ตอนนี้ไทยมีแค่คณะแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ เภสัชศาสตร์
ที่ปริญญามี Doctor นำหน้า น้องอยากให้พยาบาลมีบ้างจะเป็นไปได้มั๊ยค่ะ
อารมณ์แบบเรียนจบหกปีสามารถจ่ายยาได้เหมือนเภสัช
วินิจฉัยโรคได้แบบหมออะไรแบบนี้อ่ะคะ เพราะขนาดน้องอยู่ปีสอง
น้องว่าความยากของคณะพยาบาลก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่คณะนั้นเลยคะ

ป้าไม่รู้จักคำว่า division of labour หรอ อยากวินิจฉัยก็ไปเรียนแพทย์ อยากจ่ายยาก็ไปต่อเภสัช อิกะเทยสอบได้แค่พยาบาลเอานี้เอาโน่น

ไปถามพยาบาลส่วนส่วนเถอะค่ะว่าจะเอามั้ย เรียนนานขึ้นแต่จบออกมา งานหนัก ค่าตอบแทนไม่คุ้มกับสุขภาพทั้งกายทั้งจิตที่เสียไป แถมต้องคอยเป็นคนรอรับคำสั่งหมอเหมือนเดิม

คิดว่าหล่อนเรียน6ปีแล้วเขาจะขึ้นค่าตอบแทนหล่อนให้เท่าหมอเหรอ บอกเลยว่าประเทศนี้อ่ะไม่มีทาง เพราะพยาบาลผลิตกันจนคนล้นตำแหน่งแล้ว

>ไปถามพยาบาลส่วนส่วนเถอะค่ะว่าจะเอามั้ย
>เรียนนานขึ้นแต่จบออกมา งานหนัก
>ค่าตอบแทนไม่คุ้มกับสุขภาพทั้งกายทั้งจิตที่เสียไป
>แถมต้องคอยเป็นคนรอรับคำสั่งหมอเหมือนเดิม
>
>คิดว่าหล่อนเรียน6ปีแล้วเขาจะขึ้นค่าตอบแทนหล่อนให้เท่าหมอเหรอ
> บอกเลยว่าประเทศนี้อ่ะไม่มีทาง
>เพราะพยาบาลผลิตกันจนคนล้นตำแหน่งแล้ว

กะเทยคนนี้ตอบเหมือนจะมีความเข้าใจ แต่พยาบาลไม่พอค่ะผลิตมาก็เป็นที่ต้องการ จำนวนต่อประชากรก็ยังถือว่าขาดแคลน แต่แค่ตำแหน่งราชการมันไม่มี หมอขนาดขาดแคลน มันยังจะไม่บรรจุแล้วเลย ป้ากะเทยคนนี้ไม่รู้เรื่องเลย

>ไปถามพยาบาลส่วนส่วนเถอะค่ะว่าจะเอามั้ย
>เรียนนานขึ้นแต่จบออกมา งานหนัก
>ค่าตอบแทนไม่คุ้มกับสุขภาพทั้งกายทั้งจิตที่เสียไป
>แถมต้องคอยเป็นคนรอรับคำสั่งหมอเหมือนเดิม
>
>คิดว่าหล่อนเรียน6ปีแล้วเขาจะขึ้นค่าตอบแทนหล่อนให้เท่าหมอเหรอ
> บอกเลยว่าประเทศนี้อ่ะไม่มีทาง
>เพราะพยาบาลผลิตกันจนคนล้นตำแหน่งแล้ว
เรียน 6 ปี เงินเดือนสายราชการที่ได้รับเทียบเท่าวุฒิป.โทค่ะป้า
แล้วพยาบาลมันก็ยังขาดแคลนค่ะอย่ามั่ว เภสัช หมอ นู่นค่ะที่ผลิตจนล้น

เรียนตามหลักสูตร 4 ปี อีกสองปี กะหรี่ในชุดพยาบาล

มึงอยากทำอะไรเยอะขนาดนั้น ที่ทำอยู่มึงยังงานหนักไม่พอหรอ
อยากเปนหมอก้ไปเรียนหมอ อยากเป็นเภสัชก้เรียนเภสัชสิคะ

พวกหมอพวกเภสัชมันก็สันดานไม่ดีด้วยนั่นแหละ ชอบเหยียดไปดูถูกพยาบาลนักแล
ไม่งั้นพยาบาลเจนใหม่มันคงไม่มีความคิดกันแบบนี้หรอก
เด็กมันก็คงอยากมีศักดิ์มีศรีไม่อยากโดนดูถูกดูหมิ่นจากคนวิชาชีพอื่น
หาว่าเรียนง่ายกว่า ความรู้มีไม่เท่าพวกมัน ยิ่งพวกนังหมอหญิงนี่นะชั้นจะเล่าให้ฟัง
พอพยาบาลคนไหนสวยกว่าก็แอบไปหมั่นไส้เค้าพอเค้าทำไรพลาดนิดหน่อยก็เหวี่ยงใส่
นังเภสัชก็เหมือนกัน พยาบาลถามเรื่องยาดีๆกลับวีนกลับตอบแบบไม่เต็มใจจะตอบ
หาว่าพยาบาลทำงานระดับขี้ฆ่า ทุกวันนี้ยังเคยได้ยินคำพูดเหยียดหยามทำนองนี้อยู่บ่อยครั้ง
ฝากไปถึงพวกหมอพวกเภสัชนะ อย่าลืมว่าในโรงบาลพยาบาลเป็นประชากรหลักนะจ๊ะ
ถ้าพวกเขาแท็กทีมหาเรื่องพวกคุณ พวกคุณอยู่กันไม่ได้หรอก ฝากไว้ให้คิด

ทู้นี้ตุ๊ดพยาบาลโคลนร่างมาดิ้นกันกี่เม้นท์คะ อยากเพ้อเจ้อก็เพ้อไปเถอะ เรียน6ปีเงินเดือนเท่าป.โท คือนั่นเขาต้องอนุมัติถึงจะได้ปรับ แล้วคิดว่าจะมีใครอนุมัติให้มึงมั้ย กูเคยได้ยินกับหู ตอนพยาบาลโรงบาลแห่งนึงในภาคใต้รวมหัวกันไม่เชื่อฟังหัวหน้าฝ่ายการ หมอผอ.ก็ยังเด็กยังไม่มีบารมีต้องเชิญระดับบริหารของสสจมาเอง เขาพูดเลยว่าพยาบาลลานี่เขาไม่กลัวเพราะมีคนแทนได้ตลอด

พยาบาลขาดแคลนทั่วประเทศ กูอยากจะขำ เอาเป็นว่าต่อให้ขาดแคลนจริง มึงคิดว่าเขาจะยิ่งอยากให้มึงเรียนนานขึ้น?

แต่เอาเถอะ อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้เต็มที่ อ่านเม้นท์ก็รู้ว่าอึดอัดเลยมาหาที่ดิ้น 555

ดีออกคะ เพราะอิพวกหมอ มันทำงานไม่เป็นเท่าพยาบาลหรอก

>ทู้นี้ตุ๊ดพยาบาลโคลนร่างมาดิ้นกันกี่เม้นท์คะ
>อยากเพ้อเจ้อก็เพ้อไปเถอะ เรียน6ปีเงินเดือนเท่าป.โท
>คือนั่นเขาต้องอนุมัติถึงจะได้ปรับ
>แล้วคิดว่าจะมีใครอนุมัติให้มึงมั้ย กูเคยได้ยินกับหู
>ตอนพยาบาลโรงบาลแห่งนึงในภาคใต้รวมหัวกันไม่เชื่อฟังหัวหน้าฝ่ายการ
> หมอผอ.ก็ยังเด็กยังไม่มีบารมีต้องเชิญระดับบริหารของสสจมาเอง
>เขาพูดเลยว่าพยาบาลลานี่เขาไม่กลัวเพราะมีคนแทนได้ตลอด
>
>พยาบาลขาดแคลนทั่วประเทศ กูอยากจะขำ
>เอาเป็นว่าต่อให้ขาดแคลนจริง
>มึงคิดว่าเขาจะยิ่งอยากให้มึงเรียนนานขึ้น?
>
>แต่เอาเถอะ อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้เต็มที่
>อ่านเม้นท์ก็รู้ว่าอึดอัดเลยมาหาที่ดิ้น 555

นี่คือตัวอย่างของกะเทยโง่ คนออกว่าวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่จำเป็นต้องอยู่ในแวดวงหรืออาชีพนั้นเสมอไป ความรู้ข่าวสารมีถมไป ไม่ใช่สลิ่มแก่แบบป้าที่ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์เลยโดนอิอ้วนจูงจมูก ขำ

>>ทู้นี้ตุ๊ดพยาบาลโคลนร่างมาดิ้นกันกี่เม้นท์คะ
>>อยากเพ้อเจ้อก็เพ้อไปเถอะ เรียน6ปีเงินเดือนเท่าป.โท
>>คือนั่นเขาต้องอนุมัติถึงจะได้ปรับ
>>แล้วคิดว่าจะมีใครอนุมัติให้มึงมั้ย กูเคยได้ยินกับหู
>>ตอนพยาบาลโรงบาลแห่งนึงในภาคใต้รวมหัวกันไม่เชื่อฟังหัวหน้าฝ่ายการ
>> หมอผอ.ก็ยังเด็กยังไม่มีบารมีต้องเชิญระดับบริหารของสสจมาเอง
>>เขาพูดเลยว่าพยาบาลลานี่เขาไม่กลัวเพราะมีคนแทนได้ตลอด
>>
>>พยาบาลขาดแคลนทั่วประเทศ กูอยากจะขำ
>>เอาเป็นว่าต่อให้ขาดแคลนจริง
>>มึงคิดว่าเขาจะยิ่งอยากให้มึงเรียนนานขึ้น?
>>
>>แต่เอาเถอะ อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้เต็มที่
>>อ่านเม้นท์ก็รู้ว่าอึดอัดเลยมาหาที่ดิ้น 555
>
>นี่คือตัวอย่างของกะเทยโง่
>คนออกว่าวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่จำเป็นต้องอยู่ในแวดวงหรืออาชีพนั้นเสมอไป
>ความรู้ข่าวสารมีถมไป
>ไม่ใช่สลิ่มแก่แบบป้าที่ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์เลยโดนอิอ้วนจูงจมูก
>ขำ

ตัวอย่างกะเทยโง่ มึงส่องกระจกค่ะจะเห็นเลยตัวนึงโง่มาก โง่ไม่พอยังเสร่ออีกต่างหาก กูพูดกว้างๆในฐานะคนที่เคยทำงานในสายใกล้เคียงกับวิชาชีพนี้ ถ้ามึงไม่ใช่อย่างที่กูพูดก็อย่าร้อนตัว แต่นี่เสือกเสนอหน้ามารับส้นตีนแล้วดิ้นเอง

แล้ว สลิ่มอะไรของมึง อีอ้วนจูงจมูกอะไรของมึง อีประสาทแดก อะไรนิดอะไรหน่อยก็ลากไปออกการเมือง อีควายเอ๊ย มึงอ่ะโดนสนตะพายจนบ้าการเมืองขึ้นสมองแยกแยะไม่เป็นยังกล้ามาว่าคนอื่น อีกระบือโง่

>>>ทู้นี้ตุ๊ดพยาบาลโคลนร่างมาดิ้นกันกี่เม้นท์คะ
>>>อยากเพ้อเจ้อก็เพ้อไปเถอะ เรียน6ปีเงินเดือนเท่าป.โท
>>>คือนั่นเขาต้องอนุมัติถึงจะได้ปรับ
>>>แล้วคิดว่าจะมีใครอนุมัติให้มึงมั้ย กูเคยได้ยินกับหู
>>>ตอนพยาบาลโรงบาลแห่งนึงในภาคใต้รวมหัวกันไม่เชื่อฟังหัวหน้าฝ่ายการ
>>> หมอผอ.ก็ยังเด็กยังไม่มีบารมีต้องเชิญระดับบริหารของสสจมาเอง
>>>เขาพูดเลยว่าพยาบาลลานี่เขาไม่กลัวเพราะมีคนแทนได้ตลอด
>>>
>>>พยาบาลขาดแคลนทั่วประเทศ กูอยากจะขำ
>>>เอาเป็นว่าต่อให้ขาดแคลนจริง
>>>มึงคิดว่าเขาจะยิ่งอยากให้มึงเรียนนานขึ้น?
>>>
>>>แต่เอาเถอะ อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้เต็มที่
>>>อ่านเม้นท์ก็รู้ว่าอึดอัดเลยมาหาที่ดิ้น 555
>>
>>นี่คือตัวอย่างของกะเทยโง่
>>คนออกว่าวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่จำเป็นต้องอยู่ในแวดวงหรืออาชีพนั้นเสมอไป
>>ความรู้ข่าวสารมีถมไป
>>ไม่ใช่สลิ่มแก่แบบป้าที่ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์เลยโดนอิอ้วนจูงจมูก
>>ขำ
>
>
>ตัวอย่างกะเทยโง่ มึงส่องกระจกค่ะจะเห็นเลยตัวนึงโง่มาก
>โง่ไม่พอยังเสร่ออีกต่างหาก
>กูพูดกว้างๆในฐานะคนที่เคยทำงานในสายใกล้เคียงกับวิชาชีพนี้
>ถ้ามึงไม่ใช่อย่างที่กูพูดก็อย่าร้อนตัว
>แต่นี่เสือกเสนอหน้ามารับส้นตีนแล้วดิ้นเอง
>
>แล้ว สลิ่มอะไรของมึง อีอ้วนจูงจมูกอะไรของมึง อีประสาทแดก
>อะไรนิดอะไรหน่อยก็ลากไปออกการเมือง อีควายเอ๊ย
>มึงอ่ะโดนสนตะพายจนบ้าการเมืองขึ้นสมองแยกแยะไม่เป็นยังกล้ามาว่าคนอื่น
> อีกระบือโง่

แทงใจดำละดิ้นเป็นปลาเกยตื้นเลยนะคะตุ๊ด มึงนี่มันย้อนแย้ง สสจเอย การอนุมัติตำแหน่งราชการเอย มันไม่ใช่งานการเมือง งานรระบบราชการตรงไหน อิวิสัยทัศน์โลกแคบสองเมตร

>>>>ทู้นี้ตุ๊ดพยาบาลโคลนร่างมาดิ้นกันกี่เม้นท์คะ
>>>>อยากเพ้อเจ้อก็เพ้อไปเถอะ เรียน6ปีเงินเดือนเท่าป.โท
>>>>คือนั่นเขาต้องอนุมัติถึงจะได้ปรับ
>>>>แล้วคิดว่าจะมีใครอนุมัติให้มึงมั้ย กูเคยได้ยินกับหู
>>>>ตอนพยาบาลโรงบาลแห่งนึงในภาคใต้รวมหัวกันไม่เชื่อฟังหัวหน้าฝ่ายการ
>>>> หมอผอ.ก็ยังเด็กยังไม่มีบารมีต้องเชิญระดับบริหารของสสจมาเอง
>>>>เขาพูดเลยว่าพยาบาลลานี่เขาไม่กลัวเพราะมีคนแทนได้ตลอด
>>>>
>>>>พยาบาลขาดแคลนทั่วประเทศ กูอยากจะขำ
>>>>เอาเป็นว่าต่อให้ขาดแคลนจริง
>>>>มึงคิดว่าเขาจะยิ่งอยากให้มึงเรียนนานขึ้น?
>>>>
>>>>แต่เอาเถอะ อยากระบายอะไรก็ระบายออกมาให้เต็มที่
>>>>อ่านเม้นท์ก็รู้ว่าอึดอัดเลยมาหาที่ดิ้น 555
>>>
>>>นี่คือตัวอย่างของกะเทยโง่
>>>คนออกว่าวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่จำเป็นต้องอยู่ในแวดวงหรืออาชีพนั้นเสมอไป
>>>ความรู้ข่าวสารมีถมไป
>>>ไม่ใช่สลิ่มแก่แบบป้าที่ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์เลยโดนอิอ้วนจูงจมูก
>>>ขำ
>>
>>
>>ตัวอย่างกะเทยโง่ มึงส่องกระจกค่ะจะเห็นเลยตัวนึงโง่มาก
>>โง่ไม่พอยังเสร่ออีกต่างหาก
>>กูพูดกว้างๆในฐานะคนที่เคยทำงานในสายใกล้เคียงกับวิชาชีพนี้
>>ถ้ามึงไม่ใช่อย่างที่กูพูดก็อย่าร้อนตัว
>>แต่นี่เสือกเสนอหน้ามารับส้นตีนแล้วดิ้นเอง
>>
>>แล้ว สลิ่มอะไรของมึง อีอ้วนจูงจมูกอะไรของมึง อีประสาทแดก
>>อะไรนิดอะไรหน่อยก็ลากไปออกการเมือง อีควายเอ๊ย
>>มึงอ่ะโดนสนตะพายจนบ้าการเมืองขึ้นสมองแยกแยะไม่เป็นยังกล้ามาว่าคนอื่น
>> อีกระบือโง่
>
>แทงใจดำละดิ้นเป็นปลาเกยตื้นเลยนะคะตุ๊ด มึงนี่มันย้อนแย้ง
>สสจเอย การอนุมัติตำแหน่งราชการเอย มันไม่ใช่งานการเมือง
>งานรระบบราชการตรงไหน อิวิสัยทัศน์โลกแคบสองเมตร

มึงนั่นแหละดิ้น ดิ้นโชว์โง่เป็นหมาขี้เรื้อนถูกน้ำร้อนลวกตั้งแต่เม้นท์แรกของกูแล้ว ที่การเมืองที่กูพูดคืออีตุ๊ดควายอย่างมึงพอเถียงกับใครต้องป้ายขี้ใส่ว่าเขาเป็นสลิ่ม สันดานนะมึงอ่ะใส่ความคนอื่นโดยไม่มีหลักฐาน ดักดานอยู่แต่แบ่งสีการเมือง อย่างมึงไม่เรียกว่าโลกแคบอย่างเดียวต้องเรียกว่าตุ๊ดควายโลกเสื่อม

ใดๆคือตอนนี้ พ.ร.บ. ยาฉบับใหม่ออกมาแล้วค่ะว่าให้พยาบาลเวชปฏิบัติสามารถจ่ายยาได้มากขึ้นในคลินิกผดุงครรภ์ของพยาบาล หน้าชากันไปสิคะทั้งหมอทั้งเภสัช ตามต่างจังหวัดไปดูได้เลยคนเข้าคลินิกพยาบาลกันมากกว่าเข้าคลินิกหมออีกเพราะทุกอย่างพร้อม วินิจฉัยโรค จ่ายยา นอนให้น้ำเกลือ ในอนาคตเหล่าลูกๆแม่ไนติงเกลจะมีอนาคตที่ดีขึ้นค่ะเพราะตอนนี้ผู้ใหญ่ในสภาพยาบาลเค้าสู้เพื่อวิชาชีพเรา

ก็ดีแล้ว ก.ส้นตีนเหี้ยนี้ เจ้ายศเจ้าอย่างมาก เวลาเดินทางคนรับมากกว่าทหาร ตำรวจอีก พวกเหี้ย

เอาอะไรไปเทียบเท่าเภสัช และหมอคะ

ขนาดวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานยังไม่เรียนเลย ไม่เรียนคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในปี 1 เลยนะ

แล้ววิชาของพรีคลินิก ที่คณะแพทย์สอนให้ พวกนางก็ขอลดหน่วยกิตและไม่อยากเรียน

ตอนนี้คือเรียน กายวิภาคศาสตร์ 1.5 หน่วยกิต สรีรวิทยา 1.5 หน่วยกิต เภสัชวิทยา 1 หน่วยกิต ชีวเคมี 2 หน่วยกิต จุลชีววิทยา 1 หน่วยกิต แค่นี้เองค่ะ แล้วจะเอาอะไรไปเป็นคนจ่ายยาคะ

สมัยก่อนพวกนางยังเรียนวิชาพรีคลินิกวิชาละ 3 หน่วยกิต เอาอะไรมารู้เรื่องการแพทย์ลึกซึ้งละคะ แค่พื้นฐานยังไม่แน่นเลย

>เอาอะไรไปเทียบเท่าเภสัช และหมอคะ
>
>ขนาดวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานยังไม่เรียนเลย ไม่เรียนคณิตศาสตร์
>ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในปี 1 เลยนะ
>
>แล้ววิชาของพรีคลินิก ที่คณะแพทย์สอนให้
>พวกนางก็ขอลดหน่วยกิตและไม่อยากเรียน
>
>ตอนนี้คือเรียน กายวิภาคศาสตร์ 1.5 หน่วยกิต สรีรวิทยา 1.5
>หน่วยกิต เภสัชวิทยา 1 หน่วยกิต ชีวเคมี 2 หน่วยกิต
>จุลชีววิทยา 1 หน่วยกิต แค่นี้เองค่ะ
>แล้วจะเอาอะไรไปเป็นคนจ่ายยาคะ
>
>สมัยก่อนพวกนางยังเรียนวิชาพรีคลินิกวิชาละ 3 หน่วยกิต
>เอาอะไรมารู้เรื่องการแพทย์ลึกซึ้งละคะ
>แค่พื้นฐานยังไม่แน่นเลย
ทุกวิชาที่พูดมาเรียน 3 หน่วยกิตหมดค่ะ เอาไรมา 1.5 คะ
นี่เรียนพยาบาลอยู่ จะด้อยค่าคนอื่นก็เอาให้มันเนียนๆหน่อยค่ะ

อ่อ ที่อื่นไม่รู้แต่คณะพยาบาลม.ชั้นเรียนคณิต ชีวะ เคมีพื้นฐาน ฟิสิกส์พื้นฐาน นะคะ
ไม่ได้เรียนแค่แคลคูลัส สถิติ เคมีอินทรีย์ แค่นั้นแหละค่ะ

อย่าเลย ปัจจุบันพยาบาลหลายที่ก็อวดเก่งเกินหมอแล้ว
เดินลอยหน้าลอยตาประหนึ่งว่าตัวเองเป็นหมอ จะมายกระดับหีแตดอะไร

>>เอาอะไรไปเทียบเท่าเภสัช และหมอคะ
>>
>>ขนาดวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานยังไม่เรียนเลย ไม่เรียนคณิตศาสตร์
>>ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ในปี 1 เลยนะ
>>
>>แล้ววิชาของพรีคลินิก ที่คณะแพทย์สอนให้
>>พวกนางก็ขอลดหน่วยกิตและไม่อยากเรียน
>>
>>ตอนนี้คือเรียน กายวิภาคศาสตร์ 1.5 หน่วยกิต สรีรวิทยา 1.5
>>หน่วยกิต เภสัชวิทยา 1 หน่วยกิต ชีวเคมี 2 หน่วยกิต
>>จุลชีววิทยา 1 หน่วยกิต แค่นี้เองค่ะ
>>แล้วจะเอาอะไรไปเป็นคนจ่ายยาคะ
>>
>>สมัยก่อนพวกนางยังเรียนวิชาพรีคลินิกวิชาละ 3 หน่วยกิต
>>เอาอะไรมารู้เรื่องการแพทย์ลึกซึ้งละคะ
>>แค่พื้นฐานยังไม่แน่นเลย
>ทุกวิชาที่พูดมาเรียน 3 หน่วยกิตหมดค่ะ เอาไรมา 1.5 คะ
>นี่เรียนพยาบาลอยู่ จะด้อยค่าคนอื่นก็เอาให้มันเนียนๆหน่อยค่ะ

เธอจ๋า ลองไปดูหลักสูตรพยาบาล มข. หน่อยนะคะ เขาแทบไม่เรียนวิชาที่หล่อนว่ามาแล้ว

เดี๋ยวเปิด reg ให้ดูค่ะ แล้วหลายๆ มอ เขาก็ไม่เรียนวิชาพรีคลินิกเท่าไหร่แล้ว

สงสัยหล่อนคงเรียนหลักสูตรโบราณแน่ๆ

แวะเข้ามา ดูพวกที่ไม่อัพเดทหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต สถาบันรัฐต่าง ๆ ว่าเขาทำหลักสูตรใหม่ไปเป็นชาติแล้ว เขาปรับลดวิชาพื้นฐานต่างๆ นานแล้วค่ะ จำนวนหน่วยกิตก็ลดลง

เพราะเขาเน้นไปปฏิบัติที่การพยาบาลแทนค่ะ จะเรียนไปทำไมเยอะแยะคะ วิชาพวก preclinic พวกพยาธิวิทยา กายวิภาคศาสตร์ เภสัุชวิทยา ชีวเคมี จุลชีววิทยา พยาบาลเรียนไปก็ไม่ได้ใช้อะไรนัก

เพราะมีพวกนักเทคนิคการแพทย์ ช่วยตรวจหาพยาธิ ปรสิตต่างๆ ให้แล้ว วิเคราะห์เรื่องยาก็เภสัชกรป่ะ แล้วตรวจวินิจฉัยก็หมอ จะให้พยาบาลไปเรียนพวกวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานเยอะๆ เพื่อ ??

เขาควรไปเน้นวิชาชีพด้านพยาบาลเขาป่ะ เพราะต้องไปดูแลปฏิบัติกับคนไข้

นี่คือตัวอย่างหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ของ ม.สงขลานครินทร์ (มอ.) ที่สงขลา เขา ก็ลดจำนวนวิชาพื้นฐานด้านวิทย์และ preclinic ไปนานแล้ว อันนี้หลักสูตรปรับปรุงปี 2563 มั้ง

ส่วนนี่ของ มข. เพิ่งปรับปรุงปี 2565 ก็คล้ายๆ หลักสูตรปี 2560 คือ ไปเน้นวิชาชีพพยาบาล มากกว่าวิชาด้านพื้นฐาน เพราะยังไง พยาบาล รู้พื้นฐานพวกพยาธิ เภสัชวิทยา ชีวเคมี จุลชีวะ ปรสิต

พอให้เข้าใจระบบร่างกายและเชื้อโรคเบื้องต้นก็พอ ที่เหลือไปเน้นการปฏิบัติทางพยาบาลค่ะ

คือต้องถามว่า ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ เรียนเยอะๆ แล้วเอาไปใช้อะไรในพยาบาลบ้าง มันก็แทบไม่มีอะไรเลย

ถ้าอยากให้คนเห็นความสำคัญของวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน พวกอาจารย์ด้านวิทย์พื้นฐาน ก็ทำงานวิจัย และพัฒนาการเรียนการสอนให้มัประยุกต์ให้ความรู้มาทางพยาบาลสิ

เผื่อเขาจะเห็นว่ามันเอาไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง เพราะถ้าเรียนเยอะๆ แล้วมันก็ไม่ได้เอาไปใช้อะไร หรือไม่มีตัวอย่างการนำไปใช้ได้จริง ก็เปล่าประโยชน์นะ

ไม่ต้องมาดราม่าอะไรทั้งสิ้น เพราะยังไงการเรียนในหลักสูตรพยาบาล เขาควบคุมคุณภาพโดยสภาพยาบาลอยู่แล้ว แล้วก็ผลิตพยาบาลออกไป เขาก็ไปดูแลคนป่วย ช่วยเหลือสังคม

ไม่ใช่พวกหล่อนจะไปดูแลคนป่วย ระวังด่าว่าพยาบาลมากๆ ตอนเจ็บไข้ได้ป่วย จะต้องพึ่งพาเขานะคะ อย่าประมาทชีวิตค่ะ

เพราะทุกคนเกิดมาต้องมีเจ็บไข้ได้ป่วย แน่นอน ตอนนี้แข็งแรงดี ก็ทำเป็นพูดปากหมา ด่าว่าคนไปทั่ว แต่ตอนติดเตียง นอนซมขึ้นมา แล้วจะนึกถึงการกระทำเก่าๆ ตัวเอง

จำกระทู้นี้ตัวเองไว้ให้ดีนะคะ