<ต่อ>

เมื่อวานได้ฟังคำแถลงของคุณแอน JKN รู้ได้ว่าคุณแอนเป็น ผู้บริหารที่มีความรู้ ไม่ได้อินโนเซนส์ รู้ศัพท์ด้านการเงิน แต่มีหลายอย่างน่าสงสัย

คุณแอนขอโอกาสให้มองเห็นผลงานของ JKN ที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้จำนวนมาก คุณแอนบอกว่ามันจะส่งผลดีต่อบริษัทในอนาคต

สิ่งที่เกิดขึ้นคุณแอนใช้คำว่า Liquidity Mismatch

พูดภาษาชาวบ้านก็คือขาดสภาพคล่องชั่วคราว มีรายจ่ายมากในตอนนี้ แต่ในอนาคตบริษัทจะมีรายได้เข้ามา

ซึ่งรายได้ที่คุณแอนกล่าวถึงก็คือรายได้จากการจัดประกวด Miss Universe และธุรกิจต่าง ๆ ที่คุณแอนได้ลงทุนไป

อย่างไรก็ตามมีประเด็นที่น่าสงสัยในคำแถลงอยู่มากมาย

ข้อแรกคุณแอนบอกว่าตอนนี้บริษัทมีทรัพย์สินระดับหมื่นล้านบาท

แต่เมื่อเปิดไปดูงบการเงินแล้วส่วนใหญ่ทรัพย์สินเหล่านี้จะเป็นทรัพน์สินที่ไม่มีตัวตน หรือ Intangible Asset ที่เป็นลิขสิทธิ์รายการและเครื่องหมายการค้าค่าความนิยม รวมกัน ถึงระดับ 8,400 ล้านบาท..

นักลงทุนก็ต้องไปดูกันว่ามูลค่าระดับนี้มันมีอะไรอยู่บ้าง

จากคำแถลงของคุณแอน มูลค่าของ Miss Universe ที่ซื้อมา บวกด้วยเงินลงทุนที่ลงไปเพิ่ม ก็อยู่ในระดับพันล้านต้น ๆ

ธุรกิจโฮมชอปปิง ธุรกิจน้ำดื่ม ก็พันล้านต้น ๆ

ช่อง JKN 18 ก็ระดับพันล้าน

แล้วที่เหลือก็คงเป็นคอนเทนต์หนังต่างชาติที่ซื้อมา

สิ่งที่ต้องรู้ไว้ก็คือ มูลค่าทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนเหล่านี้บางเรื่องมันมีอายุการใช้งาน และบางเรื่องมันขายต่อคนอื่นไม่ได้ นั่นก็แปลว่าสินทรัพย์ระดับหมื่นล้าน อาจต้องตีด้อยค่าไปส่วนหนึ่ง

ซึ่งการตีด้อยค่าก็ต้องขึ้นอยู่กับมาตรฐานบัญชีที่ทางผู้ตรวจสอบบัญชีได้อนุมัติซึ่งเจ้านี้ใช้ สำนักงานบัญชี ธรรมนิติ

สำหรับนักลงทุนแล้วถ้าจะลงทุนหุ้นตัวนี้ก็ต้องไปดูว่าทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนเหล่านี้มันควรมีมูลค่าเท่าไหร่เทียบกับมูลค่าที่อยู่ในบัญชีมันสมเหตุสมผลหรือไม่

ข้อสองสิ่งที่เกิดขึ้นจากเท่าที่ได้ฟังคำแถลง เป็นสิ่งที่บริษัทไม่ได้วางแผนมาก่อน นั่นก็คือตอนแรกบริษัทต้องการที่จะ roll over หุ้นกู้

ดูเหมือนว่าที่ปรึกษาการเงินเขาต้องการให้นำทรัพย์สินไปค้ำประกันหุ้นกู้ใหม่นี้ แต่ทางคุณแอนไม่ยอมให้นำไปค้ำประกัน

ก็แปลกดีคุณแอนมั่นใจกับธุรกิจทั้งหลายที่ในบริษัท แต่ทำไมไม่ยอมให้เอาทรัพย์สินไปค้ำประกัน ถ้านำไปค้ำประกันก็จะได้เงินกู้มา

ดูเหมือนทางเลือกของบริษัทที่มีหนี้สูงขนาดนี้และ Cashflow เป็นแบบนี้ บริษัทจะมีทางเลือกไม่มากหรอก ถ้าอยากได้เงินสดจริงก็ต้องนำอะไรไปค้ำเพื่อกู้เงิน

ข้อสาม คุณแอนเร่งขยายธุรกิจมากมายจนดูไม่เป็นธรรมชาติ

หลังจากซื้อ Miss Universe มา คุณแอนก็ตั้งแบรนด์ Miss Universe 24 แบรนด์ ดูเยอะไปหมด ถึงแม้ว่าคุณแอนบอกว่าไม่ได้ลงทุนเองจะเป็นการหาคู่ค้ามาร่วมลงทุนโดยซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์ แต่ก็ดูเป็นภาพที่อยู่ในฝันซึ่งยังไม่มีอะไรเป็นจริงที่จับต้องได้

สุดท้ายนี้คิดว่านักลงทุนต้องระวัง ต้องดูจริงๆว่ามูลค่าของบริษัทคืออะไร และภาระหนี้ของบริษัทมีเท่าไหร่

บริษัทนี้มีรายได้ 2 พันล้านจากอะไร และขายให้ใครบ้าง และจะมีรายได้มากขึ้นที่มากกว่าต้นทุน รวมถึงภาระใช้คืนเงินกู้และดอกเบี้ย ในแต่ละปีได้อย่างไร

เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องดูความเป็นไปได้ในอนาคต..

ที่มา: ลงทุนแมน