Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 247360
#0, กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม
Posted by ทีมงานคุณ Jizz on 06-Jun-23 at 03:28 PM
ที่ มน. เขายกเลิกก็ถูกแล้ว เพราะอีตุ๊ดกวิ้นมัน ถูกดำเนินคดีและติดคุกอะไรมากมาย แต่เขียนไปว่าเป็นนักวิชาการอิสระ จะเป็นนักวิชาการอิสระได้ไง ในเมื่อยังเรียนไม่จบ ป.ตรี เลย

ผลงานวิจัย ผลงานวิชาการไม่มี มีแต่คำพูดโง่ๆ ตอแหลๆ ของมันคิดเองฝ่ายเดียว ตามหลักวิชาการแล้วมันไม่ได้ไงคะ เขาก็ต้องยกเลิกไปเพราะทนกระแสสังคมใน มน. และรอบๆ ไม่ได้

แล้วพวก ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ มาสาระแนด้วยอะไรไม่ทราบคะ

ถ้าอยากเป็นเจ้าภาพแล้วเชิญอีตุ๊ดกวิ้นไปพูด ก็จัดเองค่ะ มน. เขามีจุดยืนของเขา อย่าเสือกค่ะ

https://siamrath.co.th/n/452363


#1, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by ค่ะ on 07-Jun-23 at 01:53 AM
In response to message #0
ทำไมตุ๊ด ราชภัฏ ต้องมาตั้งกระทู้ถามด้วยคะ

#2, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน พวกหล่อนทันกันรึเปล่าล่ะ on 07-Jun-23 at 02:42 AM
In response to message #1
พวกหล่อนไม่รู้สินะว่าภาควิชาประวัติศาสตร์มอชอมีแต่ตัวจี๊ดแบบ นิธิ เอียวศรีวงศ์ อรรถจักร กับเมียแกอ.สายชล หล่อนจะไปด่าเขา อ่านแถลงการ์ณก่อนค่ะ

จดหมายถึงสังคมไทย
เรื่อง “เสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพในการศึกษาประวัติศาสตร์”
.
ตามที่ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับเครือข่าย 14 สถาบัน มีโครงการประชุมวิชาการในวาระครบรอบ 55 ปี ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเชิญ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แสดงปาฐกถานำเรื่อง “เขียนสังคม เขียนประวัติศาสตร์ประชาชน” ซึ่งปรากฏว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวรได้สอบถามภาควิชาฯ ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน วิธีการ และขั้นตอนการเลือกวิทยากร ตลอดจนคุณสมบัติความเป็นนักวิชาการของวิทยากรที่เชิญมาเป็นองค์ปาฐก และได้ย้ำเตือนให้คณะทำงานพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวในสื่อมวลชนด้วยว่าปาฐกถาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นี้ “สังคมหวั่นไม่เป็นกลาง”
.
มีข้อถกเถียงมานานหลายทศวรรษแล้ว ความรู้ทางประวัติศาสตร์ควรจะเป็นอย่างไร และสังคมไทยควรจะคาดหวังอะไรจากความรู้ทางประวัติศาสตร์ ในปัจจุบันเมื่อสังคมไทยและสังคมโลกมีพลวัตสูง ข้อถกเถียงดังกล่าวนี้ก็มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อสังคมมีคนกลุ่มใหม่ ๆ เกิดขึ้น วิถีชีวิตของคนทุกกลุ่มเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความสัมพันธ์ทางสังคมมีความซับซ้อนและเลื่อนไหลมากขึ้น การมองเห็น “ความจริงเกี่ยวกับอดีต” โดยใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แบบใดแบบหนึ่ง นอกจากไม่ช่วยให้เข้าใจความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างเพียงพอแล้ว ยังอาจสร้างความเข้าใจผิดในเรื่องต่าง ๆ เช่น เข้าใจว่าประชาชนในอดีตสุขสบาย “ความเป็นไทยทำให้เมืองไทยนี้ดี” โดยมิได้รู้ว่ามีการเกณฑ์ส่วย เกณฑ์แรงงาน เกณฑ์ไปทำสงคราม การกวาดต้อนเชลย การสอบสวนและการลงโทษด้วยวิธีการที่สยดสยอง ความไม่เท่าเทียมทางเพศทั้งในชีวิตประจำวัน และในเรื่องอื่น ๆ เช่น การจับตัวภรรยาและแม่ยายไปขังคุกไว้จนกว่าทางราชการจะได้ตัวผู้กระทำความผิด การที่เจ้าเมืองและหรือกรมการเมืองหลายเมืองจับคนมาขังคุกเพื่อเรียกเงิน หรือเป็นโจรปล้นเสียเอง ฯลฯ
.
คนไทยถูกทำให้มองแต่ “ด้านดี” ของอดีตมานาน จนมองข้ามด้านอื่น ๆ ไปเสียหมด มหาวิทยาลัยจึงควรสนับสนุนความรู้ทางประวัติศาสตร์ทุก ๆ แบบ โดยเปิดโอกาสให้มีเสรีภาพที่จะประชันขันแข่งกันเพื่อช่วยเพิ่ม “ทางเลือก” ให้แก่คนไทยในการทำความเข้าใจอดีต
.
“ความจริงเกี่ยวกับอดีต” ที่มีหลายแบบหรือหลายมุมมอง เป็นเรื่องที่วงวิชาการตระหนักกันมานานแล้ว กลุ่มสังคมต่าง ๆ หรือแม้แต่บุคคลหนึ่ง ๆ อาจเห็น “ความจริง” แตกต่างจากเดิม สังคมจึงไม่ควรถูกบังคับหรือถูกกดดันให้มองความจริงเกี่ยวกับอดีตแบบใดแบบหนึ่ง หรือให้ใช้มุมมองเดียวเหมือนกันหมดทุกคน แล้วพยายามเบียดขับมุมมองแบบอื่น ๆ ออกไป
.
การมีมุมมองที่แตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดาและเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน นิสิตนักศึกษาที่จะปรับตัวได้ในโลกที่ผันแปรและผันผวน จำเป็นจะต้องเรียนรู้มุมมองที่แตกต่างหลากหลายในการทำความเข้าใจมนุษย์และสังคม มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนมุมมองในเรื่องหนึ่ง ๆ จนมีความสามารถและความกล้าหาญในการมองเห็น “ความจริง” จากต่างมุมมอง ในบางกรณีก็อาจจะต้องอาศัยความรู้จากหลาย ๆ มุมมองประกอบกัน หรืออาจต้องพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบ เพื่อจะไม่เชื่อ “ความจริง” เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างตายตัว ซึ่งอาจจะทำให้มีวิธีคิดเดียวในการมองชีวิตและมองโลกจนปรับตัวไม่ได้
.
อุดมคติของสังคมไทยและสังคมโลกในปัจจุบัน คือการเห็น “คนเท่ากัน” ซึ่งมิใช่จะเกิดขึ้นได้จากการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ที่สำคัญมากเช่นกันก็คือ การสำนึกอย่างแท้จริงว่าคนที่มีความรู้/ความคิดแตกต่างกันนั้นมี “ความเสมอภาค” กัน การจัดความสัมพันธ์กันอย่างเสมอภาคและเหมาะสมจะเกิดขึ้นเมื่อมีความรู้และความเข้าใจในคนอื่น ๆ ทุกชาติพันธุ์ ทุกเพศ ทุกอาชีพ ทุกระดับการศึกษา ทุกชาติ ทุกท้องถิ่น ฯลฯ โดยสำนึกในความเสมอภาค ทั้งนี้ ความรู้ความเข้าใจใน “ความจริง” เกี่ยวกับตัวเองและคนอื่น ๆ นี้ หากมาจากหลากหลายมุมมองก็จะช่วยเพิ่ม “ทางเลือก” และเพิ่มทัศนะวิพากษ์ในการศึกษาสังคมไทยให้แก่นิสิตนักศึกษาและคณาจารย์
.
การเชิญนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เป็นผู้แสดงปาฐกถานำ เรื่อง “เขียนสังคม เขียนประวัติศาสตร์ประชาชน” จึงเป็นเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพทางความคิดที่ไม่อาจแยกออกจากเสรีภาพทางการเมืองในระบอบเสรีประชาธิปไตย” ผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่มีสิทธิขัดขวางเสรีภาพนี้เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญและขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน และยังเป็นการดูหมิ่นวิจารณญาณของนิสิตนักศึกษาและคณาจารย์
.
นอกจากนี้ ยังเป็นการลดทอนโอกาสของคนไทยและสังคมไทยที่จะมองเห็น “ทางเลือก” ในการศึกษาอดีต ซึ่งหมายถึงทางเลือกสำหรับการทำความเข้าใจ “สังคมไทยในปัจจุบัน” และทางเลือกในการสร้างสรรค์ “อนาคตของสังคมไทย” ด้วย เพราะความทรงจำเกี่ยวกับอดีตเป็นพื้นฐานของการทำความเข้าใจปัจจุบันและอนาคตของสังคม
.
หาก “หน้าที่ของมหาวิทยาลัย” คือการสร้างและเผยแพร่ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจและเสนอ “ทางเลือก” ให้แก่ชีวิตคนไทย วงวิชาการไทย ตลอดจนสังคมไทยและสังคมโลก “เสรีภาพทางวิชาการ” ที่เปิดโอกาสให้แก่การเสนอความคิด/ความรู้จากมุมมองที่แตกต่างหลากหลายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยปล่อยให้ผู้คนได้ใช้วิจารณญาณอย่างเต็มที่ ก็ต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ “อันล่วงละเมิดมิได้” อย่างแท้จริง
.
สายชล สัตยานุรักษ์
อรรถจักร สัตยานุรักษ์
.
6 มิถุนายน 2566


#3, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by แม่น้องมาร์ช on 07-Jun-23 at 05:40 AM
In response to message #2
กะเทยหน้าโง่ที่จบแค่ราชภัฎแบบมึงคงไม่เข้าใจ

#4, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by เจียมจิต on 07-Jun-23 at 07:18 AM
In response to message #2
>พวกหล่อนไม่รู้สินะว่าภาควิชาประวัติศาสตร์มอชอมีแต่ตัวจี๊ดแบบ
>นิธิ เอียวศรีวงศ์ อรรถจักร กับเมียแกอ.สายชล หล่อนจะไปด่าเขา
>อ่านแถลงการ์ณก่อนค่ะ
>
>จดหมายถึงสังคมไทย
>เรื่อง “เสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพในการศึกษาประวัติศาสตร์”
>.
>ตามที่ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
>ร่วมกับเครือข่าย 14 สถาบัน
>มีโครงการประชุมวิชาการในวาระครบรอบ 55 ปี
>ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเชิญ นายพริษฐ์
>ชิวารักษ์ แสดงปาฐกถานำเรื่อง “เขียนสังคม
>เขียนประวัติศาสตร์ประชาชน”
>ซึ่งปรากฏว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวรได้สอบถามภาควิชาฯ
>ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน วิธีการ
>และขั้นตอนการเลือกวิทยากร
>ตลอดจนคุณสมบัติความเป็นนักวิชาการของวิทยากรที่เชิญมาเป็นองค์ปาฐก
>และได้ย้ำเตือนให้คณะทำงานพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
>นอกจากนี้ยังมีข่าวในสื่อมวลชนด้วยว่าปาฐกถาของ นายพริษฐ์
>ชิวารักษ์ นี้ “สังคมหวั่นไม่เป็นกลาง”
>.
>มีข้อถกเถียงมานานหลายทศวรรษแล้ว
>ความรู้ทางประวัติศาสตร์ควรจะเป็นอย่างไร
>และสังคมไทยควรจะคาดหวังอะไรจากความรู้ทางประวัติศาสตร์
>ในปัจจุบันเมื่อสังคมไทยและสังคมโลกมีพลวัตสูง
>ข้อถกเถียงดังกล่าวนี้ก็มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
>เพราะเมื่อสังคมมีคนกลุ่มใหม่ ๆ เกิดขึ้น
>วิถีชีวิตของคนทุกกลุ่มเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
>ความสัมพันธ์ทางสังคมมีความซับซ้อนและเลื่อนไหลมากขึ้น
>การมองเห็น “ความจริงเกี่ยวกับอดีต”
>โดยใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์แบบใดแบบหนึ่ง
>นอกจากไม่ช่วยให้เข้าใจความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่างเพียงพอแล้ว
>ยังอาจสร้างความเข้าใจผิดในเรื่องต่าง ๆ เช่น
>เข้าใจว่าประชาชนในอดีตสุขสบาย
>“ความเป็นไทยทำให้เมืองไทยนี้ดี” โดยมิได้รู้ว่ามีการเกณฑ์ส่วย
>เกณฑ์แรงงาน เกณฑ์ไปทำสงคราม การกวาดต้อนเชลย
>การสอบสวนและการลงโทษด้วยวิธีการที่สยดสยอง
>ความไม่เท่าเทียมทางเพศทั้งในชีวิตประจำวัน และในเรื่องอื่น ๆ
>เช่น
>การจับตัวภรรยาและแม่ยายไปขังคุกไว้จนกว่าทางราชการจะได้ตัวผู้กระทำความผิด
>การที่เจ้าเมืองและหรือกรมการเมืองหลายเมืองจับคนมาขังคุกเพื่อเรียกเงิน
>หรือเป็นโจรปล้นเสียเอง ฯลฯ
>.
>คนไทยถูกทำให้มองแต่ “ด้านดี” ของอดีตมานาน จนมองข้ามด้านอื่น
>ๆ ไปเสียหมด
>มหาวิทยาลัยจึงควรสนับสนุนความรู้ทางประวัติศาสตร์ทุก ๆ แบบ
>โดยเปิดโอกาสให้มีเสรีภาพที่จะประชันขันแข่งกันเพื่อช่วยเพิ่ม
>“ทางเลือก” ให้แก่คนไทยในการทำความเข้าใจอดีต
>.
>“ความจริงเกี่ยวกับอดีต” ที่มีหลายแบบหรือหลายมุมมอง
>เป็นเรื่องที่วงวิชาการตระหนักกันมานานแล้ว กลุ่มสังคมต่าง ๆ
>หรือแม้แต่บุคคลหนึ่ง ๆ อาจเห็น “ความจริง” แตกต่างจากเดิม
>สังคมจึงไม่ควรถูกบังคับหรือถูกกดดันให้มองความจริงเกี่ยวกับอดีตแบบใดแบบหนึ่ง
>หรือให้ใช้มุมมองเดียวเหมือนกันหมดทุกคน
>แล้วพยายามเบียดขับมุมมองแบบอื่น ๆ ออกไป
>.
>การมีมุมมองที่แตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดาและเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน
>นิสิตนักศึกษาที่จะปรับตัวได้ในโลกที่ผันแปรและผันผวน
>จำเป็นจะต้องเรียนรู้มุมมองที่แตกต่างหลากหลายในการทำความเข้าใจมนุษย์และสังคม
>มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนมุมมองในเรื่องหนึ่ง ๆ
>จนมีความสามารถและความกล้าหาญในการมองเห็น “ความจริง”
>จากต่างมุมมอง ในบางกรณีก็อาจจะต้องอาศัยความรู้จากหลาย ๆ
>มุมมองประกอบกัน หรืออาจต้องพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบ
>เพื่อจะไม่เชื่อ “ความจริง”
>เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างตายตัว
>ซึ่งอาจจะทำให้มีวิธีคิดเดียวในการมองชีวิตและมองโลกจนปรับตัวไม่ได้
>.
>อุดมคติของสังคมไทยและสังคมโลกในปัจจุบัน คือการเห็น
>“คนเท่ากัน”
>ซึ่งมิใช่จะเกิดขึ้นได้จากการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเท่านั้น
>แต่ที่สำคัญมากเช่นกันก็คือ
>การสำนึกอย่างแท้จริงว่าคนที่มีความรู้/ความคิดแตกต่างกันนั้นมี
>“ความเสมอภาค” กัน
>การจัดความสัมพันธ์กันอย่างเสมอภาคและเหมาะสมจะเกิดขึ้นเมื่อมีความรู้และความเข้าใจในคนอื่น
>ๆ ทุกชาติพันธุ์ ทุกเพศ ทุกอาชีพ ทุกระดับการศึกษา ทุกชาติ
>ทุกท้องถิ่น ฯลฯ โดยสำนึกในความเสมอภาค ทั้งนี้
>ความรู้ความเข้าใจใน “ความจริง” เกี่ยวกับตัวเองและคนอื่น ๆ
>นี้ หากมาจากหลากหลายมุมมองก็จะช่วยเพิ่ม “ทางเลือก”
>และเพิ่มทัศนะวิพากษ์ในการศึกษาสังคมไทยให้แก่นิสิตนักศึกษาและคณาจารย์
>.
>การเชิญนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เป็นผู้แสดงปาฐกถานำ เรื่อง
>“เขียนสังคม เขียนประวัติศาสตร์ประชาชน”
>จึงเป็นเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพทางความคิดที่ไม่อาจแยกออกจากเสรีภาพทางการเมืองในระบอบเสรีประชาธิปไตย”
>ผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่มีสิทธิขัดขวางเสรีภาพนี้เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญและขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน
>และยังเป็นการดูหมิ่นวิจารณญาณของนิสิตนักศึกษาและคณาจารย์
>.
>นอกจากนี้
>ยังเป็นการลดทอนโอกาสของคนไทยและสังคมไทยที่จะมองเห็น
>“ทางเลือก” ในการศึกษาอดีต
>ซึ่งหมายถึงทางเลือกสำหรับการทำความเข้าใจ
>“สังคมไทยในปัจจุบัน” และทางเลือกในการสร้างสรรค์
>“อนาคตของสังคมไทย” ด้วย
>เพราะความทรงจำเกี่ยวกับอดีตเป็นพื้นฐานของการทำความเข้าใจปัจจุบันและอนาคตของสังคม
>.
>หาก “หน้าที่ของมหาวิทยาลัย”
>คือการสร้างและเผยแพร่ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจและเสนอ
>“ทางเลือก” ให้แก่ชีวิตคนไทย วงวิชาการไทย
>ตลอดจนสังคมไทยและสังคมโลก “เสรีภาพทางวิชาการ”
>ที่เปิดโอกาสให้แก่การเสนอความคิด/ความรู้จากมุมมองที่แตกต่างหลากหลายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
>โดยปล่อยให้ผู้คนได้ใช้วิจารณญาณอย่างเต็มที่
>ก็ต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ “อันล่วงละเมิดมิได้” อย่างแท้จริง
>.
>สายชล สัตยานุรักษ์
>อรรถจักร สัตยานุรักษ์
>.
>6 มิถุนายน 2566


ทำไมอ่านจดหมายของ มช. แล้วขำ ปนสมเพช เวทนา ภาควิชาประวัติศาสตร์ มช. จัง

เพราะอะไรน่ะเหรอ ไปเสือก สาระแน สิทธิและเสรีภาพ ม.นเรศวร เขาทำไม

การบริหารงานและจัดการควรให้ มน. เขาตัดสินกันเองป่ะ ตัวเองบอกว่าควรให้สิทธิเสรีภาพ มีเสรีภาพทางความคิด

ก็ มน. เขาคิดดีแล้วไง แล้วก็ใช้สิทธิเสรีภาพเขาไม่จัดงาน ไม่เอาอีตุ๊ดขี้คุกแพนกวิ้นมาแล้วไง แล้วจะมาบังคับคนอื่นให้คิดแบบตัวเอง

ตลกเนอะ ตรรกะย้อนแย้งมาก ภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ควรยุบๆ ไปซะ เรียนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก หนักแผ่นดิน ที่มีพวกอาจารย์คิดแบบนี้ ตรรกะป่วย ย้อนแย้ง

ใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ไปจุ้น และสาระแนการบริหารงานของสถาบันอื่น สมเพชที่สุด


#5, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by อดีตลูกช้าง on 07-Jun-23 at 12:43 PM
In response to message #4
อรรถจักร์เอย นิธิเอย ยังไม่เกษียณไปอีกเหรอคระ
กรูเด็กมอชอนะ นานละ เรียนสายวิทยาศาสตร์แต่ก็ไปลงเรียนวิชาประวัติศาสตร์บ้าง ด้วยความชอบส่วนตัว
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน เนื่้อหาส่วนใหญ่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่อีพวกสามกีบเอามาสาระแนอวดอ้างตื่นรู้ ยิ่งมาทำเป็นเครือข่ายยิ่งทำให้เห็นเลย อีกพวกนี้แม่ง…
ถึงจะเป็นส่วนน้อยแต่ถ้าเหี้ยดัง มันก็มากพอที่ทำให้มุมมองต่อสถาบันเปลี่ยนไป

เอาเป็นว่าสองสามปีที่ผ่านมานี้ เสียความรู้สึกกับ มอชอ ไปมากมาย


#6, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by 🙄 on 07-Jun-23 at 01:01 PM
In response to message #4

>
>ก็ มน. เขาคิดดีแล้วไง แล้วก็ใช้สิทธิเสรีภาพเขาไม่จัดงาน
>ไม่เอาอีตุ๊ดขี้คุกแพนกวิ้นมาแล้วไง
>แล้วจะมาบังคับคนอื่นให้คิดแบบตัวเอง

อีง่าว ภาควิชาประวัติศาสตร์โดนแทรกแซงจากผู้บริหารเบื้องบนค่ะ เสรีภาพหีมึงสิโดนสั่งห้าม มันคือการบังคับเพื่อภาพลักษณ์จอมปลอมของมหาวิทยาลัย แต่ทางด้านวิชาการทางประวัติศาสตร์ มึงจะศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศด้านเดียวโลกสวยไม่ได้ เพื่อความถูกต้องของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

สิทธิเสรีภาพที่ควรจะเป็นคือจัดงานไป ใครอยากเข้าร่วมก็เข้า ไม่เข้าก็ไม่ต้องเข้า นั่นคือสิทธิเสรีภาพของนักศึกษาค่ะ โตจนสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้แล้วมีวิจารณญาณ ไม่ใช่แบนแต่ต้น


#7, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by เจียมจิต on 07-Jun-23 at 01:32 PM
In response to message #6
>
>>
>>ก็ มน. เขาคิดดีแล้วไง แล้วก็ใช้สิทธิเสรีภาพเขาไม่จัดงาน
>>ไม่เอาอีตุ๊ดขี้คุกแพนกวิ้นมาแล้วไง
>>แล้วจะมาบังคับคนอื่นให้คิดแบบตัวเอง
>
>อีง่าว ภาควิชาประวัติศาสตร์โดนแทรกแซงจากผู้บริหารเบื้องบนค่ะ
>เสรีภาพหีมึงสิโดนสั่งห้าม
>มันคือการบังคับเพื่อภาพลักษณ์จอมปลอมของมหาวิทยาลัย
>แต่ทางด้านวิชาการทางประวัติศาสตร์
>มึงจะศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศด้านเดียวโลกสวยไม่ได้
>เพื่อความถูกต้องของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
>
>สิทธิเสรีภาพที่ควรจะเป็นคือจัดงานไป ใครอยากเข้าร่วมก็เข้า
>ไม่เข้าก็ไม่ต้องเข้า นั่นคือสิทธิเสรีภาพของนักศึกษาค่ะ
>โตจนสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้แล้วมีวิจารณญาณ
>ไม่ใช่แบนแต่ต้น


ขรรม ใครจะมาแทรกแซงได้ ถ้ายืนกรานจะจัดซะอย่าง แต่เพราะเขาคิดดีแล้วไงอีควายว่ามันไม่คุ้มและเขารับฟังประชาคมอย่างทั่วถึงแล้วว่ามันไม่ดี ถึงยุติไป แบบนี้ไง เรียก ประชาธิปไตยแล้ว

อ้อ ถ้าเขาเป็นผู้บริหารมึง มึงไม่ทำตามกฎระเบียบเขา ไม่เชื่อฟังเขา มึงก็ย้ายไปตั้งมหาวิทยวาลัยเองหรือหาที่ทำงานใหม่สิอีควายแก่สามกีบหน้าผี

แต่ที่เสือกของจริงคือ ม.เชียงใหม่ ไม่ใช่ มหาวิทยาลัยตัวเอง เสือกสาระแนไปทั่ว ถ้าอยากจัดมาก ก็จัดเองสิ หรือว่าไม่มีปัญญาจะจัดละคะ

อ้อ ลืมไปส่วนใหญ่เป็นภาควิชารากหญ้า คะแนนสอบเข้าต่ำตม รับแต่พวกโง่ๆ ไปเรียน เลยคงไม่มีปัญญาจัดเอง ต้องมาโหนกระแส มน. 55555555555


#8, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by 🙄 on 07-Jun-23 at 03:25 PM
In response to message #7

>ขรรม ใครจะมาแทรกแซงได้ ถ้ายืนกรานจะจัดซะอย่าง
>แต่เพราะเขาคิดดีแล้วไงอีควายว่ามันไม่คุ้มและเขารับฟังประชาคมอย่างทั่วถึงแล้วว่ามันไม่ดี
>ถึงยุติไป แบบนี้ไง เรียก ประชาธิปไตยแล้ว
>
>อ้อ ถ้าเขาเป็นผู้บริหารมึง มึงไม่ทำตามกฎระเบียบเขา
>ไม่เชื่อฟังเขา
>มึงก็ย้ายไปตั้งมหาวิทยวาลัยเองหรือหาที่ทำงานใหม่สิอีควายแก่สามกีบหน้าผี
>
>แต่ที่เสือกของจริงคือ ม.เชียงใหม่ ไม่ใช่ มหาวิทยาลัยตัวเอง
>เสือกสาระแนไปทั่ว ถ้าอยากจัดมาก ก็จัดเองสิ
>หรือว่าไม่มีปัญญาจะจัดละคะ
>
>อ้อ ลืมไปส่วนใหญ่เป็นภาควิชารากหญ้า คะแนนสอบเข้าต่ำตม
>รับแต่พวกโง่ๆ ไปเรียน เลยคงไม่มีปัญญาจัดเอง ต้องมาโหนกระแส
>มน. 55555555555

อีนี่เมายาคุมหรือแค่โง่คะ เปิดมาแบบขรรม ใครจะมาแทรกแซงได้ อีกย่อหน้าถัดมาก็ตอบตัวเองไปเรียบร้อยว่าเป็นผู้บริหาร ดังนั้นหล่อนตอบตัวเองถามว่าใครจะมาแทรกแซงได้ ก็คือผู้บริหารไงอีควาย มันถึงไม่มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแบบอิสระภายใต้สถาบันการศึกษาที่สมควรจะส่งเสริมนักศึกษาในด้านนี้ เพราะเป็นจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยตั้งแต่แรกหรือไม่

แล้วก็วกมาบูลลี่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพราะแค่ไม่ถูกจริตมึง ไหนเอาคะแนนที่มึงใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยมึงมาให้ดูหน่อยค่ะ คณะไหนมอไหน จะได้เปิดเทียบกับของม.ช.ไปเลย จะด่าว่าคะแนนต่ำ มึงต้องพิสูจน์ตัวมึงก่อน


#9, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by เรื่องตรรกะป่วยๆ ควายๆ ไว้ใจตุ๊ดสามกีบ on 07-Jun-23 at 03:48 PM
In response to message #8
>
>>ขรรม ใครจะมาแทรกแซงได้ ถ้ายืนกรานจะจัดซะอย่าง
>>แต่เพราะเขาคิดดีแล้วไงอีควายว่ามันไม่คุ้มและเขารับฟังประชาคมอย่างทั่วถึงแล้วว่ามันไม่ดี
>>ถึงยุติไป แบบนี้ไง เรียก ประชาธิปไตยแล้ว
>>
>>อ้อ ถ้าเขาเป็นผู้บริหารมึง มึงไม่ทำตามกฎระเบียบเขา
>>ไม่เชื่อฟังเขา
>>มึงก็ย้ายไปตั้งมหาวิทยวาลัยเองหรือหาที่ทำงานใหม่สิอีควายแก่สามกีบหน้าผี
>>
>>แต่ที่เสือกของจริงคือ ม.เชียงใหม่ ไม่ใช่ มหาวิทยาลัยตัวเอง
>>เสือกสาระแนไปทั่ว ถ้าอยากจัดมาก ก็จัดเองสิ
>>หรือว่าไม่มีปัญญาจะจัดละคะ
>>
>>อ้อ ลืมไปส่วนใหญ่เป็นภาควิชารากหญ้า คะแนนสอบเข้าต่ำตม
>>รับแต่พวกโง่ๆ ไปเรียน เลยคงไม่มีปัญญาจัดเอง ต้องมาโหนกระแส
>>มน. 55555555555
>
>อีนี่เมายาคุมหรือแค่โง่คะ เปิดมาแบบขรรม ใครจะมาแทรกแซงได้
>อีกย่อหน้าถัดมาก็ตอบตัวเองไปเรียบร้อยว่าเป็นผู้บริหาร
>ดังนั้นหล่อนตอบตัวเองถามว่าใครจะมาแทรกแซงได้
>ก็คือผู้บริหารไงอีควาย
>มันถึงไม่มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแบบอิสระภายใต้สถาบันการศึกษาที่สมควรจะส่งเสริมนักศึกษาในด้านนี้
>เพราะเป็นจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยตั้งแต่แรกหรือไม่
>
>แล้วก็วกมาบูลลี่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพราะแค่ไม่ถูกจริตมึง
>ไหนเอาคะแนนที่มึงใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยมึงมาให้ดูหน่อยค่ะ
>คณะไหนมอไหน จะได้เปิดเทียบกับของม.ช.ไปเลย จะด่าว่าคะแนนต่ำ
>มึงต้องพิสูจน์ตัวมึงก่อน

ตรรกะป่วย โง่ และแถโง่ๆ เอาแค่ว่างานประชุมวิชาการ ม.นเรศวร เป็นเจ้าภาพจัด มช. มาเสือกอะไรด้วย อีควาย


#10, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by 🙄 on 07-Jun-23 at 04:14 PM
In response to message #9
หล่อนคงไม่มีการศึกษาที่อยู่ระดับสูงสินะ นี่เป็นการประกาศแสดงจุดยืนของสถาบันการศึกษา หรือภาควิชาว่าเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นกับที่ของตัวเอง แต่ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาเหมือนกันที่จุดประสงค์หลักที่สร้างขึ้นมาเพื่อประชาชนในประเทศให้มีความรู้ มันจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาของผู้ที่มีการศึกษาค่ะ

https://www.matichon.co.th/politics/news_4014481


#11, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by จดหมายถึงสลิ่ม on 07-Jun-23 at 04:21 PM
In response to message #10
เรียน สลิ่มทุกท่าน

เนื่องจากได้มีสลิ่มหลายท่านกังวลเรื่องว่าตัวผมได้รับเชิญไปเป็นองค์ปาฐกในงานประชุมวิชาการนักศึกษาระดับปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จนเป็นเหตุให้สลิ่มเหล่านี้ต้องไปดีดดิ้นกดดันผู้จัดจนทางผู้จัดเขาต้องยกเลิกงาน

ขอชี้แจงต่อไปนี้

ผมไม่เคยเรียกตัวเองต่อสาธารณะว่าเป็นนักวิชาการ ส่วนใครจะเรียกผมเป็นนักวิชาการเป็นความเชื่อถือของท่านผู้ให้เกียรติเรียกผมเช่นนั้น แต่ที่มีสลิ่มบางท่านโจมตีผมว่าไม่มีผลงานทางวิชาการนั้น เป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากผมได้เคยตีพิมพ์บทความทางวิชาการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ล้านนาไว้ในหนังสือ Undergrad Review หนึ่งชิ้นเมื่อสมัยผมอยู่มัธยมปลาย และขณะนี้ก็ได้รับการตอบรับตีพิมพ์บทความจากวารสารประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นวารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูลวารสารวิชาการ TCI มีกำหนดเผยแพร่เดือนกรกฎาคมนี้

นอกจากนี้ ผมมีคอลัมน์ “ของบ่เล่ารู้ลืม” ของเว็บ The101.world เป็นบทความค้นคว้าอิสระและข้อคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ล้านนา ทุกท่านสามารถเข้าไปอ่านผลงานได้ และผมทำรายการประวัติศาสตร์ราษฎรเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ ในส่วนนี้ หากจะถือเป็นการค้นคว้าวิชาการอิสระก็ได้ แต่ถ้าไม่นับก็ไม่เป็นไร

ดังนั้น หากสลิ่มจะโจมตีผมว่าไม่มีผลงาน กรุณาใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง ยกเว้นว่าถนัดจะใช้ข่าวปลอมหลอกลวงกล่อมประสาทสลิ่มด้วยกันไปเรื่อยๆ ก็สุดแท้แต่

https://www.matichon.co.th/politics/news_4013378


#12, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by . on 08-Jun-23 at 01:30 PM
In response to message #9
LAST EDITED ON 08-Jun-23 AT 01:42 PM (SE Asia Standard Time) by <font color=9955FF size=5 face=tahoma><b>อ่างแก้ว</font></b> (moderator)
 
สู้ หมิสู้
หมิสู้ หมิสู้ สู้สู้
หนำหนำ เหงยเหงย เหยเหย เป๋ยเป๋ย หำหำ
อาราชิ มิมิ ฮิฮิ คริคริ ยิยิ ติ๊ติ๊
ปิ๊ปิ๊ จิ๊จิ๊ กิ๊กิ๊ ซิซิ งิงิ บิ๊บิ๊
จิ๊จิ๊ หีหี ควยควย หีหี ควยควย
งิ๊งิ๊ ปิ๊ปิ๊ หีหี ดอดอ งิ๊งิ๊

#13, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by กวิ๊นไงจะใครล่ะ on 15-Jun-23 at 04:08 PM
In response to message #12
ในที่สุดเราก็มีที่หยัดยืน สลัดทิ้งโลกขมขื่นที่ล้าหลัง มาร่วมยาตราทัพรักเสรีมีพลัง จุดไฟหวังสร้างโลกใหม่ให้โสภี

5555 ในที่สุดกูก็มีเวทีได้ประกาศศักดาแล้วนะคะพวกกะเทยหลิ่มทั้งหลาย ขอเจิญมาร่วมงานปลดแอกอาณาจักรล้านนาจากประเทศสยามตวยกั๋นเน้อเจ้า ขอตั๋วไปหาใส้อั่วลำๆ ใหญ่ๆ ยาวๆ รับประทานก่อนเน้อเจ้า


https://www.facebook.com/events/974124183946320?ref=newsfeed
งานเสวนาวาระรัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจ
“แห่ไม้ก้ำประชาธิปไตย ปักหมุดหมายกระจายอำนาจ”
วันที่ 23 มิถุนายน เวลา : 12.30 – 17.00 น.
สถานที่ : คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
12.30​ ลงทะเบียน
13.20​ อ่านกวี ฮวกชวด-สุดสะแนน
13.30​ ปาฐกถาภาพรวมการกระจายอำนาจ: ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
14.00​ การต่อสู้ทางประวัติศาสตร์ล้านนากับอำนาจส่วนกลาง
Moderator: ประสิทธิ์ ครุธาโรจน์
Speaker:
1. พริษฐ์ ชิวารักษ์
2. ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์
15.30​ พักเบรก 20 นาที
15.50​ ขบวนการเคลื่อนไหวจังหวัดจัดการตนเอง
Moderator: ณัฐกร วิทิตานนท์
Speaker:
1. ชัชวาล​ ทองดีเลิศ
2. สุรีรัตน์​ ตรีมรรคา
3. ชำนาญ​ จันทร์เรือง
17.30​ กล่าวปิดด้วยการชวนไปงาน “แห่ไม้ก้ำประชาธิปไตย ปักหมุดหมายกระจายอำนาจ” วันที่ถัดไป
—
#แห่ไม้ก้ำประชาธิปไตย
#งานเสวนา


#14, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by พล on 15-Jun-23 at 09:38 PM
In response to message #13
5555. เจอ poster อันนี้เข้าไป สลิ่มคง ไม่สบายใจ


55555 สลิ่ม เจองานของ นิติศาสตร์ ม เชียงใหม่ คงช็อค หายใจไม่สะดวก

เขาเชิญตัวตึง มาปาฐกถา และ keynote speaker


#15, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by สิงห์ขาว on 15-Jun-23 at 10:48 PM
In response to message #14
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือกำเนิดจากคณะราษฎร ไม่ใช่มหาลัยสลิ่มนะคะ

ใครมีใจฝักใฝ่ในประชาธิปไตย เลือกเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ จะได้แนวคิดประชาธิปไตยที่แท้จริงสมใจอยากเลยค๊ะ


#16, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by @พชร. on 16-Jun-23 at 09:17 PM
In response to message #0
อยากเห็นอีกวิ้นจกหีอีหยกจนฉี่เเตก

#17, RE: กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม <
Posted by กะเทยวิจิตรศิลป์ on 18-Jun-23 at 02:22 PM
In response to message #16
อีมช.เสร่อแดกมาก55555555
สงสัยมัวแต่แบกเสลี่ยงจนสมองเบลอ

#18, RE%3A %3Cfont color %3D green size %3D5%3E%3Cb%3E %A1%C3%B3%D5%C0%D2%A4%C7%D4%AA%D2%BB%C3%D0%C7%D1%B5%D4%C8%D2%CA%B5%C3%EC %C1%CB%D2%C7%D4%B7%C2%D2%C5%D1%C2%B9%E0%C3%C8%C7%C3 %28%C1%B9.%29 %C2%A1%E0%C5%D4%A1%A8%D1%B4%A7%D2%B9%BB%C3%D0%AA%D8%C1%C7%D4%AA%D2%A1%D2%C3 %E0%BE%C3%D2%D0%E2%B4%B9%A1%C3%D0%E
Posted by สาวฝายหินถิ่นตระการ on 18-Jun-23 at 02:46 PM
In response to message #17
สบิ่มน่าวงวารแบบอุตส่าห์มีแสงส่อง กะแขวะเต็มที่
กรณีภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยกเลิกจัดงานประชุมวิชาการ เพราะโดนกระแสต่อต้านว่าไปเชิญตุ๊ดสามกีบกวิ้นป่วนโลก เรียนยังไม่จบเลยค่ะ แล้วภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ไม่เห็นด้วย เลยอยากถามว่าทำไม ม.เชียงใหม่ ไม่จัดไปเองเลยล่ะ มาด่า มน. เขาทำไม

ตอนนี้ชีจัดเองแล้ว สบิ่มก็ได้แต่ขำแห้งๆ แก้เขินอ่ะเนอะ คริคริ ถามมาก็จัดหั้ย ไม่พอใจก็โดดน้ำปิงตายไปเป๋นด้วงไป๊


#19, RE: RE%3A %3Cfont color %3D green size %3D5%3E%3Cb%3E %A1%C3%B3%D5%C0%D2%A4%C7%D4%AA%D2%BB%C3%D0%C7%D1%B5%D4%C8%D2%CA%B5%C3%EC %C1%CB%D2%C7%D4%B7%C2%D2%C5%D1%C2%B9%E0%C3%C8%C7%C3 %28%C1%B9.%29 %C2%A1%E0%C5%D4%A1%A8%D1%B4%A7%D2%B9%BB%C3%D0%AA%D8%C1%C7%D4%AA%D2%A1%D2%C3 %E0%BE%C3%D2%D0%E2%B4%B9%A1%C3%
Posted by สามกีบ on 21-Jun-23 at 04:20 PM
In response to message #18
สลิ่มแก่หีเหี่ยวเร่ออกมาประท้วง ท่านธนอน กับท่านผู้ญิ๋งกวิ๊น ไม่ให้จัดอภิปรายแยกดินแดนล้านนาออกจากสยาม โล่งใจหน่อยตรงที่ฝั่งคัดค้านน่าจะมีอายุไม่น่าจะอยู่ได้เกิน 2-3 ปี นี้ เพราะพร้อมจะลาโลกไปแล้วเต็มทน

https://mgronline.com/local/detail/9660000056215?fbclid=IwAR35-bpuzkzWT4KDFIgm5RL9bBi30D7e5MmJ1s-bGLCFrHL-u_FoYcx0jWo