Alphabet, Amazon, Apple, ByteDance, Meta, Microsoft ร่วมกันแหกหีใส่กฎนี้ EU จะต้ายไหวไหม

แต่ อยู่ดีๆ คนยุโรปไม่สามารถใช้เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป กูเกิล ก็ดิ้นพล่านแล้ว เศรษฐกิจยุโรปติดขัดไปเลย

แค่ไอโฟนไม่เปิดตัวในยุโรป คนยุโรปก็ดิ้นอีก

>Alphabet, Amazon, Apple, ByteDance, Meta, Microsoft
>ร่วมกันแหกหีใส่กฎนี้ EU จะต้ายไหวไหม
>
>แต่ อยู่ดีๆ คนยุโรปไม่สามารถใช้เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป
>กูเกิล ก็ดิ้นพล่านแล้ว เศรษฐกิจยุโรปติดขัดไปเลย
>
>
>แค่ไอโฟนไม่เปิดตัวในยุโรป คนยุโรปก็ดิ้นอีก

พูดแบบนี้เธอไม่รู้สินะ ว่าบริษัทเทค EU เจ๋งๆ เยอะมาก

หวาน EU เลยค่ะแบบนี้

บริษัทเทค EU ได้เกิดสักที ไม่ต้องมีคนมาแย่งตลาด

จีน ยุโรป หาเรื่องร่วมกันแบนบริการอินเตอร์เน็ตจากอเมริกา เพราะต้องการจะสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมาแข่ง

>จีน ยุโรป หาเรื่องร่วมกันแบนบริการอินเตอร์เน็ตจากอเมริกา
>เพราะต้องการจะสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมาแข่ง

อเมริกาเอง ก็ต้องแบนชาวบ้าน เพื่อให้ตัวเองเกิดเหมือนกันค่ะ

ตอนยุค 80 บริษัทเทคอเมริกาเจอบริษัทเทคญี่ปุ่นเข้าไป คืออเมริกาจอดสนิท ตามหลังญี่ปุ่นทั้งเรื่องเทคโนโลยี ทั้งดีไซน์ ทั้งราคา และการตลาด ญี่ปุ่นผลิตนวัตกรรมขาย จนเศรษฐกิจญี่ปุ่นโตทะยานใหญ่คับโลก เศรษฐกิจญี่ปุ่นตอนนั้นคิดเป็น 70% ของเศรษฐกิจของอเมริกา อีกนิดเดียวก็แซงอเมริกา เป็นเบอร์1ของโลก อเมริกาตอนนั้นเลยดิ้นพล่านเลย สั่งแบนเทคโนโลยีญี่ปุ่นหลายอย่างมาก ทำสงครามการค้ากับญี่ปุ่นรอบด้าน สกัดเทคโนโลยีหลายอย่างของญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นคิดค้นเทคโนโลยี และ มาตราฐานใหม่ๆ ขึ้นมาได้เองแล้ว และดีกว่า ล้ำกว่า ต้นทุนถูกกว่า ไม่ต้องพึ่งเทคโลกตะวันตกอีกต่อไป หนึ่งในนั้นคือระบบปฎิบัติการสุดล้ำ(ที่ยุคนั้น) ที่สามารถใช้งานครอบจักรวาลทุกอุปกรณ์ อย่าง TRON OS (ในยุคนี้ก็เทียบกับพวก IoT) ไมโครซอฟท์นี่ออกมาร้องเรียนรัฐบาลอเมริกาเลยว่าให้ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ญี่ปุ่นพัฒนาระบบปฎิบัติ TRON OS วางขายลงตลาดได้ ไม่งั้น เราแพ้แน่ๆ ขายซอฟแวร์ไม่ได้ Windows จะไม่ครองโลก สุดท้ายด้วยสัญญาที่ทำไว้กับอเมริกา ตั้งแต่สมัยสงครามโลก บริบทในตอนนั้น ญี่ปุ่นก็ต้องยอมให้อเมริกาลดความร้องแรงลง แบบกลืนไม่เข้า คายไม่ออก จนเศรษฐกิจญี่ปุ่นวูบยาว ตั้งแต่ปลายยุค 90-จนถึงปัจุบัน

มาในยุคปัจจุบันนี้ จะดีจะชั่ว ก็ต้องยอมรับว่าจีนมันพัฒนาเทคโนโลยีหลายอย่างไปไกลและเร็วมาก อเมริกาก็ทำกับจีนอีก หลายๆอย่างจีนทำได้ล้ำกว่าอเมริกาไปมาก ทั้ง ระบบ5G รถEV และAI การที่จีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยีพวกนี้เป็นของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ก็เพราะการแบนไม่ให้บริษัทเทคอเมริกาเข้ามาทำตลาดในจีน การแบน Google ทำให้จีนมี Baidu และ Alibaba เกิดขึ้น และทำให้สองบริษัทนี้พัฒนาเทคโนโลยี AI ระดับสูงได้ ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนโตขึ้นมาจนเกือบจะแตะ 70% ของอเมริกา อีอเมริกาก็ใช่สูตรเดิมเลย ลดความร้อนแรงของคู่แข่ง โดยการแบนคู่แข่งทุกอย่าง อีจีนถูกแบนก็เป๋หนักหน่อย เพราะเทคโนโลยีต้นน้ำของจีนหลายอย่าง ก็ต่อยอดมาจากของอเมริกาและญี่ปุ่น

เห็นไหม ว่าการแบน มันก็มีประโยชน์กับตัวเองเหมือนกัน จริงๆแล้ว หลังแพ้สงครามชาติยุโรป อย่าง เยอรมันนี และ อิตาลี ก็ถูกอเมริกาสั่งห้ามผลิตเทคโนโลยีหลายอย่างนะ เช่น คอมพิวเตอร์ การบิน เทคโนโลยีสงคราม ถูกแบนห้ามเยอรมันผลิตทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกันเป็นช่วงเวลาที่อเมริกา ผลิตขายได้ ตักตวงความสำเร็จได้ ในขณะที่คนอื่นห้ามทำ อีพวกนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเก่งๆ มันก็ย้ายมาอเมริกาสิ เพราะอยู่ประเทศมันพัฒนาโน้นนี่ไม่ได้ ติดขัดสนธิสัญญาระหว่างประเทศไปหมด จนหัวกะทิมารวมอยู่ที่อเมริกานี่แหละ

เห็นไหม การจะเกิดได้ ก็ต้องแบนคนอื่นนั้นแหละ ถูกแล้ว เขาไม่ได้เพิ่งจะมาทำเอายุคนี้ซะเมื่อไรคะ