เมื่อมนุษย์ทั้งหลายล้วนถูกสร้างขึ้นจากละอองดาวเดียวกับที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้น มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์ทั้งหลายจะไม่เท่าเทียมกัน และยิ่งไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยที่จะอุปโลกให้มนุษย์บางคนเป็นกษัตริย์ และให้มนุษย์ที่เหลือทั้งหมดอยู่ใต้กษัตริย์ เพราะเป็นวิถีและจารีตที่ฝืนต่อกฎของธรรมชาติและจักรวาลเกินสมควร

หลักการแบ่งแยกอำนาจในรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าอำนาจที่แท้จริงเป็นของประชาชน ซึ่งเป็นผู้ถืออธิปไตย ดังนั้นแล้ว การมีตัวแทนที่นำอำนาจของประชาชนไปใช้จะต้องยึดโยงอยู่กับประชาชนเจ้าของอำนาจ ซึ่งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างอันเกี่ยวเนื่องกับความอยู่ดีมีสุขและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา สุขภาพ ถนนหนทาง สภาวะแวดล้อม มลพิษ ที่ดิน ปัจจัยการผลิต เงินช่วยเหลือ สาธารณูปโภคและสวัสดิการด้านต่าง ๆ ฯลฯ ที่ต้องดูแลเอาใจใส่ประชาชนตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ซึ่งสถาบันกษัตริย์เป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจหรือไม่สัมพันธ์กับหลักการแบ่งแยกอำนาจที่มีประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง จนเกิดสภาวะเหนือรัฐธรรมนูญขึ้น

จึงต้องทำการปรับความสัมพันธ์ของสถาบันกษัตริย์กับประชาชนให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน

ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์สังคมและการเมืองไทยที่ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของขบวนประชาชนในรอบปีกว่าที่ผ่านมา เพื่อที่จะปรับความสัมพันธ์ของสถาบันกษัตริย์กับประชาชนให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน ได้แพร่กระจายไปถึงสามัญชนทุกหัวระแหงอย่างกว้างขวาง จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างที่สุดแล้วที่จะยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตราบริวารหรือที่เกี่ยวเนื่องทั้งหลาย ที่เป็นบทบัญญัติขัดขวางความเท่าเทียมกันเชิงอำนาจของมนุษย์ทุกคน

พรรคสามัญชนเห็นว่าการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถือเป็นบันไดขั้นแรกที่จะปูทางไปสู่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม