Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 247405
#0, ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by วิบากกรรม นิวส์ on 07-Jun-23 at 05:49 PM
https://www.thansettakij.com/business/567244?fbclid=IwAR2cOvv5Q1JD5HNTvwc2nD-O3LiMQf5b-_qg1cFA25Rtx4_htAh7OI9ixQk

06 มิถุนายน 2566

เปิดรายงานผู้ตรวจสอบบัญชี พบ บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ ธุรกิจครอบครัว ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ให้กู้ยืมระยะสั้นให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกันกว่า 117 ล้านบาท แต่ไม่ได้จ่ายหนี้คืน สุดท้ายต้องตัดหนี้สูญ
.
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบงบการเงิน บริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ธุรกิจผลิตน้ำมันรำข้าว ของครอบครัว “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พบประเด็นที่น่าสนใจ กรณีบริษัทได้ให้เงินกู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันในช่วงที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นกรรมการบริษัท ระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม 2549 ถึง 6 มีนาคม 2560 กว่า 117 ล้านบาท แต่กลับไม่มีการชำระหนี้คืนให้แก่บริษัทแต่อย่างใด
.
รายงานผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต เสนอ ต่อผู้ถือหุ้น บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ในช่วงที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นกรรมการและดำรงตำแหน่ง Co-Founder & Managing Director พบว่า ในปี 2550-2559 บริษัทได้ให้เงินกู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันอย่างต่อเนื่อง มียอดคงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2559 ทั้งสิ้น 117,103,394.65 บาท
.
ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตได้ระบุในหมายเหตุงบการเงินว่า เป็นการกู้ยืมที่ไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม
.
แต่เมื่อตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า คนที่กู้ยืมเงินจากบริษัทไม่ได้มีการจ่ายหนี้คืน ทำให้บริษัทต้องทยอยตัดจำหน่ายเงินกู้ 117 ล้านบาท เป็นหนี้สูญ และนำไปเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการบริหารในงบการเงินของบริษัท ในปี 2560-2562
.
อย่างไรก็ตามในรายงานผู้ตรวจสอบบัญชีไม่ได้ระบุว่าบริษัทปล่อยกู้ระยะสั้นให้กับใครไว้ในรายงาน ขณะที่การตัดหนี้สูญ 117 ล้านบาท ก็เกิดขึ้นหลังจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากกรรมการและผู้บริหารบริษัทในวันที่ 6 มีนาคม 2560
.
เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดพบว่า บริษัท ออยล์ฟอร์ไลฟ์ จำกัด ได้ให้เงินกู้ระยะสั้นจำนวน 117 ล้านบาท และแสดงยอดคงค้างในงบการเงินของบริษัทตามรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ดังนี้
.
ปี 2550 จำนวน 29,637.83 บาท ไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะชำระคืนเมื่อถูกทวงถาม

ปี 2551 จำนวน 36,334.87 บาท ไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะชำระคืนเมื่อถูกทวงถาม

ปี 2552 จำนวน 16,000 บาท มีการทำสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะชำระคืนเมื่อถูกทวงถาม

ปี 2553 จำนวน 15,000 บาท ไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ ซึ่งจะชำระคืนเมื่อถูกทวงถาม

ปี 2554 จำนวน 1,486,712.46 บาท การกู้ยืมมีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม

ปี 2555 จำนวน 5,483,576.26 บาท การกู้ยืมมีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม

ปี 2556 จำนวน 32,520,498.09 บาท การกู้ยืมมีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม

ปี 2557 จำนวน 34,431,412.47 บาท การกู้ยืมมีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม

ปี 2558 เดิมผู้ตรวจสอบบัญชีแจ้งว่าไม่มีเงินให้กู้ยืมระยะสั้น ณ สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2558 แต่ในงบการเงินปี 2559 ผู้ตรวจสอบบัญชีพบว่า ในปี 2558 บริษัทมีเงินให้กู้ยืมระยะสั้น 114,114,365.24 บาท

ปี 2559 จำนวน 117,103,394.65 บาท การกู้ยืมไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระคืนเมื่อทวงถาม
.
“ฐานเศรษฐกิจ” พบข้อสังเกตุสำคัญในการตรวจสอบงบการเงินของผู้ตรวจสอบบัญชีในปี 2559 ที่เสนอผู้ถือหุ้นของบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด โดยให้ความเห็นว่า งบการเงินในปี 2559 ของบริษัทเป็นงบการเงินไม่ถูกต้อง พร้อมกับระบุในหมายเหตุงบการเงินของผู้ตรวจสอบบัญชีว่า ได้มีการแก้ไขข้อผิดพลาด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 กิจการมีการแก้ไขข้อผิดพลาดเงินให้กู้ยืมระยะสั้น เดิม 3,969,241.83 บาท เป็น 114,114,365.24 บาท ผลต่าง 110,145,123.41 บาท
.
ต่อมาในปี 2560 มีการระบุเงินให้กู้ยืมระยะสั้น ลดลงจาก 117.1 ล้านบาทในปี 2559 เหลือ 84,215,290.72 บาทในปี 2560 พร้อมระบุในหมายเหตุประกอบงบการเงินว่า เงินให้กู้ยืมระยะสั้น การกู้ยืมไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะชำระเมื่อกิจการทวงถาม ในปี 2560 มีมูลค่าหนี้สูญที่ตัดจำหน่ายจำนวน 32.90 ล้านบาท ซึ่งแสดงเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการบริหาร
.
ปี 2561 เงินให้กู้ยืมระยะสั้นลดลงเหลือ 52,586,206.52 บาท หมายเหตุงบการเงิน การกู้ยืมไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยไม่มีการวางหลักประกันการกู้ยืม ซึ่งจะรับชำระเมื่อกิจการทวงถาม ในปี 2561 มีมูลค่าหนี้สูญตัดจำหน่ายจำนวน 31.61 ล้านบาท และในปี 2560 มีมูลค่าหนี้สูญที่ตัดจำหน่ายจำนวน 32.90 ล้านบาท ซึ่งแสดงเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการบริหาร
.
ปี 2562 ไม่มีเงินให้กู้ยืมระยะสั้น แต่มีการระบุในหมายเหตุประกอบงบการเงินว่า เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ เงินให้กู้ยืมแก่กรรมการไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม กำหนดชำระคืนเมื่อทวงถาม ในปี 2562 มีมูลค่าหนี้สูญที่ตัดจำหน่ายจำนวน 52 ล้านบาท และในปี 2561 มีมูลค่าหนี้สูญตัดจำหน่ายจำนวน 31 ล้านบาท ซึ่งแสดงเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการบริหาร
.
การตัดหนี้สูญดังกล่าวเนื่องจากปี 2563 กิจการได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งกรรมการบริหารชุดใหม่ไม่สามารถหาหลักฐานการให้กู้ยืมเงินดังกล่าว และ หรือไม่สามารถตรวจสอบด้วยวิธีอื่นใด เพื่อพิสูจน์ความมีอยู่จริงของเงินให้กู้ยืมจำนวนดังกล่าวได้
.

สำหรับสถานะบริษัท ออยฟอร์ไลฟ์ จำกัด ในปี 2562 บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้ทั้งในส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้น และเงินกู้ยืมระยาวกับทางธนาคารแหลายแห่ง ทางธนาคารในฐานะเจ้าหนี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องแก่ศาล เพื่อให้ทางบริษัทชำระหนี้ ต่อมาบริษัทได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ และศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2565 ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางได้นัดฟังคำสั่งจำหน่ายคดี


#1, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by ขรรม on 07-Jun-23 at 06:01 PM
In response to message #0
.

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
ศาลล้มละลายกลางได้นัดฟังคำสั่งจำหน่ายคดี

------

เรื่องมันจบไปแล้ว​ "เหมือน​การบินไทย"
#Move​ On ค่ะ​ คุณสื่อขุดขึ้นมาเพื่อ.. ?

.


#11, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by thom on 10-Jun-23 at 05:30 PM
In response to message #1
>.
>
>ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
>ศาลล้มละลายกลางได้นัดฟังคำสั่งจำหน่ายคดี
>
>------
>
>เรื่องมันจบไปแล้ว​ "เหมือน​การบินไทย"
>#Move​ On ค่ะ​ คุณสื่อขุดขึ้นมาเพื่อ.. ?
>
>.

ขุดเพื่อตีแผ่ความจริงไง ให้ปชช ได้รู้ข้อมูลเยอะๆหลายๆด้าน
ถ้ามันไม่ผิดปรกติ สื่อไม่ขุดหรอก

บริษัท โรงลิเก จำกัด
วันนี้จะเล่นเรื่อง
“ไซฟ่อนเงิน โกงอย่างไรให้ล้มบนฟูก”

การแต่งงบกำไรขาดทุนของบริษัท

คนส่วนใหญ่มองว่าจะมีแต่แต่งให้กำไรลดลง
เพื่อโกงภาษีอย่างเดียวเท่านั้น

แต่จริงๆ แล้วมีระดับที่ซับซ้อนขึ้นไปอีก
คือแต่งงบให้มีกำไรมากขึ้นด้วย
หากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด ก็ทำไปหวังให้ราคาหุ้นขึ้น
เจ้าของหุ้นจะได้เอาหุ้นตัวเองไปยัดขายใส่มือรายย่อย
หากเป็นบริษัทนอกตลาด การแต่งงบให้มีกำไร ก็อาจ
หวังผลอาจเพื่อขายบริษัท หรือ เพื่อ กู้เงินจากธนาคาร ก็ได้

คราวนีลองมาดูตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของการแต่งงบ หลอกธนาคารกัน

มีบริษัทแหน่งหนึ่ง
ผู้บริหารติดการพนัน แถมเล่นคริปโตมือเติบ
ติดหนี้ติดสิน ไปหยิบยืมหนี้นอกระบบจากนายทุนฝรั่ง
เพื่อค้ำประกันหนี้ เจ้าหนี้ฝรั่งเลยขอให้โอนหุ้นบริษัทให้เขาถือไว้
บริษัทก็ไม่ได้มีกำไรมากมายอะไรหรอกครับ
ล้มลุกคลุกลานมาตลอด
ลำพังจะเอากำไรจากบริษัทไปใช้หนี้ก็ไม่ไหว เพราะหนี้ก้อนโต
จะขายโรงงานทิ้งก็ได้ราคาไม่ดี ขายแล้วจะเอาอะไรกิน
เลยคิดว่าจะขอกู้เงินธนาคารได้เงินมากกว่า คล่องกว่า
แต่กู้เงินไม่ได้/ได้น้อย เพราะที่ผ่านมางบไม่สวย ขาดทุนตลอด
ว่าแล้วก็เลยต้องแต่หน้าแต่งตัว ทำงบให้สวย
สร้างยอดขายเทียมบ้าง เอารายจ่ายทิ้งไปบ้าง
พอแต่งตัวเสร็จก็ยื่นกู้ธนาคาร ได้เงินก้อนใหญ่
สุดท้ายแต่งงบไม่ไหว ผู้สอบไม่เซ็น เลยต้องโชว์ขาดทุน ผู้สอบเลยเซ็นให้

ขาดทุนใช้หนี้ไม่ได้ ก็ยื่นล้มละลาย

แต่สุดท้ายงบคงเละมาก ทำตามผู้สอบบัญชีไม่ได้ ผู้ซอบเลยไม่เซ็น เลยยื่นงบไม่ได้ตั้งแต่ปี 63 ของจริงขาดทุนมากกว่า

พอล้มละลาย ล้มบนฟูก
ไซฟ่อนเงิน เข้ากระเป๋า

จบสวยๆ เลยครับ
แล้วมีการไซฟ่อนเงิน บ.โรงลิเก ขาดทุน แต่ยังให้ใครก็ไม่รู้กู้สะสมไปเรื่อย
จนหนี้เพิ่มเป็น ร้อยกว่าล้าน แถมไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ไม่กำหนดระยะเวลาคืน
สัญญาก็หาไม่เจอ แล้วมาตัดหนี่้สูญเป็นขาดทุน



#2, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by เพลีย on 07-Jun-23 at 06:03 PM
In response to message #0
บัญชีของคนดีย์น่าจะหรรษากว่านะ จะมีลุงโทษย้อนหลังมั้ยอยากรู้

#3, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by ขุดขึ้นมาเพื่อ...นิวส์ on 07-Jun-23 at 07:42 PM
In response to message #2
เปิดหลักฐาน "พิธา" ค้ำประกันหนี้ 460 ล้าน ส่อติดบ่วง ปกปิดบัญชีหนี้สิน ป.ป.ช.

07 มิถุนายน 2566

https://www.thansettakij.com/thailand-elections/567394


#4, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by ขรรม on 07-Jun-23 at 09:02 PM
In response to message #3
.

เค้าปกปิดเพื่ออะไรล่ะ..งง​ ????
คนเค้าทำธุรกิจก่อนเล่นการเมือง
แล้วเค้าก็เป็น​ ฝ่ายค้านมาตลอด
ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐบาลลุงตู่

ทำไมพนักงานจะยืมเงินบริษัทไม่ได้

.


#5, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by sss on 07-Jun-23 at 09:59 PM
In response to message #4
>.
>
>เค้าปกปิดเพื่ออะไรล่ะ..งง​ ????
>คนเค้าทำธุรกิจก่อนเล่นการเมือง
>แล้วเค้าก็เป็น​ ฝ่ายค้านมาตลอด
>ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐบาลลุงตู่
>
>ทำไมพนักงานจะยืมเงินบริษัทไม่ได้
>
>.

อีนี้ก็โง่ ปกปิดคือมันไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินให้ครบถ้วนไงละหร่อน มันเป็นกฎหมายทีระบุในรัฐธรรมนูญ
มาตั้งแต่ปี 40


#6, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by ไม่รู้ๆๆ on 08-Jun-23 at 04:52 AM
In response to message #5
ไปตรวจสอบลุงๆ บ้างสิคะ 8ปีเงินงอกเท่าไหร่แล้ว

#7, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by บารอคสวยงาม on 09-Jun-23 at 08:25 PM
In response to message #6
เรื่องพิธากับหนี้สินนั้น พิธาเขาพูดออกข่าวแล้วหรือยังครับ ต้องฟังข่าวก่อน

#12, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by thom on 10-Jun-23 at 05:31 PM
In response to message #7
>เรื่องพิธากับหนี้สินนั้น พิธาเขาพูดออกข่าวแล้วหรือยังครับ
>ต้องฟังข่าวก่อน

อยากรู้เหมือนกันว่าจะตอบว่ายังไง


#8, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by thom on 10-Jun-23 at 05:06 PM
In response to message #6
เข้าสู่การเมือง ฝ่ายตรงข้ามต้องสแกนละเอียดยิบ
ตอนนี้ พิน๊อคคิโอ้ ถูกสะแกนละเอียดยิบ แคไม่ถึงเดือน
โป๊ะแตก โผล่รัวๆ

เป็นฝ่ายค้านมา 4 ปี ไม่ใช่ 4 เดือน
เอาผิดอะไรลุงได้บ้าง


#9, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by thom on 10-Jun-23 at 05:08 PM
In response to message #6
>ไปตรวจสอบลุงๆ บ้างสิคะ 8ปีเงินงอกเท่าไหร่แล้ว

เข้าสู่การเมือง ฝ่ายตรงข้ามต้องสแกนละเอียดยิบ
ตอนนี้ พิน๊อคคิโอ้ ถูกสะแกนละเอียดยิบ แคไม่ถึงเดือน
โป๊ะแตก โผล่รัวๆ

เป็นฝ่ายค้านมา 4 ปี ไม่ใช่ 4 เดือน
เอาผิดอะไรลุงได้บ้าง


#10, RE: ว๊ายยย!!! ผู้สอบบัญชีพบ มือดีล้วงเงิน บริษัทกงสี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 100 ล้าน
Posted by thom on 10-Jun-23 at 05:22 PM
In response to message #4
>.
>
>เค้าปกปิดเพื่ออะไรล่ะ..งง​ ????
>คนเค้าทำธุรกิจก่อนเล่นการเมือง
>แล้วเค้าก็เป็น​ ฝ่ายค้านมาตลอด
>ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐบาลลุงตู่
>
>ทำไมพนักงานจะยืมเงินบริษัทไม่ได้
>
>.


บริษัท โรงลิเก จำกัด
วันนี้จะเล่นเรื่อง
“ไซฟ่อนเงิน โกงอย่างไรให้ล้มบนฟูก”

การแต่งงบกำไรขาดทุนของบริษัท

คนส่วนใหญ่มองว่าจะมีแต่แต่งให้กำไรลดลง
เพื่อโกงภาษีอย่างเดียวเท่านั้น

แต่จริงๆ แล้วมีระดับที่ซับซ้อนขึ้นไปอีก
คือแต่งงบให้มีกำไรมากขึ้นด้วย
หากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด ก็ทำไปหวังให้ราคาหุ้นขึ้น
เจ้าของหุ้นจะได้เอาหุ้นตัวเองไปยัดขายใส่มือรายย่อย
หากเป็นบริษัทนอกตลาด การแต่งงบให้มีกำไร ก็อาจ
หวังผลอาจเพื่อขายบริษัท หรือ เพื่อ กู้เงินจากธนาคาร ก็ได้

คราวนีลองมาดูตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของการแต่งงบ หลอกธนาคารกัน

มีบริษัทแหน่งหนึ่ง
ผู้บริหารติดการพนัน แถมเล่นคริปโตมือเติบ
ติดหนี้ติดสิน ไปหยิบยืมหนี้นอกระบบจากนายทุนฝรั่ง
เพื่อค้ำประกันหนี้ เจ้าหนี้ฝรั่งเลยขอให้โอนหุ้นบริษัทให้เขาถือไว้
บริษัทก็ไม่ได้มีกำไรมากมายอะไรหรอกครับ
ล้มลุกคลุกลานมาตลอด
ลำพังจะเอากำไรจากบริษัทไปใช้หนี้ก็ไม่ไหว เพราะหนี้ก้อนโต
จะขายโรงงานทิ้งก็ได้ราคาไม่ดี ขายแล้วจะเอาอะไรกิน
เลยคิดว่าจะขอกู้เงินธนาคารได้เงินมากกว่า คล่องกว่า
แต่กู้เงินไม่ได้/ได้น้อย เพราะที่ผ่านมางบไม่สวย ขาดทุนตลอด
ว่าแล้วก็เลยต้องแต่หน้าแต่งตัว ทำงบให้สวย
สร้างยอดขายเทียมบ้าง เอารายจ่ายทิ้งไปบ้าง
พอแต่งตัวเสร็จก็ยื่นกู้ธนาคาร ได้เงินก้อนใหญ่
สุดท้ายแต่งงบไม่ไหว ผู้สอบไม่เซ็น เลยต้องโชว์ขาดทุน ผู้สอบเลยเซ็นให้

ขาดทุนใช้หนี้ไม่ได้ ก็ยื่นล้มละลาย

แต่สุดท้ายงบคงเละมาก ทำตามผู้สอบบัญชีไม่ได้ ผู้ซอบเลยไม่เซ็น เลยยื่นงบไม่ได้ตั้งแต่ปี 63 ของจริงขาดทุนมากกว่า

พอล้มละลาย ล้มบนฟูก
ไซฟ่อนเงิน เข้ากระเป๋า

จบสวยๆ เลยครับ

แต่เจ้าหนึ้กุมขมับ