>อันนี้ฟังเค้าเล่าต่อกันมาอีกที ถูกผิดพิจารณากันเอาเองค่ะ
>
>เดิมทีแม่บทสายสีเหลืองมันเริ่มที่ลาดพร้าว(แยกรัชดา-ลาดพร้าว)ต่อเนื่องไปถึงสำโรง
>ตอนนั้นก็ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ใช่ค่ะ ใครๆ ก็คิดอย่างนั้น
>เพราะต้นสายก็เชื่อมกับสายวงกลมสีน้ำเงิน
>สายสีเงินก็แฮปปี้ค่ะใครจะไปลาดพร้าว-ศรีนครินทร์ต้องมาเปลี่ยนที่สถานีลาดพร้าวของชั้น
>ยังไงก็หนีไม่พ้น
>
>ปัญหาเริ่มเห็นชัดเป็นรูปเป็นร่างก็ตรงที่สายสีเขียวส่วนต่อขยายมันสร้างยาวขึ้นเหนือไปถึงคูคตโน่น
>กลายเป็นว่าถ้าจะต้องนั่งสายสีเหลือง(ซึ่งใช้ระบบเดียวกับ
>BTS)ต้องลงสถานีห้าแยกลาดพร้าวแล้วเดินลงไปสถานีพหลโยธินของสีน้ำเงินที่เชื่อมแบบไกล๊ไกล
>เพื่อนั่งไปลงสถานีลาดพร้าวที่อยู่ถัดไปเพียงหนึ่งสถานี
>
>แน่นอนว่าสายสีเหลืองไม่สามารถสร้างต่อเพื่อไปเชื่อมกับสีเขียวที่ห้าแยกลาดพร้าวได้อีกแล้ว
>เพราะตัวสถานีมันเลี้ยวเข้าเส้นรัชดาภิเษก
>แล้วมันจะซ้อนทับกับสีน้ำเงิน ก็เลยเล็งเห็นว่าไหนๆ
>ก็มาทางเส้นรัชดาภิเษกแล้ว ทำไมไม่สร้างยาวต่อไปตามแนวถนน
>ซึ่งตรงนั้นก็มีสถานที่สำคัญมากๆ อย่างศาลอาญา
>(และตรงข้ามก็เป็นแหล่งชุมชนอย่างซอยเสือใหญ่กับราชภัฏจันทรเกษม)
>แล้วไปสิ้นสุดที่แยกรัชโยธินโดยเชื่อมกับสถานีพหลโยธิน24ของสายสีเขียว
>
>ถ้าเธอเป็นเจ้าของสายสีน้ำเงินก็คงจะยอมให้ส่วนขยายนี้เกิดขึ้นหรอกค่ะ
>เพราะถ้าสายสีเหลืองสามารถเชื่อมต่อกับสายสีเขียวได้
>ก็อดเก็บค่าโดยสารจากผู้โดยสารสายสีเขียวที่ต้องการนั่งไปลาดพร้าว
>เพราะคงไม่มีใครบ้ามานั่งต่อสายสีน้ำเงินอย่างแน่นอน
>
>ฟังหูไว้หูนะคะ งานมโน งานที่ฟังเค้าเล่ามาอีกที ผิดๆ ถูกๆ

เธอไม่ได้มโนนะคะ เหมือนคุ้นๆ ว่า ทาง BEM จะฟ้อง รฟม เจ้าของสัมปทานนะคะ ว่าสายสีเหลืองอาจจะแย่งลูกค้าสายสีน้ำเงินไป ตอนนี้โครงการเต็มๆ เลยน่าจะหยุดแค่ตรงนี้ไว้ก่อนค่ะ

เพราะการสร้างสายสีเหลืองตามโครงการเดิม มันไม่ได้สิ้นสุดที่สถานีลาดพร้าวค่ะ จริงๆ สายสีเหลือง มันต้องวิ่งไปตามโค้งศาลอาญา พร้อม มีสถานีอีก 2 แห่งคือ สถานีศาลยุติธรรม กับ สถานีจันทร์เกษมค่ะ ก่อนที่รถจะไปเลี้ยวตรงแยกรัชโยธินแถวๆสถานีตำรวจแล้วไปเชื่อมกับสถานีพหล 24 ค่ะ เธอเข้าใจถูกแล้วค่ะ ตามโครงการริเริ่ม มันต้องเป่็นแบบนั้นค่ะตามแผนแม่บท แต่คนประมูลสายสีเหลืองได้ คือ BTS ไงคะ ซึ่ง BTS จะใช้ระบบตั๋วร่วมถ้าได้เชื่อมต่อสถานีของ BTS ด้วยกัน

แปลว่า BEM ซึ่งวิ่งสายสีน้ำเงินจะเสียลูกค้าที่ต้องการมาใช้บริการเส้นลาดพร้าวในทันที ทาง BEM จึงมีคำสั่งให้ศาลคุ้มครองเพื่อให้ รฟม ศึกษาความเป็นไปได้ว่า สองสถานนีของสายสีเหลือง ว่าจะส่งผลกระทบต่อสายสีน้ำเงินยังไง และจะมีการชดเชยอย่างไร ซึ่ง BTS ไม่ยอมชดเชยให้ BEM อยู่แล้ว กลายเป็น สองสถานีแทนที่จะได้สร้างแต่แรก ก็กลายเป็นโครงการส่วนต่อขยายไปเสียแทนค่ะ

ซึ่งถ้ารถไฟฟ้ามีระบบตั๋วร่วมแต่แรก คงไม่เป็นแบบนี้ ทีนี้เห็นยังว่าเกมการเมืองสมัยก่อนส่งผลถึงเรายังไงในปัจจุบัน เพราะสายสีเขียว ต่อไปนี้ ก็น่าจะเป็นรถไฟฟฟ้า ที่สร้างปัญหามากที่สุด เนื่องจาก
เป็นสายที่เป๋็นสัมปทานของ กทม ซึ่งตอนนั้นพรรคแมงสาบเป็นใหญ่ และไม่ยอมปล่อยสัมปทานให้คมนาคมดูแล แต่ที่เลหือไม่ว่า จะเป็นเจ้าไหน สัมปทานจะอยู่ใต้กระทรวงคมนาคมเท่านั้น ทำให้พอสัมปทานแยกกันดูแล สัญญาจึงถูกดำเนินการโดยที่ไม่สามารถประเมินผลเสียร่วมกันได้สักที