เวลาพูดว่าส่วนกลาง อาจจะต้องดูบริบทด้วยว่าใครเป็นคนพูด คนเหนือ คนอีสาน อาจจะมองว่าส่วนกลาง แต่คนใต้เขาไม่ได้มองว่าส่วนกลาง เขามองว่ามันคือประเทศเขา และจิตสำนึกแบบนี้ มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาโน้น

เพราะการร่วมกัน ของอณาจักรนครศรีธรรมราช กับกรุงศรีอยุธยา รากฐานมัน deep มันฝังรากลึกมาก ตั้งแต่ที่ยังไม่มีประเทศสยาม หรือ ไทย ด้วยซ้ำ

กล่าวคือ อณาจักรนครศรีธรรมราข เขารวมกับอยุธยาเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว คิดดูเขารวมกันตั้งแต่อยุธยาโน้น กี่ร้อยปีมาแล้วล่ะ

สมัยอยุธยา รบกับ อาณาจักรปัตานี ก็ยังส่งทหารมาประจำการที่หัวเมืองใต้ ซึ่งก็คือนครศรีธรรมราช

พูดให้เข้าใจง่ายๆนะ อณาจักรอยุธยาและนครศรีธรรมราช เป็นประเทศเดียวกัน ก่อนจะมีสยามเกิดขึ้น ตั้งแต่ยังไม่มีประเทศไทยเลย

ขนาดอยุธยาล่มสลาย เข้าสู่สมัยธนบุรี พอจะฟื้นฟูอณาจักรกลับมา เขาก็ยังไปเอาศาสนาพุทธจากนครศรีธรรมราช ขึ้นมาฟื้นฟูศาสนาพุทธที่กรุงธน / กรุงเทพ เลย

มันไม่เหมือนกับ หัวเมืองทางเหนือ พวกล้านนา หรือทางอีสาน ที่เพิ่งมารวมกันเอายุคสมัยหลังมาแล้ว ตอนนั้นเป็นโลกยุคสมัยใหม่แล้ว ล้านนา และ อีสาน เพิ่งเข้ามารวม ได้จริงๆ ในตอนนั้นก็เป็นประเทศสยามแล้ว สมัย ร.5 นี่เอง

มองจากคนล้านนา คนอีสาน ก็อาจจะใช้คำว่าส่วนกลาง เพราะพวกเธอมีสำนึกความเป็นชาติ เพิ่งถูกรวมได้ไม่นาน แต่ภาคใต้เขาไม่ได้มีสำนึกคิดแบบนั้น เพราะสำหรับพื้นที่คนเหนือ หรือ คนอีสาน เรียกว่าส่วนกลาง แต่ในวัฒนธรรมคนใต้ นั่นมันคือประเทศเขาไง

สำหรับคนเหนือ คนล้านนา เชียงใหม่ อาจจะเป็นเมืองเชียงใหม่

แต่คนใต้ คนอณาจักรนครศรีธรรมราช กรุงเทพ คือเมืองหลวงเขา

เข้าใจเนาะ

แต่คนใต้ คนอณาจักรนครศรีธรรมราช กรุงเทพ คือเมืองหลวงเขา

เข้าใจเนาะ

พูดเองคิดเองเออเองแทนคนใต้ อีคลั่งชาติ

นครศรียังไงก็เป็นศูนย์กลางใต้แต่อดีต

กูเคยมีเพื่อนแนวคลั่งชาติแบบนี้ แหล่ะ ที่แต่เดิมก็คิดว่าพื้นเดิมคงเป็นสลิ่ม แต่กลายมาเป็นเกลียดสลิ่ม แต่พื้นความคิดคลั่งชาติมันก็ยังไม่หายไป คนพวกนี้มันพูดอะไรออกมาก็เห็นลิ้นไก่ เช่นมันพูดเหมือนรู้สึกดีใจที่ลูกคนเชื้อสายเขมรที่อพยพมาทำงานอยู่ในภาคตะวันออกของไทย แต่รุ่นลูกมันกลับพูดเขมรไม่ได้แล้ว พูดแต่ภาษาไทย เรียนภาษาไทยเพราะต้องการเป็นคนเหมือนคนไทย

ดิ้นต่อเยอะๆ ค่ะ ดิ๊นอีกๆๆๆ

คิดเอาเองใช่ไหมคะ ถามคนเหนือจริงๆก่อนมั้ย

แอ๋วมาเดินตามฝันค่ะ

ไม่ได้หมายถึงแค่คนเหนือยุคนี้ หมายถึงคนสมัยล้านนาด้วยค่ะ

ถ้าไม่โง่ ไม่เข้าใจบริบท การเปรียบเทียบ ก็อ่านให้ดี ว่ากูก็ยกไปเทียบกับ อณาจักรนครศรีธรรมราชด้วยนะคะ ถ้าไม่โง่ น่าจะเข้าใจบริบทนะคะ ว่าไม่ได้พูดถึงแค่ยุคนี้

แล้วมึงคนเดียว ก็ไม่ได้เท่ากับ คนเหนือทั้งภาคค่ะ

กูคุยกับคนเหนือ ปัญญาชนในเชียงใหม่หลายคน เขาก็ยังมีสำนึกความเป็นชาติล้านนาอยู่ก็มีเยอะ

ไม่งั้น มันไม่มีแนวคิดความเป็นส่วนกลาง หลงเหลืออยู่ในนักคิด ปัญญาชนในภาคเหนือหรอกค่ะ

คนเหนือสันดารเหี้ยสัตว์นรกทุกตัวค่ะ

เป็นกำลังใจให้ป้าแอ๋วและเห็นด้วยค่ะ (ตัดอคติเรื่องทัศนคติเรื่องการเมืองไปก่อน)

เพราะสิ่งที่เชียงใหม่ทำกับดินแดนล้านนา ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่สยามทำกับล้านนา การขูดรีดเข้าสู่ศูนย์กลางเพื่อให้ตัวเองเจริญที่สุด แล้วมาด้อยค่าคนอื่นทั้งที่ขโมยทรัพยากรคนอื่น ต่างยังไงคะ

แถมยุยงให้คนอื่นไปตาย แบบแพร่ หรือกดหัวเจ้านครคนอื่น จนมีเอกสารแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจ แบบนี้จะอ้าปากบอกตนเป็นเมืองหลวงเมืองศิวิไลซ์ได้หรอคะ

มึงลองเดินไปถามคนหเหนือซักร้อยคนนะคะ ว่าเมืองหลวงในความคิดของคุณคือจังหวัดอะไร

ถามแค่นี้พอ ไม่ต้องบอกว่าเมืองหลวงของสยาม ของล้านนา ของประเทศไทย หรือของอะไร

คิดว่าจะมีคนตอบเชียงใหม่ถึงสามคนไหมคะ

แอ๋วมาเดินตามฝันค่ะ

นี่คือเขาอนุรักษ์บูรณะแล้วค่ะอีปลวก เพราะเหลือเท่านี้ และอนุรักษ์ต่อเติมขึ้นมา แล้วเลิกมโนเรื่องอะไรก็รื้ออิฐมาให้ กทม อีปลวก นครห่างจาก กทม ตั้งหลายร้อยโล เดินทางสมัยก่อนนานเป็นเดือน อิฐเขาทำใหม่ได้ไม่ต้องไปรื้อของเก่าจากนู้นนี่ ที่มันเสื่อมตามกาลเวลาและตามข้อมูลกรมศิลป์ เขารื้อเพื่อขยาบเมืองและถนนประมาณสมัย ร. 6 ค่ะ
>
>
>
>
>

ว๊ายยยยยย นึกว่าของแท้

เศษอิฐเศษกาวคงไม่ต้องไปจุฟใครมาหรอกค่ะ

ว๊ายยยยยยยยย แรงมาก

เขาไม่ได้เป็นเบ้นะคะ ถ้าศึกษาดู เขาคือคนชนชาติ เชื้อชาติ เดียวกันมานานแล้ว

ภาษา อาหารการกิน วัฒนธรรม ก็เหมือนกันอย่างกับแกะ

อาหารภาคกลาง กับ ภาคใต้ ก็เมนูเดียวกันเลย แค่ภาคใต้รสจัดกว่า

ภาษา ภาคกลาง กับ ภาคใต้ ก็ใช้คำ ใช้ dialect เดียวกัน ใกล้เคียงกัน คำเนี่ยภาคใต้ คือเหมือนกันการใช้คำไทสยามโบราณเลย ต่างกันแค่สำเนียง

หยุดเคลมค่ะ อีซาไกต่อให้ไกล้เคียง ก็ไม่มีใครนับญาติหรอกค่ะ ไม่งั้นคนภาคกลางจะมีวลี คนใต้ใจดำ เหรอค่ะ

เคลม? ต้องเคลมอะไรด้วยหรอคะ? ตลกอีแก่ขี้อิจฉา ไร้การศึกษา

ในเชิง elite class ใช่ค่ะ เค้าเป็นทองแผ่นเดียวกันจริงๆ

แต่เชิงชาวบ้านตาสีตาสา อันนี้ไม่ทราบค่ะ ไม่กล้าสนับสนุนความคิด

ในสมัยพระเจ้าปราสาททองนครศรีธรรมราชเคยกบฏครั้งหนึ่ง สืบเนื่องมาจากออกญาเสนาภิมุข(ยามาดะ นางามาสะ)ที่มาเป็นเจ้าเมืองตายใน พ.ศ.๒๑๗๓ พวกทหารอาสาญี่ปุ่นก็ชิงอำนาจกันเองแล้วเกิดรบกลางเมืองกับคนนครศรีธรรมราช สุดท้ายคนนครไล่ญี่ปุ่นไปได้ แล้วเกิดได้ใจจึงก่อกบฏต่อพระเจ้าปราสาททอง แต่ก็ถูกทัพจากกรุงศรีอยุทธยาปราบได้ครับ
รายละเอียดอ่านได้ที่
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=slight06&month=05-2013&date=22&group=3&gblog=28
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=slight06&month=05-2013&date=26&group=3&gblog=29
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=slight06&month=06-2013&date=07&group=3&gblog=30

ในสมัยพระเพทราชา มีปรากฏในพงศาวดารที่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์ อย่างในพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ(เจิม)ซึ่งชำระสมัยรัชกาลที่ ๑ ระบุว่า พระยายมราชสังข์กับท้าวทรงกันดาลอู่ที่ก่อกบฏที่นครราชสีมาไม่สำเร็จได้หนีลงไปอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราชใน พ.ศ.๒๒๓๖ กรมการเมืองไชยาจึงส่งใบบอกขึ้นมายังกรุง พระเพทราชาก็ให้ยกทัพไปปราบได้สำเร็จ

ในพงศาวดารฉบับอื่นๆที่ชำระหลังฉบับพันจันทนุมาศกล่าวเพิ่มว่า พระยารามเดโชขุนนางแขกที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชไม่พอใจการชิงบัลลังก์ของพระเพทราชาจึงก่อกบฏ ร่วมมือกับพระยายมราชสังข์ที่หนีมาแต่ก็ถูกปราบได้ ซึ่งทัพจากเมืองไชยาอยู่ข้างอยุทธยาครับ

แต่การก่อกบฏของพระยารามเดโช สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดในสมัยพระเจ้าเสือมากกว่า อิงจากพระราชพงศาวดารฉบับพระจักรพรรดิพงษ์(จาด)ซึ่งเนื้อความน่าจะชำระตั้งแต่สมัยอยุทธยาระบุว่า ใน พ.ศ.๒๒๔๙ "ในปีนั้นหม่อมเดโชกินเมืองนครจับปลัดฆ่าเสีย มีตราให้หาก็มิได้เข้ามา จึงยกทัพออกไปจะจับหม่อมเดโชๆ ขับคนขึ้นน่าที่เชิงเทินต่อรบพุ่งเป็นสามารถ พระไกรพลแสนอยู่ในเมืองเป็นใจด้วยทัพหลวงให้คนหนีจากหน้าที่เชิงเทิน กองทัพจึงเข้าเมืองได้ หม่อมเดโชหนีไปได้ กองทัพยกกลับมา"

นอกจากนี้ก็มีหลักฐานร่วมสมัยของบาทหลวงฝรั่งเศสใน พ.ศ.๒๒๔๖ ยืนยันตรงกันว่ามีกบฏเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งสงขลาและปาตานีก็เข้าร่วมด้วย เทียบกับพงศาวดารสมัยหลังที่มีความพิสดารเยอะกว่าและมีร่องรอยของการแต่งเสริมอยู่มากจึงน่าเชื่อว่าเกิดสงครามในสมัยพระเจ้าเสือมากกว่าครับ

อีกครั้งในสมัยธนบุรี หลังกรุงศรีอยุทธยาเสีย พระปลัดหนูเมืองนครศรีธรรมราชตั้งต้นเป็นเจ้า แต่ถูกพระเจ้ากรุงธนบุรียกไปปราบได้ครับ