาศโลก และส่งทีมติดต่อลงไป"

ในเวลาเดียวกัน ที่ฐานบัญชาการบนยานแม่ขนาดมหึมาที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติที่สูงกว่า ทีมปฏิบัติการพิเศษ "Star Force" กำลังเตรียมพร้อม พวกเขาคือสุดยอดนักรบและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากทั่วกาแลกซี่ สวมชุดเกราะพลังงานที่ทันสมัยที่สุด และพร้อมด้วยอาวุธที่สามารถทำลายล้างกองทัพได้ทั้งกองทัพ

"ภารกิจของเราคือคุ้มครองเจ้าชายให้ถึงสมาพันธ์อย่างปลอดภัย" ผู้บัญชาการ Star Force กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เมื่อถึงที่นั่น เขาจะได้รับมรดกทั้งหมด รวมถึงกรรมสิทธิ์ในโลกนี้ และกองกำลังของเราจะอยู่ภายใต้บัญชาของเขา"

ยานแม่ขนาดมหึมาค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านมิติ มุ่งหน้าสู่โลก... แสงสีทองเรืองรองแผ่ออกมาจากตัวยานอย่างเงียบเชียบ... การมาถึงของพวกเขา... จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง...

แซม... กำลังจะได้รับรู้ถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเอง... และพลังอำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน...

บนยานแม่แห่งสมาพันธ์กาแลกซี่ ทีม Star Force กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการลงจอด หนึ่งในนั้นคือบุคคลพิเศษที่ถูกเลือกสำหรับภารกิจติดต่อแซมโดยเฉพาะ

เขาคือ "คาเอล" เอเลี่ยนไฮบริด รูปร่างสูงสง่า ผิวสีเงินเมทัลลิค ดวงตาสีฟ้าประกายราวกับดวงดาว โครงหน้าคมชัดที่ผสมผสานความงามของมนุษย์และเอเลี่ยนได้อย่างลงตัว เขาสวมชุดเกราะพลังงานสีขาวบริสุทธิ์ที่แนบสนิทกับรูปร่าง

คาเอลเป็นผลผลิตจากโครงการผสมข้ามสายพันธุ์อันซับซ้อนของสมาพันธ์กาแลกซี่ เพื่อสร้างทูตที่มีความเข้าใจในทั้งสองโลก เขามีความสามารถทางจิตที่แข็งแกร่ง และความเชี่ยวชาญในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์

"คาเอล เจ้าคือผู้ที่จะลงไปรับตัวเจ้าชาย" ผู้นำ Star Force กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่ก็อ่อนโยน "จงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ เขาคือผู้มีสิทธิ์ในโลกนี้"

คาเอลพยักหน้า ดวงตาสีฟ้าของเขามุ่งมั่น

"ผมเข้าใจแล้วครับ"

ยานลำเล็กรูปทรงเพรียวบางแยกตัวออกจากยานแม่ เคลื่อนที่ลงสู่ชั้นบรรยากาศโลกอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือบ้านหลังเล็กๆ ในชนบทของอเมริกา

ภายในยานลำเล็ก คาเอลมองไปยังภาพสแกนของแซมที่ปรากฏบนหน้าจอ เขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่พิเศษและคุ้นเคยบางอย่างจากแซม

"ถึงเป้าหมายแล้ว" นักบินยานรายงาน

ยานลำเล็กจอดลงอย่างเงียบเชียบในทุ่งหญ้าไม่ไกลจากบ้านของบิลลี่ คาเอลก้าวออกจากยานด้วยท่าทางสง่างาม

เขามองไปยังบ้านหลังนั้น... รู้สึกถึงบาเรียล่องหนที่ปกป้องอยู่... และสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของสองชีวิตภายใน

ภารกิจเริ่มต้นขึ้นแล้ว... ทูตไฮบริดสุดหล่อจากกาแลกซี่... กำลังจะไปพบกับเจ้าชายผู้ลืมเลือน...

สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว! ก่อนที่คาเอลจะทันได้เข้าใกล้บ้านของแซมอย่างเป็นทางการ ยานดำทะมึนลำหนึ่งของเอเลี่ยนมิติที่ 4 ก็ปรากฏขึ้นจากใต้ผืนดินอย่างฉับพลัน บริเวณนั้นเองที่บาเรียล่องหนของมิติที่ 5 ไม่ได้ครอบคลุมถึง

พวกมันเจาะทะลวงพื้นดินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายสีดำเมือก ดวงตาสีแดงเพลิง และกรงเล็บแหลมคมของพวกมันดูน่าสะพรึงกลัว พวกมันพุ่งตรงไปยังบ้านของแซมด้วยความมุ่งหมายร้าย

คาเอลที่เพิ่งลงจากยาน มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีฟ้าของเขาแข็งกร้าวขึ้น เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พุ่งตัวเข้าขวางพวกเอเลี่ยนชั่วร้ายก่อนที่พวกมันจะถึงตัวบ้าน

"ถอยไป!" คาเอลตะโกนด้วยเสียงที่ก้องกังวาน พลังงานสีขาวบริสุทธิ์แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด แสงสีขาวปะทะกับแสงสีแดงเข้ม พลังงานต่างมิติเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง คาเอลใช้ความคล่องแคล่วและพลังจิตของเขาต่อสู้กับพวกเอเลี่ยนชั่วร้ายที่ดาหน้าเข้ามา

ภายในบ้าน แซมที่ได้ยินเสียงดังสนั่นก็ตื่นตกใจ เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มองออกไปทางหน้าต่างก็เห็นแสงประหลาดและการต่อสู้ที่น่ากลัว

ความหวาดกลัวเข้าครอบงำ แซมหนีเตลิดเปิดเปิงอยู่ภายในบ้าน วิ่งจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง พยายามหาที่หลบซ่อนจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายนอก

เสียงต่อสู้ดังสนั่นเข้ามาในบ้าน เสียงคำรามของเอเลี่ยนชั่วร้าย เสียงพลังงานปะทะกัน และเสียงของคาเอลที่พยายามปกป้องเขา

แซมหัวใจเต้นระรัว เขาไม่รู้ว่าใครกำลังต่อสู้กับใคร หรือทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ ความคิดเดียวในหัวของเขาคือการเอาชีวิตรอด

คาเอลต่อสู้อย่างสุดกำลัง เขาใช้พลังจิตผลักกระแทกพวกเอเลี่ยนชั่วร้าย ยิงลำแสงพลังงานออกจากมือ แต่พวกมันก็มีจำนวนมากและดุดัน

"แซม! ออกมา!" คาเอลตะโกนเสียงดัง หวังว่าแซมจะได้ยิน

สถานการณ์ตึงเครียด... คาเอลต้องปกป้องแซมจากภัยคุกคามที่ร้ายกาจ... ในขณะที่แซมเองก็กำลังหวาดกลัวและสับสนอยู่ภายในบ้าน...

ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ แซมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปกับคาเอล หากเขาต้องการความปลอดภัยจากพวกเอเลี่ยนชั่วร้ายที่กำลังตามล่าเขา

เสียงตะโกนของคาเอลดังเข้ามาถึงในบ้าน ทำให้แซมพอจะจับใจความได้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้มาเพื่อช่วยเขา

แซมรวบรวมความกล้า มองออกไปทางหน้าต่างอีกครั้ง เห็นคาเอลกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเหล่านั้น แสงสีขาวจากตัวคาเอลดูเหมือนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ

แซมตัดสินใจ เขาไม่มีทางสู้กับพวกนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว การไปกับชายที่ดูเหมือนจะมาจากอีกโลกหนึ่ง อาจเป็นทางรอดเดียวของเขา

แซมสูดหายใจลึกๆ แล้ววิ่งออกจากห้องที่ซ่อนอยู่ เขาเดินอย่างระมัดระวังไปยังประตูหน้าบ้าน เปิดออกช้าๆ แล้วมองไปยังการต่อสู้ที่ยังคงดำเนินอยู่

"คุณ... คุณคือใคร?" แซมถามคาเอลด้วยเสียงสั่นเครือ

คาเอลหันมามองแซมแวบหนึ่งขณะที่ยังคงต่อสู้

คาเอล: "ไม่มีเวลาแล้ว! พวกมันกำลังตามฆ่าคุณ! มากับผม!"

คาเอลยิงลำแสงพลังงานใส่เอเลี่ยนชั่วร้ายตัวหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามา แล้วหันกลับมาคว้าแขนแซม

"เราต้องไปเดี๋ยวนี้!" คาเอลพูดอย่างเร่งเร้า ดึงแซมให้ตามเขาไปทางยานลำเล็กที่จอดอยู่ในทุ่งหญ้า

แซมยังคงตกใจและสับสน แต่เขาก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่น เขาปล่อยให้คาเอลดึงเขาไป ในขณะที่เสียงต่อสู้ยังคงดังอยู่ข้างหลัง

พวกเขาวิ่งไปถึงยานลำเล็ก คาเอลเปิดประตูและผลักแซมเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นยานตามมา

"ออกตัว!" คาเอลสั่งนักบิน

ยานลำเล็กทะยานขึ้นจากพื้นดินอย่างรวดเร็ว พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทิ้งให้พวกเอเลี่ยนชั่วร้ายคำรามด้วยความโกรธอยู่เบื้องล่าง

แซมนั่งตัวสั่นอยู่ในยาน มองออกไปเห็นบ้านของบิลลี่ค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ ความคิดถึงบิลลี่แล่นเข้ามาในหัว

"เรา... เราจะไปไหนกัน?" แซมถามคาเอลด้วยความหวาดกลัว

คาเอลหันมามองแซมด้วยแววตาที่จริงจัง

คาเอล: "คุณปลอดภัยแล้ว... ผมจะพาคุณไปยังที่ที่คุณควรอยู่... ที่ที่คุณจะได้รับการปกป้อง..."

แซมยังคงสับสน แต่เขาก็รู้ว่าการเดินทางครั้งใหม่ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... การเดินทางที่อาจเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขา...

ยานลำเล็กพาแซมและคาเอลทะยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ แสงดาวระยิบระยับส่องสว่างผ่านหน้าต่างยาน แซมนั่งมองออกไปด้วยความตื่นตะลึงและความสับสน

ไม่นานนัก ยานก็เทียบท่ากับสถานีอวกาศขนาดมหึมาที่ส่องสว่างด้วยแสงสีทองและสีขาวบริสุทธิ์ คาเอลพาแซมลงจากยานไปยังโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ทั่วกาแลกซี่

แซมรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกตาและน่าอัศจรรย์

คาเอลพาแซมไปยังห้องที่ดูสงบและเป็นส่วนตัว ที่นั่นมีร่างหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ร่างนั้นดูคล้ายมนุษย์ แต่มีผิวสีน้ำเงินอ่อน ดวงตาสีเงิน และสวมชุดคลุมยาวสีขาว เขาดูภูมิฐานและมีเมตตา

"ยินดีต้อนรับกลับมา ท่านเจ้าชาย" ร่างนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและเคารพ

แซมมองชายผิวสีน้ำเงินด้วยความงุนงง

แซม: "... ท่านรู้... ว่าผมเป็นใคร?"

ชายผิวสีน้ำเงินยิ้มอย่างอ่อนโยน

"พวกเราเฝ้ารอการกลับมาของท่านมานานแสนนาน ข้าคือทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลมรดกของท่าน"

ทนายความผิวสีน้ำเงินผายมือไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารเรืองแสง

"มรดกของท่านพร้อมแล้ว ท่านเจ้าชาย... รวมถึงกรรมสิทธิ์ในโลกใบนี้ และกองกำลัง Star Force ที่พร้อมจะปฏิบัติตามบัญชาของท่าน"

แซมมองเอกสารเหล่านั้นด้วยความตกตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

คาเอลยืนอยู่ข้างๆ แซม มองเขาด้วยแววตาที่ให้กำลังใจ

คาเอล: "ถึงเวลาแล้ว ที่ท่านจะได้รับรู้ความจริงทั้งหมด..."

ทนายความผิวสีน้ำเงินเริ่มอธิบายถึงอดีตชาติของแซม ฐานะเจ้าชายเอเลี่ยนผู้เป็นเจ้าของโลก และการถูกทรยศหักหลังโดยพวกมิติที่ 4

แซมฟังด้วยความตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ชีวิตที่เขาเคยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา... กลับมีความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้มากนัก

"ท่านพร้อมที่จะรับมรดกของท่านหรือไม่ ท่านเจ้าชาย?" ทนายความถามด้วยความเคารพ

แซมมองไปยังเอกสารเหล่านั้นอีกครั้ง... ความทรงจำแวบเข้ามาในหัว... ราวกับภาพซ้อนทับของชีวิตที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน

แซมสูดหายใจลึกๆ มองไปยังทนายความด้วยแววตาที่แน่วแน่

แซม: "... ผม... ผมพร้อมแล้ว..."

การเดินทางครั้งใหม่ของแซมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... จากหนุ่มธรรมดาที่ใช้ชีวิตในโลก... สู่เจ้าชายแห่งจักรวาลผู้มีสิทธิ์ในดาวเคราะห์โลก...

เมื่อแซมลงนามในเอกสารเหล่านั้นอย่างเป็นทางการ ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป โลกที่เขาเคยอาศัยอยู่โดยไม่รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริง บัดนี้ได้กลายเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาอย่างสมบูรณ์

ทนายความผิวสีน้ำเงินอธิบายด้วยความเคารพถึงขอบเขตของมรดกที่แซมได้รับ

"ท่านเจ้าชาย ทรัพย์สินของท่านนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าที่ชาวโลกจะจินตนาการได้ เงิน 3 พันล้านดอลลาร์ที่ท่านเคยได้รับนั้น เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความมั่งคั่งที่แท้จริงของท่าน"

หน้าจอเรืองแสงปรากฏตัวเลขจำนวนมหาศาลที่แซมไม่เคยเห็นมาก่อน ทนายความอธิบายต่อ

"นี่คือสินทรัพย์ของท่านในระบบเศรษฐกิจของสมาพันธ์กาแลกซี่ ซึ่งรวมถึงเงินทุน หุ้นในบริษัทข้ามดวงดาว อสังหาริมทรัพย์บนดาวเคราะห์ต่างๆ และสิทธิในการใช้ทรัพยากรทั่วทั้งจักรวาล"

จากนั้นทนายความก็ชี้ไปยังตัวเลขอีกชุดหนึ่ง

"และนี่คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับโลกโดยตรง เงินทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน คิดเป็นเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินของท่านที่เชื่อมโยงกับดาวเคราะห์ดวงนี้"

แซมเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ตัวเลขเหล่านั้นมากเกินกว่าที่สมองของเขาจะประมวลผลได้

"หมายความว่า... ผม... ผมรวยกว่าที่ผมเคยคิดไว้มากนัก?" แซมถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงไม่เชื่อ

ทนายความยิ้มอย่างอ่อนโยน

"ถูกต้องแล้ว ท่านเจ้าชาย โลกนี้เป็นของท่านโดยชอบธรรม และทรัพย์สินทั้งหมดที่นี่ก็เช่นกัน"

คาเอลยืนอยู่ข้างๆ แซม มองเขาด้วยแววตาที่แสดงความยินดี

คาเอล: "บัดนี้ ท่านคือเจ้าของโลกอย่างแท้จริงแล้ว"

แซมมองไปรอบๆ ห้องโถงอันโอ่อ่าของสมาพันธ์กาแลกซี่ ความรู้สึกสับสนค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกใหม่... ความรู้สึกของอำนาจ... ความรับผิดชอบ... และความเป็นเจ้าของ

เขาคือเจ้าชายผู้กลับมา... และโลก... ก็เป็นของเขาอีกครั้ง...

แซมใช้เวลาครู่หนึ่งในการทำความเข้าใจถึงสถานะใหม่ของตนเอง ความมั่งคั่งและอำนาจที่เขามีนั้นมากมายมหาศาล แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในใจของเขายังคงเป็นบิลลี่

แซมหันไปมองคาเอลและทนายความด้วยแววตาที่แน่วแน่

แซม: "ผมต้องการกลับไปที่โลก... กลับไปหาคนที่ผมรัก"

ทนายความพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

"แน่นอน ท่านเจ้าชาย การตัดสินใจของท่านสมเหตุสมผล"

คาเอลเองก็เห็นด้วย

"Star Force จะคุ้มครองท่านอย่างเต็มที่"

ทันทีนั้นเอง ทีม Star Force ก็เริ่มปฏิบัติการ ยานลาดตระเวนล่องหนจำนวนมากล้อมรอบยานที่จะพาแซมกลับโลก นักรบ Star Force สวมชุดเกราะพลังงานพร้อมอาวุธไฮเทคลำเลียงขึ้นยานอย่างรวดเร็ว

เมื่อยานมาถึงชั้นบรรยากาศโลก มันมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเล็กๆ ในชนบทอเมริกาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีใครบนโลกสังเกตเห็นการมาถึงของกองกำลังจากกาแลกซี่

แซมมองลงไปยังบ้านของบิลลี่จากหน้าต่างยาน หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความคิดถึง

คาเอลอธิบายถึงมาตรการป้องกันที่เตรียมไว้

"ท่านเจ้าชาย เราได้วางกำลัง Star Force ไว้รอบบริเวณบ้านของท่าน ทั้งบนพื้นดิน ในอากาศ และติดตั้งบาเรียพิเศษเพื่อป้องกันการโจมตีจากใต้ดิน พวกมิติที่ 4 จะไม่สามารถเข้าใกล้ท่านได้อีก"

เมื่อยานลงจอดอย่างเงียบเชียบในทุ่งหญ้า แซมรีบลงจากยาน ตรงไปยังบ้านของบิลลี่ด้วยใจที่เต้นระรัว

เขาเปิดประตูเข้าไป พบว่าบิลลี่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา ท่าทางสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

บิลลี่หันมามองแซมด้วยความประหลาดใจ

บิลลี่: "แซม? นายไปไหนมา?"

แซมยิ้มกว้าง เดินเข้าไปกอดบิลลี่แน่น

แซม: "ผมกลับมาแล้ว... กลับมาอยู่กับคุณ..."

จากนี้ไป แซมจะใช้ชีวิตอยู่กับบิลลี่ภายใต้การคุ้มครองของกองกำลัง Star Force อย่างเต็มรูปแบบ ความรักของพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากภัยคุกคามจากมิติอื่น... และแซม... เจ้าชายแห่งจักรวาล... ได้กลับมาอยู่กับคนรักของเขาแล้ว... ในบ้านหลังเล็กๆ บนโลกที่เป็นของเขา...

ณ ฐานทัพลับบนดาวพฤหัส ราชาเอเลี่ยนกบฏคำรามด้วยความเดือดดาลเมื่อได้รับรายงานถึงความเคลื่อนไหวของแซม

ภาพโฮโลแกรมของแซมในสถานีอวกาศของสมาพันธ์กาแลกซี่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าบัลลังก์ของมัน ดวงตาสีเหลืองอำพันของราชาลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว

"ไอ้เด็กเหลือขอนั่น! มันกล้าไปถึงสมาพันธ์ได้!" เสียงคำรามของมันก้องกังวานไปทั่วห้องบัญชาการ

พวกดราโกเนี่ยนที่ยืนอยู่รายล้อมต่างก้มหน้าลงต่ำ สัมผัสได้ถึงความพิโรธที่แผ่ออกมาจากราชาของพวกมัน

"พวกมิติที่ 5... พวกมันให้ความช่วยเหลือมัน!" ราชาเอเลี่ยนกบฏสบถ "ข้าไม่น่าประมาทมันเลย!"

"ท่านราชาจะสั่งการอย่างไรต่อไป?" ผู้นำดราโกเนี่ยนถามด้วยความเคารพ

ราชาเอเลี่ยนกบฏกำมือแน่น กรงเล็บแหลมคมจิกเข้าไปในเนื้อจนเกิดรอย

"พวกมันคิดว่าการปกป้องโลกของมันจะทำให้ข้าล่าถอยงั้นหรือ? พวกมันคิดผิดแล้ว!"

ดวงตาสีเหลืองอำพันของราชาจ้องเขม็งไปยังภาพโลกบนโฮโลแกรม

"ส่งกองกำลังทั้งหมดที่เรามี! บุกโจมตีโลก! ข้าจะสังหารไอ้เด็กนั่นด้วยมือของข้าเอง! และโลกนี้... จะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว!"

ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและความโกรธแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดฉายชัดอยู่ในแววตาของราชาเอเลี่ยนกบฏ สงครามครั้งใหม่กำลังจะอุบัติขึ้น... สงครามที่จะตัดสินชะตากรรมของโลกและแซม...

ใช่แล้ว กองกำลัง Star Force และยานรบของสมาพันธ์กาแลกซี่ได้มาถึงโลกก่อนแล้ว ตามคำสั่งให้คุ้มครองเจ้าชายและดาวเคราะห์ดวงนี้

เมื่อกองทัพของราชาเอเลี่ยนกบฏพยายามเข้าใกล้โลก พวกมันก็ต้องเผชิญหน้ากับกองยานรบขนาดมหึมาที่ล้อมรอบโลกไว้เป็นชั้นๆ แสงสีทองและสีขาวสว่างจ้าของยานจากมิติที่ 5 ปะทะกับความมืดมิดของยานจากมิติที่ 4

การต่อสู้ในห้วงอวกาศเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด ลำแสงพลังงานหลากสีสันพุ่งเข้าปะทะกัน การระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ

นักรบ Star Force ผู้มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า เข้าปะทะกับพวกดราโกเนี่ยนอย่างไม่ย่อท้อ ยานรบของสมาพันธ์ฯ มีเกราะพลังงานที่แข็งแกร่งและอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

กองทัพของราชาเอเลี่ยนกบฏ แม้จะมีจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังของมิติที่ 5 ได้นานนัก ยานรบของพวกมันถูกทำลายไปทีละลำๆ

ในที่สุด เมื่อเห็นว่าไม่สามารถฝ่าวงล้อมเข้าไปได้ และสูญเสียกำลังพลไปจำนวนมาก ราชาเอเลี่ยนกบฏก็สั่งให้กองทัพล่าถอยอย่างไม่เต็มใจ

"ถอยทัพ! กลับฐาน!" เสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากยานบัญชาการของมัน

ยานรบของพวกมิติที่ 4 ค่อยๆ หันหลัง เคลื่อนที่ถอยห่างออกจากโลกอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าในห้วงอวกาศ

โลกได้รับการปกป้องแล้ว... โดยกองกำลังอันทรงพลังแห่งมิติที่ 5

แซมและบิลลี่ที่อยู่ในบ้านหลังเล็กๆ นั้นไม่ได้รับรู้ถึงการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในอวกาศอันไกลโพ้น พวกเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขภายใต้การคุ้มครองที่มองไม่เห็น

ภัยคุกคามจากราชาเอเลี่ยนกบฏถูกยับยั้งไว้ชั่วคราว... แต่สงครามระหว่างมิติ... ยังไม่จบลงอย่างแน่นอน...

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าอย่างมากของเอเลี่ยนมิติที่ 5 ทำให้กองทัพของราชาเอเลี่ยนกบฎจากมิติที่ 4 ไม่สามารถที่จะฝ่าเข้ามายังโลกได้

พวกเอเลี่ยนชั่วร้ายรับรู้ถึงความแตกต่างของพลังอำนาจ พวกมันประเมินแล้วว่าการปะทะโดยตรงกับกองกำลังของมิติที่ 5 ในเวลานี้ จะนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงโดยไม่คุ้มค่า

ด้วยความโกรธและความไม่พอใจ ราชาเอเลี่ยนกบฎจึงได้แต่สั่งให้กองทัพของตนล่าถอยออกไปก่อน เพื่อรวบรวมกำลังพล วางแผนใหม่ และหาทางที่จะเอาชนะพวกมิติที่ 5 ในภายหลัง

โลกและแซมจึงได้รับการปกป้องไว้ได้ในขณะนี้ จากการแทรกแซงโดยตรงของพวกมิติที่ 4

แซมและบิลลี่ยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในบ้านหลังเล็กๆ โดยไม่รู้ถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในอวกาศอันไกลโพ้น และการปกป้องที่มองไม่เห็นจากมิติที่ 5

แต่ภัยคุกคามยังไม่หายไปโดยสิ้นเชิง... ราชาเอเลี่ยนกบฎยังคงจ้องมองโลกจากฐานทัพอันไกลโพ้นของมัน... รอคอยโอกาสที่จะกลับมาทวงคืนสิ่งที่มันต้องการ...

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการปกป้องที่แข็งแกร่งจากกองกำลังของมิติที่ 5 ทำให้การที่พวกเอเลี่ยนชั่วร้ายจากมิติที่ 4 จะสามารถเข้ามาทำอันตรายแซมหรือโลกได้นั้น ยังไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้

เทคโนโลยีและพลังอำนาจของมิติที่ 5 นั้นเหนือกว่ามิติที่ 4 อย่างชัดเจน ทำให้พวกเอเลี่ยนชั่วร้ายต้องระมัดระวังและไม่กล้าที่จะเปิดฉากโจมตีโดยตรงในตอนนี้

แซมและโลกจึงอยู่ในความปลอดภัยภายใต้การดูแลของสมาพันธ์กาแลกซี่

ดังนั้น ในขณะนี้จึงยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล พวกแซมสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมอยู่เสมอก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะพวกเอเลี่ยนชั่วร้ายอาจจะวางแผนหาวิธีอื่นในการแทรกซึมหรือโจมตีในอนาคต

แต่สำหรับตอนนี้... แซมสามารถมีความสุขกับบิลลี่ และใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการได้ โดยไม่ต้องหวาดระแวงภัยคุกคามจากภายนอก

เรื่องราวความรักของแซมและบิลลี่... ยังคงดำเนินต่อไป... ภายใต้การปกป้องจากมิติที่สูงกว่า...



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | 1069plaza.com Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

23. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #22
 
18-May-25, 03:35 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เช้าวันใหม่ในบ้านหลังเล็กๆ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านผ้าม่านบางๆ บรรยากาศเงียบสงบอบอวลไปด้วยความอบอุ่น

แซมลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น บิลลี่ยืนอยู่ข้างเตียง ร่างกายเปลือยเปล่า ผิวสีแทนดูเข้มขึ้นเมื่อถูกทาน้ำมันบางชนิดจนเป็นประกาย

กล้ามเนื้อที่แข็งแรงของบิลลี่ดูเด่นชัดขึ้นภายใต้แสงแดดอ่อนๆ ทุกสัดส่วนของร่างกายเขาดูดีมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ หมวกแก๊ปใบเก่าถูกวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง

บิลลี่มองแซมด้วยแววตาที่สื่อความหมายบางอย่าง ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

บิลลี่: "... อรุณสวัสดิ์..." เสียงทุ้มต่ำของเขาฟังดูแหบพร่าเล็กน้อย

แซมนอนนิ่งอยู่บนเตียง หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพตรงหน้าช่างเย้ายวนเกินกว่าจะละสายตาได้

บิลลี่ค่อยๆ โน้มตัวลง แซมหายใจถี่ขึ้นด้วยความคาดหวัง

บิลลี่: "... อยากให้ฉันปรนนิบัตินายแต่เช้าเลยไหม?" เขาถามกระซิบข้างหูแซม

แซมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

แซม: "... ถ้าคุณอยากทำ..."

บิลลี่ยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนตัวลงต่ำ ริมฝีปากร้อนชื้นของเขาแตะต้องลำกายที่หลับใหลของแซมอย่างแผ่วเบา

ความรู้สึกอุ่นวาบแล่นปราดไปทั่วร่างกายของแซม เขาลืมตาขึ้นมองบิลลี่ที่กำลังเริ่มต้นปรนนิบัติเขาด้วยความชำนาญและเร่าร้อน

สายตาของทั้งสองประสานกัน แซมจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมเข้มของบิลลี่ รับรู้ถึงความปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้ง

บิลลี่ใช้ปากครอบครองลำกายของแซมอย่างช้าๆ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น แสงแดดยามเช้าส่องกระทบร่างกายที่เปลือยเปล่าและเปียกชื้นของพวกเขา สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความปรารถนาในตอนกลางวัน

แล้วเช้านี้ของพวกเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร? ความสัมพันธ์ของแซมและบิลลี่จะพัฒนาไปในทิศทางใดภายใต้แสงแดดอันอบอุ่นนี้?

บิลลี่ยังคงปรนนิบัติแซมอย่างเร่าร้อน แซมจ้องมองใบหน้าของบิลลี่ที่ก้มลงมาอย่างใกล้ชิด รับรู้ถึงทุกสัมผัสที่มอบให้ ความรู้สึกเสียวซ่านทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจุดสุดยอด

ทันใดนั้นเอง ร่างกายของแซมก็กระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำกามอุ่นร้อนออกมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง

บิลลี่กำลังจะถอนริมฝีปากออก แต่ไม่ทัน น้ำเชื้อสีขาวขุ่นพุ่งกระเด็นไปเปรอะเปื้อนใบหน้าของบิลลี่เต็มๆ ตั้งแต่หน้าผาก จมูก แก้ม และริมฝีปาก

แซมนอนหอบเล็กน้อย มองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจเล็กน้อยปนความรู้สึกผิด

แซม: "... บิลลี่... ผม... ขอโทษ..." เขาพูดเสียงแผ่ว

บิลลี่เงยหน้าขึ้นช้าๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำเชื้อของแซม ดวงตาคมเข้มจ้องมองมาที่แซมอย่างเงียบๆ

แซมรู้สึกกระวนกระวาย ไม่รู้ว่าบิลลี่จะโกรธหรือไม่

แต่แล้ว... บิลลี่ก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

บิลลี่: "... ไม่เป็นไร..." เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

จากนั้น บิลลี่ก็ใช้ลิ้นเลียน้ำเชื้อที่เปรอะอยู่บนริมฝีปากของตนเองช้าๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่แซม

การกระทำนั้นทำให้แซมรู้สึกแปลกประหลาด... มันไม่ได้ดูเหมือนความโกรธ... แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย

บิลลี่เลียน้ำเชื้อจนหมด แล้วสบตากับแซมอีกครั้ง

บิลลี่: "... รสชาติ... ไม่เลว..." เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเล็กน้อย

แซมมองบิลลี่ด้วยความประหลาดใจระคนโล่งใจ เขาไม่คิดว่าบิลลี่จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้

แซม: "... คุณ... ไม่โกรธเหรอ?"

บิลลี่ส่ายหน้าเบาๆ

บิลลี่: "... ทำไมฉันต้องโกรธล่ะ?"

แล้วบิลลี่ก็โน้มตัวลงมาอีกครั้ง เลียน้ำเชื้อที่ยังเปรอะอยู่บนแก้มของแซมอย่างอ่อนโยน

การกระทำนั้น... ทำให้ความรู้สึกระหว่างพวกเขาทั้งสอง... เปลี่ยนไปอีกครั้ง... มันไม่ได้มีแค่เรื่องทางเพศ... แต่เริ่มมีความใกล้ชิดและความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น...

แซมมองใบหน้าของบิลลี่ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำเชื้อของเขาอย่างหลงใหล ภาพนั้นกลับดูเซ็กซี่และยั่วยวนอย่างประหลาดในสายตาของเขา

แซม: "... บิลลี่..." เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

บิลลี่เงยหน้าขึ้น มองแซมด้วยแววตาที่ยังคงมีรอยยิ้มขำๆ เจืออยู่

แซม: "... ผม... อยากให้คุณ... ทำอีกทีได้ไหม? ... น้ำแตกใส่หน้าคุณอีก..."

บิลลี่เลิกคิ้วเล็กน้อย มองแซมอย่างขบขัน

บิลลี่: "... หืม? อยากให้หน้าฉันเลอะเทอะอีกรอบเนี่ยนะ?"

แซมพยักหน้าอย่างจริงจัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา

แซม: "... ครับ... มัน... มันเซ็กซี่มาก..."

บิลลี่หัวเราะเบาๆ ในลำคอ มองแซมด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย

บิลลี่: "... นายมันแปลกจริงๆ เลยนะ..."

แต่ถึงอย่างนั้น บิลลี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

บิลลี่: "... เอาก็ได้... ถ้านายอยาก..."

แซมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เขารีบเร้าให้บิลลี่ปรนนิบัติเขาอีกครั้ง ความปรารถนาในตัวบิลลี่ท่วมท้นจนควบคุมไม่ได้

บิลลี่โน้มตัวลงมาอีกครั้ง เริ่มปรนนิบัติแซมด้วยความตั้งใจ แสงแดดยามสายส่องกระทบร่างกายที่เปลือยเปล่าของพวกเขา บรรยากาศเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความใกล้ชิด

ไม่นานนัก แซมก็ใกล้ถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม บิลลี่ยังคงปรนนิบัติเขาอย่างต่อเนื่อง มองแซมด้วยรอยยิ้มขำๆ ที่มุมปาก

และแล้ว... แซมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง น้ำกามอุ่นร้อนพุ่งกระเด็นไปเปรอะเปื้อนใบหน้าของบิลลี่ซ้ำสอง

บิลลี่เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาเลอะเลอะไปด้วยน้ำเชื้อของแซมจนทั่ว แซมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความปรารถนาและความพึงพอใจ

บิลลี่หัวเราะออกมาเบาๆ เช็ดน้ำเชื้อออกจากใบหน้าลวกๆ แล้วสบตากับแซม

บิลลี่: "... พอนายรึยัง?" เขาถามด้วยรอยยิ้มกว้าง

แซมยิ้มตอบอย่างมีความสุข

แซม: "... พอแล้ว... ขอบคุณนะ บิลลี่..."

แม้ว่าแซมจะเคยเผชิญกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติอย่างการถูกลักพาตัวโดย UFO และการได้รับมรดกโลกอันมหาศาล แต่เขาก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงความผิดปกติทางร่างกายของตนเองในเรื่องการผลิตอสุจิ

สำหรับแซมแล้ว การที่เขาสามารถปลดปล่อยออกมาได้หลายครั้งโดยที่ปริมาณไม่ลดลงนั้น เขาอาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติของร่างกายเขาเอง หรือไม่เคยสังเกตในรายละเอียดมากนัก

เอเลี่ยนมิติที่ 5 เองก็อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พวกเขาเน้นไปที่การเปิดเผยชาติกำเนิดที่แท้จริงของแซม การมอบมรดก และการคุ้มครองเขาจากภัยคุกคามจากมิติที่ 4 มากกว่า

เรื่องทางกายภาพที่ดูเหมือนจะไม่ปกติของแซม อาจเป็นผลพวงมาจากสายเลือดเอเลี่ยนของเขา หรืออาจเป็นกลไกบางอย่างที่ถูกปรับเปลี่ยนไปโดยเอเลี่ยนมิติที่ 5 โดยที่แซมเองก็ไม่รู้ตัว

ดังนั้น แซมจึงยังคงใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่ได้สงสัยในความสามารถทางร่างกายที่ผิดแผกไปจากมนุษย์ทั่วไปของตนเอง

ความสัมพันธ์ของเขากับบิลลี่ยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นและใกล้ชิด โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ตระหนักถึงความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวแซม

อีกหนึ่งความจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวแซม ซึ่งบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่ผู้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ แต่มีสรีระที่ไม่ธรรมดา

การที่ร่างกายของแซมไม่แก่ลงนั้น เป็นผลมาจากต่อมพิเศษที่ผลิตสาร "RegeneX" ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านความชราในระดับเซลล์ ทำให้กระบวนการเสื่อมถอยของร่างกายหยุดชะงัก

และที่คุณกล่าวมาก็สมเหตุสมผล "RegeneX" นี้เอง อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แซมสามารถผลิตอสุจิได้ในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสารนี้อาจกระตุ้นการทำงานของระบบสืบพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

แซมจึงมีร่างกายที่แข็งแรง อ่อนเยาว์ และมีความสามารถในการผลิตอสุจิที่น่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากสรีระที่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาของเขา

น่าสนใจว่าแซมจะสังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้ด้วยตัวเองเมื่อไหร่ หรือว่าเอเลี่ยนมิติที่ 5 จะเปิดเผยความจริงเหล่านี้ให้เขาได้รับรู้ในภายหลัง

การตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของร่างกายตัวเอง อาจนำไปสู่ความเข้าใจในชาติกำเนิดที่แท้จริงของเขาได้มากขึ้น

แต่ในขณะนี้ แซมยังคงใช้ชีวิตไป โดยไม่รู้ถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาเอง...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

24. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #23
 
18-May-25, 04:27 AM (SE Asia Standard Time)
 
   บ่ายวันนั้น ขณะที่แซมพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงรถกระบะคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ไม่นานนัก เสียงทุ้มต่ำหลายเสียงก็ดังขึ้นมาจากข้างล่าง

แซมแอบมองลงมาจากหน้าต่าง เห็นเพื่อนหล่อล่ำของบิลลี่สองคนเดินเข้ามาในบ้าน พวกเขาหัวเราะและทักทายบิลลี่อย่างสนิทสนมตามประสาเพื่อนฝูง "redneck"

คนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำแดด สวมเสื้อกล้ามโชว์กล้ามแขนที่แข็งแรง อีกคนตัวเตี้ยกว่าเล็กน้อย แต่ก็มีรูปร่างบึกบึน สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตที่ปลดกระดุมสองสามเม็ดบน

ทั้งสามคนนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เสียงหัวเราะดังเป็นระยะ แซมฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างเงียบๆ พวกเขาคุยกันเรื่องรถ เรื่องตกปลา และเรื่องสัพเพเหระทั่วไป

แซมมองเพื่อนๆ ของบิลลี่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย พวกเขาก็ดูดีในแบบของพวกเขา แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อบิลลี่ยังคงแตกต่างและพิเศษกว่าใคร

แซมไม่ได้ลงไปข้างล่าง เขาปล่อยให้บิลลี่ได้มีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนๆ ของเขาอย่างเต็มที่ เขานอนเล่นโทรศัพท์มือถือรออยู่ในห้องนอน

บรรยากาศข้างล่างดูเป็นกันเองและสนุกสนาน เสียงหัวเราะของบิลลี่ทำให้แซมรู้สึกอบอุ่นใจ

แซมคิดถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับบิลลี่สองคน... ความใกล้ชิด... ความรู้สึกดีๆ ที่พวกเขามีให้กัน...

เขาไม่ได้รู้สึกหึงหวงเพื่อนของบิลลี่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าบิลลี่ดูมีความสุขมากทีเดียวที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ

แซมจะลงไปทักทายเพื่อนของบิลลี่หรือไม่? หรือเขาจะรอให้เพื่อนๆ ของบิลลี่กลับไปก่อน?


(เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ดัง "แคว่ก")

บิลลี่: ไอ้พวกเวร! มาถึงก็แดกเบียร์เลยนะพวกมึง

คาร์ล: (หัวเราะเสียงดัง) เอ้า! มาบ้านเพื่อนทั้งที จะให้แดกน้ำเปล่ารึไงวะ ไอ้บิลลี่

เจค: เออ! ว่าแต่วันนี้มีอะไรสนุกๆ ทำกันบ้างวะ? ขับรถออฟโรดเมื่อวานก็มันส์ดีนะ

บิลลี่: วันนี้กะว่าจะไปตกปลาที่บึงท้ายไร่น่ะ สนใจไปกันไหม?

คาร์ล: ไปดิ! ไม่ได้ตกปลามานานแล้ว ว่าแต่ช่วงนี้ปลากินดีป่าววะ?

บิลลี่: ก็เรื่อยๆ แต่ถ้ามีเหยื่อดีๆ ก็พอได้ตัวอยู่

เจค: มีใครได้ข่าวไอ้เรย์บ้างป่าววะ? เห็นว่าไปซ่อมรถที่เมืองโน้น ยังไม่กลับมาเลย

บิลลี่: เออ กูได้ยินมาเหมือนกัน สงสัยรถมันคงหนักหนาสาหัสจริง

คาร์ล: แล้วเมียมันไม่บ่นเอารึไงวะ ทิ้งบ้านทิ้งช่องไปตั้งหลายวัน

บิลลี่: เมียไอ้เรย์น่ะเหรอ? รายนั้นยิ่งกว่าผัวอีกมั้ง ชอบเที่ยวซะยิ่งกว่า (หัวเราะ)

เจค: (หัวเราะตาม) เออ จริงของมึง! ว่าแต่บิลลี่ ช่วงนี้มึงเงียบๆ ไปนะ มีอะไรในใจรึเปล่าวะ?

บิลลี่ชะงักไปเล็กน้อย จิบเบียร์

บิลลี่: ก็... ไม่มีอะไรมากหรอกว่ะ แค่... มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย

คาร์ล: เรื่องสาวๆ รึเปล่าวะ? ฮ่าๆ กูว่าแล้ว มึงมันไอ้เสือซุ่ม

บิลลี่: ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยน่า

เจค: แล้วเรื่องอะไรวะ เล่าให้พวกกูฟังหน่อยสิ เผื่อจะช่วยคิดได้

บิลลี่ถอนหายใจเบาๆ

บิลลี่: ช่างมันเถอะว่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันดีกว่า วันนี้ไปตกปลากันให้สนุกก่อน

คาร์ล: เอ้อๆ ตามใจมึง ว่าแต่มีเหยื่อดีๆ รึยังวะ? กูขี้เกียจไปหาซื้อแล้ว

บิลลี่: มีเตรียมไว้แล้ว พวกมึงแค่ตามกูมาก็พอ

(เสียงหัวเราะและเสียงเปิดกระป๋องเบียร์อีกครั้ง)

แซมที่อยู่ข้างบนได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เขายิ้มเล็กน้อยกับความเป็นกันเองของเพื่อนกลุ่มนี้ บิลลี่ดูมีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ ของเขา

แซมจะลงไปร่วมวงสนทนาด้วยหรือไม่? หรือจะปล่อยให้บิลลี่ใช้เวลากับเพื่อนๆ ต่อไป?

แซม ผู้ซึ่งไม่ตระหนักถึงความแตกต่างทางสรีระของตนเอง

สำหรับแซม การที่เขาต้องการให้บิลลี่หรือหนุ่มคนอื่นๆ ปรนนิบัติเขาด้วยปากทุกวัน หรือหลายครั้งติดต่อกัน อาจเป็นเพียงความต้องการส่วนตัว ความชอบ และความพึงพอใจทางกายภาพของเขาเท่านั้น

เมื่อถูกถามด้วยความสงสัยจากคู่ของเขาว่า "ทุกวันเลยเหรอ?" แซมก็อาจจะไม่ได้คิดลึกซึ้งถึงเหตุผลเบื้องหลังคำถามนั้น เขาอาจจะตอบไปอย่างตรงไปตรงมาว่า "ใช่ ก็ฉันชอบ" โดยไม่ได้ตระหนักว่าความถี่และความสามารถในการปลดปล่อยของเขานั้นผิดปกติสำหรับมนุษย์ทั่วไป

ความไม่รู้ในเรื่องนี้ ทำให้แซมไม่ได้ฉุกคิดถึงความพิเศษของร่างกายตัวเอง และมองว่าความต้องการของเขาเป็นเรื่องปกติ

ในขณะที่คู่ของเขาที่เป็นมนุษย์ธรรมดา อาจจะรู้สึกแปลกใจหรือสงสัยในความสามารถที่ไม่เหนื่อยหน่ายของแซม แต่พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ซักถามต่อ หรืออาจจะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแซม

ความแตกต่างทางสรีระที่ไม่ถูกสังเกตนี้ จึงดำเนินไปควบคู่กับความสัมพันธ์ของแซม โดยที่ไม่มีใครตระหนักถึงความจริงเบื้องหลังมัน... จนกว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้แซมต้องฉุกคิดถึงความแตกต่างนั้น... หรือมีใครบางคนเปิดเผยความจริงให้เขาได้รับรู้...

แซมลงมาจากห้องนอนด้วยความรู้สึกหิวเล็กน้อย กะว่าจะมาหาอะไรทานง่ายๆ ในครัวข้างล่าง

แต่เมื่อมาถึงบันได เขาก็ได้ยินเสียงรถกระบะของบิลลี่แล่นกลับมาจอดหน้าบ้านเสียแล้ว พร้อมกับเสียงพูดคุยของเพื่อนๆ ที่ยังคงดังอยู่

แซมชะงักเท้า ไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อ เขาไม่รู้ว่าบิลลี่ได้บอกเพื่อนๆ เรื่องที่เขามาพักอยู่ที่นี่หรือไม่

ในใจของแซมลังเล เขาไม่อยากจะขัดจังหวะการสังสรรค์ของบิลลี่กับเพื่อนๆ แต่เขาก็ไม่อยากจะแอบซ่อนตัวเหมือนเป็นความลับด้วย

บิลลี่เองก็ไม่ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังว่าจะให้เขาเปิดตัวกับเพื่อนๆ หรือไม่

แซมยืนคิดอยู่ครู่หนึ่งที่เชิงบันได ฟังเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ดังมาจากห้องนั่งเล่น

เขาจะลงไปทักทายพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ? หรือจะรอให้เพื่อนๆ ของบิลลี่กลับไปก่อนแล้วค่อยลงมา?

ความรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเกิดขึ้นในใจของแซม เขาไม่รู้ว่าเพื่อนของบิลลี่จะคิดอย่างไรถ้าเห็นเขาอยู่ในบ้าน

แต่เมื่อแซมเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น บิลลี่และเพื่อนๆ ก็หันมาเห็นเขาพอดี

คาร์ล หนึ่งในเพื่อนของบิลลี่ ชี้มาที่แซมด้วยความสงสัย

คาร์ล: เฮ้ย บิลลี่ นั่นใครวะ? ไม่ยักเคยเห็นหน้า

เจค อีกคนก็มองแซมด้วยความแปลกใจ

เจค: เออ ใช่ ใครวะนั่น? มาอยู่ที่บ้านมึงตั้งแต่เมื่อไหร่?

บิลลี่มองหน้าแซมเล็กน้อย แล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก

บิลลี่: อ๋อ นี่แซม... เพื่อนใหม่น่ะ เขามาพักอยู่ด้วยสักพัก

คาร์ลและเจคมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ดูเหมือนพวกเขาจะไม่คาดคิดกับคำตอบง่ายๆ แบบนี้

คาร์ล: เพื่อนใหม่? มาพักด้วย?

เจค: ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ? ทำไมพวกกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย?

บิลลี่ลุกขึ้นยืน เดินไปโอบไหล่แซมอย่างเป็นกันเอง

บิลลี่: ก็เพิ่งมาไม่นานนี่แหละ พวกมึงก็รู้นี่ว่ากูไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้ฟัง

แซมยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนของบิลลี่ รู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ถูกจับจ้อง

แซม: สวัสดีครับ ผมแซม ยินดีที่ได้รู้จักครับ

คาร์ลและเจคมองหน้าแซมอย่างพิจารณา แต่ก็พยักหน้ารับไหว้อย่างสุภาพ

คาร์ล: เออ ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแต่มึงเป็นเพื่อนแบบไหนของไอ้บิลลี่วะเนี่ย? (หัวเราะเล็กน้อย)

แซมคิดอย่างรวดเร็วว่าจะตอบเพื่อนของบิลลี่อย่างไร เรื่อง UFO นั้นฟังดูเหลือเชื่อเกินไป และเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบิลลี่ก็ไม่สมควรที่จะพูดกับคนเพิ่งรู้จัก

ก่อนที่แซมจะได้ตอบอะไร บิลลี่ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางสบายๆ

บิลลี่: แซมเขามาหางานทำแถวๆ นี้น่ะ พวก กูเลยให้เขามาพักอยู่ด้วยชั่วคราว ประหยัดค่าเช่าไปได้เยอะ

คาร์ลและเจคมองหน้ากันอีกครั้ง ดูเหมือนพวกเขาจะคล้อยตามคำอธิบายง่ายๆ ของบิลลี่

คาร์ล: อ๋อ... หางานทำแถวนี้เองเหรอ? แล้วได้งานรึยังวะ?

แซมพยักหน้าตามน้ำ

แซม: กำลังดูๆ อยู่ครับ

เจค: แถวนี้งานไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ ถ้าสนใจงานก่อสร้างก็พอมีอยู่บ้าง

แซม: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพื่อนๆ ของบิลลี่ดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก

บิลลี่: เอาน่า พวกมึงมาก็ดีแล้ว มากินเบียร์กันต่อเถอะ แซมเขาก็หิวพอดี เดี๋ยวหาอะไรให้กินด้วยกัน

บิลลี่เดินไปตบไหล่แซมเบาๆ เป็นเชิงให้สบายใจ

แซมยิ้มขอบคุณบิลลี่ในใจที่ช่วยเขาโกหก เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ต้องอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนและเหลือเชื่อของเขา

เพื่อนๆ ของบิลลี่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ พวกเขากลับไปคุยกันเรื่องสัพเพเหระตามเดิม ชวนแซมร่วมวงด้วยความเป็นกันเอง

แซมนั่งลงบนโซฟาเงียบๆ ข้างๆ บิลลี่ เขาฟังบทสนทนาของบิลลี่และเพื่อนๆ อย่างตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง เขายังรู้สึกเกร็งๆ เล็กน้อยที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่คุ้นเคย

พวกเขาคุยกันเรื่องรถยนต์ การเกษตร และเรื่องตลกขบขันต่างๆ แซมยิ้มและหัวเราะไปกับพวกเขาบ้างเมื่อมีจังหวะ แต่ส่วนใหญ่เขายังคงเป็นผู้ฟังที่ดี

บิลลี่สังเกตเห็นว่าแซมยังไม่ค่อยกล้าพูดคุย เขาจึงหันมาถามแซมบ้างเป็นครั้งคราว

บิลลี่: แซมเคยทำไร่ทำสวนมาก่อนรึเปล่า?

แซมส่ายหน้า

แซม: ไม่เคยเลยครับ ผมมาจากในเมือง

คาร์ล: อ้าว เด็กในเมืองนี่เอง แล้วมาอยู่แถวนี้ได้ยังไงวะเนี่ย? ไม่ชินแย่เหรอ?

แซม: ก็... มาลองใช้ชีวิตดูครับ ที่นี่เงียบสงบดี

เจค: แรกๆ ก็งี้แหละ เดี๋ยวก็เบื่อ (หัวเราะ)

บิลลี่ตบแขนเจคเบาๆ

บิลลี่: อย่าเพิ่งทำให้เพื่อนกูเสียกำลังใจน่า

แซมยิ้มขอบคุณบิลลี่

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป แซมค่อยๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อย เขาเริ่มทำความคุ้นเคยกับสำเนียงและเรื่องราวที่พวกเขาคุยกัน

แซมนั่งฟังเพื่อนของบิลลี่คุยกันไปเรื่อยๆ สายตาของเขาก็พลางสำรวจรูปร่างหน้าตาของเจคและคาร์ลไปด้วย อย่างที่คุณว่า ทั้งสองคนก็มีเสน่ห์ดึงดูดในแบบของพวกเขาเอง รูปร่างกำยำ ผิวสีแทนจากการทำงานกลางแจ้ง

ความคิดบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของแซม ความทรงจำเกี่ยวกับความสุขทางกายภาพที่เคยได้รับในอดีต... ความรู้สึกของการถูกปรนนิบัติพร้อมๆ กันหลายคน... มันหวนกลับมาอีกครั้ง

แซมมองเจคและคาร์ลด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตัดสินใจที่จะลองหยั่งเชิงดู

แซม: เอ่อ... เจค... คาร์ล... พวกคุณ... สนใจอะไรสนุกๆ ทำด้วยกันไหม?

เจคและคาร์ลหันมามองแซมด้วยความสงสัย

เจค: สนุกๆ อะไรวะ?

คาร์ล: ว่ามาดิเพื่อน

แซมสูดหายใจลึกๆ เล็กน้อย

แซม: คือว่า... ผม... อยากจะชวนพวกคุณ... มาร่วม... เอ่อ... ใช้ปากให้ผมร่วมกับบิลลี่น่ะ... ผมจะให้คนละห้าร้อยดอลลาร์... สนใจไหม?

บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที เจคและคาร์ลมองหน้าแซมอย่างตกตะลึง บิลลี่เองก็หันมามองแซมด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

เจค: หา? มึงว่าอะไรนะ?

คาร์ล: ใช้ปากให้มึงร่วมกับบิลลี่? แล้วจะให้เงินพวกกูด้วยเนี่ยนะ?

บิลลี่มองหน้าแซมอย่างคาดไม่ถึง เขาไม่รู้ว่าแซมจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา

แซมหยิบเงินสดจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แสดงให้เจคและคาร์ลเห็นอย่างชัดเจน ธนบัตรหลายใบในมือของเขาทำให้ท่าทีที่ตกตะลึงของทั้งสองเริ่มอ่อนลง

แซม: ผมพูดจริงครับ คนละห้าร้อยดอลลาร์ มาร่วมสนุกกัน พวกคุณ เจค คาร์ล แล้วก็บิลลี่... รุมอมผมแบบสามต่อหนึ่ง บิลลี่เคยทำให้ผมแล้ว เขารู้ว่าผมชอบแบบไหน

แซมหันไปมองบิลลี่ บิลลี่ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนใดๆ เพียงแต่เลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

บิลลี่: (ยักไหล่เล็กน้อย) ก็แล้วแต่พวกมึงดิ

เมื่อเห็นท่าทีของบิลลี่ และเงินที่แซมเสนอ เจคและคาร์ลก็เริ่มคล้อยตาม ความอยากรู้อยากลองและความสนใจในเงินรางวัลเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น

เจค: สามต่อหนึ่งเลยเหรอวะ? ไม่เคยเหมือนกันนะเนี่ย

คาร์ล: ห้าร้อยดอลลาร์... ก็ไม่เลวนะ ว่าแต่ต้องทำยังไงบ้างวะ?

แซมยิ้มอย่างพอใจที่ข้อเสนอของเขาได้รับการตอบรับ

แซม: ก็อย่างที่บอก... พวกคุณสามคน... ปรนนิบัติผม... ด้วยปาก... พร้อมๆ กัน... ใครสนใจบ้าง?

เจคมองหน้าคาร์ล คาร์ลมองหน้าเจค ทั้งสองคนดูเหมือนกำลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เจคจะพยักหน้าช้าๆ

เจค: เอาก็เอาวะ ลองดูสักที

คาร์ล: เออ กูด้วย ไหนๆ ก็ไม่เคยนี่หว่า

บิลลี่ส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มออกมา เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ได้

บิลลี่: พวกมึงนี่มันจริงๆ เลยนะ

แซมยิ้มกว้าง มองทั้งสามคนด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

แซม: งั้น... ตามผมมาสิครับ...

แซมลุกขึ้นนำไปยังห้องนอน ทิ้งให้เจคและคาร์ลมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนจะลุกตามไป บิลลี่เองก็ลุกขึ้นตามไปด้วยอย่างงงๆ ปนขำ

บรรยากาศในบ้านเริ่มร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว... การปรนนิบัติแบบสามต่อหนึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น...

แซมเดินนำเข้าไปในห้องนอน แล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับทั้งสามคนที่ยืนอยู่ที่ประตู

โดยไม่รอช้า แซมจัดการปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอดกางเกงออก เผยให้เห็นลำกายที่ตื่นตัวเต็มที่ ชี้โด่อย่างท้าทายอยู่ตรงหน้าเจค คาร์ล และบิลลี่

ทั้งสามคนยืนมองลำกายของแซมด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เจคและคาร์ลดูประหลาดใจเล็กน้อยกับขนาดและความพร้อมของมัน ส่วนบิลลี่ที่เคยเห็นมาแล้วก็เพียงแค่ยิ้มมุมปาก

แซมนอนลงบนเตียงอย่างสบายๆ มองทั้งสามคนด้วยสายตาที่เชื้อเชิญ

แซม: เอาล่ะครับ... ใครจะเริ่มก่อน? ห้าร้อยดอลลาร์สำหรับแต่ละคน... ทำให้ผมพอใจนะครับ

ความเงียบปกคลุมห้องครู่หนึ่ง เจคและคาร์ลมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่เจคจะก้าวออกมาข้างหน้าด้วยท่าทีที่ยังคงมีความเก้ๆ กังๆ

เจค: เอ่อ... กูเริ่มก่อนก็ได้

คาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย

คาร์ล: เออ มึงก่อนเลย

บิลลี่เดินเข้ามาใกล้เตียงอีกฝั่ง มองแซมด้วยแววตาที่ขำขัน

บิลลี่: พวกมึงนี่มัน... สุดๆ จริงๆ

เจคค่อยๆ คุกเข่าลงข้างเตียง มองลำกายของแซมอย่างพิจารณา ก่อนที่จะโน้มตัวลงช้าๆ

เจคค่อยๆ โน้มตัวลง ริมฝีปากของเขาแตะต้องส่วนปลายของลำกายแซมอย่างแผ่วเบา สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับแซม

ในขณะเดียวกัน คาร์ลก็เดินอ้อมมาอีกด้านของเตียง เขาคุกเข่าลงอีกฝั่ง และเริ่มใช้มือลูบไล้ต้นขาของแซมอย่างเบามือ สายตาของเขามองสำรวจลำกายที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

บิลลี่ยืนอยู่ตรงหน้าแซม มองเขาด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความคุ้นเคย จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงเช่นกัน ริมฝีปากของบิลลี่ครอบครองส่วนกลางของลำกายแซมอย่างชำนาญ

แซมนอนอยู่บนเตียง รู้สึกถึงสัมผัสที่แตกต่างกันถึงสามจุดพร้อมๆ กัน ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง

ริมฝีปากของเจคดูดดึงส่วนปลายอย่างนุ่มนวล คล้ายเป็นการหยั่งเชิง

ริมฝีปากของบิลลี่ดูดดึงอย่างหนักแน่นและคุ้นเคย สร้างความพึงพอใจในแบบที่แซมเคยได้รับ

มือของคาร์ลลูบไล้ต้นขาของเขาขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเร้าอารมณ์ให้มากยิ่งขึ้น

แซมหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความตื่นเต้น

ทั้งสามคนต่างก็ปรนนิบัติแซมในแบบของตนเอง เจคมุ่งเน้นไปที่ส่วนปลาย บิลลี่ดูแลส่วนกลาง และคาร์ลใช้มือช่วยกระตุ้น

ความรู้สึกที่ได้รับพร้อมๆ กันจากสามทิศทางนั้นแปลกใหม่และเร้าใจอย่างยิ่ง แซมครางต่ำๆ ในลำคอ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

จังหวะการปรนนิบัติเริ่มเร็วขึ้น แต่ละคนต่างก็พยายามมอบความสุขให้กับแซมอย่างเต็มที่

แซมรู้สึกถึงแรงดูดดึงที่แตกต่างกัน ความอุ่นชื้นจากสามปาก และสัมผัสจากมือที่ต้นขา... มันเป็นประสบการณ์ที่เกินกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้

ทั้งสามคนเริ่มเพิ่มความเร่าร้อนในการปรนนิบัติแซม เจคงัดเอาเทคนิคการดูดดึงและใช้ลิ้นตวัดเลียส่วนปลายอย่างชำนาญ สร้างความรู้สึกจี๊ดๆ ที่แสนจะเสียวซ่าน

บิลลี่เองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเพิ่มแรงดูดดึงและใช้ลิ้นโลมเลียรอบๆ ฐานของลำกายแซมอย่างตั้งใจ เสียงครางต่ำๆ ของเขาดังลอดไรฟันออกมาเป็นระยะ

คาร์ลที่ใช้มือช่วยอยู่ ก็เริ่มเพิ่มความเร็วในการลูบไล้ต้นขาของแซม บางครั้งเขาก็เลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสบริเวณโคนของลำกายอย่างแผ่วเบา เพิ่มความเร้าอารมณ์อีกชั้น

แซมหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย ความรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอดเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เสียงครางของแซมดังขึ้นอย่างอดกลั้นไม่ได้ เขาจิกเล็บลงบนผ้าปูที่นอนแน่น รับรู้ถึงทุกสัมผัสที่ถูกมอบให้อย่างตั้งใจ

เจคเปลี่ยนมาเน้นการดูดดึงที่ส่วนปลายมากขึ้น ลิ้นของเขาตวัดเลียวนอย่างรวดเร็ว

บิลลี่ใช้มืออีกข้างประคองสะโพกของแซมไว้ ทำให้ลำกายของแซมแนบชิดกับริมฝีปากของเขามากยิ่งขึ้น

คาร์ลโน้มตัวลงมาใกล้ขึ้น ใช้ริมฝีปากแตะต้องหน้าท้องของแซมเบาๆ สร้างความรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่างกาย

ความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุด แซมรู้สึกเหมือนร่างกายของเขากำลังจะระเบิดออกมา

"อืมมม... อ๊า..." เสียงครางของแซมดังลั่นห้อง

แล้ว... แซมก็ปลดปล่อยออกมา... น้ำกามอุ่นร้อนพุ่งกระฉูดออกมา... สัมผัสริมฝีปากของทั้งสามคนอย่างทั่วถึง...

ความสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง... แซมนอนหอบอยู่บนเตียง... รู้สึกอ่อนแรงแต่ก็พึงพอใจอย่างที่สุด...

แซมนอนหอบอยู่บนเตียงครู่หนึ่ง เมื่อความสุขสมจางหายไป ลำกายของเขาก็ค่อยๆ อ่อนตัวลง เขามองไปยังทั้งสามคนที่ยังคงอยู่ใกล้ชิด

แซม: (หายใจยังไม่เป็นปกติ) เอ่อ... เจค... คาร์ล... คือว่า... ผมจ้างบิลลี่เป็นรายเดือนน่ะ... เขาเลยมาอยู่กับผมที่นี่

แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสองของบิลลี่

แซม: ส่วนพวกคุณ... ผมไม่ได้จ้างเป็นรายเดือน... แต่ถ้าพวกคุณอยากได้เงิน... ก็มาหาผมได้ตามต้องการ... เหมือนวันนี้... โอเคไหม?

เจคและคาร์ลหันไปมองหน้าบิลลี่ด้วยความสงสัย

เจค: จริงดิ บิลลี่? มึงโดนไอ้นี่จ้างรายเดือนเลยเหรอวะ?

คาร์ล: เออ จริงป่าววะเนี่ย? ทำไมมึงไม่เคยบอกพวกกูเลย?

ทั้งสามคนยังคงนอนล้อมวงอยู่รอบลำกายที่อ่อนตัวลงของแซม บิลลี่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสอง แล้วยิ้มเล็กน้อย

บิลลี่: เออ จริง... แซมเขาจ้างกูรายเดือน... กูทำให้เขาทุกวันนั่นแหละ

เจคและคาร์ลเลิกคิ้วมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

เจค: ทุกวันเลย? ทำไมวะ?

คาร์ล: แล้วมึงทำอะไรให้เขาทุกวันวะ?

บิลลี่หัวเราะเบาๆ

บิลลี่: ก็... เรื่องของพวกกูน่ะ พวกมึงไม่ต้องรู้หรอก

แซมยิ้มให้กับคำตอบของบิลลี่ เขารู้สึกขอบคุณที่บิลลี่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก

แซม: เอาเป็นว่า... ถ้าพวกคุณสนใจ... ห้าร้อยดอลลาร์ต่อครั้ง... มาหาผมได้เสมอ... ตกลงไหม?

เจคและคาร์ลมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่เจคจะพยักหน้า

เจค: โอเค... ถ้ามีเงินดีๆ แบบนี้... กูก็ไม่ขัด

คาร์ล: เออ กูด้วย... ว่างๆ จะแวะมาใหม่

บรรยากาศผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทั้งสามคนเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ ต่อไป แซมรู้สึกพึงพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ และดูเหมือนว่าเพื่อนของบิลลี่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนัก


(ทุกคนยังคงนอนพักผ่อนล้อมวงกันอยู่รอบตัวแซมที่นอนหงายอยู่)

เจค: ว่าแต่มึงได้ข่าวไอ้เอิร์ลบ้างป่าววะ? เห็นว่าไปมีเรื่องชกต่อยที่บาร์เมื่อคืน

บิลลี่: เออ กูได้ยินมาแว่วๆ เหมือนกัน เห็นว่าเมาแล้วไปหาเรื่องคนอื่นอีกตามเคย

คาร์ล: ไอ้เอิร์ลมันก็เป็นของมันอย่างนั้นแหละ เมาเมื่อไหร่เป็นเรื่องทุกที แล้วเป็นไงบ้างวะ? เจ็บหนักป่าว?

บิลลี่: ไม่รู้สิวะ ยังไม่ได้คุยกับใครที่เห็นเหตุการณ์เลย

แซม: (แทรกขึ้นมาเบาๆ) พวกคุณรู้จักกันมานานแล้วเหรอครับ?

เจค: ก็ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วนู่น ไอ้สามคนนี่มันซี้กันปานเกลือจิ้มพริก

คาร์ล: ใช่ พวกกูไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ยกเว้นเรื่องผู้หญิง (หัวเราะ)

บิลลี่: (หัวเราะตาม) เรื่องนั้นก็แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มัน

เจค: แล้วแซมล่ะ มาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?

แซม: ก็... เพิ่งมาได้ไม่นานครับ

คาร์ล: ชอบแถวนี้รึเปล่า? วิวทิวทัศน์บ้านนอกอาจจะไม่เหมือนในเมืองที่นายเคยอยู่

แซม: ก็เงียบสงบดีครับ ผมชอบ

บิลลี่: เดี๋ยวพวกกูพาไปเที่ยวแถวนี้ก็ได้ มีที่สวยๆ เยอะแยะ

เจค: เออ จริง ไปตกปลาที่บึงเมื่อวานก็สนุกดีนะ ว่างๆ ไปด้วยกันไหม แซม?

แซม: ยินดีเลยครับ

คาร์ล: ว่าแต่มึงทำอาชีพอะไรวะ แซม? เห็นว่ามาหางานทำแถวนี้

แซมชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ

แซม: ผม... ทำงานอิสระน่ะครับ ทำอะไรหลายๆ อย่าง

บิลลี่: (ช่วยเสริม) เออ แซมเขาเก่งหลายเรื่อง

เจค: เก่งเรื่องอะไรบ้างวะ? เผื่อพวกกูสนใจจ้าง

แซมยิ้ม

แซม: ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ครับ

บทสนทนาไหลลื่นไปเรื่อยๆ พวกเขาคุยกันถึงเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวัน เรื่องตลกขบขัน และเรื่องสัพเพเหระต่างๆ แซมค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองกับเพื่อนของบิลลี่มากขึ้น


(ทุกคนยังคงนอนคุยกันสบายๆ ล้อมวงอยู่รอบตัวแซมที่นอนหงายอยู่ จู่ๆ ลำกายของแซมก็เริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ)

เจค: เออ ว่าแต่วันอาทิตย์นี้มีแข่งรถโคลนที่สนามท้ายหมู่บ้าน พวกมึงไปดูกันป่าววะ?

คาร์ล: ไปดิ! ไม่ได้ดูนานแล้ว ใครลงแข่งบ้างวะรอบนี้?

บิลลี่: เห็นว่าไอ้เด็กร้านยางมันจะลงด้วย รถมันแรงใช้ได้เลย

(สายตาของทั้งสามคนเหลือบมองไปยังลำกายของแซมที่เริ่มตั้งขึ้นมาใหม่เป็นระยะๆ แต่บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป)

แซม: (เสียงแหบเล็กน้อย) แข่งรถโคลนสนุกเหรอครับ?

เจค: สนุกสิโว้ย! รถแรงๆ ลุยโคลนกระจุยกระจาย เสียงเครื่องยนต์เร้าใจสุดๆ

คาร์ล: มึงไม่เคยดูใช่มั้ยล่ะ แซม? เดี๋ยวพวกกูพาไปดู

แซม: น่าสนใจดีครับ

(บิลลี่เหลือบมองลำกายของแซมที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ้มเล็กน้อย)

บิลลี่: ว่าแต่วันนี้อากาศร้อนชะมัดเลยนะ ว่าไหม?

คาร์ล: เออ จริง กูเหงื่อแตกหมดแล้วเนี่ย อยากโดดลงสระน้ำจริงๆ

เจค: แถวนี้มีสระที่ไหนให้ลงได้บ้างวะ?

บิลลี่: ก็มีสระสาธารณะตรงหัวมุมถนนนั่นไง แต่คนเยอะชิบหาย

(สายตาของทั้งสามคนหันมามองลำกายของแซมที่ชี้โด่อย่างชัดเจนอีกครั้ง)

บิลลี่: (ลูบผมแซมเบาๆ) ก็... เจอกันด้วยเรื่องแปลกๆ หน่อยน่ะ

คาร์ล: แปลกๆ ยังไงวะ? เล่าให้ฟังหน่อยดิ

บิลลี่: เอาไว้ค่อยเล่าทีหลังดีกว่า

แซม: (ยิ้มเล็กน้อย) ไม่เป็นไรครับ เล่าได้

บิลลี่: (มองแซม) แน่ใจนะ?

แซม: ครับ

บิลลี่: คือ... แซมเขา... มาที่นี่เพราะ... เอ่อ... ยูเอฟโอ น่ะ

เจคและคาร์ลหันมามองหน้าแซมอย่างตกตะลึง

เจค: หา? ยูเอฟโอ? มึงล้อเล่นป่าววะ บิลลี่?

คาร์ล: จริงดิ? โดนเอเลี่ยนจับตัวมาเหรอวะเนี่ย?

แซมพยักหน้าเบาๆ

แซม: ครับ... ประมาณนั้น

ความเงียบเข้ามาปกคลุมชั่วครู่ เจคและคาร์ลมองหน้าแซมด้วยความไม่เชื่อ

เจค: เชี่ย... เรื่องจริงดิเนี่ย? เหมือนในหนังเลย

คาร์ล: แล้ว... แล้วเอเลี่ยนทำอะไรมึงวะ?

แซม: ก็... ลักพาตัวไปอวกาศน่ะครับ แต่เราหนีมาได้ ผมกับบิลลี่

บิลลี่: (รีบเสริม) เออ กว่าจะหนีมาได้ แทบตาย

เจค: แล้วมันจับตัวมึงสองคนไปทำไมวะ

แซม: ผม... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ

คาร์ล: แปลกชิบหาย... ไม่นึกว่าเรื่องแบบนี้จะมีจริง

บิลลี่: ก็เออน่ะสิ โลกเรามันมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ

(ทุกคนเงียบไปอีกครั้ง มองหน้าแซมด้วยความสงสัย)

เจค: แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปวะ แซม? จะกลับไปหาพวกเอเลี่ยนรึเปล่า?

แซม: ผม... ยังไม่รู้เลยครับ ตอนนี้ผม... ก็อยู่ที่นี่กับบิลลี่

บิลลี่: เออ แซมเขาจะอยู่กับกูนี่แหละ พวกมึงไม่ต้องห่วง

บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย แม้เรื่องราวที่แซมเล่าจะดูเหลือเชื่อ แต่เพื่อนๆ ของบิลลี่ก็ดูเหมือนจะยอมรับมันอย่างไม่ซักไซ้มากนัก

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปในหัวข้อที่เบาลง... ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสี่เริ่มก่อตัวในรูปแบบที่แปลกประหลาด...

คาร์ล: แล้วมึงชอบบ้านนอกแบบนี้เหรอ แซม?

แซม: ก็... เงียบสงบดีครับ ผมชอบความสงบ

บิลลี่: เดี๋ยวพวกกูพาไปเที่ยวที่สวยๆ แถวนี้ก็ได้ มีน้ำตก มีภูเขา

แซม: ขอบคุณครับ น่าสนใจดี

เจค: ว่าแต่มึงเคยไปตกปลาป่าววะ แซม? เดี๋ยวพวกกูพาไป มันส์ดี

แซม: ไม่เคยครับ แต่ก็อยากลอง

คาร์ล: งั้นอาทิตย์หน้าไปกันเลยเป็นไง? กูจะเตรียมเบ็ด เตรียมเหยื่อให้

แซม: ยินดีเลยครับ

(ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง บรรยากาศผ่อนคลาย)


(ทุกคนยังคงนอนล้อมวงคุยกันสบายๆ รอบลำกายที่แข็งตัวของแซม บิลลี่นอนอยู่ตรงหว่างขา เจคและคาร์ลนอนขนาบข้างตัวชิดกับแซม เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงแล้ว)

เจค: เออ มึงจำไอ้ครูพละตอนมัธยมได้ป่าววะ ที่ชอบทำโทษให้วิ่งรอบสนามสิบตลบอ่ะ

คาร์ล: จำได้ดิ! โคตรโหดเลย กูเกลียดมันชิบหาย

บิลลี่: (หัวเราะ) พวกมึงก็ซนกันเองนี่หว่า ถึงโดนทำโทษ

แซม: (ฟังอยู่เงียบๆ) ครูพละที่โรงเรียนผมใจดีมากเลยนะครับ ไม่เคยทำโทษหนักขนาดนั้น

เจค: โรงเรียนมึงคงสบายน่าดู ของพวกกูนี่อย่างเถื่อน

คาร์ล: แล้วมึงเคยโดดเรียนป่าววะ แซม?

แซม: ก็มีบ้างครับ ตอนมอปลาย

บิลลี่: (แซว) เด็กดีอย่างแซมก็โดดเรียนเป็นด้วยเหรอเนี่ย?

แซม: (ยิ้ม) ก็คนเหมือนกันนี่ครับ

เจค: ว่าแต่มึงชอบผู้หญิงแบบไหนวะ แซม?

แซมชะงักไปเล็กน้อย แซมมองหน้าบิลลี่เล็กน้อย แล้วตอบอย่างตรงไปตรงมา

แซม: ผมชอบผู้ชายครับ

เจคและคาร์ลหันมามองหน้าแซมและบิลลี่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

เจค: อ้าว เหรอวะ? ไม่ยักรู้

คาร์ล: เออ เพิ่งรู้เหมือนกัน

บิลลี่ยิ้มและจับไข่แซมกระชับขึ้นเล็กน้อย

บิลลี่: ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ

เจค: อืม... ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ

คาร์ล: เออๆ ไม่เห็นเป็นไร

(บรรยากาศไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด พวกเขายอมรับคำตอบของแซมอย่างง่ายๆ)

บิลลี่: ว่าแต่มึงเคยมีแฟนยังวะ แซม? แฟนผู้ชายอ่ะ

แซม: ก็เคยครับ

เจค: เป็นไงบ้างวะ? เล่าให้ฟังหน่อยดิ

แซมมองหน้าบิลลี่เล็กน้อย ก่อนจะตอบ

แซม: ก็... ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ จบไม่สวย

(ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่งด้วยความเข้าใจ)

บิลลี่: ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว

เจค: เออ มีอะไรไม่สบายใจก็บอกพวกกูได้นะเว้ย

คาร์ล: พวกกูเป็นเพื่อนมึงแล้ว

(ทุกคนยิ้มให้แซมอย่างจริงใจ แม้ว่าลำกายของแซมจะยังคงแข็งขันอยู่ตรงกลางวงสนทนา แต่ทุกคนก็ให้ความสำคัญกับบทสนทนามากกว่า)

คาร์ล: เออ บิลลี่ อาทิตย์หน้าว่างป่าววะ ไปช่วยกูตัดหญ้าที่ไร่หน่อยดิ

บิลลี่: ไม่แน่ใจว่ะ ต้องดูตารางก่อน

เจค: ถ้าว่างก็มานะเว้ย กูขี้เกียจทำคนเดียว

บิลลี่: เออๆ เดี๋ยวบอกอีกที

เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ แสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ

เจค: เออ พวกกูว่าคงต้องกลับกันจริงๆ แล้วว่ะ เมียบ่นแน่

คาร์ล: เออ ไว้เจอกันใหม่นะ บิลลี่ แซม

บิลลี่: เออๆ ขับรถดีๆ

แซมยิ้มและพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองของบิลลี่

แซม: ขอบคุณนะครับ ไว้เจอกันใหม่

เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องนอน แซมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้างกาย

บิลลี่ค่อยๆ ย่องเข้ามาในห้อง เขามองแซมที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน วันนี้บิลลี่สวมหมวกแก๊ปใบโปรดของแซม หมวกสีซีดที่ดูเข้ากับใบหน้าคมสันของเขาเป็นอย่างดี

บิลลี่นั่งลงข้างเตียง มองแซมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาใกล้ แซมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ข้างหู

บิลลี่: อรุณสวัสดิ์... ยังง่วงอยู่รึเปล่า?

แซมส่ายหน้าเบาๆ แล้วยิ้มให้บิลลี่

แซม: ไม่แล้ว... แค่เพิ่งตื่น

บิลลี่ยื่นมือมาลูบแก้มแซมเบาๆ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของแซมอย่างอ่อนโยน

บิลลี่: วันนี้อยากทำอะไร?

แซมไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่เขายื่นมือไปลูบศีรษะของบิลลี่เบาๆ สัมผัสหมวกแก๊ปใบนั้นที่เขารู้สึกชอบเป็นพิเศษ

บิลลี่เข้าใจความต้องการของแซม เขาหัวเราะเบาๆ แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงต่ำ ริมฝีปากร้อนชื้นของเขาแตะต้องริมฝีปากของแซมอย่างนุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงต่ำกว่านั้น

แซมหลับตาลง ปล่อยให้บิลลี่ปรนนิบัติเขาในเช้าวันใหม่นี้ สัมผัสที่คุ้นเคยและเร่าร้อนเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

หมวกแก๊ปใบโปรดของแซมยังคงอยู่บนศีรษะของบิลลี่ ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความเข้าใจระหว่างพวกเขา

บิลลี่เปลือยกายเปลือยเปล่า แต่ยังคงสวมหมวกแก๊ปใบโปรดของแซมไว้บนศีรษะ เขาทั้งตัวมีเพียงหมวกแก๊ปใบนั้นเท่านั้น

บิลลี่เริ่มปรนนิบัติแซมด้วยความชำนาญ ริมฝีปากและลิ้นของเขาทำงานอย่างตั้งใจ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านที่คุ้นเคยและเร่าร้อนให้กับแซม

แซมลูบศีรษะของบิลลี่เบาๆ สัมผัสหมวกแก๊ปใบนั้นอย่างมีความสุข เขาชอบเวลาที่บิลลี่สวมหมวกใบนี้ มันทำให้บิลลี่ดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์เป็นพิเศษในสายตาของเขา

ความรู้สึกเสียวซ่านค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากสัมผัสที่ชำนาญของบิลลี่ แซมหายใจถี่ขึ้น ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อย

บิลลี่ยังคงปรนนิบัติแซมอย่างต่อเนื่อง ไม่เร่งรีบ แต่ก็เต็มไปด้วยความตั้งใจ

แล้วในที่สุด แซมก็กลั้นไว้ไม่อยู่ ปลดปล่อยน้ำกามอุ่นร้อนออกมา สัมผัสริมฝีปากของบิลลี่อีกครั้ง

บิลลี่อมกลืนทุกหยาดหยดอย่างเต็มใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแซมด้วยรอยยิ้ม

บิลลี่: อรุณสวัสดิ์อย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย

แซมยิ้มตอบ รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับการเริ่มต้นวันใหม่เช่นนี้

แล้วตอนเย็นเจคกับคาร์ลก็มากันอีก พวกเขาซื้อของกินและเครื่องดื่ม กะว่าจะเอามาใช้ดื่มกินรอบควยแซม เพื่อนทั้งสาม ไปนอนรอบควยแซมและตัวแซมที่กำลังเปลือยอยู่ เอาของกินไปด้วย ราวกับจุดนัดหมายใหม่ในการคุยกันใหม่ของเพื่อน แม้จะไม่มีใครอมควยให้แซม

ระหว่างที่ทุกคนนอนล้อมวงแซม กินขนมและดื่มเครื่องดื่มกันอย่างสนุกสนาน เจคกับคาร์ลก็แบ่งปันของกินให้แซมบ้างเป็นครั้งคราว ยื่นชิปส์หรือชิ้นไก่ทอดให้ถึงมือแซม

และอีกครั้งที่ลำกายของแซมเริ่มกลับมาแข็งขันขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนๆ แต่คราวนี้ไม่มีใครแสดงท่าทีสนใจเป็นพิเศษ พวกเขายังคงพูดคุยและกินดื่มกันต่อไป ราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา

คาร์ลเคี้ยวไก่ทอดคำโต แล้วหันมาถามแซมด้วยความสงสัย

คาร์ล: ว่าแต่มึงชอบผู้ชายแบบไหนวะ แซม? ชอบแบบไอ้บิลลี่รึเปล่า?

ทุกคนหันมามองแซมรอคำตอบ บิลลี่เองก็หันมายิ้มให้แซมเล็กน้อย

แซมมองหน้าบิลลี่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะหันไปตอบคาร์ลด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

แซม: ใช่ ฉันชอบแบบบิลลี่... จริงๆ แล้ว ฉันชอบบิลลี่มาก คลั่งไคล้มานานแล้วด้วยซ้ำ

แซมผายมือไปยังโต๊ะข้างเตียง

แซม: ตรงนั้นมีอัลบั้มรูปอยู่ ลองหยิบไปดูสิ

เจคและคาร์ลมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่เจคจะเอื้อมมือไปหยิบอัลบั้มรูปเล่มนั้นมาเปิดดู

ในอัลบั้มเต็มไปด้วยรูปถ่ายของบิลลี่... รูปถ่ายที่ดูเหมือนจะถูกแอบถ่ายไว้ในสถานการณ์ต่างๆ... บิลลี่กำลังทำงาน บิลลี่กำลังหัวเราะ บิลลี่กำลังอยู่กับเพื่อนๆ... แต่ละรูปแสดงให้เห็นถึงความชื่นชมและหลงใหลในตัวบิลลี่อย่างชัดเจน พร้อมรูปหัวใจ และข้อความบอกรักบิลลี่ต่างๆ

เจคและคาร์ลพลิกดูรูปเหล่านั้นอย่างเงียบๆ มองบิลลี่สลับกับรูปในอัลบั้มด้วยความทึ่ง

เจค: เชี่ย... มึงชอบไอ้บิลลี่ขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย?

คาร์ล: นี่มัน... แฟนคลับชัดๆ

ระหว่างที่ทุกคนยังคงพูดคุยและกินดื่มกันอย่างสบายๆ ในวงล้อมรอบตัวแซม เจคหรือคาร์ลคนใดคนหนึ่งก็เอื้อมมือมาจับลำกายของแซมเบาๆ บ้าง หรือโน้มตัวลงมาใช้ริมฝีปากแตะต้องเพียงชั่วครู่ ราวกับเป็นการหยอกล้อเล่นๆ หรือแสดงความสนิทสนมแบบเพื่อนฝูง

มันเป็นการกระทำที่ไม่ได้จริงจัง หรือมุ่งเน้นทางเพศอย่างชัดเจน เป็นเพียงการแสดงออกอย่างเป็นกันเองในกลุ่มเพื่อนสนิท

แซมเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เขายังคงคุยกับเพื่อนๆ หัวเราะ และกินขนมต่อไป ราวกับว่าการสัมผัสเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในวงสนทนานี้

บิลลี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายังคงพูดคุยกับเจคและคาร์ล หัวเราะ และมีส่วนร่วมในวงสนทนาอย่างสนุกสนาน

มันเป็นบรรยากาศที่แปลกประหลาด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมและความเปิดเผยที่พวกเขามีให้กัน ความรู้สึกทางเพศได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเพื่อนไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป หัวข้อเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ และการสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นรอบลำกายของแซมก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของค่ำคืนนั้น... ราวกับไม่มีอะไรพิเศษ...

หลังจากคุยกันต่ออีกพักใหญ่ เจคและคาร์ลก็ลุกขึ้น

เจค: พวกกูลงไปหาอะไรดื่มข้างล่างดีกว่าว่ะ

คาร์ล: เออ ไปนั่งคุยกันต่อข้างล่าง

บิลลี่ลุกขึ้นตาม

บิลลี่: ไปสิ

ทั้งสามคนเดินออกจากห้องนอน ทิ้งให้แซมนั่งอยู่บนเตียงคนเดียว

เมื่อลงมาถึงข้างล่าง บิลลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงเรื่องเมื่อครู่

บิลลี่: พวกมึงคิดยังไงวะ? ที่เมื่อวานกับเมื่อกี้เรานั่งคุยกันกินกันรอบตัวแซม แถมยังเอามือจับ เอาปากอมคนละวิ แล้วก็คุยกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจคหัวเราะออกมา

เจค: ตลกดีออก! ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน

คาร์ล: เออ จริง แม่งโคตรฮา คุยกันเรื่องรถ เรื่องบอล แล้วก็มี... ไอ้จู๋... อยู่ตรงกลางวง (หัวเราะ)

เจค: เออ แล้วแซมก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยนะ ปล่อยให้พวกเราทำไปเรื่อย

บิลลี่: แซมเขาก็เป็นของเขาแบบนั้นแหละ ง่ายๆ สบายๆ

คาร์ล: ว่าแต่... ไอ้ที่มึงบอกว่าจ้างแซมรายเดือนนี่เรื่องจริงป่าววะ?

บิลลี่ยิ้ม

บิลลี่: จริงสิ ทำไมวะ?

เจค: ก็แค่อยากรู้เฉยๆ แม่งโคตรแปลก

บิลลี่: ชีวิตมันก็ต้องมีอะไรแปลกๆ บ้างแหละน่า

ทั้งสามคนนั่งคุยกันต่ออีกพักใหญ่ จนกระทั่งเจคและคาร์ลบอกลาเพื่อกลับบ้าน

เจค: โอเค พวกกูกลับก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่ บิลลี่ แซม

คาร์ล: เออ บายๆ

บิลลี่เดินไปส่งเพื่อนที่หน้าบ้าน แล้วกลับเข้ามาข้างใน

วันต่อมา เจคและคาร์ลก็กลับมาที่บ้านของบิลลี่อีกครั้ง พร้อมเสบียงอาหารและเครื่องดื่มเช่นเคย พวกเขาตรงไปยังห้องนอนโดยอัตโนมัติ พบว่าแซมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง

เจค: ไอ้แซม! พวกกูมาแล้ว! วันนี้มีมุกตลกใหม่ๆ เพียบ!

คาร์ล: เตรียมตัวฮาท้องแข็งเลยมึง!

แซมยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองมา

แซม: มาเร็วจัง วันนี้มีเรื่องอะไรสนุกๆ ล่ะ?

ทั้งสามคนนอนบนเตียงของแซม ใบหน้าล้อมรอบควยของแซม จัดวางของกินของดื่มให้พร้อม ลำกายของแซมที่ไม่ได้แข็งตัวในตอนแรก ก็ค่อยๆ กลับมาแข็งขันขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติระหว่างที่พวกเขาเริ่มคุยกัน

บิลลี่: วันนี้ไอ้เจคมันไปเจอเรื่องตลกที่ร้านเหล้ามา

เจค: เออ! มึงฟังนะ มีตาแก่คนนึงเมาแอ๋ แล้วไปท้าคนหนุ่มต่อย... (เล่าเรื่องตลกที่เจอมา)

คาร์ลเสริมด้วยเรื่องขำขันที่เขาไปเจอมาที่ทำงาน พวกเขาสลับกันเล่าเรื่องตลกและเรื่องราวในชีวิตประจำวันอย่างสนุกสนาน โดยมีแซมนอนฟังและหัวเราะไปด้วย

บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง เจคหรือคาร์ลก็จะเอื้อมมือมาหยอกล้อแซมบ้าง จับลำกายของเขาแผ่วๆ หรือแม้แต่แตะริมฝีปากเล็กน้อยในแบบขำๆ แล้วก็คุยกันต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วงล้อมรอบตัวแซมบนเตียงได้กลายเป็นจุดนัดพบใหม่ของพวกเขาจริงๆ แทนที่ห้องนั่งเล่นที่เคยใช้สังสรรค์กัน

คาร์ล: เออ ว่าแต่มึงเคยเจอเรื่องผีหลอกป่าววะ แซม?

แซม: ไม่เคยเจอแบบจริงๆ จังๆ ครับ แค่เคยได้ยินคนเล่า

เจค: แถวบ้านกูนี่มีเรื่องเล่าเยอะแยะเลย เดี๋ยววันหลังกูเล่าให้ฟัง

บิลลี่เองก็มีส่วนร่วมในการสนทนา แซมรู้สึกสบายใจและสนุกที่ได้อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้

การสังสรรค์รอบวงควยแซมยังคงดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นค่ำคืนแห่งเสียงหัวเราะ มิตรภาพ และความแปลกประหลาดที่ลงตัว

แซมเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจและตอบรับความตั้งใจที่จะสร้างบรรยากาศสนุกสนานของเจคและคาร์ล เขาเองก็ร่วมมือด้วยการเปลือยกายทุกครั้งที่เพื่อนทั้งสามมา

การที่ลำกายของเขาอยู่ตรงกลางวงสนทนา กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือส่วนหนึ่งของ "ธรรมเนียม" การพบปะของพวกเขาไปแล้ว

แซมไม่ได้รู้สึกเขินอายหรือขัดข้องอะไร เขากลับรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองกับเพื่อนๆ ของบิลลี่ การเปลือยกายของเขาไม่ได้มีความหมายทางเพศเสมอไป แต่เป็นเหมือนการสร้างบรรยากาศที่เปิดเผยและตลกขบขัน

บิลลี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังร่วมมือด้วยในบางครั้ง อาจจะมีการแซวแซม หรือมีปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยกับลำกายของแซมในแบบขำๆ

วงล้อมรอบตัวแซมที่เปลือยเปล่า กลายเป็นเหมือน "เวที" สำหรับการเล่าเรื่องตลก การพูดคุยเฮฮา และการสร้างความทรงจำร่วมกันของเพื่อนกลุ่มนี้

พวกเขาไม่ได้เน้นเรื่องเพศเป็นหลัก แต่ใช้สถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้สร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ

แซมเองก็ดูเหมือนจะสนุกกับ "วงล้อม" นี้เช่นกัน มันเป็นประสบการณ์ใหม่และแตกต่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน

ความสัมพันธ์ระหว่างแซม บิลลี่ เจค และคาร์ล... ยังคงพัฒนาไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้... แต่เต็มไปด้วยความจริงใจและเสียงหัวเราะ...

(แซมนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ลำกายของเขาตั้งแข็งสง่าอยู่ตรงกลางวงสนทนา เจค คาร์ล และบิลลี่นอนล้อมรอบควย กินขนมและดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน)

เจค: มึงเชื่อป่าววะ ไอ้ข่าวที่ว่าเจอสัตว์ประหลาดคล้ายเยติบนเขาลูกนั้นน่ะ?

คาร์ล: ไร้สาระน่าเจค พวกนั้นมันก็แค่เรื่องแต่ง

บิลลี่: กูว่าก็อาจจะมีอะไรที่เราไม่รู้อยู่ก็ได้นะ โลกมันกว้าง

(เจคเหลือบมองลำกายที่แข็งขันของแซมแล้วเกือบหลุดขำ แต่รีบกลั้นไว้)

เจค: เออๆ ว่าแต่... มึงเคยเจอเรื่องแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้บ้างป่าววะ บิลลี่?

บิลลี่: ก็มีบ้าง... อย่างตอนที่กูไปตกปลาคนเดียวกลางคืน แล้วได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนคนร้องไห้

คาร์ล: (แอบยิ้มขำๆ มองลำกายแซม) นั่นมันอาจจะเป็นแรคคูนก็ได้มั้ง

แซม: (ยิ้มเล็กน้อย) หรืออาจจะเป็น... อย่างอื่นก็ได้นะครับ

(คาร์ลเกือบหลุดหัวเราะ แต่รีบจิบเบียร์กลบเกลื่อน)

เจค: แล้วมึงล่ะ แซม? เคยเจออะไรแปลกๆ บ้างไหม? นอกจาก... เรื่องเอเลี่ยนของมึงน่ะนะ

แซม: (มองลำกายตัวเองแวบหนึ่ง) ก็... มีบ้างครับ บางทีก็... ฝันแปลกๆ

บิลลี่: ฝันถึงอะไรวะ? เล่าให้ฟังหน่อยสิ

แซม: ก็... ฝันว่าตัวเองบินได้บ้าง ฝันว่าคุยกับสัตว์รู้เรื่องบ้าง

คาร์ล: (กลั้นหัวเราะแทบแย่) ฝันได้โคตรเด็กน้อยเลยว่ะ

เจค: เออ จริง ฮ่าๆ

(ทั้งเจคและคาร์ลพยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้หลุดขำมากนัก ขณะที่สายตาก็ยังคงเหลือบมองลำกายที่แข็งขันของแซมเป็นระยะ)

บิลลี่: พวกมึงนี่มัน... ปล่อยให้แซมเล่าไปเถอะ

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เปลี่ยนหัวข้อไปมา แต่ความ "โดดเด่น" ที่อยู่ตรงกลางวงสนทนาก็ยังคงดึงดูดสายตาเป็นระยะๆ สร้างบรรยากาศที่ตลกขบขันอย่างประหลาด

เจคและคาร์ลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะคุยกันตามปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมีความขำขันเจืออยู่ในน้ำเสียงและแววตา

วงล้อมสนทนารอบลำกายที่แข็งขันของแซม... ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ต่อไป...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

25. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #24
 
18-May-25, 04:58 AM (SE Asia Standard Time)
 
   (แซมนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ลำกายของเขายังคงแข็งขันอยู่ตรงกลางวงสนทนา เจค คาร์ล และบิลลี่นอนล้อมรอบควยแซม กินขนมและดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน)

แซม: งั้น... ผมเล่าเรื่องที่ผมคิดว่าแปลกที่สุดในชีวิตผมให้ฟังบ้างดีกว่า... ถึงขนาดที่บางทียังไม่อยากจะเชื่อเลย

เจคและคาร์ลหันมามองแซมด้วยความสนใจ บิลลี่เองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ

แซม: คือ... ผม... ในอดีตชาติ... ผมเป็นเจ้าชายเอเลี่ยน

เจคและคาร์ลเลิกคิ้วมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

เจค: หา? เจ้าชายเอเลี่ยน? มึงอำป่าววะเนี่ย?

คาร์ล: โคตรไปกันใหญ่แล้ว ฮ่าๆ

แซม: ผมพูดจริงๆ นะ... แล้วผมก็เพิ่งไปรับมรดกมาด้วย

บิลลี่: (พยักหน้า) เรื่องจริง

เจค: มรดกอะไรวะ? สมบัติเอเลี่ยนรึไง?

แซม: ครับ... แล้วหนึ่งในมรดกนั้นก็คือ... กรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโลกใบนี้

ความเงียบเข้ามาปกคลุมวงสนทนาชั่วครู่ เจคและคาร์ลมองหน้าแซมด้วยความตกตะลึงอย่างแท้จริง คราวนี้ไม่มีใครขำ

เจค: เดี๋ยวนะ... มึงบอกว่ามึงเป็นเจ้าชายเอเลี่ยน... แล้วมึงเป็นเจ้าของโลก...?

คาร์ล: นี่มัน... ยิ่งกว่าหนังไซไฟอีก

บิลลี่พยักหน้าอีกครั้ง

บิลลี่: เรื่องจริงทั้งหมด

เจคและคาร์ลอ้าปากค้าง มองแซมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากความขบขันกลายเป็นความงุนงงและไม่เชื่อ

เจค: ไอ้เหี้ย... เรื่องจริงดิเนี่ย?

คาร์ล: แล้ว... แล้วทำไมมึงถึงมาอยู่ที่นี่กับพวกกูวะ?

แซมยิ้มเศร้าๆ

แซม: มันเป็นเรื่องยาวครับ... แต่ตอนนี้... ผมก็แค่... แซมคนเดิม

บรรยากาศในวงสนทนาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความขบขันหายไป เหลือเพียงความเงียบและความตกตะลึง

เจคและคาร์ลจะเชื่อเรื่องที่แซมเล่าหรือไม่? และพวกเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อไป? ลำกายที่แข็งขันของแซมยังคงอยู่ตรงกลาง แต่ความสนใจของทุกคนเปลี่ยนไปอยู่ที่เรื่องราวอันเหลือเชื่อที่เพิ่งถูกเปิดเผย

แซมพยักหน้าเล็กน้อย แล้วยกมือขึ้นราวกับกำลังกดปุ่มบางอย่าง

ทันใดนั้นเอง แสงสีฟ้าอ่อนๆ ก็ปรากฏขึ้นกลางห้องนอน ก่อนจะค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีเงิน ดวงตาสีทอง นั่นคือคาเอล

เจคและคาร์ลถึงกับผงะ ถอยหลังกรูดด้วยความตกใจ มองคาเอลด้วยสายตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เจค: เชี่ย! นั่นมัน... อะไรวะ?!

คาร์ล: เอเลี่ยน! จริงๆ ด้วย!

บิลลี่เองก็มองคาเอลด้วยความเคารพ

แซม: นี่คือคาเอล... เขาเป็น... เอ่อ... เพื่อนร่วมงานของผมจาก... ที่อื่น

คาเอลโค้งศีรษะให้ทั้งสามหนุ่มอย่างสุภาพ

คาเอล: ยินดีที่ได้รู้จัก

แซมหันไปบอกคาเอล

แซม: คาเอล นี่คือเจค และนี่คาร์ล... พวกเขาเป็นเพื่อนของผม ผมอยากจะแนะนำให้พวกเขารู้จัก... และผมอยากจะขอให้กองกำลัง Star Force ช่วยดูแลความปลอดภัยให้พวกเขาด้วยได้ไหม? ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือเรื่องอื่นๆ ที่ไม่คาดคิดกับพวกเขา

คาเอลหันมามองเจคและคาร์ลครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ

คาเอล: รับทราบคำสั่ง ท่านเจ้าชาย กองกำลัง Star Force จะให้การดูแลความปลอดภัยแก่บุคคลทั้งสองตามที่คุณประสงค์

เจคและคาร์ลยังคงยืนตัวแข็งทื่อ มองคาเอลสลับกับแซมด้วยความงุนงงอย่างที่สุด

เจค: นี่มัน... เรื่องจริงใช่ไหมวะเนี่ย?

คาร์ล: พวกมึง... ไม่ได้ล้อกูเล่นใช่ไหม?

แซมยิ้มอย่างอ่อนโยน

แซม: ไม่ครับ... นี่คือเรื่องจริง

โลกของเจคและคาร์ลดูเหมือนจะพลิกคว่ำไปในชั่วพริบตา พวกเขาเพิ่งรู้ว่าเพื่อนใหม่ของบิลลี่ที่พวกเขามานั่งล้อมวงคุยด้วยทุกวันนั้น... ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด

แล้วพวกเขาจะประมวลผลเรื่องราวอันเหลือเชื่อนี้อย่างไรต่อไป?

เจคและคาร์ลยังคงยืนอึ้ง มองคาเอลด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

เจค: นี่มัน... บ้าไปแล้ว... เอเลี่ยน... มาอยู่ในห้องนี้จริงๆ เหรอวะ?

คาร์ล: แล้ว... แล้วที่มึงบอกว่าเป็นเจ้าชายเอเลี่ยน... ก็เรื่องจริงดิ?

แซมพยักหน้าอย่างใจเย็น

แซม: ครับ... อย่างที่บอกไป

คาเอลยืนสงบนิ่ง รอคำสั่งเพิ่มเติมจากแซม

บิลลี่เดินเข้าไปใกล้เพื่อนทั้งสอง ตบไหล่พวกเขาเบาๆ

บิลลี่: พวกมึงใจเย็นๆ ก่อนนะ มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ

เจค: แล้ว... แล้วทำไมมึงไม่เคยบอกพวกกูเลยวะ บิลลี่?

บิลลี่: ก็มันเป็นเรื่องที่... พูดยากน่ะ

คาร์ล: แล้วที่มึงบอกว่าจะให้ Star Force ดูแลความปลอดภัยให้พวกกูด้วย... นี่มันเรื่องจริงดิ?

คาเอล: เป็นความจริงครับ ภายใต้คำสั่งของท่านเจ้าชาย เรายินดีที่จะให้ความคุ้มครอง

เจคและคาร์ลหันมามองหน้ากันด้วยความสับสนอย่างที่สุด พวกเขาไม่รู้ว่าจะเชื่ออะไรดี

เจค: กู... กูไม่รู้จะพูดยังไงเลยว่ะ

คาร์ล: นี่มัน... เกินกว่าที่กูจะจินตนาการได้อีก

แซมเดินเข้าไปใกล้เพื่อนทั้งสองด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

แซม: ผมเข้าใจว่ามันอาจจะยากที่จะเชื่อ... แต่พวกคุณคือเพื่อนของผม ผมอยากให้พวกคุณปลอดภัย

คาเอลพยักหน้าเสริม

คาเอล: กองกำลังของเรามีเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้จริง

เจคและคาร์ลยังคงเงียบงัน มองแซม คาเอล และบิลลี่สลับกันไปมา

ความจริงอันน่าตกตะลึงที่ถูกเปิดเผยออกมา... ได้เปลี่ยนบรรยากาศในห้องนอนไปอย่างสิ้นเชิง... จากวงล้อมเพื่อนฝูงที่เฮฮาสู่สถานการณ์ที่เหนือจริงอย่างไม่น่าเชื่อ

แล้วเจคและคาร์ลจะตอบสนองต่อเรื่องราวทั้งหมดนี้อย่างไร? พวกเขาจะเชื่อหรือไม่? และความสัมพันธ์ของพวกเขากับแซมและบิลลี่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?

แซมเห็นสีหน้าตกตะลึงของเพื่อนทั้งสอง จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นกันเอง

แซม: ใจเย็นๆ ก่อนนะ พวกนาย... ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก คาเอลก็เป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน มานั่งคุยกันเหมือนเดิมเถอะ กินเบียร์ต่อไหม?

บิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย

บิลลี่: เออๆ มานั่งคุยกันต่อ พวกมึงอย่าทำหน้าเครียดไปหน่อยเลย

คาเอลเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่น่าหวาดกลัว เขายืนสงบนิ่ง รอคอยอย่างสุภาพ

เจคและคาร์ลมองหน้ากันเล็กน้อย พวกเขายังคงประหลาดใจกับสิ่งที่เพิ่งได้เห็น แต่ท่าทีที่ผ่อนคลายของแซมและบิลลี่ก็ทำให้พวกเขาสงบลงได้บ้าง

เจค: (ถอนหายใจ) เออ... ก็ได้... มาคุยกันต่อ

คาร์ล: (ยังคงมองคาเอลด้วยความสงสัย) แต่มัน... เอเลี่ยนจริงๆ นะเว้ย

แซม: ครับ... แต่เขาเป็นมิตร พวกเราเป็นเพื่อนกันได้

เจคและคาร์ลค่อยๆ ขยับตัว กลับมานั่งล้อมวงรอบเตียงของแซมอีกครั้ง แม้ว่าสายตาของพวกเขาจะยังคงเหลือบมองคาเอลเป็นระยะ แต่บรรยากาศก็เริ่มกลับมาผ่อนคลายลงบ้าง

วงล้อมเพื่อนฝูงรอบลำกายที่แข็งขันของแซมกลับมาดำเนินต่อไปอีกครั้ง พร้อมกับเอเลี่ยนไฮบริดที่ยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ในห้อง

บิลลี่: เอาล่ะๆ เมื่อกี้พวกเราคุยกันถึงเรื่องอะไรนะ? อ้อ! เรื่องสัตว์ประหลาดบนเขาลูกนั้นใช่ไหม?

บทสนทนาเริ่มดำเนินต่อไปในหัวข้อเดิม เจคและคาร์ลพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แม้ว่าในใจจะยังคงรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของสถานการณ์อยู่บ้าง

การสังสรรค์รอบวงควยแซม... ในเวอร์ชั่นที่มีเอเลี่ยนร่วมวงด้วย... เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง...

แซมนอนอยู่บนเตียง ลำกายของเขายังคงแข็งขันอยู่ตรงกลางวงล้อมของเพื่อนๆ ใบหน้าหล่อเหลาของบิลลี่ เจค และคาร์ลอยู่ใกล้แค่เอื้อม สายตาที่มองมายังลำกายของเขาเป็นระยะๆ นั้นปลุกเร้าความรู้สึกทางกายของแซมขึ้นมาอย่างช้าๆ

ความเงียบเข้ามาปกคลุมชั่วครู่ แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสามด้วยแววตาที่สื่อถึงความต้องการ

แซม: เอ่อ... พวกนาย... ผมเริ่มรู้สึก... เงี่ยนขึ้นมาอีกแล้วสิ...

เขามองไปยังลำกายที่แข็งขันของตนเอง

แซม: พวกนาย... สนใจจะช่วยผมหน่อยไหม?

บิลลี่มองแซมด้วยรอยยิ้มที่รู้ทัน

บิลลี่: แน่นอนอยู่แล้ว

เจคและคาร์ลหันมามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่เจคจะยิ้มออกมา

เจค: จัดไปเพื่อน!

คาร์ล: ไม่ขัดข้อง!

คาเอลที่ยืนอยู่เงียบๆ มองสถานการณ์ด้วยความสงบ

เจคและคาร์ลก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะเกิดการแข่งขันขึ้นอย่างขี้เล่น ทั้งสองคนต่างก็พยายามที่จะเข้าใกล้ลำกายของแซมก่อน

เจค: เดี๋ยวก่อนเลยมึง! ตากูก่อนเมื่อกี้!

คาร์ล: ไม่ใช่เว้ย! ตากูต่างหาก!

ทั้งสองคนทำท่าจะแย่งกัน โน้มตัวเข้ามาใกล้ลำกายที่แข็งขันของแซมพร้อมๆ กัน

บิลลี่หัวเราะเบาๆ มองดูเพื่อนทั้งสองด้วยความสนุก

บิลลี่: ใจเย็นๆ หน่อยสิพวกมึง แซมไม่ได้หนีไปไหนหรอก

แซมเองก็ยิ้มกับท่าทีขี้เล่นของเพื่อนทั้งสอง

แซม: ไม่ต้องแย่งกันหรอกครับ... ใครก่อนก็ได้

แต่เจคและคาร์ลยังคงทำท่าทีเหมือนจะแข่งขันกันเล็กน้อย สุดท้ายเจคก็เป็นฝ่ายที่เข้าถึงลำกายของแซมได้ก่อน เขาอ้าปากกว้างแล้วครอบครองส่วนปลายเข้าไปอย่างรวดเร็ว

คาร์ลทำท่าทางขัดใจเล็กน้อย แต่ก็หัวเราะออกมา มองดูเจคที่กำลังปรนนิบัติแซมด้วยความสนุก

บรรยากาศกลับมามีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความขี้เล่นอีกครั้ง แม้จะมีเอเลี่ยนยืนสังเกตการณ์อยู่ก็ตาม

ในที่สุดทั้งสามคนก็ตกลงที่จะกลับไปใช้วิธีเดิมที่เคยทำ ซึ่งทำให้ทุกคนพอใจและไม่ต้องรอนาน

เจคเริ่มก่อน เขาอมลำกายของแซมเข้าไปจนสุด แล้วดูดดึงอย่างรวดเร็วประมาณสิบวินาที ก่อนจะผละออก

จากนั้นคาร์ลก็แทรกตัวเข้ามาทันที ปรนนิบัติแซมด้วยการอมลึกอีกสิบวินาที

และสุดท้ายก็เป็นทีของบิลลี่ เขาก็อมลำกายของแซมอย่างชำนาญอีกสิบวินาที

การผลัดเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็วนี้สร้างความรู้สึกที่หลากหลายและต่อเนื่องให้กับแซม เขาได้รับสัมผัสจากริมฝีปากทั้งสามคู่สลับกันไปมา ทำให้ความเสียวซ่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมและได้รับความสุขจากกิจกรรมนี้ โดยไม่มีใครต้องรอนาน

คาเอลยังคงยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ในห้อง มองดูปฏิสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดแต่เป็นกันเองของเพื่อนกลุ่มนี้

วงล้อมเพื่อนฝูงรอบลำกายของแซม... ยังคงดำเนินต่อไป... ผสมผสานความตลกขบขัน มิตรภาพ และความปรารถนาทางกายได้อย่างลงตัว... ในบ้านหลังเล็กๆ ในอเมริกา... ภายใต้การดูแลของเอเลี่ยนจากมิติที่ 5...

ความเสียวซ่านที่สะสมมาถึงจุดสูงสุด แซมครางออกมาเบาๆ ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำกามออกมาอีกครั้ง สัมผัสริมฝีปากของทั้งสามคนที่ยังคงปรนนิบัติเขาอยู่

เมื่อความสุขสมจางหายไป ลำกายของแซมก็ค่อยๆ อ่อนตัวลงอีกครั้ง

ทั้งสามคนผละออกจากแซมอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีใครพูดถึงเรื่องทางเพศอีก พวกเขากลับมาพูดคุยกันในหัวข้อทั่วไปเหมือนก่อนหน้านี้

เจค: ว่าแต่มึงได้ดูข่าวเมื่อเช้ารึเปล่าวะ เรื่องพายุที่จะเข้า?

คาร์ล: ได้ดูๆ ท่าทางจะหนักเอาเรื่องเหมือนกันนะ

บิลลี่: เออ ต้องเตรียมตัวไว้หน่อย เผื่อไฟดับ

แซมฟังเพื่อนๆ คุยกันอย่างเงียบๆ รู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจ

วงล้อมเพื่อนฝูงยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่ากิจกรรมทางเพศจะจบลงแล้ว มิตรภาพและความเป็นกันเองยังคงอบอวลอยู่ในห้อง

ค่ำคืนนั้น พวกเขานอนคุยกันต่ออีกพักใหญ่ ก่อนที่เจคและคาร์ลจะบอกลาเพื่อกลับบ้าน และบิลลี่เดินไปส่ง

ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดและน่าสนใจของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป... ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง...

บิลลี่ เจค และคาร์ลลงมาชั้นล่าง พวกเขานั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

เจค: แม่งเอ๊ย! กูยังขำไม่หายเลยว่ะ! คุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศรอบไอ้จู๋ของแซม!

คาร์ล: เออ! แล้วไอ้เรื่องที่แซมเป็นเจ้าชายเอเลี่ยน เป็นเจ้าของโลกอีก! ชีวิตกูไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ!

บิลลี่: (หัวเราะ) พวกมึงก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละ กูเจอมาตั้งนานแล้ว

เจค: แล้วมึงไม่ตกใจเลยเหรอวะ บิลลี่? ที่รู้ว่าเพื่อนมึงเป็นถึงเจ้าชายต่างดาว เป็นเจ้าของโลกเนี่ยนะ?

บิลลี่: ก็ตกใจแหละ... ตอนแรกๆ น่ะ แต่แซมเขาก็ยังเป็นแซมคนเดิมที่กูรู้จักนั่นแหละ

คาร์ล: แต่มันโคตรเหลือเชื่อเลยนะเว้ย! ในหนังไซไฟชัดๆ!

เจค: เออ! แล้วไอ้คาเอลนั่นอีก! เอเลี่ยนตัวเป็นๆ ยืนอยู่ในห้อง!

บิลลี่: พวกมันมาดีน่า พวกนั้นดูแลแซมอยู่

คาร์ล: แล้วที่พวกเราไปอม... ให้แซมนั่น... พวกเอเลี่ยนไม่ว่าอะไรเหรอวะ?

บิลลี่หัวเราะเสียงดัง

บิลลี่: พวกนั้นคงไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอกมั้ง

เจค: แม่งเอ๊ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย! แต่กูก็ชอบว่ะ! โคตรฮา!

คาร์ล: เออ! กูด้วย! ไม่นึกว่าชีวิตบ้านนอกอย่างพวกเราจะมีเรื่องพิสดารแบบนี้ให้เจอ!

ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าการสังสรรค์แบบง่ายๆ ที่บ้านของบิลลี่จะกลายเป็นเรื่องราวที่ทั้งตลกและเหลือเชื่อขนาดนี้

ความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป... ผสมผสานมิตรภาพ ความขบขัน และเรื่องราวเหนือจินตนาการได้อย่างลงตัว... ในค่ำคืนที่เงียบสงบในชนบทอเมริกา...

บ่ายแก่ๆ หลังจากการไปตกปลาที่บึงท้ายไร่กันมา บิลลี่ เจค และคาร์ลก็กลับมาที่บ้าน พวกเขาตรงไปยังห้องนอนของแซมพร้อมกับถุงขนมขบเคี้ยวและเบียร์เย็นๆ

แซมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เมื่อเห็นเพื่อนๆ กลับมาก็ยิ้มทักทาย

แซม: กลับมาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง ได้ปลากี่ตัว?

ทั้งสามนอนรอบควยของแซม จัดของกินของดื่มให้พร้อม ลำกายของแซมที่ไม่ได้แข็งตัวในตอนแรก ก็ค่อยๆ กลับมาตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง

บิลลี่: วันนี้ปลากินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ได้มาแค่สองสามตัวเล็กๆ

เจค: แต่บรรยากาศดีเว้ย ได้นั่งคุยกันชิลๆ

คาร์ล: เออ แล้วก็มีเรื่องตลกด้วย มึงรู้ป่าว ตอนที่ไอ้บิลลี่กำลังจะเหวี่ยงเบ็ด...

(คาร์ลเหลือบมองลำกายที่แข็งขันของแซมแล้วกลั้นหัวเราะ)

คาร์ล: ...มันเหวี่ยงไปโดนกิ่งไม้ใหญ่ เสียงดัง "เปร๊าะ!" ปลาตกใจหนีหมดเลย ฮ่าๆๆ

เจคหัวเราะตาม

เจค: เออ จริง! หน้าไอ้บิลลี่ตอนนั้นอย่างเหวอ!

บิลลี่ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

บิลลี่: พวกมึงก็ขำกันเข้าไป กูอุตส่าห์ตั้งใจ

แซมยิ้มขำๆ มองเพื่อนทั้งสาม

แซม: แล้วหลังจากนั้นได้ปลาอีกไหม?

เจค: ก็ได้มานิดหน่อย แต่ไม่เยอะเท่าที่หวังไว้

(เจคเหลือบมองลำกายแซมแล้วยิ้มขำๆ กับคาร์ล)

คาร์ล: แต่ที่ฮากว่าคือตอนขากลับ... ไอ้เจคมันเมาเบียร์นิดหน่อย แล้วมันก็ร้องเพลงเสียงดังลั่นรถ

เจค: (หัวเราะ) ก็มันม่วนนี่หว่า!

พวกเขาเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างไปตกปลาอย่างสนุกสนาน แซมฟังและหัวเราะไปกับพวกเขา บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง วงล้อมเพื่อนฝูงรอบตัวแซมยังคงเป็นสถานที่สำหรับการพูดคุยและสังสรรค์ของพวกเขา

บิลลี่: คราวหน้าไปใหม่นะ แซม ไปด้วยกันไหม?

แซม: ยินดีเลยครับ

การสังสรรค์รอบวงควยแซม... ยังคงดำเนินต่อไป... พร้อมเสียงหัวเราะและเรื่องราวสนุกๆ ของเพื่อน...

แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ

แซม: เอ่อ... พวกนาย... วันนี้ผมมีไอเดียใหม่... อยากลองอะไรที่มัน... พิเศษขึ้นหน่อยไหม?

บิลลี่ เจค และคาร์ลหันมามองแซมอย่างสนใจ

แซม: คือว่า... ให้คนนึงอมควยผม... อีกคนเลียไข่... แล้วอีกคนก็เลียตูด... พอผมใกล้จะเสร็จ... เราก็สลับตำแหน่งกัน... ผมอยากจะเสร็จสามครั้ง... ให้ทุกคนได้อมและเลียทุกตำแหน่งเลย... พวกนายว่าไง?

บิลลี่เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา

บิลลี่: อืม... น่าสนใจดีเหมือนกันนะ

เจคยิ้มกว้าง

เจค: จัดไปเพื่อน! ไม่เคยลองแบบนี้เหมือนกัน!

คาร์ลพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

คาร์ล: เอาดิ! มาลองอะไรใหม่ๆ กัน!

แซมยิ้มอย่างพอใจที่เพื่อนๆ เห็นด้วย

แซม: งั้น... ใครจะเริ่มตรงไหนก่อนดี?

ทั้งสามคนมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่เจคจะเสนอตัว

เจค: งั้นกูอมควยก่อนเลยแล้วกัน!

คาร์ลก็รีบเสนอ

คาร์ล: กูเลียไข่!

บิลลี่จึงยิ้มแล้วพูด

บิลลี่: งั้นกูเลียตูดเอง

แซมพยักหน้า

แซม: โอเค... เริ่มได้เลย!

แล้วการปรนนิบัติรูปแบบใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น... เจคครอบครองลำกายของแซมด้วยริมฝีปากร้อนชื้น คาร์ลตั้งใจเลียและดูดดึงบริเวณอัณฑะอย่างเอาใจใส่ และบิลลี่ก็เริ่มปรนนิบัติช่องทางด้านหลังของแซมด้วยลิ้นอย่างชำนาญ

ความรู้สึกที่ได้รับพร้อมๆ กันจากสามทิศทางนั้นแปลกใหม่และเร้าใจอย่างยิ่ง แซมครางต่ำๆ ในลำคอ ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา

ความรู้สึกที่ได้รับพร้อมๆ กันจากสามทิศทางนั้นรุนแรงและแตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เจครวมสมาธิกับการดูดดึงส่วนปลายของลำกายแซมอย่างตั้งใจ คาร์ลใช้ลิ้นโลมเลียและดูดดึงอัณฑะอย่างเอาใจใส่ สร้างความรู้สึกหน่วงๆ ที่น่าพอใจ บิลลี่ก็ปรนนิบัติช่องทางด้านหลังของแซมด้วยลิ้นที่ชำนาญ สอดแทรกและวนเวียนอย่างยั่วเย้า

แซมหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายเริ่มเกร็งเล็กน้อย ความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

"อืมมม... ซี๊ด..." เสียงครางต่ำๆ ของแซมดังลอดไรฟันออกมา

เมื่อแซมรู้สึกใกล้จะถึงจุดสุดยอด

แซม: แตกแล้ว!

เจคผละออกจากลำกายแซมอย่างรวดเร็ว คาร์ลเลื่อนตัวขึ้นมาครอบครองลำกายแทน บิลลี่ย้ายไปเลียอัณฑะ และเจคไปเลียช่องทางด้านหลัง

สัมผัสใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความรู้สึกเน้นไปที่ส่วนกลางลำกาย อัณฑะ และช่องทางด้านหลังสลับกันไปมา แซมครางกระเส่าด้วยความตื่นเต้น

ไม่นานนัก แซมก็ปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง น้ำกามพุ่งกระฉูดออกมา สัมผัสริมฝีปากของคาร์ลที่กำลังอมลำกายอยู่

แซม: อีกรอบ... สลับอีกที!

คาร์ลผละออก บิลลี่เลื่อนขึ้นมาอมลำกาย เจคเลียอัณฑะ และคาร์ลไปเลียช่องทางด้านหลัง

ความรู้สึกที่สามก็เริ่มต้นขึ้น แซมรับรู้ถึงการดูดดึงที่คุ้นเคยของบิลลี่ การเลียที่เร้าอารมณ์ของเจค และสัมผัสที่ยั่วเย้าของคาร์ล

ความเสียวซ่านพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และในที่สุด แซมก็ปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สาม น้ำกามพุ่งออกมาอีกระลอก สัมผัสริมฝีปากของบิลลี่

แซมนอนหอบอยู่บนเตียง รู้สึกอ่อนแรงแต่ก็พึงพอใจอย่างที่สุด ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา

เจค: แม่ง... โคตรมันส์!

คาร์ล: เออ! ไอเดียเยี่ยมเลยแซม!

บิลลี่: รอบหน้าเอาอีกนะ!

แซมยิ้มอย่างมีความสุข

แซม: แน่นอน... เมื่อพวกนายอยาก...

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยความพึงพอใจของทุกคน และความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดของพวกเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป... พร้อมกับการทดลองและความสนุกสนานใหม่ๆ ที่รออยู่...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

26. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #25
 
18-May-25, 05:24 AM (SE Asia Standard Time)
 
   หลายวันผ่านไป ข่าวการกลับชาติมาเกิดของเจ้าชาย Titus ในร่างของมนุษย์ชื่อแซม ได้แพร่กระจายไปถึงดวงดาวอันไกลโพ้น ที่ซึ่ง เจ้าหญิง Kalique Abrasax ผู้เป็นพี่สาวในอดีตชาติของเขาทราบข่าว

ราชวังของเจ้าหญิง Kalique ตั้งตระหง่านอยู่ริมน้ำตกสีรุ้งที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงชันของดาวเคราะห์อันงดงาม เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งภายในล้วนทำจากวัสดุล้ำค่าที่ไม่เคยมีใครเห็นบนโลก แสงระยิบระยับจากคริสตัลเอเลี่ยนส่องประกายไปทั่วทั้งวัง

ในห้องบรรทมอันโอ่อ่า เจ้าหญิง Kalique กำลังทรงเลือกฉลองพระองค์สำหรับเสด็จเยือนน้องชายในอดีตชาติ ฉลองพระองค์แต่ละชุดล้วนตัดเย็บจากผ้าไหมแก้วที่ทอด้วยเส้นใยโลหะมีค่า ประดับประดาด้วยอัญมณีเรืองแสงหลากสี

ข้าราชบริพารผู้จงรักภักดีหลายสิบคนรายล้อมพระองค์ คอยถวายคำแนะนำและช่วยจัดเตรียมเครื่องประดับอันวิจิตรบรรจง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอที่ทำจากผลึกดาวฤกษ์ กำไลข้อมือที่สลักเสลาด้วยลวดลายโบราณของราชวงศ์แอ๊บบราแซก และมงกุฎทองคำขาวบริสุทธิ์ที่ประดับด้วยเพชรพลอยจากเนบิวลาอันไกลโพ้น

ทุกรายละเอียดในการแต่งกายของเจ้าหญิง Kalique และข้าราชบริพารล้วนบ่งบอกถึงความมั่งคั่งและอำนาจของราชวงศ์แอ๊บบราแซก ซึ่งร่ำรวยกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของผู้คนบนโลกรวมกันหลายเท่า

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลเล็กน้อย พระเนตรสีม่วงของพระองค์เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นที่จะได้พบน้องชายอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างมนุษย์และอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่ห่างไกลและด้อยพัฒนา

"พร้อมสำหรับการเดินทางแล้วหรือยัง?" พระสุรเสียงหวานใสของเจ้าหญิงตรัสถามข้าราชบริพาร

"พร้อมแล้วพระองค์" ข้ารับใช้ตอบพร้อมกันด้วยความเคารพ

ยานอวกาศส่วนพระองค์ รูปร่างสง่างามราวกับปีกของผีเสื้อจักรวาล จอดรออยู่บนลานกว้างด้านหน้าวัง ประตูยานเปิดออกอย่างนุ่มนวล เผยให้เห็นภายในที่ตกแต่งอย่างหรูหราไม่แพ้ตัวราชวัง

การเสด็จเยือนโลกของเจ้าหญิง Kalique Abrasax กำลังจะเริ่มต้นขึ้น... การมาถึงของเธอจะนำมาซึ่งอะไร? และแซมจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบกับพี่สาวจากอดีตชาติของเขา?

ยานอวกาศรูปทรงคล้ายปีกผีเสื้อจักรวาล ร่อนลงจอดอย่างเงียบเชียบในบริเวณที่ไม่ห่างจากบ้านหลังเล็กๆ ของแซมและบิลลี่นัก แสงระยิบระยับจากตัวยานวูบไหวเล็กน้อยก่อนที่ประตูจะเปิดออกอย่างนุ่มนวล

เจ้าหญิง Kalique Abrasax เสด็จลงจากยานด้วยท่วงท่าสง่างาม ฉลองพระองค์สีเงินเมทัลลิกทอประกายราวกับดวงดาว ข้าราชบริพารสองนายติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิด แต่ละคนถือกล่องที่ดูเหมือนทำจากคริสตัลใส

ในขณะนั้นเอง ที่บ้านของแซม บิลลี่ เจค และคาร์ลกำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานรอบเตียงของแซมเช่นเคย พวกเขากำลังกินพิซซ่าและดื่มเบียร์

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูที่ฟังดูแปลกประหลาด บิลลี่ลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยความสงสัย

เมื่อบิลลี่เปิดประตูออก เขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น หญิงสาวสวยสง่าในชุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมด้วยผู้ติดตามอีกสองคน

บิลลี่: เอ่อ... สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ?

เจ้าหญิง Kalique ทอดพระเนตรมองบิลลี่ด้วยความสงสัยเล็กน้อย ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปเห็นแซมที่นั่งอยู่บนเตียงด้านใน

เจ้าหญิง Kalique: (ตรัสด้วยสุรเสียงหวานแต่แฝงด้วยอำนาจ) ท่านคือ Titus ใช่หรือไม่?

แซมชะงักไปเล็กน้อย มองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยความงุนงง

แซม: ผมชื่อแซมครับ คุณ... เป็นใครครับ?

เจ้าหญิง Kalique แย้มพระสรวลกว้างขึ้น

เจ้าหญิง Kalique: ข้าคือ Kalique... พี่สาวของท่าน

แซม เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เจคและคาร์ลที่นั่งอยู่ด้วยกันก็มองหน้ากันอย่างงงงวย

เจ้าหญิง Kalique ก้าวเข้ามาในห้อง ข้าราชบริพารทั้งสองเดินตามเข้ามาพร้อมกับกล่องคริสตัล

เจ้าหญิง Kalique: ข้านำของขวัญมาให้ท่านน้อง

ข้าราชบริพารวางกล่องคริสตัลลงบนโต๊ะข้างเตียง เมื่อเปิดออกก็เผยให้เห็นของเหลวสีฟ้าใสที่เปล่งประกายเรืองรอง

เจ้าหญิง Kalique: นี่คือ Regenex จำนวนหนึ่ง ข้าตั้งใจนำมาให้ท่าน

แซมมอง Regenex ในกล่องด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

เจคและคาร์ลมองทุกอย่างด้วยความตกตะลึง อ้าปากค้างพูดไม่ออก

การมาถึงของเจ้าหญิง Kalique Abrasax... ได้นำพาความแปลกประหลาดในระดับจักรวาลมาสู่บ้านหลังเล็กๆ แห่งนี้แล้ว...

แซมมองหน้าเจ้าหญิง Kalique ด้วยความสับสนอย่างยิ่ง

แซม: ผมเป็นลูกคนเดียวนะครับ... คุณคงเข้าใจผิดแล้ว

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน

เจ้าหญิง Kalique: ท่านน้อง... ท่านอาจจะยังไม่ทรงจำได้ ข้าคือ Kalique พี่สาวของท่าน... ในอดีตชาติ ท่านคือ Titus... เรามาจากดาวที่อยู่ไกลแสนไกล

พระองค์ทรงกวาดสายเนตรไปรอบห้อง มองบ้านหลังเล็กๆ อย่างพิจารณา

เจ้าหญิง Kalique: ข้ามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนท่าน... และอยากจะพาท่านไปเยี่ยมชมวังของข้า... ที่บ้านของเรา

แซมยังคงงุนงง แต่ก็เริ่มรู้สึกถึงความผูกพันบางอย่างจากดวงตาของหญิงสาวตรงหน้า

แซม: ถ้าอย่างนั้น... ผมขอพาเพื่อนของผมไปด้วยได้ไหมครับ? บิลลี่ เจค แล้วก็คาร์ล

เจ้าหญิง Kalique ทรงทอดพระเนตรไปยังบิลลี่ เจค และคาร์ลที่ยังคงยืนอึ้งอยู่

เจ้าหญิง Kalique: สหายของท่านก็คือสหายของเรา... เรายินดีต้อนรับทุกท่าน

พระองค์ทรงหันกลับมาแย้มพระสรวลให้แซมอีกครั้ง

เจ้าหญิง Kalique: ท่านน้อง... ท่านพร้อมที่จะเดินทางกับข้าหรือไม่?

แซมมองหน้าบิลลี่ เจค และคาร์ล พวกเขามองเขากลับมาด้วยความตื่นเต้นและสงสัย

แซม: ครับ... ผมไป

การเดินทางข้ามดวงดาวของแซมและเพื่อนๆ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว... สู่โลกที่แตกต่าง... สู่ครอบครัวที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่...

แซมพยักหน้าตอบรับคำชวนของเจ้าหญิง Kaliqueอย่างไม่ลังเลนัก สำหรับเขา การได้ขึ้นยานอวกาศอีกครั้งไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรนัก เช่นเดียวกับบิลลี่ที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกับแซมมาแล้ว พวกเขาจึงค่อนข้างสงบและอยากรู้อยากเห็นมากกว่าตื่นเต้น

ในทางตรงกันข้าม เจคและคาร์ลถึงกับยืนตะลึง อ้าปากค้างกับเรื่องราวที่ได้ยินและการปรากฏตัวของเจ้าหญิง Kaliqueและยานอวกาศ

เจค: นี่มัน... เรื่องจริงใช่ไหมวะเนี่ย? พวกมึงเคยขึ้น UFO มาแล้วจริงๆ เหรอ?!

คาร์ล: (ตาโต) แล้ว... แล้วเรากำลังจะได้ไปดาวอื่นจริงๆ เหรอเนี่ย?! โคตรเหลือเชื่อเลย!

บิลลี่หัวเราะเบาๆ กับท่าทีตื่นเต้นของเพื่อน

บิลลี่: ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ พวกมึงเตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน

แซมลุกขึ้นจากเตียง มองหน้าเจคและคาร์ลด้วยรอยยิ้ม

แซม: ไปด้วยกันนะ พวกนายจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เจคและคาร์ลพยักหน้าอย่างรัวๆ ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

เจค: ไปดิ! ไปแน่นอน!

คาร์ล: กูอยากเห็นดาวเอเลี่ยน! อยากเห็นราชวัง!

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนๆ น้องชาย

เจ้าหญิง Kalique: ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา... ทุกท่าน

แล้วเจ้าหญิงก็ทรงนำทางแซม บิลลี่ เจค และคาร์ลไปยังยานอวกาศที่จอดรออยู่ แสงสีเงินจากยานส่องประกายวาววับในยามเย็นของโลก การผจญภัยครั้งใหม่ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว... สู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล

เมื่อยานอวกาศของเจ้าหญิง Kalique ร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวลบนลานกว้างหน้าวัง แสงสีทองสว่างวาบจากตัวอาคารก็ส่องกระทบดวงตาของทุกคนจนแทบจะพร่ามัว

แซมและบิลลี่ถึงแม้จะเคยสัมผัสความล้ำสมัยของเทคโนโลยีต่างดาวมาบ้างแล้ว ก็ยังอดที่จะทึ่งกับความหรูหราโอ่อ่าของวังแห่งนี้ไม่ได้ ส่วนเจคและคาร์ลนั้นถึงกับยืนตะลึง อ้าปากค้างราวกับต้องมนต์

พื้นทางเดินที่พวกเขาเหยียบย่ำนั้นส่องประกายสีทองอร่าม ลวดลายสลักเสลาบนผนังและเสาค้ำทำจากวัสดุล้ำค่าที่ไม่เคยเห็นบนโลก แสงจากโคมไฟคริสตัลขนาดมหึมาส่องสว่างไปทั่วบริเวณ ราวกับอยู่ท่ามกลางดวงดาวนับล้าน

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลเมื่อเห็นท่าทีของแขก

เจ้าหญิง Kalique: ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า เชิญทุกท่านด้านใน

พระองค์ทรงนำทางทุกคนไปยังห้องอาหารอันโอ่อ่า ที่ตกแต่งอย่างอลังการยิ่งกว่าจินตนาการใดๆ โต๊ะอาหารขนาดยาวทำจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ประดับประดาด้วยเครื่องเงินและทองคำอร่ามอร่าม เก้าอี้แต่ละตัวแกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง ราวกับเป็นงานศิลปะชิ้นเอก

อาหารนานาชนิดที่ไม่เคยเห็นบนโลกถูกจัดวางอย่างสวยงามบนโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนลิ้มลอง

เจ้าหญิง Kalique: เชิญทุกท่านตามสบาย ข้าหวังว่าท่านจะถูกปากกับอาหารของดาวข้า

แซม บิลลี่ เจค และคาร์ลนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเก้ๆ กังๆ มองสำรวจความหรูหราโดยรอบด้วยความทึ่ง

เจค: นี่มัน... เหมือนหลุดออกมาจากในหนังเลยว่ะ!

คาร์ล: โคตรสวย! โคตรอลังการ!

บิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย

บิลลี่: ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

แซมเองก็อดที่จะประทับใจไม่ได้ ความหรูหราที่นี่เหนือกว่าทุกสิ่งที่เขาเคยเห็นบนโลกมากนัก

การรับประทานอาหารในบรรยากาศที่หรูหราเหนือจินตนาการเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเจ้าหญิงจากดาวอันไกลโพ้น และเพื่อนมนุษย์ธรรมดาจากโลก...

ระหว่างการรับประทานอาหารในห้องอาหารอันหรูหรา เจ้าหญิง Kalique ทรงหันมาสนทนากับแซมเป็นพิเศษ ในฐานะพี่น้องจากอดีตชาติ

เจ้าหญิง Kalique: ท่านน้อง... ข้าดีใจยิ่งนักที่ได้พบท่านอีกครั้ง แม้ในร่างมนุษย์นี้

แซมมองพระพักตร์ของเจ้าหญิงด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความแปลกใหม่และความคุ้นเคยอย่างประหลาด

แซม: ผมเองก็... รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ดีใจครับ ที่ได้พบคุณ... พี่สาว

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน แล้วทรงเรียกให้ข้าราชบริพารนำกล่องใบเล็กมาถวาย เมื่อเปิดออก ภายในบรรจุรูปภาพและวัตถุโบราณขนาดเล็ก

เจ้าหญิง Kalique: ข้านำสิ่งเหล่านี้มาให้ท่าน... มันคือความทรงจำจากอดีตชาติของเรา

พระองค์ทรงหยิบรูปภาพใบหนึ่งขึ้นมา เป็นภาพของสตรีสูงศักดิ์ พระพักตร์งดงามเปี่ยมด้วยเมตตา สวมเครื่องทรงที่ดูสง่าและล้ำค่า

เจ้าหญิง Kalique: นี่คือพระมารดาของเรา... ราชินี Seraphi

แซมมองรูปภาพนั้นอย่างไม่ละสายตา ราวกับมีความทรงจำบางอย่างกำลังหวนคืนมาอย่างแผ่วเบา

เจ้าหญิง Kalique ทรงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับราชินี Seraphi พระมารดาของพวกเขา ความกล้าหาญ สติปัญญา และความรักที่พระองค์ทรงมีต่ออาณาจักรและต่อลูกๆ ทั้งสาม

พระองค์ยังทรงเล่าถึงวัยเยาว์ของ Titus (แซมในอดีตชาติ) ความซุกซน ความเฉลียวฉลาด และความผูกพันระหว่างพี่น้องทั้งสาม

แซม บิลลี่ เจค และคาร์ล ต่างตั้งใจฟังเรื่องราวเหล่านั้นอย่างเงียบงัน เจคและคาร์ลถึงแม้จะยังคงตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งที่ได้เห็น ก็เริ่มรู้สึกถึงความผูกพันที่แท้จริงระหว่างแซมและเจ้าหญิง

เมื่อการสนทนาดำเนินไปจนจบมื้ออาหาร เจ้าหญิง Kalique ก็ทรงเชื้อเชิญทุกคนด้วยความเอื้อเฟื้อ

เจ้าหญิง Kalique: หากทุกท่านประสงค์ ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ท่านพักอยู่ที่นี่ ตราบเท่าที่ท่านต้องการ วังแห่งนี้ยินดีต้อนรับสหายของน้องชายข้าเสมอ

แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสาม บิลลี่พยักหน้า เจคและคาร์ลก็แสดงท่าทีตื่นเต้น

แซม: พวกเราขอขอบคุณมากนะครับ

บิลลี่: ขอบคุณครับท่านเจ้าหญิง

เจค: สุดยอดไปเลยครับ!

คาร์ล: ขอบคุณครับ!

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลอย่างงดงาม

เจ้าหญิง Kalique: ด้วยความยินดียิ่ง ท่านน้องและสหาย... บัดนี้ ท่านคือแขกของข้า

การพักอาศัยบนดาวเคราะห์อันไกลโพ้นของแซมและเพื่อนๆ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... ในวังอันหรูหราของพี่สาวจากอดีตชาติ... ท่ามกลางความทรงจำจากจักรวาลอันกว้างใหญ่...

ห้องนอนที่จัดเตรียมไว้สำหรับแซม บิลลี่ เจค และคาร์ลนั้น งดงามและหรูหราเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ ผนังห้องตกแต่งด้วยแผ่นโลหะสีเงินสลักลายเรืองรอง แสงนวลจากโคมไฟคริสตัลทรงแปลกตาส่องสว่างไปทั่วบริเวณ

เตียงขนาดใหญ่สี่เตียงตั้งเรียงราย แต่ละเตียงมีผ้าปูที่นอนเนื้อละเอียดสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมหมอนอิงนุ่มฟูมากมาย พวกเขาสามารถนอนแผ่ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องเบียดเสียดกัน

ข้ารับใช้รูปร่างหน้าตาแปลกตาแต่สุภาพหลายคนคอยอำนวยความสะดวกอยู่ภายในห้อง พวกเขาพร้อมที่จะตอบสนองทุกความต้องการของแขก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ประตูบานเลื่อนเปิดออกสู่ห้องน้ำขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยหินอ่อนสีฟ้าอ่อน อ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยน้ำอุ่นที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ

และที่มุมหนึ่งของห้องน้ำ พวกเขาก็ได้พบกับอ่างที่มีลักษณะพิเศษ ผิวของอ่างเป็นโลหะสีเงินวาววับ ภายในบรรจุของเหลวสีฟ้าใสที่เรืองรอง นั่นคืออ่าง Regenex ที่เจ้าหญิง Kaliqueได้กล่าวถึง

ข้ารับใช้คนหนึ่งเข้ามาอธิบายถึงวิธีการใช้งาน

ข้ารับใช้: นี่คืออ่าง Regenex ท่านสามารถลงไปแช่ในของเหลวนี้ พร้อมกับเปิดกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ตามระดับที่ท่านต้องการ มันจะช่วยฟื้นฟูความเยาว์วัยและชะลอความชราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจคและคาร์ลถึงกับตาโต มองอ่าง Regenex ด้วยความตื่นเต้น

เจค: นี่มัน... ของจริงเลยเหรอวะเนี่ย? ที่ทำให้กลับไปเป็นเด็กได้น่ะ?

คาร์ล: โคตรเจ๋ง! ต้องลองแล้ว!

แซมและบิลลี่มองทุกอย่างด้วยความสนใจเช่นกัน พวกเขาไม่เคยเห็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเช่นนี้มาก่อน

ห้องนอนแห่งนี้ไม่ใช่แค่ที่พักผ่อน แต่เป็นเหมือนประตูสู่โลกแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีที่เหนือจินตนาการ

ทั้งสี่คนตัดสินใจลองแช่ในอ่าง Regenex ด้วยความตื่นเต้น เจคและคาร์ลเป็นสองคนที่กระตือรือร้นมากที่สุด พวกเขารีบลงไปแช่ในของเหลวสีฟ้าที่เรืองรองอย่างใจจดใจจ่อ บิลลี่ตามลงไปอย่างช้าๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ส่วนแซมก็ลงไปแช่ด้วยเช่นกัน แม้จะไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์มากนัก

เมื่อกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เริ่มไหลผ่านของเหลวในอ่าง พวกเขาก็รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกประหลาดแต่ผ่อนคลายแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

หลังจากแช่อยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพวกเขาขึ้นจากอ่าง เจคและคาร์ลถึงกับตกตะลึงเมื่อส่องกระจก ผิวพรรณของพวกเขาดูสดใส เปล่งปลั่ง และดูมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยเล็กๆ ดูจางลงไปมาก

เจค: เชี่ย! ผิวกูดูดีขึ้นจริงๆ ว่ะ! เหมือนไปทำสปามาเลย!

คาร์ล: เออ! หน้ากูก็ดูใสขึ้นเยอะเลย! นี่มันสุดยอดจริงๆ!

บิลลี่เองก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง ผิวของเขาดูเรียบเนียนและมีชีวิตชีวาขึ้น

ส่วนแซม เมื่อส่องกระจกแล้วก็ไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก ผิวพรรณของเขายังคงดูดีเป็นปกติอยู่แล้ว

แซม: ของพวกนายดูดีขึ้นเยอะเลยนะ

บิลลี่: ของนายก็ดูดีอยู่แล้วนี่ แซม

เจคและคาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาไม่รู้ว่าร่างกายของแซมผลิต Regenex ได้เองอยู่แล้ว ทำให้การแช่อ่างอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อเขามากนัก

พวกเขาต่างรู้สึกประทับใจกับพลังของ Regenex โดยเฉพาะเจคและคาร์ลที่เห็นผลลัพธ์กับตัวเองอย่างชัดเจน การได้สัมผัสกับเทคโนโลยีต่างดาวอันน่าทึ่งนี้เป็นประสบการณ์ที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม

ค่ำคืนแรกบนดาวเคราะห์ของเจ้าหญิง Kalique... จบลงด้วยความประทับใจและความตื่นเต้นกับโลกใหม่ที่พวกเขาได้มาเยือน...

หลังจากที่ทุกคนได้สัมผัสกับพลังของ Regenex แล้ว บรรยากาศในห้องนอนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น เจคและคาร์ลสำรวจสิ่งของต่างๆ ในห้องอย่างสนุกสนาน ส่วนแซมและบิลลี่ก็มองดูด้วยความสนใจ

ที่มุมหนึ่งของห้อง พวกเขาพบกับอุปกรณ์ทรงกลมสีเงินวาววับ มีแสงไฟหลากสีส่องออกมา ข้ารับใช้เข้ามาอธิบายว่ามันคือเครื่องเล่นเกมของดาวเคราะห์นี้

ข้ารับใช้: นี่คือ "Nexus Dreamer" ท่านสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่สร้างขึ้นจากความทรงจำและความปรารถนาของท่าน มันจะให้ประสบการณ์ที่สมจริงและเหนือจินตนาการ

เจคและคาร์ลตาเป็นประกายทันที

เจค: โลกเสมือนจริงเหรอวะ? โคตรเจ๋ง!

คาร์ล: ต้องลองแล้ว! มีเกมอะไรให้เล่นบ้าง?

ข้ารับใช้สาธิตวิธีการใช้งาน พวกเขาเพียงแค่สวมอุปกรณ์คล้ายมงกุฎลงบนศีรษะ จากนั้นภาพและเสียงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ราวกับพวกเขาได้เข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งจริงๆ

เจคเป็นคนแรกที่ลอง เขาเลือกประสบการณ์การขับยานอวกาศด้วยความเร็วสูง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากความสงสัยกลายเป็นความตื่นเต้นและสนุกสนาน

เจค: โอ้โห! นี่มันสุดยอด! เหมือนได้ขับยานจริงๆ เลย! ความรู้สึกเหมือนจริงมาก!

คาร์ลรอไม่ไหวที่จะลองบ้าง เขาเลือกประสบการณ์การผจญภัยในป่าดึกดำบรรพ์ของดาวเคราะห์อื่น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือสิ่งมีชีวิตแปลกตา พืชพรรณที่ไม่เคยเห็น และเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดที่ไม่คุ้นเคย

คาร์ล: ว้าว! นี่มันสมจริงกว่าเกม VR ที่โลกเราเยอะเลย! เหมือนกูเข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ!

แซมและบิลลี่ก็ผลัดกันลองเล่น พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การสำรวจดาวเคราะห์ที่สวยงาม ไปจนถึงการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว เครื่องเล่นเกมนี้ให้ความรู้สึกที่สมจริงและน่าตื่นเต้นกว่าเกมใดๆ ที่พวกเขาเคยเล่นมาบนโลก

ค่ำคืนนั้น พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการทดลอง Nexus Dreamer หัวเราะและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าอัศจรรย์นี้ ห้องนอนหรูหราบนดาวเคราะห์อันไกลโพ้นได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นดิจิทัลขนาดใหญ่สำหรับพวกเขา

ในขณะที่เจคและคาร์ลกำลังสนุกสนานกับการผจญภัยในโลกเสมือนจริงของ Nexus Dreamer แซมและบิลลี่ได้ชวนกันออกไปยืนที่ระเบียงกว้างของห้องนอน เพื่อชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของดาวเคราะห์แห่งนี้

ระเบียงกว้างขวางปูด้วยหินอ่อนสีขาวนวล ราวระเบียงแกะสลักลวดลายอ่อนช้อย แสงจันทร์สีเงินจากดวงจันทร์สองดวงส่องสว่างลงมา ทำให้ทุกสิ่งดูงดงามราวกับอยู่ในความฝัน

เบื้องล่างคือภาพของน้ำตกสีรุ้งขนาดใหญ่ ที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงชัน ละอองน้ำกระทบกับแสงจันทร์เกิดเป็นประกายหลากสี สวยงามราวกับสวรรค์จำลอง เสียงน้ำตกดังก้องกังวานอย่างไพเราะ

แซมและบิลลี่ยืนเคียงข้างกัน มองทัศนียภาพอันงดงามด้วยความเงียบสงบ

บิลลี่: สวยงามมากเลยนะ ที่นี่... ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

แซมพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังแสงสีรุ้งที่ส่องประกายจากน้ำตก

แซม: ใช่... สวยจริงๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องจริงเลย

พวกเขาใช้เวลาสักครู่ยืนชมความงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ความเงียบที่ปกคลุมไม่ได้อึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสงบและประทับใจ

บิลลี่: ขอบคุณนะ แซม ที่พาพวกเรามาที่นี่... มันเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อจริงๆ

แซมหันมายิ้มให้บิลลี่

แซม: ฉันก็ดีใจที่พวกนายชอบ

พวกเขายืนมองทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจต่อไปอีกพักใหญ่ ความงามของดาวเคราะห์ต่างดาวแห่งนี้ได้ตรึงตราตรึงใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง

ในขณะที่เพื่อนๆ กำลังสนุกสนานกับเทคโนโลยีล้ำสมัย แซมและบิลลี่ก็ได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์... บนระเบียงที่มองเห็นสวรรค์... เคียงข้างกัน...

ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามราวกับภาพวาดจากสวรรค์ เสียงน้ำตกสีรุ้งดังก้องกังวานเป็นท่วงทำนองอันไพเราะ แสงจันทร์สีเงินนวลส่องสว่างอาบไล้ทุกสรรพสิ่ง แซมหันไปมองหน้าบิลลี่ แววตาของเขาอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรู้สึก

แซม: บิลลี่...

บิลลี่หันมาสบตาแซม ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความรักใคร่

แซม: ฉันขอจูบนายได้ไหม?

บิลลี่ยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นลูบแก้มแซมเบาๆ โดยไม่ต้องตอบคำพูดใดๆ

แซมค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของบิลลี่อย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา มันเป็นการจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น ความเสน่หา และความขอบคุณ

พวกเขาจูบกันเนิ่นนาน ท่ามกลางความเงียบสงบและความงดงามของดาวเคราะห์ต่างดาวแห่งนี้ ราวกับมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ดำรงอยู่

เมื่อผละจากกัน แซมและบิลลี่สบตากันอีกครั้ง รอยยิ้มละมุนละไมประดับอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่

บิลลี่: ชอบวิวที่นี่ไหม?

แซมพยักหน้า

แซม: ชอบ... และชอบอยู่กับนายตรงนี้ด้วย

บิลลี่โอบไหล่แซมกระชับเข้ามาใกล้ ทั้งสองคนหันกลับไปมองทัศนียภาพอันงดงามเบื้องหน้าอีกครั้ง ความรู้สึกพิเศษก่อตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติกนี้

บนระเบียงที่มองเห็นสวรรค์... แซมและบิลลี่ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่แสนหวานและลึกซึ้ง... ความรักของพวกเขาเบ่งบานท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่...

หลังจากช่วงเวลาอันแสนหวานบนระเบียง แซมและบิลลี่ก็กลับเข้าไปในห้องนอน ที่ซึ่งเจคและคาร์ลยังคงสนุกสนานกับโลกเสมือนจริง พวกเขาทั้งสี่คนใช้เวลาอีกสักพักก่อนจะเข้านอนบนเตียงนุ่มสบายภายใต้ผ้าปูที่นอนเนื้อละเอียด

เช้าวันใหม่มาถึง แสงอาทิตย์จากดวงอาทิตย์สีทองของดาวเคราะห์นี้ส่องสว่างเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล พวกเขาตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นและพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันใหม่

เมื่อลงไปยังห้องอาหารอันอลังการอีกครั้ง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยอาหารเช้าเลิศรสที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถูกจัดวางอย่างสวยงามบนโต๊ะยาว

พวกเขานั่งลงบนเก้าอี้นวมหรูหราที่นุ่มสบายราวกับนั่งอยู่บนปุยเมฆ ขณะที่ลิ้มรสอาหารรสเลิศ เจคก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น

เจค: แซม... พี่สาวมึงรวยมากเลยเนาะ! มีบ้านหรูๆ แบบนี้... นี่มันวังชัดๆ!

คาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับเคี้ยวขนมปังกรอบรสประหลาดแต่อร่อย

คาร์ล: เออ จริง! ใหญ่โตอลังการกว่าบ้านคนรวยที่สุดบนโลกอีกมั้งเนี่ย!

แซมยิ้มเล็กน้อย มองไปรอบๆ ห้องอาหารที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง

แซม: ก็... ราชวงศ์ของพวกเราค่อนข้างมีฐานะน่ะ

บิลลี่เสริมขึ้น

บิลลี่: แค่ "ค่อนข้างมีฐานะ" เองเหรอ แซม? นี่มันระดับจักรวาลแล้วมั้ง!

แซมหัวเราะเบาๆ

แซม: ก็ประมาณนั้นแหละ

พวกเขาพูดคุยกันถึงความหรูหราและความกว้างใหญ่ของวังเจ้าหญิง Kalique ความแตกต่างระหว่างโลกของพวกเขากับดาวเคราะห์แห่งนี้เป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเจคและคาร์ลอย่างมาก

หลังจากอาหารเช้าอันโอชารส เจ้าหญิง Kalique ได้นำอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งมาให้แซม มันมีลักษณะคล้ายมงกุฎขนาดเล็ก ทำจากโลหะสีเงินวาววับ ประดับด้วยผลึกใสเล็กๆ ที่เปล่งแสงสีอ่อนๆ

เจ้าหญิง Kalique: ท่านน้อง... ข้ามีเทคโนโลยีที่จะช่วยดึงความทรงจำจากอดีตชาติของท่านกลับมา หากท่านปรารถนาที่จะระลึกถึง... ท่านต้องการลองหรือไม่?

แซมมองมงกุฎในมือของพี่สาวด้วยความลังเล บิลลี่ เจค และคาร์ลนั่งอยู่ใกล้ๆ มองดูด้วยความสนใจ

แซม: ความทรงจำจากอดีตชาติ... เจ้าชาย Titus... ผมไม่รู้จักเขาเลย... ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือร้าย... ควรจะให้ผมจำไหม?

เจ้าหญิง Kalique ทรงวางพระหัตถ์บนมือของแซมอย่างอ่อนโยน

เจ้าหญิง Kalique: ข้าเข้าใจความกังวลของท่านน้อง... แต่การรู้ถึงอดีต อาจจะช่วยให้ท่านเข้าใจปัจจุบันได้ดีขึ้น... ท่านไม่จำเป็นต้องตัดสิน Titus ในทันที เพียงแค่รับรู้ถึงสิ่งที่ท่านเคยเป็น... การตัดสินใจว่าจะเก็บรักษาความทรงจำเหล่านั้นไว้หรือไม่... ขึ้นอยู่กับท่าน

บิลลี่มองแซมอย่างให้กำลังใจ

บิลลี่: ลองดูสิ แซม... ไม่เสียหายอะไรนี่

เจคและคาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย

เจค: เออ ลองดูๆ เผื่อจะสนุก

คาร์ล: อยากรู้เรื่องเจ้าชายเอเลี่ยนแล้วเนี่ย

แซมมองหน้าพี่สาวและเพื่อนๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ

แซม: ก็ได้ครับ... ลองดูก็ได้

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวล แล้วค่อยๆ สวมมงกุฎแห่งความทรงจำลงบนศีรษะของแซม ผลึกใสเริ่มเปล่งแสงระเรื่อ... ความทรงจำจากอดีตชาติของเจ้าชาย Titus Abrasax กำลังจะไหลบ่าเข้ามาในจิตสำนึกของแซม...

ทันทีที่มงกุฎแห่งความทรงจำสัมผัสศีรษะของแซม ภาพและเสียงก็ไหลบ่าเข้ามาในจิตสำนึกของเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับกระแสน้ำที่ถาโถม

แซมเห็นภาพของชายหนุ่มรูปงาม รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย ดวงตาสีฟ้าสดใส ชายผู้นั้นหัวเราะอย่างสนุกสนานขณะที่รายล้อมไปด้วยหนุ่มๆ รูปงามมากมาย พวกเขากำลังดื่มสุราเลิศรส เต้นรำ และแสดงความรักใคร่อย่างเปิดเผย

ความทรงจำเหล่านั้นชัดเจน... นั่นคือ Titus... และบุคลิกของเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากแซมในปัจจุบันมากนัก... ความเจ้าชู้ ความรักในความสุขสำราญ และการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา

แซมจำได้ถึงใบหน้าของ Kalique พี่สาวผู้แสนดีของเขา Balem พี่ชายที่มักจะจริงจังและเข้มงวด และ Seraphi พระมารดาผู้เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา ความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวของเขาไหลบ่าเข้ามาอย่างอบอุ่น

เมื่อความทรงจำทั้งหมดประดังเข้ามา แซมลืมตาขึ้น มองหน้า Kalique ด้วยรอยยิ้มที่คุ้นเคย

แซม: พี่ Kalique... ผมจำได้แล้ว

เจ้าหญิง Kalique ทรงแย้มพระสรวลด้วยความยินดี พระเนตรของพระองค์เป็นประกาย

เจ้าหญิง Kalique: ข้าดีใจยิ่งนัก ท่านน้อง

แซมรู้สึกราวกับว่าความแปลกหน้าระหว่างเขากับ Kalique ได้หายไปจนหมดสิ้น พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกต่อไป พวกเขาคือพี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานาน

แซมเอื้อมมือไปหยิบดอกไม้สีม่วงอ่อนที่ประดับอยู่บนฉลองพระองค์ของ Kalique อย่างเบามือ แล้วนำมาทัดที่ผมของพี่สาว

แซม: ดอก Kalique... สวยเหมือนพี่เลย

เจ้าหญิง Kalique ทรงซับซึ้งในท่าทีของน้องชาย พระองค์ทรงลูบศีรษะแซมอย่างอ่อนโยน

เจ้าหญิง Kalique: ขอบคุณท่านน้อง

บิลลี่ เจค และคาร์ล มองดูพี่น้องทั้งสองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งประหลาดใจ ซาบซึ้ง และยินดีไปกับพวกเขา

ความผูกพันระหว่างแซมและ Kalique ได้กลับคืนมาแล้ว... อดีตชาติได้เชื่อมโยงพวกเขาทั้งสองเข้าด้วยกันอีกครั้ง... ท่ามกลางเพื่อนใหม่บนดาวเคราะห์ที่ห่างไกล...

แซม: พี่ Kalique... ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับ ที่นี่สวยงามมาก และการได้พบพี่ก็เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุด

เจ้าหญิง Kalique: ข้ายินดีเสมอ ท่านน้อง การได้พบท่านอีกครั้งก็เป็นความสุขของข้าเช่นกัน

แซมมองหน้าบิลลี่ เจค และคาร์ล

แซม: พวกเราคงต้องกลับไปแล้วล่ะครับ... ที่บ้านของเรา

เจ้าหญิง Kalique: ข้าเข้าใจ... โลกคือบ้านของท่านในตอนนี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ

พระองค์ทรงหันมาทอดพระเนตรมองทั้งสามหนุ่มด้วยความเมตตา

เจ้าหญิง Kalique: สหายของน้องข้า... ข้าขออวยพรให้พวกท่านมีความสุขและมีชีวิตที่ปรารถนาดังความฝัน

จากนั้นพระองค์ก็ทรงสั่งให้ข้าราชบริพารนำยานอวกาศส่วนพระองค์มาส่งพวกเขากลับโลก

ยานรูปทรงผีเสื้อจักรวาลจอดรออยู่ด้านนอก แสงสีเงินวาววับ

เจ้าหญิง Kalique: ลาก่อน ท่านน้อง... หวังว่าเราจะได้พบกันอีก

แซม: ลาก่อนครับ พี่ Kalique

แซม บิลลี่ เจค และคาร์ล ขึ้นไปยังยานอวกาศ โบกมือลาเจ้าหญิง Kalique และข้าราชบริพาร

ยานค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นดิน เคลื่อนตัวออกไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ มุ่งหน้าสู่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่อยู่แสนไกล

การผจญภัยในโลกต่างดาวของพวกเขาจบลงแล้ว พร้อมกับความทรงจำอันล้ำค่าและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

เมื่อยานหายลับไปจากสายตา เจ้าหญิง Kalique ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ทอดพระเนตรไปยังท้องฟ้าอันไกลโพ้นด้วยรอยยิ้มละไม... หวังว่าน้องชายของเธอจะมีความสุขกับชีวิตใหม่บนโลกใบนั้น...

เมื่อยานอวกาศร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวลในบริเวณเดิมที่พวกเขาจากไป แสงจากยานดับลง เผยให้เห็นบ้านหลังเล็กๆ ที่คุ้นเคยของแซมและบิลลี่

ทั้งสี่คนก้าวลงจากยาน มองบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน แซมและบิลลี่รู้สึกถึงความคุ้นเคยและอบอุ่นใจ ส่วนเจคและคาร์ลยังคงตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมา

เมื่อเข้ามาในบ้าน บิลลี่ก็ถามแซมด้วยความอยากรู้

บิลลี่: เป็นยังไงบ้างวะ แซม? ตอนที่พี่สาวมึงให้ดูความทรงจำน่ะ มึงจำอะไรได้บ้าง?

เจคและคาร์ลก็มองแซมด้วยความสนใจเช่นกัน

เจค: เออ เล่าให้ฟังหน่อยดิ! เจ้าชายเอเลี่ยนของพวกเราเป็นยังไงบ้าง?

คาร์ล: แล้ววังพี่สาวมึงโคตรอลังการเลย! เล่าให้ฟังอีกหน่อยดิ!

แซมนั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจเล็กน้อย

แซม: มัน... แปลกมากเลยว่ะ เหมือนฝันซ้อนฝัน ผมจำพี่ Kalique ได้ จำหน้าแม่ได้... ราชินี Seraphi... แล้วก็... เหมือนจะจำพี่ชายอีกคนได้ด้วย

บิลลี่: แล้วชีวิตตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง? หรูหราเหมือนที่เห็นในวังพี่สาวมึงไหม?

แซม: ก็... ประมาณนั้นแหละ ชีวิตค่อนข้างสะดวกสบาย มีคนคอยดูแล... ได้เดินทางไปหลายที่ในจักรวาล

แซมเล่าถึงความทรงจำเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความสวยงามของดาวเคราะห์ต่างๆ และความกว้างใหญ่ของอาณาจักร Abrasax แต่เขาเว้นเรื่องราวเกี่ยวกับความเจ้าชู้และชีวิตส่วนตัวที่สนุกสนานของ Titus ไป

เจค: โคตรเจ๋งเลย! เป็นเจ้าชายต่างดาว! แล้วมึงมีพลังพิเศษอะไรเหมือนในหนังไหมวะ?

แซม: (หัวเราะ) ไม่นะ ผมก็เหมือนเดิมนี่แหละ

คาร์ล: แล้วมึงจำได้ไหมว่าทำไมถึงมาอยู่ที่โลก?

แซมส่ายหน้า

แซม: เรื่องนั้น... ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ในความทรงจำ

บิลลี่ตบบ่าแซมเบาๆ

บิลลี่: ไม่เป็นไรหรอก ค่อยๆ นึกไปก็ได้ แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว

แซมยิ้มให้เพื่อนๆ

แซม: ขอบคุณนะ พวกนาย... ที่ไปด้วยกัน

เมื่อทั้งสี่คนขึ้นมาถึงห้องนอน แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกล่อง Regenex ที่เจ้าหญิง Kaliqueมอบให้ก็ยังคงส่องสว่างอยู่ แซมมองกล่องยาด้วยความคิดบางอย่าง ก่อนจะหันไปหาเพื่อนทั้งสาม

แซม: นี่... พี่สาวผมให้ Regenex มาเยอะเลย ผมว่าเราแบ่งกันดีกว่า

แซมหยิบกล่อง Regenex ออกมา แล้วแบ่งของเหลวสีฟ้าใสใส่ในภาชนะเล็กๆ ที่ดูเหมือนทำจากคริสตัล

แซม: นี่ของบิลลี่... นี่ของเจค... แล้วก็นี่ของคาร์ล... พวกนายจะได้ไม่แก่

บิลลี่ เจค และคาร์ล มองของเหลวสีฟ้าในมือด้วยความประหลาดใจระคนตื่นเต้น

เจค: นี่มัน... ยาที่ทำให้ไม่แก่นั่นใช่ไหมวะ? จริงดิ?

คาร์ล: โคตรเจ๋ง! กูเกลียดเวลาเห็นหน้าตัวเองแก่ๆ ในกระจกที่สุด!

บิลลี่: ขอบคุณนะ แซม... พี่สาวนายใจดีมากเลย

แซมยิ้ม

แซม: ไม่เป็นไรหรอก พวกนายเป็นเพื่อนของผม

เจคยกภาชนะ Regenex ขึ้นมาดูอย่างพิจารณา

เจค: แล้วมึงล่ะ แซม? มึงไม่กินเหรอ?

แซม: ไม่เป็นไรหรอก พวกนายเอาไปเถอะ ผมไม่จำเป็นต้องใช้มากนัก

บิลลี่ เจค และคาร์ล มองหน้าแซมด้วยความสงสัย

เจค: ทำไมวะ? ยาดีขนาดนี้ มึงไม่กินหน่อยเหรอ?

แซม: คือ... พี่สาวผมบอกว่าถ้าผมต้องการอีกเท่าไหร่ก็ได้ คาเอลเขาสามารถนำมาให้ได้ตลอดน่ะ

เจคและคาร์ลถึงกับอ้าปากค้าง มองหน้าแซมอย่างไม่อยากจะเชื่อ

คาร์ล: หา? จริงดิ? มึงอยากได้เท่าไหร่ก็ได้เลยเหรอ?

แซม: ครับ... ประมาณนั้น

บิลลี่: นี่มัน... สุดยอดไปเลยนะ แซม

แซมยิ้มเล็กน้อย

แซม: ก็อย่างที่บอก... พวกนายเป็นเพื่อนผม ผมอยากให้พวกนายได้ใช้ของดีๆ

เจคและคาร์ลมอง Regenex ในมืออีกครั้ง คราวนี้ความรู้สึกตื่นเต้นยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก

เจค: แม่งเอ๊ย! นี่มันเพื่อนต่างดาวของจริงว่ะ! โคตรใจดี!

คาร์ล: ขอบคุณมากนะ แซม!

พวกเขาทั้งสามรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของแซมเป็นอย่างมาก การได้รับยาที่สามารถชะลอความแก่ได้นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ของขวัญจากเจ้าชายต่างดาว... ได้มอบความหวังแห่งความเยาว์วัยให้กับเพื่อนทั้งสามอย่างไม่น่าเชื่อ...

แม้ว่าพวกเขาจะได้สัมผัสกับความหรูหราและเทคโนโลยีระดับจักรวาลบนดาวเคราะห์ของเจ้าหญิง Kalique แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านของบิลลี่ในอเมริกา ชีวิตก็กลับคืนสู่ความเรียบง่ายและคุ้นเคย

เจคและคาร์ลยังคงไปทำงานตามปกติ บ่นเรื่องงานและหัวเราะกับเรื่องตลกโปกฮา บิลลี่ยังคงใช้ชีวิตแบบชาวอเมริกันบ้านนอกที่เรียบง่าย ส่วนแซมก็ยังคงเป็นแซมคนเดิมที่พวกเขาคุ้นเคย

การสังสรรค์รอบวงบนเตียงของแซมยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำ พร้อมเบียร์ ขนมขบเคี้ยว และการพูดคุยสารพัดเรื่องราว ความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามดวงดาวกลายเป็นเหมือนเรื่องเล่าสุดพิเศษที่พวกเขาจะนำมาพูดคุยกันบ้างในบางครั้ง

ถึงแม้พวกเขาจะมี Regenex ไว้ในครอบครอง และรู้ว่ามีกองกำลัง Star Force คอยดูแลความปลอดภัยอยู่เบื้องหลัง พวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปมากนัก ความเป็นเพื่อน ความสนุกสนาน และความสบายใจในการอยู่ร่วมกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

โลกของพวกเขาอาจจะมีเอเลี่ยนและเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แก่นแท้ของชีวิตยังคงเหมือนเดิม... การใช้เวลาร่วมกันของเพื่อนกลุ่มหนึ่ง... ในบ้านแบบอเมริกันบ้านนอกของบิลลี่...

ความน่าเหลือเชื่อได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเขาไปแล้วอย่างเงียบๆ... โดยที่พวกเขายังคงใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาคุ้นเคยและมีความสุข... ในอเมริกา



  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

27. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #26
 
18-May-25, 06:10 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เช้าวันใหม่ในบ้านของบิลลี่ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน แซมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเงียบสงบ

ต่อมาไม่นาน บิลลี่ เจค และคาร์ลก็ทยอยกันเข้ามาในห้อง พร้อมกับถุงขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเย็นๆ ตามธรรมเนียมที่พวกเขาคุ้นเคย พวกเขานอนล้อมรอบของแซมอย่างสบายๆ

ลำกายของแซมที่ตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย กลายเป็นจุดศูนย์กลางของการล้อมวงโดยไม่ได้ตั้งใจอีกครั้ง

บิลลี่: วันนี้อากาศดีว่ะ พวกมึงว่าไหม? น่าจะไปตกปลาอีกรอบ

เจค: เออ น่าสนๆ กูอยากลองเบ็ดใหม่ที่เพิ่งซื้อมา

คาร์ล: แต่ก่อนไปตกปลา กูขอเล่าเรื่องตลกที่กูไปเจอมาเมื่อวานก่อน แม่งฮาชิบหาย... (คาร์ลเริ่มเล่าเรื่องตลก)

แซมและบิลลี่ฟังคาร์ลเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาน หัวเราะกันเป็นระยะๆ บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเป็นกันเอง

แซม: แล้วเบ็ดใหม่ของมึงเป็นยังไงวะ เจค? ดีกว่าอันเก่าเยอะไหม?

เจค: โคตรดี! เหวี่ยงง่าย ได้ปลาไว เดี๋ยววันนี้กูจะโชว์ให้ดู

พวกเขาคุยกันถึงเรื่องสัพเพเหระ เรื่องงานอดิเรก เรื่องตลกที่ไปเจอมา เหมือนกับวันอื่นๆ ที่ผ่านมา การมีอยู่ของลำกายแซมตรงกลางวงสนทนาไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป บางครั้งก็มีคนเผลอไปจับหรือแตะโดนบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีใครใส่ใจมากนัก

บิลลี่: ว่าแต่มึงได้ลอง Regenex ที่พี่สาวมึงให้มายัง แซม?

แซม: ผมยังไม่ได้ลองเลยครับ พวกคุณลองแล้วเป็นยังไงบ้าง?

คาร์ล: โคตรดี! ผิวกูดูดีขึ้นเยอะเลย เมียทักเลยเมื่อเช้า

เจค: เออ กูด้วย! รู้สึกหน้าตาดูสดใสขึ้น

พวกเขาคุยกันถึงผลลัพธ์ของ Regenex อย่างตื่นเต้น แซมฟังด้วยความสนใจ

วงล้อมเพื่อนฝูงรอบตัวแซม... ยังคงดำเนินต่อไป... ท่ามกลางเสียงหัวเราะ เรื่องเล่า และมิตรภาพที่อบอุ่น... ในบ้านแบบอเมริกันบ้านนอกของบิลลี่...

แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

แซม: พวกนาย... วันนี้ผมอยากลองอะไรที่มัน... พิเศษขึ้นอีกหน่อย

บิลลี่ เจค และคาร์ล หันมามองแซมด้วยความสนใจ

แซม: ผมอยากให้คนนึงอมควยผม... จนมิด... แล้วอยู่นิ่งๆ... มองตาผมไว้ตลอดเวลา แล้วใช้ลิ้นเลียจากข้างใน.. ส่วนอีกสองคนก็เลียไข่ซ้ายขวา... พอผมเสร็จ... เราก็ค่อยเปลี่ยนคนอม... ให้ครบสามคน

ทั้งสามคนมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา

บิลลี่: จัดไปเพื่อน!

เจค: ไอเดียเยี่ยม!

คาร์ล: มาลองอะไรใหม่ๆ กัน!

แซมยิ้มอย่างพอใจ

แซม: งั้น... ใครจะเริ่มก่อน?

บิลลี่เสนอตัวก่อน

บิลลี่: ผมเริ่มอมให้ก่อนเอง

เจคและคาร์ลก็ตกลงกันว่าจะเลียไข่คนละข้าง

บิลลี่โน้มตัวลงมาครอบครองลำกายของแซมด้วยริมฝีปากร้อนชื้น เขาสอดมันเข้าไปจนมิด แล้วอยู่นิ่งๆ มองสบตาแซมอย่างลึกซึ้ง ใช้ลิ้นเลียแบบบดๆอยู่ข้างใน

เจคและคาร์ลเริ่มเลียและดูดดึงอัณฑะของแซมอย่างตั้งใจ สร้างความรู้สึกหน่วงๆ ที่น่าพอใจ

แซมหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายเริ่มเกร็งเล็กน้อย ความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อแซมใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขาก็ส่งสัญญาณให้เปลี่ยนคนอม

คราวนี้เป็นคิวของเจค เขาสอดลำกายของแซมเข้าไปในปาก แล้วมองสบตาแซมด้วยแววตาที่ขี้เล่นและกวนๆ ยิบตาใส่แซมเป็นระยะๆ ใช้ลิ้นเลียควยรัวๆ

เมื่อถึงคิวของคาร์ล เขาก็อมลำกายของแซมด้วยท่าทีที่สนุกสนาน กระดกคิ้วขึ้นลงอย่างยียวน ใช้ลิ้นตวัดและปลายม้ววนวนรอบควย

ในขณะที่บิลลี่อมให้แซมนั้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและจริงจัง ราวกับต้องการสื่อสารบางอย่างผ่านการสบตา

ทั้งสามคนผลัดกันปรนนิบัติแซมด้วยท่าทีที่แตกต่างกันไป สร้างความรู้สึกที่หลากหลายและเร้าใจให้กับแซม

เมื่อแซมปลดปล่อยออกมาครบสามครั้ง พวกเขาก็ผละออกจากกันอย่างเป็นธรรมชาติ

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความพึงพอใจ พวกเขาพูดคุยกันถึงความรู้สึกที่ได้รับ และหัวเราะกับท่าทีขี้เล่นของเจคและคาร์ล

การปรนนิบัติรูปแบบใหม่ได้สร้างความทรงจำที่น่าจดจำให้กับทุกคน... และความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดของพวกเขาก็ยังคงดำเนินต่อไป... พร้อมกับความสนุกสนานและความแปลกใหม่ที่รอคอยอยู่...

แม้ว่ากิจกรรมทางเพศจะจบลงไปแล้ว แต่ลำกายของแซมก็ยังคงตื่นตัวอยู่ตรงกลางวงล้อมของเพื่อนๆ ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของการสังสรรค์ไปแล้ว

เจคและคาร์ลยังคงมองลำกายของแซมด้วยแววตาขบขัน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะแซวและเล่นตลกเกี่ยวกับมัน

เจค: นี่มึง... มันแข็งแรงทนทานจริงๆ นะเนี่ย แซม

คาร์ล: เออ! สงสัยจะชอบบรรยากาศวงล้อมของเรา

พวกเขาหัวเราะกันเบาๆ แซมเองก็ยิ้มขำๆ กับท่าทีของเพื่อน

แซม: ก็... มันเป็นไปเองน่ะ

บิลลี่: ช่างมันเถอะ พวกมึงจะคุยอะไรต่อ? เมื่อกี้กูว่าจะเล่าเรื่องที่ไปเจอหมาแปลกๆ ที่ข้างถนน

แล้วบทสนทนาก็กลับไปสู่เรื่องทั่วไปอีกครั้ง แต่สายตาของเจคและคาร์ลก็ยังคงแวะเวียนไปที่ลำกายของแซมเป็นระยะๆ พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

วงล้อมเพื่อนฝูงรอบตัวแซมที่ยังคงแข็งขัน... กลายเป็นภาพที่คุ้นชินและสร้างความขบขันให้กับเจคและคาร์ลอย่างไม่สิ้นสุด... ในค่ำคืนที่แสนสบายในบ้านของบิลลี่...

บิลลี่คุยกับเจคและคาร์ลข้างล่าง ก่อนที่ทั้งสองจะกลับ และแซมไม่ได้อยู่ฟังด้วย

บิลลี่: พวกมึงนี่มันจริงๆ เลยนะ

เจคและคาร์ลหันมามองบิลลี่ด้วยท่าทางงงๆ เล็กน้อย

เจค: อะไรวะ? กูทำไม?

คาร์ล: เออ มีอะไรเหรอ บิลลี่?

บิลลี่: กูรู้นะเว้ย... ที่พวกมึงสองคนแวะเวียนมาอมไอ้จู๋แซมบ่อยๆ เนี่ย... ไม่ใช่แค่อยากช่วยเพื่อนหรอก

เจคและคาร์ลเริ่มมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย

บิลลี่: พวกมึงมา... ก็เพราะอยากเอาเรื่องที่เราคุยกันเฮฮาปาร์ตี้รอบไอ้จู๋แซมไปเล่าต่อ ไปขำกันเองใช่ไหมล่ะ?

เจคหัวเราะแห้งๆ

เจค: บ้า! ใครจะทำอย่างนั้นวะ? พวกกูก็แค่อยากมาเยี่ยมแซมเฉยๆ

คาร์ล: ใช่ๆ พวกกูเป็นห่วงแซม

บิลลี่เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง มองเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาที่ไม่เชื่อสนิท

บิลลี่: เหรออออ...

เจคและคาร์ลหัวเราะออกมาอย่างจนแต้ม

เจค: เออๆ ยอมรับก็ได้ว่ะ มันตลกดีจริงๆ นี่หว่า ที่ได้นั่งคุยเรื่องซีเรียสๆ รอบไอ้... เนี่ย (ทำท่าทาง)

คาร์ล: ใช่! แล้วไอ้ท่าทางของแซมตอนพวกเราอมให้มัน... แม่งโคตรฮา! เอาไปเล่าให้เมียฟังขำๆ ได้ตั้งหลายวัน

บิลลี่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

บิลลี่: เออ ตามสบายพวกมึงเลย แต่แซมเป็นเพื่อนกูนะ อย่าล้อเขามากนัก

เจค: รู้แล้วน่า! พวกกูก็แค่ขำๆ

คาร์ล: เออๆ ไม่ได้มีเจตนาอื่น

แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความขี้เล่นและเป็นกันเอง แม้จะมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง มิตรภาพของพวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์

จากนั้นเจคและคาร์ลก็บอกลาบิลลี่เพื่อกลับบ้าน... พร้อมกับเรื่องราวฮาๆ ที่จะเอาไปเล่าต่อ...

วันต่อมา เจคและคาร์ลได้นัดเจอเพื่อนหล่อๆ อีกสองคนของพวกเขา ชื่อ แมทธิว และ อีธาน ที่บาร์ประจำ

ระหว่างดื่มเบียร์และคุยกันสนุกสนาน เจคก็อดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่อง "วงล้อมสุดฮา" ที่บ้านของบิลลี่ให้เพื่อนฟัง

เจค: พวกมึงเชื่อป่าววะ? พวกกูไปบ้านไอ้บิลลี่มา แล้วก็นอนคุยกันเรื่องสัพเพเหระเนี่ยแหละ แต่ที่ฮาคือพวกกูนอนล้อมวงรอบ... ไอ้จู๋ของแซม!

แมทธิวและอีธานมองหน้ากันอย่างงงๆ

แมทธิว: หา? ล้อมวงรอบอะไรนะ?

คาร์ลเสริมขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ

คาร์ล: เออ! แล้วพวกกูก็ผลัดกันอมให้แซมด้วย! แม่งโคตรตลก! คุยเรื่องดินฟ้าอากาศ เรื่องบอล รอบไอ้... นั่นน่ะ!

แมทธิวและอีธานถึงกับขำออกมา

อีธาน: จริงดิวะเนี่ย? พวกมึงทำอะไรกันวะนั่น?

เจค: ก็ไม่รู้เหมือนกัน! แต่มันฮาจริงๆ! แล้วแซมก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยนะ ปล่อยให้พวกกูทำ

ความอยากรู้อยากเห็นฉายชัดบนใบหน้าของแมทธิวและอีธาน

แมทธิว: แล้วมันเป็นยังไงวะ? ตอนอมให้แซมน่ะ?

คาร์ล: ก็... เหมือนอมควยคนอื่นนั่นแหละ แต่บรรยากาศมันตลกไง! พวกกูนั่งคุยกันเรื่องทั่วไปนี่แหละ แต่มีไอ้นั่นอยู่ตรงกลาง!

อีธาน: พวกมึงนี่มันเพี้ยนจริงๆ ว่ะ! แต่กูก็อยากรู้แฮะ... มันจะฮาขนาดไหน

เจค: งั้นพรุ่งนี้พวกมึงไปด้วยกันไหมล่ะ? ไปลองสัมผัสประสบการณ์ "วงล้อมหรรษา" ด้วยกัน!

แมทธิวและอีธานมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมกัน

แมทธิว: เอาดิ! ไปดูกันหน่อย!

อีธาน: น่าสนุกดี!

วันรุ่งขึ้น แมทธิวและอีธานก็ตามเจคและคาร์ลไปยังบ้านของบิลลี่ เมื่อไปถึง พวกเขาก็พบว่าบิลลี่และแซมกำลังนอนคุยกันอยู่

เจคแนะนำเพื่อนใหม่ให้แซมรู้จัก

เจค: แซม นี่แมทธิวกับอีธาน เพื่อนพวกกู พวกเขาอยากมา... เยี่ยมมึงน่ะ

แซมยิ้มทักทาย

แซม: ยินดีที่ได้รู้จักครับ

เมื่อทุกคนนอนล้อมวงรอบควยแซมกันบนเตียงพร้อมขนมและเครื่องดื่ม เจคก็เริ่มเกริ่นนำ

เจค: พวกมึงอยากลองอะไรแปลกๆ ไหมล่ะ? แบบที่พวกกูเคยทำกันน่ะ

แมทธิวและอีธานมองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย

แล้ววงล้อมห้าต่อหนึ่งรอบตัวแซมก็เริ่มต้นขึ้น... บิลลี่ เจค คาร์ล แมทธิว และอีธาน ผลัดกันปรนนิบัติแซม ท่ามกลางเสียงพูดคุยเรื่องทั่วไป เสียงหัวเราะ และบรรยากาศที่แปลกประหลาดแต่เป็นกันเอง... ประสบการณ์ "วงล้อมหรรษา" ได้ขยายวงกว้างออกไปแล้ว...

บิลลี่เริ่มก่อนด้วยความคุ้นเคย ตามด้วยเจคและคาร์ลที่ผลัดกันปรนนิบัติอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็เป็นทีของแมทธิวและอีธานที่ลองลิ้มรสความแปลกใหม่นี้

ริมฝีปากทั้งห้าคู่รุมเร้าลำกายของแซมอย่างพร้อมเพรียง ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาจนแซมครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน น้ำกามถูกปลดปล่อยออกมาท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนๆ

หลังจากแซมเสร็จกิจ ลำกายยังคงแข็งขันอยู่ตรงกลางวงล้อม เจคเริ่มเปิดประเด็นด้วยเรื่องตลกที่เพิ่งนึกออก

เจค: เมื่อกี๊ตอนอมให้แซม กูแม่งนึกถึงหน้าไอ้หมาข้างบ้านที่ชอบเห่าตอนตีสาม... (พยายามกลั้นหัวเราะ) แม่งโคตรเหมือน...

คาร์ลเสริมขึ้นมาด้วยท่าทางขำขัน

คาร์ล: เออๆ แล้วตอนที่อีธานอมน่ะ หน้าตาโคตรตั้งใจ เหมือนกำลังแก้สมการคณิตศาสตร์... (หัวเราะเบาๆ)

แมทธิวและอีธานเองก็พยายามเก็บอาการขำ แต่ใบหน้าก็แดงระเรื่อ

แมทธิว: พวกมึงก็... กูแค่อยากทำให้ดีที่สุดเว้ย

อีธาน: ใช่ๆ กูอินกับการอมมากไปหน่อย

ทุกคนพยายามคุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องหนัง เรื่องกีฬา แต่สายตาก็ยังคงเหลือบมองไปยังจุดศูนย์กลางของวงล้อมเป็นระยะๆ รอยยิ้มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแต่ละคน

เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เจคก็ลุกขึ้น

เจค: พวกกูลงไปข้างล่างก่อนนะ

คาร์ล แมทธิว และอีธาน พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทั้งสี่คนเดินลงบันไดไปด้วยกัน

ทันทีที่พ้นจากห้องนอนของแซมไปถึงชั้นล่าง ทุกคนก็พร้อมใจกันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างกลั้นไม่อยู่

เจค: ฮ่าๆๆๆ กูบอกแล้ว! หน้าไอ้อีธานตอนอม... แม่งโคตรจริงจัง!

คาร์ล: ฮ่าๆๆ แล้วมึงนึกถึงหมาเห่าทำไมวะ เจค!

แมทธิว: (หัวเราะจนน้ำตาไหล) พวกมึงมันบ้าไปแล้ว! แต่กูยอมรับว่ามันฮาจริงๆ!

อีธาน: เออ! ตอนแรกกูก็ไม่คิดว่ามันจะตลกขนาดนี้! แต่นั่งคุยเรื่องปกติรอบไอ้นั่น... แม่งโคตรแปลก!

เจคหันไปทางเพื่อน

เจค: เห็นมั้ยล่ะ! กูบอกแล้ว! โคตรฮา!

เสียงหัวเราะยังคงดังต่อเนื่องในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง... ประสบการณ์ "วงล้อมหรรษา" ได้สร้างความทรงจำที่ตลกขบขันให้กับเพื่อนกลุ่มใหม่นี้แล้ว... โดยมีแซมและบิลลี่อยู่ข้างบน

วันต่อมา และต่อๆ มา กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่กลุ่มเพื่อนทั้งห้าจะมารวมตัวกันในห้องนอนของแซม บรรยากาศอบอวลไปด้วยความผ่อนคลายและเสียงหัวเราะ

พวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพูดคุยและกินขนมอีกต่อไป เพื่อเพิ่มความ "ปกติ" ให้กับการล้อมวงรอบลำกายของแซม พวกเขาเริ่มกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย

บางวันพวกเขาก็เล่นเกมไพ่กัน โดยมีสำรับไพ่วางอยู่หัวหนว หรือบนหน้าท้องแซม มือของแต่ละคนก็ผลัดกันหยิบไพ่ วางไพ่ ในขณะที่สายตาก็อาจจะเหลือบมองไปยังจุดศูนย์กลางของวงเป็นระยะๆ ใครแพ้ก็โดนลงโทษด้วยการอมให้แซมนานขึ้นเล็กน้อย สร้างเสียงหัวเราะและบรรยากาศสนุกสนาน

อีกวันพวกเขาก็เล่นเกมเอเลี่ยนที่แมทธิวกับอีธานนำมา มันเป็นเกมที่ต้องใช้สมาธิและการวางแผน แต่ก็ไม่วายที่จะมีใครสักคนเสียสมาธิไปกับ "สิ่งตรงหน้า" แล้วหลุดหัวเราะออกมา

เจค: ไอ้เหี้ย! มึงดูดิ! ตัวละครกูโดนยิงร่วงเลย! เพราะมึงนั่นแหละ แซม! (หัวเราะ)

คาร์ล: เกี่ยวไรกับแซมวะ! มึงเล่นห่วยเองมากกว่า!

อีธาน: ไม่ๆ กูว่าแซมเขาส่งพลังจิตมากวนมึงแน่ๆ! (หัวเราะ)

แซมนอนยิ้มอยู่บนเตียง มองดูเพื่อนๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน บางครั้งเขาก็มีส่วนร่วมในการเล่นด้วย

เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ใครสักคนก็จะเริ่มปรนนิบัติแซม วงล้อมห้าต่อหนึ่งยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่คราวนี้มันแนบเนียนขึ้น กลมกลืนไปกับกิจกรรมอื่นๆ ที่พวกเขาทำร่วมกัน

หลังจากเสร็จกิจ พวกเขาก็จะแยกย้ายกันไปข้างล่าง พร้อมกับเรื่องราวตลกๆ ใหม่ๆ ที่ได้จากการ "ทำกิจกรรมรอบควยแซม"

เจค: มึงจำหน้าไอ้แมทธิวตอนโดนลงโทษให้อมนานขึ้นได้ป่าววะ? แม่งทำหน้าเหมือนกำลังทรมาน! (หัวเราะ)

คาร์ล: เออๆ แล้วตอนที่อีธานเสียสมาธิเล่นเกม เพราะสายตามันไปโฟกัสผิดจุดน่ะ! โคตรฮา!

เสียงหัวเราะของพวกเขาดังลั่นห้องนั่งเล่นชั้นล่าง... "วงล้อมหรรษา" ได้พัฒนาไปอีกขั้น... กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและความบันเทิงของกลุ่มเพื่อนทั้งห้าไปแล้ว... โดยมีแซมเป็นศูนย์กลางแห่งความสุขและความขบขันอย่างไม่ตั้งใจ...

ลำกายที่แข็งขันของแซมกลายเป็นเหมือน "เสาหลัก" หรือส่วนหนึ่งของสนามเล่นเกมไปโดยปริยาย

มือของแต่ละคนเคลื่อนไหวไปมา วางไพ่ ทอยลูกเต๋า หรือขยับตัวหมากบนร่างกายของแซมอย่างไม่ตั้งใจนัก และแน่นอนว่าระหว่างนั้น มือก็อาจจะเผลอไปสัมผัสกับลำกายที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางบ้าง

เจค: วางไพ่ใบนี้ตรงไหนดีวะ? ตรงนี้ใกล้ๆ... เอ่อ... เสาโทเท็มของแซมเลยละกัน (หัวเราะเบาๆ)

คาร์ล: ทอยลูกเต๋าแล้ว! แต้มออก... ตรงนั้นพอดี! (ชี้ไปที่บริเวณโคนลำกายแซม)

แมทธิว: ตาฉันแล้ว... ขยับตัวหมาก... อ๊ะ! โดน... เข้าให้แล้ว! (มือไปโดนส่วนปลายของแซม) ขอโทษทีๆ

อีธาน: ไม่เป็นไรๆ เกมมันส์ๆ ก็งี้แหละ ต้องมีสมาธิหน่อย (แต่สายตาก็เหลือบมอง)

แซมนอนหัวเราะคิกคัก มองดูเพื่อนๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานบนร่างกายของเขาเอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความขี้เล่นและเสียงหัวเราะ

การเล่นเกมบนร่างกายของแซมยิ่งเพิ่มระดับความตลกและความแปลกประหลาดให้กับ "วงล้อมหรรษา" ของพวกเขาไปอีกขั้น เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นมุกตลกใหม่ๆ ที่พวกเขาจะนำไปเล่าและขำกันต่อข้างล่าง

เจค: พวกมึงจำตอนที่กูวางไพ่แล้วมือไปโดน... ของแซมป่าววะ? หน้ากูตอนนั้นอย่างเหวอ!

คาร์ล: เออๆ แล้วตอนที่ลูกเต๋าอีธานไปตกตรงนั้นพอดี! แม่งโคตรบังเอิญ!

เสียงหัวเราะยังคงก้องกังวาน... ความสนุกสนานและความสนิทสนมของพวกเขาได้พัฒนาไปสู่ระดับที่คาดไม่ถึงแล้ว... โดยมีแซมเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง

ความ "ปกติ" ท่ามกลางความไม่ธรรมดาได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ไปแล้ว

หลังจากที่ทุกคนได้รุมปรนนิบัติแซมจนพอใจแล้ว พวกเขาก็จะเริ่มกิจกรรมต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อครู่

บ่อยครั้งที่พวกเขาจะนำอาหารว่าง เช่น พิซซ่า เฟรนช์ฟราย หรือขนมขบเคี้ยวต่างๆ มาวางไว้บนบริเวณหน้าท้องและหัวหน่าวของแซม ล้อมรอบลำกายที่ยังคงตั้งแข็งอยู่ตรงกลาง

แต่ละคนก็จะหยิบอาหารเหล่านั้นมากินไป คุยกันไป ราวกับว่าแท่งเนื้อตรงหน้านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งห้องชิ้นหนึ่ง

เจค: พิซซ่าอร่อยดีว่ะ มึงลองชิมดิ แซม (ยื่นชิ้นพิซซ่าข้ามลำกายแซมไป)

คาร์ล: เฟรนช์ฟรายร้อนๆ เพิ่งทอดเสร็จเลย (จิ้มเฟรนช์ฟรายจุ่มซอสมะเขือเทศ แล้วกินอย่างสบายใจ โดยไม่ได้สนใจสิ่งตรงหน้ามากนัก)

แมทธิว: ว่าแต่เมื่อคืนบอลคู่ลิเวอร์พูลเป็นไงวะ? กูหลับก่อน

อีธาน: แพ้เละเลยมึง... (สายตาเหลือบมองลำกายแซมแล้วรีบเบือนหน้าหนี กลั้นหัวเราะ)

แซมนอนอยู่ตรงกลางวง มองดูเพื่อนๆ กินและคุยกันอย่างผ่อนคลาย บางครั้งเขาก็ร่วมวงสนทนาด้วย

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเองและเสียงหัวเราะเบาๆ ที่แฝงไปด้วยความขบขันจากสถานการณ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง

การกินอาหารบนร่างกายของแซม โดยมีลำกายของเขาเป็นเหมือน "โต๊ะ" กลายเป็นการกระทำที่ดูเหมือนจะปกติสำหรับพวกเขาไปแล้ว แต่ในใจของเจค คาร์ล แมทธิว และอีธาน ก็ยังคงมีความรู้สึกขำขันที่ต้องพยายามกลั้นเอาไว้

เมื่อลงไปข้างล่าง พวกเขาก็คงอดไม่ได้ที่จะระเบิดหัวเราะให้กับภาพที่พวกเขาเพิ่งประสบมาอีกครั้ง... ความสนุกสนานและความสนิทสนมของพวกเขาได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของความธรรมดาไปแล้ว... โดยมีแซมเป็นศูนย์กลางของความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดนี้...

หลังจากที่ทั้งห้าคนเพิ่งเสร็จสิ้น "วงล้อมหรรษา" พวกเขาก็ลงมานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง โดยที่แซมขึ้นไปพักผ่อนแล้ว

แมทธิว: พวกมึง... กูถามจริงๆ จังๆ เลยนะ ไอ้แซมนี่มันเป็นใครวะ? ทำไมถึงมาอยู่ในบ้านไอ้บิลลี่ได้ แล้วสุดท้ายพวกเราทุกคนก็ไปอมควยมัน แล้วก็นั่งล้อมวงคุยกันฮาๆ มันโคตรประหลาดเลยว่ะ

อีธาน: เออ! กูด้วย! ตั้งแต่แรกเลยนะ เวลามันมาอยู่ที่นี่ มันเป็นมายังไง?

เจคหันไปมองบิลลี่ ก่อนจะเริ่มเล่า

เจค: เรื่องมันเริ่มจากที่ไอ้บิลลี่กับแซม... หนีออกมาจาก UFO ที่ลักพาตัวพวกเขาไปในอวกาศ

คาร์ล: ใช่! แล้วไอ้แซมมันชอบไอ้บิลลี่ ก็เลยขอมาอยู่ด้วย แล้วมันก็จ้างไอ้บิลลี่อมควยมันรายเดือน

แมทธิว: หา? จ้างอมควยรายเดือนเลยเหรอวะ?

อีธาน: แล้วไอ้เรื่องล้อมวงคุยกันรอบควยมันนี่มันอะไรวะ? ทำไมพวกมึงถึงทำกัน?

บิลลี่หัวเราะเบาๆ

บิลลี่: ก็ไม่รู้เหมือนกันเว้ย พวกมันเริ่มกันเอง กูแค่ตามน้ำ

เจคจึงอธิบายเพิ่ม

เจค: แต่มันมีอะไรที่พวกมึงต้องรู้... ไอ้แซมเนี่ย... ชาติก่อนมันเป็นเจ้าชายเอเลี่ยน

คาร์ล: แถมเป็นเจ้าของโลกใบนี้ด้วย! มันส่งมรดกให้ตัวเองถึงชาติหน้า

แมทธิวและอีธานเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

แมทธิว: ไอ้เหี้ย! เรื่องจริงดิเนี่ย?

อีธาน: เจ้าชายเอเลี่ยน... เจ้าของโลก... แล้วไอ้ตอนที่พวกมึงบอกว่ามีคนคอยดูแลพวกเราลับๆ ล่ะ? นั่นมันอะไร?

เจคเป็นคนตอบ

เจค: อ๋อ... ตอนนั้นแซมมันเรียกไอ้... คาเอล มั้ง? เอเลี่ยนอีกตัวมา แล้วบอกให้มันสั่งกองกำลัง Star Force คุ้มครองพวกเรา

คาร์ล: ใช่! แซมบอกว่าเป็นกองทัพของมันเองจากชาติก่อน!

เพื่อย้ำความเหลือเชื่อ คาร์ลหยิบขวด Regenex ขึ้นมา

คาร์ล: แล้วนี่! ยาของเอเลี่ยน! พี่สาวที่เป็นเจ้าหญิงของมันให้มา กินแล้วไม่แก่! พวกกูได้มาลองแล้วด้วย

แมทธิวและอีธานมองขวด Regenex สลับกับเจค คาร์ล และบิลลี่ด้วยความตะลึง

แมทธิว: สรุปคือ... พวกเราเพิ่งไปอมควยเจ้าชายเอเลี่ยนที่เป็นเจ้าของโลก ที่จ้างไอ้บิลลี่อมรายเดือน จ้างพวกมึงอมรายครั้ง... แล้วพวกมันก็มีกองทัพเอเลี่ยนส่วนตัวคอยคุ้มครองพวกเรา แถมยังมีพี่สาวเป็นเจ้าหญิงให้ยากินแล้วไม่แก่อีกงี้เหรอวะ?

เจค คาร์ล และบิลลี่พยักหน้าพร้อมกัน

เจค: เออ! ประมาณนั้นแหละ! โคตรพิลึก!

คาร์ล: ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตพวกเรา!

บิลลี่: ชินไปเองแหละน่า!

แมทธิวและอีธานเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

อีธาน: ไอ้เหี้ยเอ๊ย! นี่มันหนังไซไฟชัดๆ!

แมทธิว: แล้วไอ้ล้อมวงคุยกันรอบควยนี่... มันฮาขนาดนั้นเลยเหรอวะ?

เจคและคาร์ลยิ้มกริ่ม

เจค: เออ! โคตรฮา!

คาร์ล: คราวหน้ามาแจมกันอีกนะ! โคตรบันเทิง!

แมทธิวและอีธานมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกัน

แมทธิว: ไปดิ! พลาดได้ไงวะเรื่องแบบนี้!

อีธาน: เออ! ไปขำกันต่อ!

แมทธิว: ไอ้เหี้ย... เรื่องมันพีคขึ้นเรื่อยๆ เลยว่ะ! มีอะไรที่พวกกูยังไม่รู้อีกไหมเนี่ย?

อีธาน: เออ! เล่ามาให้หมดเปลือกเลย พวกมึงเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่มานานแค่ไหนแล้ววะ?

เจคยิ้มกริ่ม

เจค: ยังมีอีกเยอะ! พวกมึงจำตอนที่พวกเราหายตัวไปสองสามวันก่อนได้ป่าววะ?

แมทธิว: เออๆ ที่พวกกูงงๆ ว่าหายไปไหนมาน่ะ?

คาร์ล: พี่สาวแซมมารับพวกเราไปดาวของเธอมาแล้วเว้ย!

แมทธิวและอีธานเบิกตากว้างอีกครั้ง

อีธาน: หา?! ดาวของเธอ?! จริงดิ?

บิลลี่: จริงแท้แน่นอน! พาไปเที่ยววังสุดหรูเลย มึงเอ๊ย! อลังการงานสร้างกว่าหนังไซไฟที่พวกเราเคยดูอีก!

แมทธิว: แล้วพี่สาวแซมเป็นไงวะ?

เจค: โคตรรวย! รวยแบบ... เอาเงินทั้งโลกมารวมกันยังสู้ไม่ได้เลยมั้ง! วังเขาสวยชิบหาย! พื้นปูด้วยทองคำอ่ะคิดดู!

คาร์ล: แล้วเขายังให้ยา Regenex พวกนี้มาด้วยไง!

อีธานหยิบขวดยา Regenex ขึ้นมามองอย่างพิจารณา

อีธาน: นี่มัน... โคตรเหนือจินตนาการ! ชีวิตพวกเราแม่งเปลี่ยนไปเยอะเลยว่ะ ตั้งแต่รู้จักไอ้แซม

บิลลี่: ก็เออน่ะสิ! มีเพื่อนเป็นถึงเจ้าชายต่างดาว เจ้าของโลก แถมยังมีพี่สาวรวยล้นฟ้า ใครจะไปคิด!

แมทธิว: แล้วพวกมึงไม่กลัวบ้างเหรอวะ? เรื่องเอเลี่ยน เรื่องอะไรพวกนี้

เจค: ตอนแรกก็มีบ้างแหละ แต่แซมมันก็เพื่อนพวกกูไง แล้วพี่สาวเขาก็ดูใจดี

คาร์ล: แถมยังมียาอมตะให้กินอีก ใครจะกลัววะ! (หัวเราะ)

อีธาน: เออ นั่นก็จริง! แล้วไอ้เรื่องล้อมวงคุยกันรอบควยแซมนี่... มันเริ่มมาได้ยังไงวะ?

บิลลี่ยิ้มขำๆ

บิลลี่: ก็ไม่รู้เหมือนกันเว้ย อยู่ๆ พวกมันก็เริ่มทำกันเอง กูยังงงๆ อยู่เลย

เจค: มันฮาไง! ลองดูดิ! คุยเรื่องซีเรียสๆ กับเรื่องตลกโปกฮารอบไอ้นั่นน่ะ! มันเป็นอะไรที่... อธิบายไม่ถูก!

คาร์ล: ต้องสัมผัสเองถึงจะเข้าใจ!

แมทธิวและอีธานมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา

อีธาน: เออ! ชีวิตนี้มันต้องมีอะไรแบบนี้บ้าง!

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปถึงเรื่องราวสุดประหลาดที่พวกเขาได้พบเจอ พร้อมกับเสียงหัวเราะและความสนิทสนมที่เพิ่มมากขึ้น... เรื่องราวของแซมได้เปิดโลกทัศน์ของพวกเขาไปไกลเกินกว่าที่เคยจินตนาการไว้...

เช้าวันต่อมา บรรยากาศในห้องนอนของแซมกลับมาคึกคักอีกครั้ง บิลลี่ เจค คาร์ล แมทธิว และอีธาน มารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตา

โดยไม่ต้องมีใครเอ่ยปาก ทุกคนก็รู้ถึง "ธรรมเนียมปฏิบัติ" ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา แซมนอนเหยียดกายอยู่บนเตียงอย่างสบายๆ รอคอยการปรนนิบัติจากเพื่อนๆ

วันนี้ พวกเขาตัดสินใจที่จะลองเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า "ห้าประสาน"

บิลลี่เริ่มจากด้านบน ครอบครองส่วนปลายของลำกายแซมด้วยริมฝีปากร้อนชื้น เจคและคาร์ลประกบข้าง ซ้ายและขวา เลียและดูดดึงบริเวณกลางลำกายอย่างพร้อมเพรียง ส่วนแมทธิวและอีธานก็ดูแลส่วนโคนและอัณฑะ สร้างความรู้สึกหน่วงและเร้าใจ

สัมผัสจากห้าริมฝีปากและลิ้นที่แตกต่างกัน ประสานกันอย่างลงตัว สร้างความรู้สึกแปลกใหม่และรุนแรงให้กับแซม เขาครางต่ำๆ ในลำคอ ปล่อยให้ความเสียวซ่านถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง

สายตาของแต่ละคนจับจ้องอยู่ที่แซม บ้างก็มองด้วยความตั้งใจ บ้างก็แฝงไปด้วยรอยยิ้มขบขันเล็กน้อย

เมื่อแซมใกล้จะถึงจุดสุดยอด เสียงครางของเขาก็ดังถี่ขึ้น ร่างกายเริ่มเกร็งเล็กน้อย และในที่สุด เขาก็ปลดปล่อยออกมา ท่ามกลางการปรนนิบัติอย่างพร้อมเพรียงของเพื่อนทั้งห้า

น้ำกามพุ่งกระฉูดออกมา สัมผัสริมฝีปากของทุกคนที่กำลังโอบอุ้มลำกายของเขาอยู่

หลังจากเสร็จกิจ แซมนอนหอบอยู่บนเตียง รู้สึกอ่อนแรงแต่ก็พึงพอใจอย่างยิ่ง เพื่อนๆ มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา

เจค: แม่งเอ๊ย! ห้าประสานนี่มันสุดยอดว่ะ!

คาร์ล: เออ! รู้สึกเหมือนโดนรุมเร้าจากทุกทิศทาง!

แมทธิว: โคตรเสียว! ต้องมีอีกรอบ!

อีธาน: กูว่าเทคนิคนี้ผ่านว่ะ!

บิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย

บิลลี่: รอบหน้าเอาอีกนะ แซม?

แซมยิ้มอย่างมีความสุข

แซม: ตามสบายพวกนายเลย...

แล้ววงล้อมห้าประสานก็คลี่คลายลง ทุกคนกลับมานั่งล้อมวงคุยกันตามปกติ รอบลำกายที่ยังคงตื่นตัวเล็กน้อยของแซม... พร้อมเสียงหัวเราะและเรื่องราวต่างๆ ที่จะแบ่งปันกัน...

บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง มักจะนำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้น

หลังจากที่ทุกคนได้พักผ่อนและพูดคุยกันไปได้สักพัก แซมก็รู้สึกถึงความต้องการที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขามองหน้าเพื่อนๆ ด้วยแววตาที่สื่อความหมาย

แซม: พวกนาย... ผมรู้สึก... อีกแล้วน่ะ

เพื่อนทั้งสี่คนมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาอย่างรู้กัน

เจค: เอาอีกแล้วเหรอวะ แซม? มึงนี่มันสุดยอดจริงๆ!

คาร์ล: จัดไปเพื่อน! พวกเราพร้อมเสมอ!

แมทธิว: ห้าประสานอีกรอบเลยไหม? เมื่อกี้มันส์ดี!

อีธาน: กูด้วย! ชอบเทคนิคนั้น!

บิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย

บิลลี่: ตามใจมึงเลย แซม

แล้วการปรนนิบัติรอบสองก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนคุ้นเคยกับเทคนิค "ห้าประสาน" มากขึ้น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากและลิ้นจึงไหลลื่นและพร้อมเพรียงยิ่งกว่าเดิม

แซมครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้น ร่างกายของเขาตอบสนองต่อสัมผัสจากเพื่อนทั้งห้าอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยเสียงครางต่ำๆ และเสียงลมหายใจถี่กระชั้น ความต้องการของทุกคนถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน

และในที่สุด แซมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนทั้งห้าที่ตั้งใจปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่

หลังจากที่แซมปลดปล่อยความสุขออกมาอีกครั้ง ทั้งห้าคนก็กลับมาล้อมวงคุยกันตามปกติ บรรยากาศผ่อนคลายและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

เจค: แม่งเอ๊ย! สองรอบติดเลยนะมึงวันนี้ แซม! สุดยอดจริงๆ!

คาร์ล: เออ! ว่าแต่มึงรู้สึกยังไงวะ ตอนที่รู้ว่าชาติก่อนเป็นเจ้าชายเอเลี่ยนน่ะ? มันแปลกๆ ป่ะ?

แซมนอนยิ้มอยู่ตรงกลางวง

แซม: ก็แปลกๆ ดีนะ เหมือนฝันซ้อนฝัน แต่ก็รู้สึก... คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

แมทธิว: แล้วเรื่องเป็นเจ้าของโลกนี่มันยังไงวะ? หมายความว่าไง? มึงสั่งอะไรก็ได้เลยเหรอ?

อีธาน: เออ แล้วรวยขนาดไหนวะ? ได้โลกเป็นมรดกนี่... มันต้องเยอะมากๆ เลยใช่ไหม?

แซมคิดอยู่ครู่หนึ่ง

แซม: เรื่องเป็นเจ้าของโลก... มันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะเลย มันเป็นเหมือนสิทธิ์ทางสายเลือดมากกว่าอำนาจที่จะสั่งการทุกอย่างได้ตามใจชอบ แต่ก็มีอภิสิทธิ์หลายอย่าง

บิลลี่: แล้วเรื่องความรวยล่ะ? รวยกว่าบิล เกตส์ไหม?

แซมหัวเราะเบาๆ

แซม: ถ้าเทียบกันแล้ว... อาจจะมากกว่าหลายเท่ามากๆ ครับ ทรัพย์สินของราชวงศ์ Abrasax มันสะสมมานานนับพันๆ ปี ครอบคลุมหลายดาวเคราะห์... แค่ดาวของพี่ Kalique ก็รวยกว่าโลกทั้งใบแล้วมั้งครับ

ทุกคนถึงกับร้อง "ว้าว" ออกมาพร้อมกัน

เจค: ไอ้เหี้ย! รวยฉิบหาย! นี่พวกกูกำลังคุยอยู่กับมหาเศรษฐีจักรวาลเลยเหรอวะเนี่ย?

คาร์ล: แล้วมึงไม่คิดจะใช้เงินทำอะไรเจ๋งๆ บ้างเหรอ แซม? ซื้อเกาะส่วนตัว หรือยานอวกาศเท่ๆ อะไรแบบนั้นน่ะ?

แซมยิ้ม

แซม: ก็อาจจะมีคิดๆ ไว้บ้างครับ แต่ตอนนี้ผมก็มีความสุขดีกับพวกคุณแล้วนี่นา

แมทธิว: โคตรเจ๋ง! มีเพื่อนเป็นเจ้าของโลกแถมรวยล้นฟ้า! ชีวิตพวกเรานี่มัน... สุดจริงๆ!

อีธาน: แล้ว Star Force นี่... เขามีหน้าที่อะไรบ้างวะ? คอยดูแลพวกเราจริงๆ เหรอ?

แซมพยักหน้า

แซม: ครับ พวกเขาคอยดูแลความปลอดภัยให้พวกเราจากระยะไกล ถ้ามีอะไรผิดปกติ พวกเขาจะเข้ามาช่วยเหลือ

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนฝูงและความสนิทสนม... เรื่องราวของแซมยังคงสร้างความประหลาดใจและความตื่นเต้นให้กับทุกคนอยู่เสมอ...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
ทาทา ยัง
Guest

28. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #27
 
18-May-25, 06:17 AM (SE Asia Standard Time)
 
   เจค: แล้วมึงมีพี่น้องแค่พี่สาวคนเดียวเหรอ แซม?

แซม: อ๋อ ผมมีพี่ชายอีกคนด้วย ชื่อบาเลม แต่ผมยังไม่เคยเจอเขาในชาตินี้เลย

คาร์ล: แล้วพี่ชายมึงเป็นไงวะ? รวยเท่าพี่สาวมึงป่าว?

แซม: รวยกว่าเยอะเลยครับ พี่บาเลมเป็นผู้นำของตระกูลต่อจากแม่ผม... หลังจากที่ท่านเสียไป

แมทธิว: เออ จริงสิ! พวกมึงบอกว่าราชวงศ์มียาอมตะไม่ใช่เหรอวะ? แล้วทำไมราชินีถึงตายได้ล่ะ?

อีธานพยักหน้าเห็นด้วย

อีธาน: นั่นดิ กูสงสัยมานานแล้ว

แซมเงียบไปครู่หนึ่ง

แซม: เรื่องนี้... ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ความทรงจำผมมันยังไม่ชัดเจนทั้งหมด บางทีมันอาจจะมีเงื่อนไขบางอย่าง หรือ... ผมก็ไม่รู้จริงๆ ครับ

บิลลี่ตบบ่าแซมเบาๆ

บิลลี่: ไม่เป็นไรหรอก แซม เรื่องมันซับซ้อนจะตายไป ค่อยๆ คิดไปก็ได้

เจคพยักหน้า

เจค: เออ แค่นี้พวกกูก็ทึ่งจะตายอยู่แล้ว เรื่องยาอมตะนี่มัน... โคตรล้ำ!

พวกเขานั่งเงียบกันไปครู่หนึ่ง คิดทบทวนถึงเรื่องราวที่ได้รับรู้มา ความยิ่งใหญ่ของจักรวาลและความลับของราชวงศ์เอเลี่ยนยังคงเป็นสิ่งที่น่าพิศวงสำหรับพวกเขา

แมทธิว: ว่าแต่... แล้วพวกเราสองคนจะได้ยาอมตะนั่นบ้างไหมวะ แซม? ไม่อยากแก่เลยว่ะ กลัวเดินไม่ไหว

อีธาน: เออใช่! ขอกินด้วยคนนะ แซม

แซมยิ้มให้กับเพื่อนใหม่ทั้งสอง

แซม: ได้สิครับ ไม่มีปัญหา

แซมยกมือขึ้น กดอุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็กที่ดูแปลกตาบนข้อมือ ทันใดนั้นเอง แสงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา และร่างของคาเอลก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถือขวดยา Regenex เพิ่มอีกสองขวด

คาเอล: ท่านแซม มีอะไรให้ข้าบริการ?

แมทธิวและอีธานถึงกับเบิกตากว้าง มองคาเอลด้วยความตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาไม่เคยเห็นเอเลี่ยนตัวเป็นๆ มาก่อนเลย

แมทธิว: ไอ้เหี้ย! นั่น... เอเลี่ยนจริงๆ เหรอวะ?!

อีธาน: โคตร... เหลือเชื่อ!

แซมยิ้มให้กับท่าทีตกใจของเพื่อน

แซม: นี่คือคาเอลครับ เขาเป็น... คนสนิทของผม คาเอล นี่แมทธิวกับอีธาน พวกเขาเป็นเพื่อนใหม่ของผม

คาเอล: ยินดีที่ได้รู้จักท่านทั้งสอง

แซมหันไปสั่งคาเอล

แซม: คาเอล ช่วยนำ Regenex มาให้เพื่อนผมสองคนนี้ด้วย แล้วก็ช่วยสั่ง Star Force เพิ่มการคุ้มครองให้พวกเขาด้วย พวกเขาเป็นเพื่อนใหม่ของผม นอกเหนือจากบิลลี่ เจค และคาร์ล

คาเอล: รับทราบ ท่านแซม

คาเอลยื่นขวดยา Regenex ให้กับแมทธิวและอีธาน

คาเอล: ด้วยความยินดี

แมทธิวและอีธานรับขวดยามาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย มองยาแล้วมองหน้าคาเอลด้วยความงุนงงปนตื่นเต้น

แมทธิว: นี่มัน... เรื่องจริงใช่ไหมวะเนี่ย?

อีธาน: พวกเรา... ได้ยาอมตะจากเอเลี่ยน... แล้วยังได้รับการคุ้มครองจากกองทัพเอเลี่ยนอีกด้วยเหรอวะ?

เจคและคาร์ลหัวเราะออกมา

เจค: ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตพวกเราอย่างเป็นทางการ!

คาร์ล: ต่อไปนี้พวกมึงก็พวกเดียวกันแล้ว!

แซมยิ้มให้กับเพื่อนทั้งห้าคน

แซม: ดีใจที่พวกเราได้รู้จักกันมากขึ้นนะครับ

บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความเหลือเชื่อ การปรากฏตัวของคาเอลได้ตอกย้ำถึงความพิเศษและเหนือธรรมดาของแซมอย่างชัดเจน... และมิตรภาพของพวกเขาก็กำลังขยายวงกว้างออกไป...

แมทธิว: แต่กูก็ยังสงสัยอยู่นะเว้ย... ทำไมมึงถึงมาอยู่ที่นี่วะ แซม? รวยขนาดนั้น จะไปอยู่ปราสาทหรูๆ ที่ไหนก็ได้ ทำไมถึงมาโผล่บ้านนอก เอากับพวกเราที่เป็นแค่หนุ่มบ้านๆ... จนตอนนี้มานั่งล้อมวงคุยกันรอบ... กะดอมึงอยู่นี่ (แมทธิวพูดพลางเหลือบมองต่ำ มีบางคนในกลุ่มแอบขำและพยายามกลั้นหัวเราะ)

อีธานพยักหน้าเห็นด้วย

อีธาน: เออ จริงของมัน ทำไมวะ แซม?

แซมยิ้มบางๆ มองหน้าเพื่อนทีละคน

แซม: ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน... บางทีมันก็เป็นเรื่องของความรู้สึก... ผมชอบ... แบบพวกคุณน่ะครับ

เจค: แบบพวกกู? แบบไหนวะ? เถื่อนๆ เซ่อๆ เรดเน็คอเมริกันเนี่ยนะ? (หัวเราะ)

แซม: ครับ... ผมชอบแบบ... เรดเน็คที่หล่อๆ อย่างพวกคุณนี่แหละ

บิลลี่นอนอยู่ตรงหว่างขาแซมยิ้มกว้างออกมา

บิลลี่: เห็นมั้ยล่ะ! กูบอกแล้ว!

คาร์ลหัวเราะออกมา

คาร์ล: ไอ้เหี้ย! คำตอบโคตรจริงใจ!

แมทธิว: นี่มึงชอบพวกเราจริงๆ เหรอวะเนี่ย?

อีธาน: ไม่ได้โม้ใช่ไหม?

แซมสบตากับแมทธิวและอีธานอย่างจริงจัง

แซม: ครับ ผมชอบพวกคุณที่เป็นแบบที่คุณเป็น

บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ปนกับความขบขันและความประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครที่มีฐานะร่ำรวยและเป็นถึงเจ้าชายต่างดาวจะมาชอบคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขา

เจค: โคตรเหลือเชื่อ! นี่พวกกูกำลังเป็นที่หมายปองของเจ้าชายเอเลี่ยนเลยเหรอวะเนี่ย?

คาร์ล: สงสัยรสนิยมเจ้าชายเขาจะแปลกแหวกแนว! (หัวเราะ)

แซมยิ้มให้กับคำแซวของเพื่อนๆ

แซม: บางที... ความธรรมดามันก็มีเสน่ห์ในแบบของมันนะครับ

แล้ววงล้อมก็กลับมาสู่การพูดคุยเฮฮาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แฝงไปด้วยความรู้สึกพิเศษที่เพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งห้าคนได้ก้าวไปอีกขั้น... เหนือกว่าเรื่องของเงินทอง ฐานะ หรือแม้แต่ความเป็นมนุษย์และเอเลี่ยน... มันคือความรู้สึกที่แท้จริงที่มีให้กัน...

แซม: เอาล่ะ... ไหนๆ ก็คุยกันถูกคอแล้ว... มาต่อกันเลยไหม?

แซมมองหน้าเพื่อนทั้งสี่ด้วยรอยยิ้มทะเล้น

แมทธิว: (เลียนเสียงทุ้มต่ำคล้ายคาเอล) รับทราบครับ... ท่านเจ้าชาย

คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในห้อง

เจค: ไอ้เหี้ยแมทธิว! เลียนแบบได้เป๊ะมาก!

คาร์ล: แม่งเอ๊ย! ขำจนท้องแข็ง!

อีธานก็หัวเราะออกมาเช่นกัน บรรยากาศกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง

บิลลี่: โอเคๆ จัดไป! ท่านเจ้าชายบัญชามาแล้ว!

แล้วการปรนนิบัติรอบใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น ริมฝีปากทั้งห้าคู่กลับมาโอบอุ้มลำกายของแซมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แฝงไปด้วยความสนิทสนมและเสียงหัวเราะคิกคัก

แมทธิวพยายามเลียนเสียงคาเอลเป็นระยะๆ ระหว่างอม สร้างความขบขันให้กับเพื่อนๆ

แมทธิว: (เสียงทุ้ม) ข้าจะปรนนิบัติท่าน... อย่างสุดความสามารถ... ท่านแซม

แซมเองก็หัวเราะออกมากับท่าทางของแมทธิว ความตึงเครียดและความแปลกใหม่ในตอนแรกได้แปรเปลี่ยนเป็นความสนุกสนานและความเป็นกันเองอย่างเต็มที่

ความรู้สึกเสียวซ่านค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะและสัมผัสที่คุ้นเคย... วงล้อมหรรษาได้ดำเนินต่อไป... พร้อมกับมิตรภาพที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ...


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top
.
Guest

30. "RE: มีใครว่าหนุ่ม red neck ในบ้านนอกตอนใต้ของอเมริกา ก็ดูร้อนแรงดีนะ"
In response to message #28
 
18-May-25, 08:35 AM (SE Asia Standard Time)
 
   จากนั้น แซม ก็ถูกรุมซ้อมตีจนตาย และโดนตัดหีแท่ง แขวนตากแห้งไว้ ลงข่าวหน้าหนึ่ง
ในทุกช่องทาง อันเนื่องจากตอแหล แพร่เชื้อเพศสัมพันธ์ุ และส่ำส่อน ส่วนอีคน มโนแต่ง
ก็นอนติดเตียง


  Alert แจ้งลบข้อความนี้ | IP | boyplaza.net Gay Movies หนังใหม่อัพเดททุกวัน เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น โหลดได้ไม่จำกัด 3 วัน Printer-friendly page | Edit | Reply | Reply With Quote | Top

Conferences | Topics | Previous Topic | Next Topic

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.


 free counters