Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 243816
Message ID: 38
#38, RE: เศรษฐกิจทุนนิยมโลกเสรีที่ไร้พรมแดน ทำให้คนไทยจนลง จนลง แถมทำอะไรไม่เป็น ทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อหมด แถมต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อส่งออกข้าวปลาอาหาร ผลิตภัณฑ์ราคาถูกไปปรนเปรอพวกประเทศร่ำรวยให้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้างคะ
Posted by นิว on 17-Mar-23 at 10:39 AM
In response to message #36
ตลอด 500 ปีที่ผ่านมา ที่ทุนนิยมถือกำเนิด มันก็คุกคามกายและจิตของมนุษยชาติมาโดยตลอด อย่างเช่นการค้าทาส ก็คุกคามร่างกายและจิตใจของทาสเป็นอย่างมาก หรือจักรวรรดินิยม ที่ล่าอาณานิคมดูดทรัพยากรของเมืองขึ้นไปค้ากำไร สิ่งเหล่านี้ก็ได้คุกคามร่างกายและจิตใจของผู้คนมากมายที่อยู่ใต้อำนาจจักรวรรดิ คนทั้งเมืองที่ถูกฆ่าถูกต้อน ถูกควบคุม กดขี่มากมาย รวมถึงแน่นอนในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมก็มีโรงงานนรกมากมายที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับร่างกายและจิตใจของผู้คน

และในโลกตะวันตกช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดการการเปลี่ยนรูปแบบของเศรษฐกิจ ก็คือ เศรษฐกิจในแบบฟอร์ด (Fordism) ช่วงค.ศ. 1945 ไปสู่ค.ศ. 1970 ซึ่งมันคือ ‘ยุคทองของทุนนิยม’ นี่คือยุคของรัฐสวัสดิการที่ค่อนข้างเข้มแข็ง นี่คือยุคของที่เป็นการประนีประนอมระหว่างชนชั้น ก็คือชนชั้นทุนประนีประนอมกับชนชั้นแรงงาน เพราะว่าเกรงกลัวอำนาจของชนชั้นแรงงาน และก็เกรงกลัวว่าถ้าไม่ยอม ไม่ประนีประนอมกับแรงงานเนี่ย มันจะมีการปฏิวัติของสังคมไปในทิศทางของสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ได้ แน่นอนว่าในช่วงเวลานั้นก็มีภัยคอมมิวนิสต์ที่ทำให้ฝั่งทุนจะต้องยอมประนีประนอมกับแรงงาน ยอมให้จ่ายภาษี ภาษีเงินได้ ภาษีต่างๆ ในฐานสูง เพื่อเอาไว้โอบอุ้มรัฐสวัสดิการ

แต่หลังจากที่โลกเศรษฐกิจ เปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคหลังฟอร์ด เป็นแบบเสรีนิยมใหม่ (Neoliberal) เป็นยุคที่แรงงานถูกทำให้อ่อนแอลง ทุนประนีประนอมน้อยลง และรัฐสวัสดิการถูกรื้อถอนในโลกตะวันตก หรือถูกทำให้อ่อนแอลง และอะไรอีกมากมาย พูดง่ายๆเป็นยุคทุนนิยมเอาคือ ฝั่งทุนจากที่เมื่อก่อนแคร์เรื่องสวัสดิการ เรื่องสิทธิแรงงาน สิทธิความเป็นคน ความเท่าเทียม พวกทุนนิยมก็เลิกสิ่งเหล่านี้ ก็คือกู(ทุนนิยม)ยอมประนีประนอมกับมึง(สังคม)มาสองสามทศวรรษแล้ว พอแล้ว ได้เวลาเอาคืนแล้ว

รวมถึงการสิ้นสุดของสงครามเย็น การล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้ทุนนิยมนั้นไม่มีคู่แข่งใดๆ แล้วการไม่มีคู่แข่งใดๆ กลับกลายเป็นผลเสียต่อผู้คนมากมาย เพราะว่ามันกลายเป็นปราศจากการควบคุม

ทุนนิยมแบบ neoliberal มันส่งผลในด้านลบต่อสุขภาพจิตสิ่งเหล่านี้มันนำไปสู่อัตราการเพิ่มขึ้นของโรคซึมเศร้า

รัฐสวัสดิการช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 20 มันเกิดขึ้นในสภาวะอะไรบางอย่างที่อาจไม่สามารถหวนคืนกลับได้ เพราะมันมีสงครามเย็น มันมีภัยคอมมิวนิสต์ มันมีช่วงที่แรงงานเข้มแข็ง มีชนชั้นนายทุนในโลกตะวันตกหวาดกลัวแรงงาน กลัวแรงงาน กลัวสังคมนิยม กลัวภัยคอมมิวนิสต์ เพราะเป็นยุคหลังสงครามโลก ก็เลยยอมประนีประนอม ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้ บริบทเช่นนี้ มันไม่สามารถหวนคืนกลับไปได้ โดนเฉพาะมองจากฝั่งปัจจุบันที่แรงงานอ่อนแออย่างมาก ที่ทุนไม่ยอมประนีประนอมกับแรงงาน ความเหลื่อมล้ำมันเห็นชัดเป็นอย่างมาก และทุนก็ไม่ได้กลัวแรงงานในปัจจุบันเหมือนในอดีต และมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกเหนือจากทุนนิยม หรือที่ออกมาท้าทายทุนนิยม อันนี้ก็คงเป็นประเด็นแรก

อย่างที่สองเราก็อาจมองได้ด้วยซ้ำว่า รัฐสวัสดิการก็คือการประนีประนอมระหว่างชนชั้น ก็คือวิธีที่จะช่วยรักษาให้ทุนนิยมนั้นอยู่ต่อไปได้ ซึ่งไม่ได้บอกว่ามันไม่ได้ส่งผลดีต่อทุกคน มันส่งผลดีอย่างมาก ส่งผลดีต่อแรงงานมาก มีข้อดีมากมาย แต่เป้าหมายของมันไม่ใช่เพื่อไปให้พ้นจากทุนนิยม เป้าหมายของมันเพื่อให้ทุนนิยมอยู่รอดต่อไปได้

โจทย์ที่สำคัญก็คือ ถ้าเราคิดว่าเราควรจะไปพ้นทุนนิยม ถ้าเราคิดว่าเราควรที่จะมีโครงการทางการเมืองที่จะปลดแอก การเมืองเพื่อที่จะปลดปล่อยใดๆ เราก็ต้องพยายามที่จะคิดเพื่อจะไปพ้นความคิดในแบบรัฐสวัสดิการในแบบทศวรรษที่ 20 ด้วย