#0, ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by . on 15-Nov-23 at 04:30 PM
ถ้าคิดว่า สหภาพยุโรป และ พรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกกลุ่มทุนผูกขาด ต้องบอกว่า สหรัฐอเมริกา นี้แหละ คือผู้สร้างตำนานทุบนายทุนผูกขาดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก นั้นก็คือเหตุการณ์ที่รัฐบาลสหรัฐ ล้มอณาจักร standard oil และจับแยกส่วน ออกเป็น 34 ธุรกิจใหญ่ และบริษัทย่อยๆ อีกเป็นร้อยๆบริษัท เพื่อไม่ให้มีบริษัทเดียวแต่ผูกขาดและมีอำนาจเหนือตลาดและเพื่อกระจายความร่ำรวยออกสู่สังคมอเมริกัน ซึ่งมันได้ผลสุดๆ เพราะหลังจากทลายการผูกขาดครั้งนั้น เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาขยายตัวมหาศาล กลายเป็นประเทศร่ำรวย และยิ่งใหญ่จนมาถึงทุกวันนี้ 
#1, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ไทยผูกขาด on 15-Nov-23 at 04:33 PM
In response to message #0
ส่วนไทย มองไปทางไหนก็มีแต่ cp
#2, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 15-Nov-23 at 05:23 PM
In response to message #1
>ส่วนไทย มองไปทางไหนก็มีแต่ cp ไทยเป็นสังคมที่ไม่ชอบการแข่งขัน ตั้งแน่นายทุน ลามไปถึงการเมือง พ่อจะมีการแข่งขับเกินขึ้น ก็จะทำให้เกิดเหตุอะไรสักอย่าง ที่ไม่ต้องแข่งขัน และกลับสู่สภาพเดิมที่กุมอำนาจโดยกลุ่มคนหน้าเดิมๆ
#3, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 15-Nov-23 at 05:25 PM
In response to message #1
>ส่วนไทย มองไปทางไหนก็มีแต่ cp ไทยเป็นสังคมที่ไม่ชอบการแข่งขัน ตั้งแต่นายทุน ลามไปถึงการเมือง พอจะมีการแข่งขับเกิดขึ้น ก็จะทำให้เกิดเหตุอะไรสักอย่าง ที่ไม่ต้องแข่งขัน และกลับสู่สภาพเดิมที่กุมอำนาจโดยกลุ่มคนหน้าเดิมๆ
#4, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 15-Nov-23 at 08:59 PM
In response to message #3
AIS ควบรวมกับ 3BBTrue ควบรวมกับ Dtac
#5, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by เงาแค้นของ Pirch 98 on 15-Nov-23 at 09:09 PM
In response to message #4
พวกมึงลืมกูไปแล้วเหรอคะ เจออีไมโครซอฟท์ลง IE ทุกเครื่องจนกูล้มหายตายจาก โดนฟ้องผูกขาดมาแล้ว

#6, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by เงาแค้นของ Pirch 98 on 15-Nov-23 at 09:11 PM
In response to message #5
>พวกมึงลืมกูไปแล้วเหรอคะ เจออีไมโครซอฟท์ลง IE >ทุกเครื่องจนกูล้มหายตายจาก โดนฟ้องผูกขาดมาแล้ว > > > 
#7, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by 1234 on 15-Nov-23 at 11:04 PM
In response to message #6
มาอยู่กะลาแลนด์สิ สบายใจเลย
#9, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by economic 101 on 16-Nov-23 at 01:23 AM
In response to message #7
เคสกรณีศึกษา ระดับตำนาน
#12, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ผูกขาด on 16-Nov-23 at 10:21 AM
In response to message #3

#21, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ❤️ on 18-Nov-23 at 07:34 AM
In response to message #12
❤️
#44, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by . on 05-Feb-24 at 07:58 PM
In response to message #12
.
#8, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by สาวนิวหยวก on 15-Nov-23 at 11:28 PM
In response to message #0
นี่กระจายแล้วเหรอ เห็นแล้วขรรมแพร๊บเลยค่ะ // มองบนไปที่รัฐบ้านนอกคอกควายในอเมริกา
#10, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by กะหรี่ดัมโบ on 16-Nov-23 at 06:09 AM
In response to message #8
>นี่กระจายแล้วเหรอ เห็นแล้วขรรมแพร๊บเลยค่ะ > >// มองบนไปที่รัฐบ้านนอกคอกควายในอเมริกา นั่นสิ อีดอก Blackrock พ่อทุกสถาบันนั่งขำเลยนะคะ ถ้ามันอ่านกระทู้นี้รู้เรื่อง
#11, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 16-Nov-23 at 07:23 AM
In response to message #10
เขาไม่ได้ทำเพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมกะหรี่เพื่อให้แม่กะหรี่มึงขายหีดีขึ้นค่ะเขาทำเพื่อป้องกันการผูกขาดค่ะ อีควายโง่ แล้วแยกบริษัทไป ก็ไม่ได้ทำให้ rockefeller จนลง แต่รวยขึ้นอีกด้วยซ้ำ อีโง่ มันก็แค่เปลี่ยนชื่อ ซอยย่อย ว่าเหมือนบริษัทมีผู้เล่นหลายคน แต่เจ้าหลักๆก็มีแค่ blackrock vanguard state street ที่ครอบครองแทบทุกอย่างบนโลกนี้ค่ะ
#13, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 16-Nov-23 at 10:26 AM
In response to message #11
ปี 1911 รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นฟ้องสแดนดาร์ดออย จากการที่บริษัทมีอำนาจเหนือตลาดผู้ขาดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงาน จากการที่หลายบริษัทในเครือสแตนดาร์ดออย ผูกขาดบูรณาการอุตสาหกรรมน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การสำรวจน้ำมันและการจ่ายน้ำมันดิบ และส่งต่อไปสู่การขายปลีกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการกลั่นไปยังร้านค้าและสถานีบริการทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลดราคาและการคุกคามซัพพลายเออร์และผู้จัดจำหน่ายที่ทำธุรกิจกับคู่แข่งของสแตนดาร์ดออย รัฐบาลสหรัฐได้ใช้อำนาจผ่านกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของเชอร์แมน (Sherman Antitrust Act) ยื่นฟ้องกระทั่ง 15 พฤษภาคม 1911 ศาลฏีกาสหรัฐฯ ได้มีมติตัดสินว่าบริษัทสแดนดาร์ดออยกระทำผิดละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด พร้อมทั้งงสั่งให้บรรดาบริษัทในเครือสแตนดาร์ดออย แยกตัวออกเป็นบริษัทหลายแห่ง ขณะที่ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นหลายคนรวมถึงร็อกกี้เฟลเลอร์ถูกสั่งปรับเป็นเงินมหาศาล คำสั่งศาลที่ให้แยกบริษัทในเครือของสแตนดาร์ทออยออกเป็นอิสระ ส่งผลให้เกิดบริษัทพลังงานที่แตกออกมาเป็น 34 บริษัท ในจำนวนนี้ปัจจุบันล้วนเป็นบริษัทที่เราคุ้นชื่อกันอยู่หลายราย อาทิ ExxonMobil, Chevron, ConocoPhillip, Marathon Petroleum, Phillip 66 และ US Steel
#14, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 16-Nov-23 at 10:41 AM
In response to message #13
กะเทยการศึกษาต่ำบางตัว อาจจะมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ต่ำมากๆ เลยไม่เข้าใจว่า กฎมหายป้องกันการผูกขาดจริงๆแล้วคืออะไร จริงๆ มันคือกฎหมายที่ทำมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำไมการกำจัดการผูกขาดทำให้เกิดการขยายตัว การแข่งขัน การสร้างงาน และกระจายความมั่งคั่งออกไปในสังคมได้อย่างไร กูมั่นใจว่ากะเทยโง่ตัวนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตอน standard oil ผูกขาดเศรษฐกิจอเมริกาแย่มากขนาดไหน แต่พอกำจัดการผูกขาดทิ้ง ทำไมบูสเศรษฐกิจอเมริกาขึ้นมาได้อย่างไรบ้าง รู้เลยมึงไม่เคยศึกษาหาความรู้จริงๆ เข้าสมอง อีกประเภทอ่านนิยาย เรื่องอิลลูมินาติ ร็อตไชลด์ครองโลกหีแตด อะไรพวกนี้พักได้แล้ว เหมือนนิยายลึกลับ สอบสวนสืบสวน ไม่มีใครเอาเรื่องพวกนี้มาสอนกันในสังคมผู้มีการศึกษา สังคมปัญญาชน ในรั้วมหาลัย เพราะมันเป็น myth ตามอินเตอร์เน็ต นักเขียนสายนิยายเอามาแต่งทำหนังสือหลอกควายมาอ่านให้ฟินไปวันๆ
#15, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 16-Nov-23 at 04:09 PM
In response to message #14
ก็ rothschild มีจริงนี่คะ แล้วก็เป็นผู้ถือหุ้น federal reserveมึงคิดว่าเขากระจอกรึไง ล่าสุดก็แห่กันไปฉีดวัคซีนของเขา ตายห่ากันเป็นแถว สมเพชมากๆ เขามีแผนกำลังทำให้มนุษย์เป็นทาสอยู่ค่ะ Klaus schwab ยังบอก you will own nothing and be happy Ariana rockefeller ยังโพสใน facebook ให้เข้าร่วมอิลลูมินาติ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02AfimQ71bbKmzY7PpfT86na8kAa5zCFn2LszBZ316x4dFvjFkVNMWkeY3fDru7Lhsl&id=100083337100857&mibextid=qC1gEa พวกนี้เขามีแผนลดประชากรให้เหลือ 500 ล้านคน แล้วคนที่เหลือก็กลายเป็นทาสที่ไม่มีเงินและทรัพย์สินใดติดตัว ถ้ามึงคิดว่าต้านเขาไหว ก็เชิญค่ะ อีดอก
#16, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 17-Nov-23 at 10:02 AM
In response to message #14
ต่อต้านการผูกขาด ก็คือต่อต้านการผูกขาดค่ะ ชื่อมันก็ตรงตัวอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องโยงมั่ว กระจายความมั่งคั่งหีแตดไปสู่แม่กะหรี่มึงนะคะอีดอก เพราะ standard oil แตกย่อยบริษัทไป ก็ยังมีเจ้าของเดิมอยู่ดีค่ะ ไหนจะพวก federal reserve ธนาคารกลางต่างๆ พวกนี้เอกชนทั้งนั้น มีเจ้าของเป็น rothschild bank มึงมีปัญญาไปแตกย่อยไหมล่ะ เขามีอำนาจเหนือรัฐบาลด้วยซ้ำ กลับมาตอแหลต่อด้วยค่ะ ว่า การกระจายความมั่งคั่งหีคัน ทำไมถึงไม่ถูกใช้กับ federal reserve ที่มีเจ้าของเป็นเอกชน
#17, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ไปเรียนหนังสือ อย่ามัวแต่อ่านนิยายค่ะ on 17-Nov-23 at 01:09 PM
In response to message #16
เอาเวลาไปเรียนเศรษฐศาสตร์เถอะ แล้วจะได้รู้ความจริงว่า FED คืออะไร บริหารยังไง เจ้าของ FED คือใคร อ่านแล้วสงสารมาก มีแต่ myth ไม่มี fact เลยอย่างแรกเล่น FED ไม่ได้มีหน้าที่พิมพ์เงิน พิมพ์ธนบัตร อำนาจไม่ได้อยู่ที่ FED อย่างที่สอง อันนี้ขำมาก แค่บอกว่าผู้ถือหุ้น เป็น Rothschild ของปารีสและ ลอนดอน นี่ก็โคตรมโนแล้ว กูจะบอกให้ควายอย่างมึงรู้ไว้เลยว่ากฎข้อนึง ของ FED คือธนาคาร ที่สามารถเข้า มาทำการวิจัยและกำหนดทิศทางการเงินของ FED ได้ จะต้องเป็นธนาคารของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ธนาคารเอกชนต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ 12 regional banks ของ FED เป็นธนาคารของสหรัฐทั้งหมด ไม่เกี่ยวห่า เหวอะไรกับ Rothschild ตระกูลยุโรป เลย อีควายแก่มโน ไร้การศึกษา แล้วธนาคารพวกนี้ของสหรัฐ ใน 12 regional banks แต่ละที่ มีสิทธิ์โหวตในบอร์ด FED แค่ 1 เสียงเท่านั้น เพราะอำนาจเด็ดขาด อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ของรัฐบาลสหรัฐ อีหน้าโง่ ธนาคารเอกชนไม่ได้เป็นเจ้าของ FED และรัฐบาลไปเชิญให้ธนาคารเอกชนมาวิเคราะห์ และวิจัยนวัตกรรมทางการเงิน ร่วมกับรัฐบาลอเมริกา รัฐบาลอเมริกาดำกำกับดูแลอีกที นี่คือ fact ที่ถูกต้อง ไม่ใช้มาโง่บอก FED มีเจ้าของเป็นธนาคารเอกชน อีคว๊ายยย ต้องบอก FED จริงๆ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และไม่ใช่เอกชน แค่บริหารงานโดยให้ธนาคารเอกชน แต่กำกับดูแลโดยรัฐบาลสหรัฐอีกที เลิกมโน เลิกบ้านิยาย แล้วไปเรียนหนังสือเถอะป้า เลิกอ่านนิยายค่ะ กูเคยบ้าอ่านนิยายแบบมึงมาก่อน จนได้เข้าเรียนมหาลัย คุยกับอาจารย์นักเศรษฐศาสตร์ ถึงได้รู้ว่า อีสตอรี่ เรื่องราว myth นิยายบ้าบอในเน็ตนั่น มันมโน นั่นเทียน จับแพะชนแกะขึ้นมาทั้งนั้น
#18, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 17-Nov-23 at 01:30 PM
In response to message #17
ป้าทาทา คือตัวอย่างของกะเทยบ้านิยาย แฟนตาซี ยกตัวอย่าง Rothchild ขึ้นมาก็ดีแล้ว เพราะนี่ก็เป็นตระกูล อีกตระกูลที่ถูกรัฐบาลปฎิรูป ลดขนาด ลดอำนาจ และเพื่อความอยู่รอด นางก็ให้ความร่วมมือด้วยแสดงว่าป้าทาทา ไม่มีความรู้เลย ว่า Rothschild ตระกูลหมดอำนาจไปเยอะมากแล่วยุคนี้ ล่าสุดคือพวกนาง ประกาศขายบ้านไปหมดแล้วทั่วยุโรป เพราะเจอปัญหาการเงิน และ การเมือง เคยมีความรู้พวกนี้อยู่ในสมองไหม? คือหยุดเอาอีนิยาย ที่ใส่สีตีไข่ เว่อร์วังให้พวก Rothschild เป็นคนควบคุมโลกหึแตด เพ้อเจ้อ อุปโลกน์สักที ตลกมาก หลอกแดกได้แต่อีพวกชอบอ่านนิยาย พวกบ้าละคร บ้าลิเกเท่านั้นแหละ มาอินกับนิยายหลอกควายพวกนี้ เอาเวลาไปศึกษาการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยของประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจและการเมืองโลกดีกว่านะ ตระกูล old money รุ่นสงครามโลกครั้งที่1 หมดอำนาจ ถูกทำให้อ่อนแอไปหมดแล้ว ท้้ง Rothschild และ Rockefeller และหลายตระกูล อเมริกา และ ยุโรป เขาปฎิรูปสังคมกันไปถึงไหนกันแล้ว กำจัดทุนผูกขาดกันไปไม่รู้กี่รอบ กำจัดทุนใหญ่ที่ควบคุมโดยตระกูลๆเดียวไปไม่รู้กี่รอบ มึงไม่เคยศึกษาหาความรู้ใส่สมองบ้างหรอ บริษัท Standard Oil ของตระกูล Rockefeller ผูกขาดเศรษฐกิจอเมริกาทั้งประเทศ จนเศรษฐกิจอเมริกาเหลื่อมล้ำ รวยกระจุก จนกระจาย และตกต่ำ จนรัฐบาลอเมริกาต้องหั่นแยกส่วน Standard Oil ออกมา เป็นหลายสิบบริษัท กระจายเงินออกสู่สังคม ลดการผูกขาด ลดการเหลื่อมล้ำ ไม่ทำไม่งั้น ระบบเศรษฐกิจอเมริกาพัง เงินไหลไปกองอยู่แค่ตระกูลเดียว แล้วที่น่าตกใจ ตระกูล Rockefeller ให้ความร่วมมือด้วย เพราะนางเอกก็มีช่องทางทำให้ตระกูลตัวเองร่ำรวยได้อยู่ แต่ได้หน้า ได้ก่รยอมรับในสังคมด้วย ในฐานะผู้เสียสละช่วยบ้านเมือง ช่วยส่วนรวม และตามสันดารคนอเมริกัน ชาตินิยม รักชาติยิ่งชีพ นางจริงยอม โดนรัฐบาลฟ้อง โดนจับแยกบริษัทก็ยอม ความรู้พวกนี้เคยมีอยู่ในหัวสมองมึงบ้างไหม เคยรู้บ้างไหม ว่าในแต่ละยุคสมัย อเมริกา และ ยุโรป มันปฎิรูปเพื่อช่วยให้ระบบทุนนิยมอยู่รอดมาได้ กี่ครั้ง กี่หน ศึกษาบ้าง ไม่ใช่วันๆ อ่านแต่นิยายลิเก ของพวก yellow jacket เกลียดยิว ประสาทแดกกับตระกูลยิว แล้วควายไทยกะลาแลนด์ ก็เอามาเชื่อเป็นตุเป็นตะ ประสาทแดกเฉิบหาย นักเศรษฐศาสตร์มาอ่านนี้เขาคงขรรม ตระกูล Rothschild เขามาอ่านนิยายพวกนี้ คงงงนะ มาอะไรกับตระกูลกูหนักหนา อิดอก เงินตระกูลกูก็หมดแล้ว ขายทรัพย์สิน ขายธุรกิจออกไปก็เยอะ ธุรกิจ Rothschild และ Rockefeller ถูกธุรกิจสมัยใหม่ และรัฐบาลสมัยใหม่ disrupt ไปหมดแล้ว เพราะต้องกระจายความมั่งคั่งออกไปแล้ว เพื่อให้เกิดการแข่งขัน เพื่อให้เกิดนวัตกรรม แล้วตระกูลพวกนี้ ก็ให้ความร่วมมือ อย่างดี เพราะพวกนางเจอภัยสงครามด้วยตอนนั้น เพราะฉะนั้น มึงอย่าประสาทแดกให้มาก ไปอ้าง แต่Rothschild หีแตดบ้าบอ นิยาย 3 บาท เหมือนมึงรู้จัก old money แค่ตระกูลด้วยหรอ ตลกจัง ตระกูล Medici ของอิตาลีที่เคยยิ่งใหญ่คับโลก รวยกว่าอี Rothschild เป็นร้อยเท่า ยังถูกรัฐบาล และพวกเจ้าของธุรกิจรุ่นหลัง อย่าง Rothschild และ Rockefeller และอื่น มาล้มได้เลย พอมาในยุคนึง Rothschild และ Rockefeller ก็ถูกล้มด้วยเศรษฐีหน้าใหม่ นวัตกรรมใหม่ นี่เพราะเขากระตุ้นให้มีการแข่งขัน และกำจัดการผูกขาดตลอดเวลา ยุคสมัยเปลี่ยนไป โครงสร้างทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปตลอดเวลา อเมริกา และ ยุโรป เขากำจัดวัฒนธรรมกลุ่มตระกูลทุนใหญ่ผูกขาด ไปสู่ระบบ neoliberal บริษัทคอร์ปอเรชั่น แตกเป็นหน่วยเล็กๆ เข้าตลาดหลักทรัพย์ ยุคนี้เศรษฐกิจอเมริกา และยุโรปไม่ได้ครองโดยตระกูลผู้กขาด แต่ครองโดยบริษัทเอกชน บริษัทเทค หมดยุคตระกูลใหญ่ครอบงำตลาดมาเป็นร้อยปีแล้ว ญี่ปุ่นเอง ก็ทำตามอเมริกา และ ยุโรป ปฎิรูปสังคม ใช้กฎหมายแบบอเมริกา เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ ทุบบริษัทแบบเคเร็ตสึ (ธุรกิจตระกูกลุ่มทุนใหญ่) ให้กลายเป็น ไซบัตสึ เพื่อกระตุ้นการแข่งขัน จนเศรษฐกิจญี่ปุ่น ยุค 70-80 โตก้าวกระโดด ขึ้นมาเป็นเบอร์สองของโลกได้ ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการสร้างคนชนชั้นกลางได้หนาแน่นที่สุดในโลก ในยุค 80s เกาหลีถึงจะมีแชโบลอยู่ แต่ก็อยู่ภายใต้กฎหมายที่พยายามเดินตามอเมริกา พวกตระกูลแชโบล มีการปฎิรูปตัวเอง ตามกฎหมาย ลดขนาดความเป็นเจ้าของ ยอมลดความร่ำรวยของตัวเอง กระจายความมั่งคั่งออกไป จนปัจจุบันคนชนชั้นกลางในเกาหลี มีเยอะที่สุดได้ เศรษฐกิจเกาหลีสามารถแข่งขันได้ ถ้าอีเรื่อง Rothschild ครองโลก ควบคุมระบบการเงินหีแตดนี่เป็นจริง ทำไมอาจารย์ในมหาลัยชั้นนำ เขาไม่เอามาสอนเด็กเลย เพราะมันเป็นนิยายไง อีห่าลาก เลิกโง่ แล้วไปเรียนหนังสือ ไปศึกษาเศรษฐกิจโลก 300 ปีให้เข้าใจนะ ว่าโลกในแต่ยุคสมัยมันปรับตัว ช่วยทุนนิยมมายังไงบ้าง แล้วมึงจะเข้าใจว่าทำไม พวก old money หลายตระกูล มันไม่ได้ยิ่งใหญ่แล้วในยุคนี่ ทำไมเขาต้องเปิดทางให้ผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นมา ทำไมรูปแบบจากเป็นครอบครัวทุนใหญ่ ร่ำรวยแต่ตระกูลตัวเอง ถึงถูกปฎิรูปในประเทศโลกที่1 มีภาษีมรดก กลายมาเป็นระบบบริษัท บริษัทรวย ตระกูลเจ้าของไม่ได้รวยตาม ทำไมโลกที่1 เขาเป็นแบบนี้ อิดอก มาอ้าง Rothschild บ้านิยานหีแตดบ้าบอ พวก old money ที่ยังเรืองอำนาจอยู่ในยุคนี้ จริงๆ ให้แค่ตระกูลด้วยเท่านั้นคือพวก Morgans โน้น ย้ำว่าเลิกอ่านแต่นิยาย 3 บาท ของพวก yellow jacket เกลียดยิวสักที
#19, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 17-Nov-23 at 03:17 PM
In response to message #18
พล่ามอะไรยืดยาว มีแต่เรื่องตอแหล สันดานเหมือนแม่กะหรี่มึงเลยนะคะ ขายหีแต่บอกตนไม่ใช่กะหรี่ FED ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาถูกก่อตั้งในปี 1913 ซึ่งมันเป็น Private Bank 100% เพียงแต่มี shareholders หลายคนเท่านั้น คือ สมัยนั้นรัฐบาลอเมริกาไม่มีเงินทุนสำรอง และ วิกฤติทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็เลยต้องพึ่งประชาชน(รวย)รวมกลุ่มกันแชร์เงินเข้ามาที่ธนาคารกลางแล้วปล่อยกู้ให้คนอื่นอีกทีเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินไว้ เงินในคลังไม่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของแม้แต่นิดเดียว ทีนี้เรามาดูกลุ่ม Shareholders ที่เป็นเจ้าของตัวจริงกัน Rothschild Bank of London and Berlin Warburg Bank of Hamburg and Amsterdam Lehman Brothers of New York Lazard Brothers of Paris Kuhn Loeb Bank of New York Israel Moses Seif Banks of Italy Goldman, Sachs of New York Chase Manhattan Bank of New York นี่เป็นชาร์ต Shareholders ปี 1976 จะเห็นว่ามี J.Henry Schroder อยู่ด้วยคนนี้เป็นชาวเยอรมันซึ่งถือว่าสนิทกับ Rothchild พอสมควรเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเก่าแก่ในเยอรมัน ชื่อว่า Schröder family มีบริษัทคือ Schroders โดย Johann Heinrich Schroder เป็นผู้ก่อตั้ง

 มาถึงตรงนี้ทุกท่านน่าจะเห็น Rockefeller Family คงไม่ต้องกล่าวอะไรมากมายเพราะเป็นที่รู้จักกันในเจ้าของ Standard oil (Rothschild เป็นหุ้นส่วนด้วยเช่นกัน)ปัจจุบันหลานแกเลยเดินรอยตามใครไม่รู้มาเป็นนายธนาคาร ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Chase Manhattan Bank (ปัจจุบันเป็น JP Morgan Chase Bank) ตั้งแต่ 1970 - 1980
 แล้วถ้าถามว่า Rockerfeller กับ Rothchild ตระกูลไหนรวยกว่ากัน อ้าววว ก็ต้อง Rothchild สิ ที่เขาไม่ได้อยู่ในลิสต์คนรวยของนิตยสารฟอร์บส์ก็เพราะว่าเงินมันอยู่ในธนาคารไง ฟอร์บส์นับแค่ทรัพย์สินส่วนตัว แต่ถ้ารวมบริษัทละก็... อู้วววว



 นี่เป็นแค่บริษัทย่อยของบริษัทย่อยอีกทีนะ เค้าเกินคำว่าเจ้าของไปนานละ เข้าใจคำว่าคนสร้างเงินมั้ย ตระกูลนี้คือพระเจ้าบนโลกที่สร้างเงินมาให้คนบนโลกใช้เพราะสมัยก่อนตระกูลนี้ถือครองทองคำมากที่สุดบนโลกแล้วใช้อำนาจเอามา back ธนบัตรที่พิมออกมา เพราะฉะนั้นเงินบนโลกเป็นของ rothschild รวมทั้งแบงค์ชาติด้วย เบื้องหน้าเค้าไม่บอกกันตรงๆหลอก แต่เบื้องหลังฝรั่งร่วมมือกับพวกคณะปฏิวัติก่อตั้ง the bank of thailand ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ผู้ถือหุ้นใหญ่ ๘ อันดับต้น ประกอบด้วย1, Rothschild Bank <London> 2, Lazard Brothers Bank <Paris> 3, Israel Moses Seif Bank <Italy> 4, Warburg Bank <Hamburg and Amsterdam> 5, Lehman Brothers Bank <New York> 6, Loeb Bank <New York> 7, Chase Manhattan Bank <New York> 8, Goldman Sachs Bank <New York> ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นธนาคารของพวก Rothschild ทั้งสิ้น ที่สำคัญหุ้น FED ไม่สามารถซื้อขายได้ ตระกูลนี้เป็นเจ้าของธนาคารโลก มีทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่าล้านล้านเหรียญฯ ไม่ต้องคำนวนเป็นเงินบาทนะคะ เพราะงงกับจำนวนของเลขศูนย์ ธนาคารใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ อย่าง BofA, Wells Fargo และ Chase อยู่ในการควบคุมดูแลของตระกูล Rothchild ทั้งนั้น ยิ่งจับมือร่วมหุ้นลงขันกับทาง Rockafeller อีก คิดง่ายๆ แค่ว่าตระกูลนี้มีอำนาจที่สามารถผลิตเงินตราและธนบัตรให้กับอเมริกา และอังกฤษ ก็ไม่ต้องพูดอะไรเยอะแล้วค่ะ
ใครจะมาอยู่เหนือพวกนางได้อีก? รัฐบาลเหรอ? นั่นน่ะ เป็นแค่คนรับใช้นาง ไม่ใช่เจ้านาย rothschild family ผู้ก่อตั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ และก่อนหน้าเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ1 ธ.กลางอังกฤษ ทุบพันธบัตรอังกฤษแล้วช้อนใส่กระเป๋า ตั้งแต่สมัยสงคราม วอเตอร์ลู และทำแบบนี้ในหลายๆสงครามของยุโรป สนับสนุนเงินทุน ล้มกษัตริย์ฝรั่งเศส เฮีย Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนปัจจุบัน เคยทำงานบริษัท Rothchild Financial Advisory
#20, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 17-Nov-23 at 06:13 PM
In response to message #19
เจอหลักฐานเข้าไปจังๆ อีตุ๊ดจิตเภทstatistเงียบกริบเลยนะคะเขาเป็นเจ้าของโรงพิมพ์เงิน ควบคุมปริมาณเงินในโลก เขาจะยอมมามีเงินน้อยกว่าชาวบ้านทำไม เขาเก็บเงินไว้กับตัว 5-6ร้อยล้านล้านค่ะ ที่เหลืออีก 5 % ให้ชาวโลกเอาไป แก่งแย่งกันเอาเอง
#22, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 18-Nov-23 at 02:07 PM
In response to message #20
โง่ไม่มีความรู้เหี้ยไรสักแอะ แล้วยังไม่ตัดแปะแหล่งข่าวขี้หีจากไหนก็ไม่รู้ กูล่ะสมเพช ความมโน ของอัแก่ไร้การศึกษา ดีแต่ อ่าน fake และฟินน้ำแตกกับนิยาย 3 บาท ขรรมชิบหาย นี่ค่ะ 12 regional banks จาก 12 เขต ของ FED ที่รัฐบาลกลางสหรัฐกำหนดมา Rothschild แม่มึงดิ Rockefeller แม่มึงดิ อีแก่สมองหมา 
และนี่คือโครงสร้าง FED ที่คนเรียนหนังสือเขาต้องศึกษา ถ้าอ่านออกจะรู้ว่า นิยาย 3 บาท ที่มึงพล่ามมา มันโคตรจะไร้สาระเลย 
สรุปง่ายๆ อีกครั้ง ให้คนที่ไม่มีความรู้เข้าใจง่ายๆ FED คือการรัฐบาลสหรัฐ เอาธนาคารเอกชนมาบริหารและวิจัยนวัตกรรมทางการเงิน แต่กำกับดูแลโดยรัฐบาลกลางสหรัฐ บอร์บริหารต่างๆ ก็เป็นคนรัฐบาลกลางคัดเลือกและส่งมาควบคุม ไม่ใช่ Rothschild นะคะ อีแก่ไร้การศึกษา
#23, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 18-Nov-23 at 02:26 PM
In response to message #22
สิ่งที่มึงพูดมา ไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่า fed ก่อตั้งโดยเอกชนนะคะ
#24, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by นักวิเคราะห์แดนลอดช่อง on 19-Nov-23 at 03:09 AM
In response to message #23
มีแต่กะเทยโง่ๆ วิเคราะห์ได้ตื่นเขิน อยากจะอ้วก
#25, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 20-Nov-23 at 02:26 AM
In response to message #23
>สิ่งที่มึงพูดมา ไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่า fed >ก่อตั้งโดยเอกชนนะคะ fed ก่อตั้งโดยรัฐบาลกลางสหรัฐค่ะ รัฐบาลกลางของสหรัฐ เป็นคนไปติดต่อธนาคารเอกชน มาทำงานร่วมกับรัฐบาลเอง อย่างที่บอกนะคะ ไปศึกษาหาความรู้ค่ะ เลิกอ่านนิยายนะคะ
#26, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ลูซิเฟอร์ on 20-Nov-23 at 11:57 AM
In response to message #25
ว๊าย สมน้ำหน้า อี cp น่าจะโดนบ้าง
#27, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 20-Nov-23 at 12:58 PM
In response to message #25
>>สิ่งที่มึงพูดมา ไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่า fed >>ก่อตั้งโดยเอกชนนะคะ > >fed ก่อตั้งโดยรัฐบาลกลางสหรัฐค่ะ รัฐบาลกลางของสหรัฐ >เป็นคนไปติดต่อธนาคารเอกชน มาทำงานร่วมกับรัฐบาลเอง > >อย่างที่บอกนะคะ ไปศึกษาหาความรู้ค่ะ เลิกอ่านนิยายนะคะ รัฐบาลติดต่อไป หรือธนาคารเอกชนติดต่อรัฐบาลให้เซ็นสัญญากันแน่คะ เอาให้แน่คะ แค่มาทำงานร่วมห่าอะไร เขามีหุ้นอยู่ใน fed 
Chart 1 reveals the linear connection between the Rothschilds and the Bank of England, and the London banking houses which ultimately control the Federal Reserve Banks through their stockholdings of bank stock and their subsidiary firms in New York. The two principal Rothschild representatives in New York, J. P. Morgan Co., and Kuhn, Loeb & Co. were the firms which set up the Jekyll Island Conference at which the Federal Reserve Act was drafted, who directed the subsequent successful campaign to have the plan enacted into law by Congress, and who purchased the controlling amounts of stock in the Federal Reserve Bank of New York in 1914. These firms had their principal officers appointed to the Federal Reserve Board of Governors and the Federal Advisory Council in 1914. In 1914 a few families (blood or business related) owning controlling stock in existing banks (such as in New York City) caused those banks to purchase controlling shares in the Federal Reserve regional banks. Examination of the charts and text in the House Banking Committee Staff Report of August, 1976 and the current stockholders list of the 12 regional Federal Reserve Banks show this same family control. People who confuse facts with anti-semitism are idiots. There is nothing anti-semitic about investigating how the Rothschilds are part of the US Federal Reserve. แผนภูมิที่ 1 เผยให้เห็นความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตระกูล Rothschilds และ Bank of England และกลุ่มธนาคารในลอนดอนซึ่งท้ายที่สุดแล้วควบคุมธนาคารกลางสหรัฐผ่านการถือหุ้นในหุ้นธนาคารและบริษัทในเครือในนิวยอร์ก ตัวแทนหลักของรอธไชลด์สองคนในนิวยอร์ก ได้แก่ J. P. Morgan Co. และ Kuhn, Loeb & Co. เป็นบริษัทที่จัดตั้งการประชุมเกาะเจคิลล์ซึ่งมีการร่างพระราชบัญญัติ Federal Reserve Act ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการรณรงค์ที่ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมาเพื่อให้มีแผน ตราขึ้นเป็นกฎหมายโดยสภาคองเกรส และผู้ซื้อหุ้นในจำนวนที่ควบคุมใน Federal Reserve Bank of New York ในปี 1914 บริษัทเหล่านี้มีเจ้าหน้าที่หลักที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Federal Reserve Board of Governors และ Federal Advisory Council ในปี 1914 ในปี 1914 ไม่กี่ครอบครัว (ที่เกี่ยวข้องกับเลือดหรือธุรกิจ) ที่เป็นเจ้าของหุ้นที่มีอำนาจควบคุมในธนาคารที่มีอยู่ (เช่นในนิวยอร์กซิตี้) ทำให้ธนาคารเหล่านั้นซื้อหุ้นที่มีอำนาจควบคุมในธนาคารระดับภูมิภาคของ Federal Reserve การตรวจสอบแผนภูมิและข้อความในรายงานเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการการธนาคารสภาผู้แทนราษฎร เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2519 และรายชื่อผู้ถือหุ้นปัจจุบันของธนาคารกลางสหรัฐทั้ง 12 แห่งระดับภูมิภาค แสดงให้เห็นการควบคุมแบบครอบครัวเดียวกันนี้ คนที่สับสนระหว่างข้อเท็จจริงกับการต่อต้านชาวยิวนั้นโง่มาก ไม่มีอะไรต่อต้านกลุ่มเซมิติกเกี่ยวกับการสืบสวนว่า Rothschilds เป็นส่วนหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐได้อย่างไร
#28, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 20-Nov-23 at 02:00 PM
In response to message #27
อีกล่ะ เอานิยายในเน็ตมั่วๆ มาอ้างอิง โอ้ยยยย กูขรรมโว๊ยยยยFact ไม่ต้องสน หนังสือไม่ต้องเรียนกันแล้วค่ะ เปิดนิยายที่เขานั่งเทียนเขียนในเน็ต อ่านเอา แล้วบอกว่านั่นเป็นเรื่องจริง เอาตามสบายจ้าาา อีแก่เพ้อเจ้อ แบบมึงเกินเยียวยาแล้วค่ะ แยกนิยาย กับ ความจริง ออกจากกันไม่ได้
#29, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 20-Nov-23 at 02:08 PM
In response to message #28
กะเทยแก่ทาทา ต้องหยุดเพ้อ แล้วไปพักนะคะ ถ้าอ่านหมดนี้ แล้วยังเพ้อ ก็คงไม่มีใครช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้วค่ะ เพราะเธอคงเป็นกะเายประเภทที่เลือกที่จะอยู่ในโลกของนิยาย แฟนตาซี ความเพ้อ มากกว่าโลกความจริง 
#30, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 20-Nov-23 at 02:18 PM
In response to message #29
จริงๆ ตอนแรก ฉันเนี่ยจะมาอธิบานลงลึกให้ป้าทาทาแกเข้าใจว่า การถือหุ้นใน reserve banks ของพวกธนาคาร มันแตกต่างกับการถือหุ้นใน บริษัท private และ public ทั่วไปอย่างมาก เพราะโคตรสร้างของ FED รัฐบาลสหรัฐเขาออกมา สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1913 มันค่อนข้างจะมีความพิเศษในหลายประการมากๆ แต่ดูถ้า ป้าทาทา แก้คง อาการหนัก เกินเยียวยา คิดว่าคงไม่เสียเวลาดีกว่า ปล่อยให้ป้าแกเพ้อเจ้อ เรื่อง อิลลูมินาติ ของแกต่อไปดีกว่า ตอนนี้ สงสารก็แต่คนหลายๆคน ที่อาจจะไปหลงเชื่อ นิยาย ตามอีแก่ตัวนี้ จะพาลให้เข้าใจผิดไปกันใหญ่ อย่างที่บอกนะคะ ต้องเสพความรู้อย่างมีสติ เพราะในเน็ตมันหลากหลาย คนไม่มีสติ มานั่งสร้างคอนเท้นท์หลอกคนให้ตกเป็นเหยื่อก็เยอะ เดี๋ยวจะหลงผิดไปเหมือนป้าทาทาเขา แล้วจะหาว่าไม่เตือน
#31, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 20-Nov-23 at 02:44 PM
In response to message #30
อีค่ะคะ คนที่เป็นเจ้าของ เขาก็ต้องหาทางปกปิดความเป็นเจ้าของของตนกันสุดฤทธิ์อยู่แล้วเปิดเผยไป มันจะส่งผลเสียมากกว่าดี ทั้งในแง่ความเป็นส่วนตัว และอีกหลายแง่ ไม่คิดบ้างเหรอคะ ว่าข้อมูลที่มึงได้มาว่า fed ไม่ได้เป็นของเอกชนใคร มันเป็นข้อมูลที่ถูกปกปิดบิดเบือนจากเจ้า ของตัวจริง แล้วก็ใช้รัฐบาลอเมริกาเป็นตัวบังหน้า ถ้ารัฐบาลเป็นเจ้าของ fed จริง มันจะต้องไปกู้ fed และหาเงิน มาจ่ายคืน fed หาหอกอะไร fed เขาปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลใช้อยู่นะคะ ลองไปดูคลิปนี้นะคะ elite พวกนี้ เป็นผู้สั่งการรัฐบาลในเบื้องหลังอีกทีนึง https://youtu.be/Hez1Sucd5iw?si=nPw_I0BytcifDppF https://youtu.be/oV0ZSlfUbnU?si=uNQU9oTZZro168A4
#32, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ป้ามิ้งค์ on 20-Nov-23 at 03:11 PM
In response to message #31
ตกลงอิกะเทยทาท่า กับอิกะเทยค่ะ ใครโง่กว่ากันคะ
#33, ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by สัตว์ร้ายจากเกาะแห่งหนึ่ง on 20-Nov-23 at 04:51 PM
In response to message #0
ถ้าพูดถึง Fed โดยหลักการก็เห็นตามเจ๊ค่ะ แต่ถ้าตามประวัติศาสตร์และโดยพฤตินัยเห็นตามเจ๊ทาทาการมี 12 สาขาก็เป็นภาพลวงตาที่ดีให้เห็นว่าไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว ทั้งที่ตัวที่ใหญ่สุดก็อยู่ NY ส่วนที่ว่าจะตามอะไรต้องทำผ่าน congress อันนี้ก็จริง แต่คิดว่าอีสมาชิกจะไม่มีอิทธิพลเลยเนี่ย ก็คงไม่ใช่ มีเงินก็ใช้ซิ - lobby, fundraising, political campaign donations, donations, speaking fees
#34, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ตีนตีน on 20-Nov-23 at 05:59 PM
In response to message #33
>ถ้าพูดถึง Fed โดยหลักการก็เห็นตามเจ๊ค่ะ >แต่ถ้าตามประวัติศาสตร์และโดยพฤตินัยเห็นตามเจ๊ทาทา > >การมี 12 >สาขาก็เป็นภาพลวงตาที่ดีให้เห็นว่าไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว >ทั้งที่ตัวที่ใหญ่สุดก็อยู่ NY ส่วนที่ว่าจะตามอะไรต้องทำผ่าน >congress อันนี้ก็จริง > >แต่คิดว่าอีสมาชิกจะไม่มีอิทธิพลเลยเนี่ย ก็คงไม่ใช่ >มีเงินก็ใช้ซิ - lobby, fundraising, political campaign >donations, donations, speaking fees เพ้อเจ้ออิกะเทยแก่
#35, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 20-Nov-23 at 06:17 PM
In response to message #34
ภาพลวงตาอะไรก่อน ทางพฤตินัยอะไรก่อน พักกกกก พักค่ะ มันตลกค่ะ ที่ดิขั้นเห็นมีแต่นิยาย 3 บาท พลอตเรื่องเชยๆ ห่วยๆ ทั้งนั้น หลักฐาน และ fact ใดๆ ก็ไม่สามารถมีมายืนยันได้สักนิดเดียว ว่า Rothschild และ Rockefeller เป็นเจ้าของ FED โอ้ยยนเธอ มันไร้สาระค่ะ มีแต่การมโน เพ้อเจ้อ จับแพะชนแกะ เป็น myth ไม่ใช่ fact อ่านแล้วมันก็สนุกดีนะคะ เหมือนอ่านนิยาย บทหนังสืบสวนสอบสวนเชยๆสักเรื่อง แต่ถ้าเอาเวลามาเชื่อนิยายตามเน็ตขนาดนี้ นักเศรษฐศาสตร์ไม่ต้องเรียนหนังสือกันแล้วค่ะ แต่เอาเถอะค่ะ เอาที่สบายใจ กะเทยบอร์ดนี้อยากเชื่ออะไรก็เชื่อเลยค่ะ เพราะมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรอยู่ดี ไม่ได้ดูถูกนะคะ แต่คนที่สติปัญญาต่ำ ขนาดมาเชื่อเรื่องแต่งพวกนี้ได้ คงไม่มีประโยชน์จะเสียเวลาคุย หรือ educated ใดๆ ได้หรอกค่ะ เพราะหัวอ่อน ความรู้ต่ำค่ะ
#36, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ศาลยุคธรรมเพื่อประชาชนไทย on 20-Nov-23 at 08:26 PM
In response to message #35
พวกมึงหมิ่นศาลเหรอ ศาลตัดสินแล้วว่าการที่ทรูซื้อดีแทคมาควบรวม ไม่ถือเป็นการผูกขาด
#37, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 21-Nov-23 at 11:47 AM
In response to message #36
>พวกมึงหมิ่นศาลเหรอ >ศาลตัดสินแล้วว่าการที่ทรูซื้อดีแทคมาควบรวม > > > ไม่ถือเป็นการผูกขาด ศาลไทย แดกภาษีประชาชน เป็นขี้ข้าประชาชน เหมือนนักการเมือง ทำไมประชาชนจะวิพากวิจารไม่ได้
#38, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 22-Nov-23 at 11:29 PM
In response to message #37
ศาลไทยก็แค่ศาลพระภูมิ
#39, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 01-Dec-23 at 05:51 PM
In response to message #35
มีการประมาณการว่ามูลค่าทรัพย์สินของธนาคาร Rothschild อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้เป็นธนาคารเอกชนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มูลค่าทรัพย์สินของธนาคาร Rothschild นั้นมาจากการลงทุนในหลากหลายธุรกิจทั่วโลก รวมถึงธุรกิจการเงิน ธุรกิจเหมืองแร่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย ธนาคาร Rothschild มีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลก และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเขารวยขนาดนี้ จะไม่มีอิทธิพลอะไรคะ งงคะ แล้วนี่แค่ธนาคารเดียวนะ ไหนจะถือหุ้นธนาคารอื่นอีกผ่านบริษัทต่างๆอีกนับโข บ้านที่อังกฤษ ก็สุดแสนจะไฮโซ ยิ่งกว่าวังของเจ้าอังกฤษ

#40, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ค่ะ on 01-Dec-23 at 11:53 PM
In response to message #39
Rothschild ประกาศขายบ้านตัวเองทั่วยุโรป เพราะเป็นหนี้ อีควาย เธอควรหยุดมโนค่ะ รูปภาพที่มึงโชว์นี่ บ้านพวก old money ทั่วไป ไม่ได่วิเศษวิโสอะไรไปกว่าบ้านของ old money อื่นๆ มรกดตกทอดจากยุคสมัยโบราณ
#41, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 02-Dec-23 at 04:36 AM
In response to message #40
ฟังดูเหมือนพวกขี้อิจฉานะคะ พยายามไปด้อยค่าว่าเขาจน พยายามไปด้อยค่าว่าเขาเป็น old money งู้นงี้ตลกมากค่ะ old money แล้วไงคะ มี big money ก็แล้วกัน 10 เรื่องจริง ตระกูลรอทไชล https://youtu.be/9aXoIkSGU_0?si=EitGJTsoM9zeQjZA รวยกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว rothschild https://youtu.be/gzQaVRmZN-Q?si=fdH4cFAFa1ITohvd จุดกำเนิดรอธไชล https://youtu.be/GAigO9WuzDI?si=TcFiQ-gNXGWd0mYc
#42, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 03-Dec-23 at 05:06 AM
In response to message #41
Chat gpt ตอบเองค่ะว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าของ federal reserve Federal Reserve ไม่ใช่ธนาคารรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นระบบที่ประกอบด้วยธนาคารกลางสาขา 12 แห่งซึ่งทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของระบบการเงินในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในบางประเทศอาจมีระบบเหมืองแร่แห่งชาติที่เป็นเอกชนหรือระบบที่ควบคุมโดยรัฐบาล เช่น ในสหรัฐอเมริกาก็มีระบบ Federal Reserve ที่ไม่ได้เป็นความเป็นเจ้าของโดยตรงของรัฐบาลเรื่องการกู้เงินของรัฐบาลจาก Federal Reserve อาจเกิดขึ้นเพราะมีการจัดการเงินตราของรัฐบาลในส่วนของการเงินและนโยบายการเงิน โดยภายใน Federal Reserve มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการเงินตราและการเงิน แต่การขอกู้เงินไม่ใช่เรื่องที่ทำเพียงแค่ในกรณีที่ธนาคารเป็นของรัฐ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อดูแลการเงินและการเงินตราในประเทศ การกู้เงินกับ Federal Reserve อาจเกิดขึ้นเพื่อให้รัฐบาลได้รับเงินกู้ในการจ่ายค่าใช้จ่ายหรือการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีขั้นตอนและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามครับ/ค่ะ
#43, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ไตแลน on 23-Jan-24 at 08:18 AM
In response to message #42
ส่วนไทย เจ้าสัวมีแต่รวยๆ กลืนกินรายเล็กไปหมด
#45, RE: ไม่ใช่แค่สหภาพยุโรปและจีน ที่ชอบตีกับพวกบริษัทนายทุนผูกขาด แต่อเมริกาทำมาแล้ว ในเหตุการณ์ล้ม Standard Oil เพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่สังคมอเมริกา
Posted by ทาทา ยัง on 05-Feb-24 at 09:01 PM
In response to message #43
เจ้าสัวไทยยังรวยไม่เท่า ariana rockefeller คนเดียวเลยค่ะ เจ้าหญิงแห่งหมื่นล้านเหรียญ ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่ทายาทหนึ่งในสิบของ david rockefeller เท่านั้น https://youtu.be/U17G-dMi4c4?si=9D9wqtVMI1PdU1e2
|