ญี่ปุ่นเพิ่มค่าแรงได้ โดยไม่ส่งผลต่อค่าครองชีพมากนัก เพราะญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าราคาถูกมากมายจากจีน อาเซียน ฯลฯ ถึงญี่ปุ่นเพิ่มค่าแรงก็ไม่ได้ทำให้สินค้าราคาถูกเหล่านี้อัพราคาตาม แถมไม่ได้ทำให้สินค้าเมดอินแจแปน รวมถึงผักผลไม้ อาหารของญี่ปุ่นขายไม่ออก เพราะคนญี่ปุ่นเค้าเชื่อมั่นแบบฝังหัวว่าสินค้าข้าวปลาอาหารที่ผลิตในประเทศมันคุณภาพดี ปลอดภัยกว่าของนำเข้า ถึงราคาสินค้าเมดอินแจแปนจะเพิ่มขึ้นตามค่าแรง แต่อย่าลืมว่ายังไงก็ขาย การขึ้นค่าแรงในญี่ปุ่นคือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เพราะคนมีเงินจับจ่ายมากขึ้น ฉะนั้นการขึ้นค่าแรงของญี่ปุ่นมีแต่ได้กับได้ตัดภาพมาที่ประเทศไทย รากหญ้าโลกที่สาม การขึ้นค่าแรงเสี่ยงมากที่เศรษฐกิจจะแย่กว่าเดิม เพราะประเทศเราเป็นประเทศเน้นการส่งออกสินค้าขั้นต้น วัตถุดิบต่างๆ ต้องราคาถูกถึงจะขายออก ถ้าเพิ่มค่าแรงจะส่งผลให้สินค้าบริโภคอุปโภคที่พวกเราใช้กินใช้แดกกันอยู่ต้องขึ้นตาม ถ้าไม่ไหวก็โดนสินค้าราคาถูกกว่าจากจีนเข้ามาตีตลาด เจ้าของกิจการของไทยที่ไม่ไหวก็ล้มตาย ปัญหาที่ตามมาคือคนตกงาน ฐานการผลิตต่างชาติย้ายออก หรือล้มเลิกแผนการตั้งโรงงานในไทย เพราะผลกำไรไม่คุ้มเพราะค่าแรงสูง ปัญหาที่ตามมาคือตกงาน
สรุป เอามาเทียบกันและเลียนแบบกันไม่ได้ เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจต่างกันฟ้ากับเหว