>โอ๊ย เพิ่งจะอายุ 45 คนอื่นเค้าเริ่มต้นชีวิตกันตอน 60-70
>เยอะแยะไป นี่สมัยไหนแล้ว
>
>แล้วตกลงมึงจะคะหรือจะครับกันแน่
>
>มึงคิดว่าตัวเองทำบุญมาน้อย ก็ทำเพิ่มสิ รีบทำเลยตอนนี้
>ถ้าไม่เริ่มทำแล้วเมื่อไรจะมีบุญ ห๊ะ?
>
>เท่าที่อ่านมาเป็นกุก็ไม่รับมึงเข้าทำงาน ไม่ได้ยากเลย
>เพราะอะไรรู้ไหม
>
>อายุ 40 กว่ามันควรต้องเป็นระดับผู้บริหาร
>ซึ่งสิ่งที่ผู้บริหารควรมีคือวิสัยทัศน์
>
>ความเป็นผู้นำและการตัดสินใจที่ดี
>ซึ่งกูหาไม่เจอจากการอ่านประวัติมึง
>
>เช่น มึงเอาแต่ย่ำอยู่กับที่เดิม เจ้าสัวๆๆ
>อะไรก็เจ้าสัวอยู่นั่น อีดอก ไปหาประสบการณ์ที่อื่นบ้าง
>
>โลกทุกวันนี้มึงต้องมีความรู้หลายเรื่อง รู้จักศึกษารอบตัวน่ะ
>ไม่ใช่แค่ไปเรียนโทสถาบันโนเนม
>
>แล้วมาบอกว่าได้เกรดสูงเท่านี้
>เกรดเค้าดูกันแค่ตอนสมัครงานที่แรกค่ะและส่วนมากดูเกรด ป ตรี
>
>หลังจากนั้นเขาดู performance โปรเจคที่ทำมา skills
>ที่เรียนรู้เพิ่มเติม ความเป็นผู้นำ
>
>ซึ่งถ้ามึงมีสิ่งพวกนี้ดี คนเขาจะพูดกันเองปากต่อปาก
>คนเก่งๆน่ะเขาดูกันเองออกว่าคนไหนเก่ง
>
>และเขาจะเม้ากันลับหลัง ว่าคนนี้เก่ง คนนั้นเก่ง
>และแนะนำให้ไปทำงานที่นู่นที่นี่ ฝากกัน
>
>คือถ้ามึงเก่งมึงไม่มีวันตกงานหรอก ถ้าเก่งไม่ได้ทุกเรื่อง
>เลือกมาเรื่องเดียวแล้วทำให้เด่นสุดๆ
>
>และมึงต้องรู้จักคิดนอกกรอบด้วย
>ไม่ใช่คิดแต่จะอยู่กับเจ้าสัวไปจนตาย ถ้าไม่มีเจ้าสัวมึงทำไง?
>
>ถ้ากุเป็นเจ้าสัวและกุได้สัมภาษณ์มึง กุจะคิดว่า เอ้า
>แล้วคนนี้จะ add value อะไรให้เราได้
>
>เขาไม่มีมุมมองใหม่ ไม่เคยออกไปเห็นอะไรที่คู่แข่งเราทำ
>อยู่แต่กับเรามาตลอดหลายปี
>
>แล้วระหว่างที่อยู่ ได้รับการประเมินจากหัวหน้าเป็นยังไงบ้าง
>ได้เป็น top performer กี่ครั้ง
>
>คือตำแหน่งอะ ในองค์กรใหญ่ๆที่ระบบไทยๆ
>ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งได้ตำแหน่งสูงขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว
>
>แต่ความเก่งมันวัดที่ kpi/okr มึงเป็นยังไง แสดงภาวะผู้นำไหม?
>ความคิดสร้างสรรค์?
>
>ทักษะการเจรจา? การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างมีไหวพริบ?
>การเข้ากับคน? การทำงานใหญ่โปรเจคให้ลุล่วง?

ถ้ามึงรู้จักกูดีพอ มึงจะไม่พิมพ์อะไรแบบนี้แน่นอน
แต่กูก็ขอขอบใจมึงมากๆ ที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำ
ขอบคุณมากๆ นะ
ส่วนเรื่องจะครับหรือค่ะ อย่าใส่ใจเลย มันแค่คำสุภาพที่สุภาพชนเค้าพูดกัน