อยู่ที่ HR ล้วนๆ เลยค่ะ แต่ก่อนเคยทำงาน รร เขาทำกัน 6 วันแบบเสาร์เว้นเสาร์ ไปๆมาๆ HR ต่อรองกับเจ้าของ รร ว่า ลดเหลือ 5 วันได้ไหม แต่เพิ่มเวลาทำงานขึ้นอีก 1 ชม. ทุกวัน โดยที่ทาง HR สัญญาว่า จะจัดการเรื่องคิว พนง ให้ลงตัวให้ได้ แต่ HR ของ รร ที่เคยทำ เขามีหน้าที่เยอะมาก ไม่ได้ทำแค่เงินเดือนกับเรื่องลา/มาสาย ต้องคุมงาน รปภ ทั้ง รร ซึ่งอันนี้คืองานประจำรายวันเลย รปภ ของโรงแรมมันไม่ใช่แค่ดูจอมอนิเตอร์นะ มันต้องดูแลแขกที่ลอบบี้ เวลาฟรอนท์กับกงเซียจติดทำหน้าที่หลักอยู่ จะเห็น ผจก ลงมาบรีฟ รภป แต่เช้าแล้วสายก็ขึ้นประชุมต่อ และมีเรื่องฝึกอบรมพนักงานอีก ไหนจะงานกิจกรรมสันทนาการพนักงาน ซึ่งมีเยอะมาก ทั้ง outing งานปีใหม่ งานกิจกรรมวันเกิด รร งานประกาศรางวัลพนักงานดีเด่นทุก 3 เดือน งานพวกกิจกรรม CSR ทำเพื่อภาพลักษณ์องค์กร ไม่รวมถึงกิจกรรมข้างนอก พวกออกงานสถานศึกษา รีครูทเด็กฝึกงาน คืองานเยอะมาก ทำกันทั้ง แผนก 6 คน

อยากบอกว่า บริษัทที่ให้ความสำคัญ HR จะได้พนักงานดีๆ เข้ามาทำงาน พวกที่เคยทำงานที่อื่นมาเจอกิจกรรมเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ พนง ถ้าเจอ HR เหมือนที่ รร ก็ละลายพฤติกรรมที่เก่าได้อีก เจ้าของหลายที่ จ้าง HR มาเพื่อแค่ทำเงินเดือน กับหาคนเข้าทำงาน ก็ตามสภาพเลย ไอ้ที่ว่า HR จะกำหนดเงื่อนไขอะไรต่างๆ ให้ พนง หรือวัดประสิทธิภาพการทำงาน คือ อาจจะไม่มี ทำงานกันตามมีตามเกิด บางที แผนกอื่นทำงานไม่เสร็จ (พวกบัญชี) ก็พาลให้ พนง แผนกอื่นต้องมาทำงานด้วย ทั้งๆที่จริงๆ งานมันจบไปแล้ว 5 วัน ตามงานต่ออีกทีได้วันจันทร์ เพราะ บ. คู่ค้า หรือลูกค้าก็ปิดกันหมด ไม่มีงานไรให้ตามอยู่ดี จะบอกว่าให้มาเคลียร์เอกสาร สมัยนี้ มันก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้วปล่าว ติดต่องานผ่านไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ทจนหมดแล้ว

คือ บางที มันต้องนึกว่า การทำงาน 5 วัน มันเอาเวลาชีวิตไปเยอะมากแล้วนะ คนเรา มันไม่ได้ดเกิดมาเพื่อทำงาน ทำงาน ทำงาน มันต้องมีเวลาไปใช้ชีวิตบ้าง บ. ใหม่ๆ มันเลยห้คนทำงานจากบ้านบ้าง ไม่ต้องเข้าออฟฟิศถ้าไม่จำเป้นบ้าง เพื่อให้ พนง กลับไปมีเวลาใช้ชีวิตแหละ แต่นั่นคือ HR มาวัดมาแล้วไง ว่าการทำงานแบบมาออฟฟิศทุกวัน มันไม่ได้ช่วยให้ประสิทธิภาพงานลดลง แต่ HR คือต้องทำงานจริงจัง ต้องมี paper ให้เจ้าของดู เพราะอย่าง บริษัท เค้าก็ทำ benchmark มาเข้มข้นมาก เพราะปรากฏว่า บริษัท รายได้น้อยกว่าเดิมไปบ้าง ตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ คชจ ที่ต้องเช่าออฟฟิศ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ คือลดฮวบเลย HR ต้องทำข้อดีข้อเสีย เพื่อให้เจ้าของประเมินอ่ะ แต่นี่ว่า HR บาง บริษัทคือง่อย ไม่กล้าทำไรจากที่ตัวเองเคยทำอยู่ แล้วความบริษัทไทย จะเข้าหาเจ้าของคือเหมือน ทาส กับ เจ้านายอ่ะ ทั้งๆที่จริงๆ เจ้าของเขาก็คนธรรมดานี่แหละ พวกมึงไปสปอย จนเขาอาจจะเอาแต่ใจไปเอง