#13, RE: เคยใจดี ให้เพื่อนสนิท หรือ แฟน ยืมเงินกันมากสุดเท่าไหร่ครับ
Posted by เกรนนี่นั่งเทียน on 02-May-23 at 03:13 AM
In response to message #8
>เอาเรื่องของกูเลยแล้วกันคะ > >จบมา ก็ต่างคนต่างแยกย้าย ไปทำงาน กลับบ้าน ตจว บ้าง > >แต่ด้วยความที่สนิทกัน และเพื่อนส่วนมากก็ทำงานอยู่ กทม กัน >กู้ก็เลยแวะไปๆมาๆ ระหว่างบ้าน ตจว แวะมาเที่ยวหาเพื่อนๆบ้าง >นานๆครั้ง ปีละ ครั้งสองครั้ง > >อีเพื่อนคนนี้ แรกๆก็ไม่ได้ยืมหรอกคะ เป็นแนว มันโทรมา >ให้กูเป็นนายทุน ปล่อยกู้ > >ด้วยความที่อีเพื่อนคนนี้ สนิท กัน ทำงานอยู่ กทม >แต่บ้านมันอยู่ใต้นะคะ > >มันบอกเงินไม่พอใช้ มันมาขอกู ดอกร้อยละ 7 >บอกมันจะเอาไปปล่อยเพื่อนที่ทำงาน ต่อ ร้อยละ 10 > >คือจะขอกินส่วนต่างร้อยละ 3 บอกดิบดี เดียวถ้าเก็บไม่ได้ >มันจะรับผิดชอบคืนเงินต้นเอง ด้วยความที่สนิทกันมาก เวลาไป กทม >ก็ไปนอนหอมัน และก็ เงินไม่เยอะ > >จำได้ว่าตอนแรก 5 หมื่นคะ > >มันก็จ่ายดอกตรง จ่ายดี อยู่เกือบ 10 เดือนได้ แล้วที่นี้ >มาเลยคะ รูปแบบเดิม คือ ขอเพิ่มเรื่อย ทีละ 2 หมื่น บ้าง 3 >หมื่นบ้าง จนไปจบ ที่ 1 แสนคะ > >เพราะกูจำกัดไว้แค่นั้น เพราะด้วยศักยภาพของเพื่อนกู >กูก็พอรู้ว่ามันรับผิดชอบเกินนี้ไม่ไหวแน่ๆ > >กูก็บอกมันว่าให้ได้แค่ 1 แสนนะ พอถึง มันก็เริ่มออกลายคะ >ถึงเวลาส่งดอก ไม่ส่ง แต่มันใช้วิธีบอกกูว่า ออ เพื่อนคนนั้น >คนนี้จะยืม กูเลยเอาดอกมึงให้มันยืม มึงก็รวมเป็นเงินต้นไปเลย > >แบบนี้คะ จนจาก 1 แสน ขึ้นไปถึง 2 แสน ในเวลา ไม่ถึง 2 ปีดีคะ >จากเริ่มให้มันนะคะ > >จนความมาแตก ตรงที่กูบอกมันว่า กูจะเลิกปล่อยแล้ว >ให้เวลามันหามาเคลีย มันก็ขอเวลา 2 เดือน >บอกตรงบอกลูกหนี้มันก่อน จะเอาเลยไม่ได้ โอเค >กูก็ให้เวลามันสองเดือนคะ > >พอถึงวัน มึงเชื่อไหม มันบอกบอกกูตรงๆ ว่าเงินที่เอามา >มันไม่ได้เอามาปล่อยต่อ มันเอาไปใช้เอง กูนี้ขึ้นเลยคะ >เลยถามแล้วจะเอาไง มันบอกขอทยอยจ่าย เดือนละ 5 พัน > >กูเอาก็เอา อย่างน้อยมันไม่หนี ก็ทยอยใช้ได้ ซัก 1 แสน (2ปี) >คะ จ่ายตรงบ้างไม่ตรงบ้าง > >แหละหลังจากนั้น พอเหลือประมาณ 1 แสนสุดท้าย มึงเชื่อกูไหม >จากที่บอกเดือนละ 5 พัน > >มันใช้กู สองเดือน 1000 บ้าง เดือนละ 500 บ้าง >กูก็ตามทวงตลอดคะ เพราะตอนนั้นกูก็ตกงาน ไม่มีเงินด้วย > >สรุปเลยแล้วกัน กูใช้เวลา 10 ปี คะจากวันที่ให้มันกู้ 5 >หมื่นแรก จนมันคืนกูครบ จะเรียกว่าคบก็ไม่ถูกคะ >มันเบี้ยวกูงวดสุดท้าย 3000 คะ กูถึอว่าทำบุญคะ >มันจะได้ไม่กล้ามายืมกูอีก > >กูก็ไม่ทวงคะ เพราะมันนัดแล้ว กูก็บอกถ้าไม่เคลีย >ก็ตัดเพื่อนกันเลย สรุปมันก็หายไปเลยคะ > >10 ปี จากเงิน 2 แสน กูจดไว้หมดคะ สรุปที่มันคืนกูมา ในเวลา 10 >ปี กูได้รวมๆต้น+ดอก ประมาณ 4 แสนคะ > >คือประมาณ 100% ใน 10 ปี ตก ปีละไม่ถึง 10% หรือ เดือนละไม่ถึง >1% ด้วยซ้ำ แถมต้องเสียสุขภาพจิต ที่ต้องโทรตามมันทุกเดือนคะ > > >และที่สำคัญ พอความแตก กูโทษตามถึงพ่อแม่มันเลยนะคะ มึงรู้ไหม >ว่าที่บ้านก็รู้นะ ว่ามันเป็นหนี เพื่อน และที่สำคัญ พ่อแม่ >มันถึงขั้นขายที่สวนยาง แล้วเอาเงินสดๆ 1 ล้าน ให้มันมาปิดหนี้ >ทั้งบัตรเครดิต และหนี้เพื่อน พ่อแม่มันก็คิดว่าจบแล้ว > >แต่เปล่า อีเพื่อนตัวดี มันเอาไปปิดหนี้บัตรเดรดิตอย่างเดียว >หนี้เพื่อนอยู่ครบ แถมตอนความแตก ลองถามเพื่อนๆสนิทดู ปรากฏว่า >มีเพื่อนอีกคน โดนมันไป 3 แสน >เพื่อนคนนี้ก็ตัดเพื่อนกับมันไปแล้ว เพื่อนคนนี้ >มันยกหนีให้มันด้วย > >ตอนนี้มันก็ทำอะไรไม่เจริญหรอก กูเสียดาย อนาคตมันมาก >หน้าที่การงานถือว่าดีนะมึง สมัยเมื่อ 15++ ปีที่แล้ว >มันได้เงินเดือน 2 หมื่นกลางๆ + ทิป รวมๆแล้วเกือบ 3 หมื่น >ถือว่าเยอะนะ > >แต่ต้องออก เพราะติดหนี เขาเยอะ พ่อแม่มันกลัวลูกโดนกระทืบ > >แถม เพื่อนๆยังงง ว่ามันเอาเงินไปทำอะไรหมด >เพราะมันได้เงินจากเพื่อนๆไป รวมๆ แล้ว เกินครึ่งล้าน + >เงินของที่บ้านอีก 1 ล้าน รวมๆคือ 1.5 ล้าน หมดใน 2 ปีอะมึง > >สมบัติที่มันมีอย่างเดียวคือ มอไซย์ธรรมดา 1 คัน >นอกนั้นไม่มีเหี้ยอะไรเลย >ยังคุยกับเจ้าหนี้คนอื่นที่เป็นเพื่อนมัน >บอกถ้าเอาไปลงทุนแล้วเจ๊ง หรือซื้อบ้าน ซื้อรถ ยังพอว่า แต่นี้ >หมดกับกินอย่างเดียวเลยมึง > >มันติดเที่ยว เรียกว่า ตอนมันทำงานอยู่ภูเก็ต >มันเทียวแทบทุกอาทิตย์ กูโคตรเสียดายอนาคตมันเลย >เป็นหนี้เพื่อนฝูง จนไม่กล้าคุยกับเพื่อนๆ > >..................... > >ล่าสุด ก็โดนเมียฝรั่งแถวบ้าน เบี้ยวหนี้ กูไปอีก 1.5 หมื่น >แต่ดีที่ถือว่าได้ดอก ได้ต้นคืน พอสมควรแล้ว แต่ก็นะ ยุคนี้ >1.5 หมื่นกูก็เสียดาย > >โดนไป 2 รอบ เที่ยวนี้ กูเข็ดเลย ไม่ให้ใครยืมแล้ว ใครจะยืม >ไปหาของมาค้ำ ไม่มี เชิญรายวันเลย ยืม 2 แสนได้ คืนมา 4 แสนก็โอเค กว่าคนไม่ได้คืนสักบาทค่ะป้า อย่าโลภให้มันมากนักนะ
|