>>ยอมรับว่าไม่ชอบกะเทยนะ เท่าที่เคยรู้จักมาไม่น่าคบสักคน
>>แต่ถ้าแปลงเพศแล้วให้เปลี่ยนคำนำหน้าก็ดี
>>และกำหนดโทษให้หนักหากเอาไปหลอกลวงคนอื่น
>>เอาให้หนักกว่ากฎหมายเกี่ยวกับการหลอกลวงที่มีอยู่แล้ว
>>โทษอาญาติดคุก 10 ปีไปเลย โทษแพ่งจ่ายหนักๆ
>>แต่ยุคนี้ทำไมรู้สึกว่ากะเทยเริ่มแปลงเพศน้อยลงมาก
>>ซึ่งถ้าพวกนี้ไปต่างประเทศมันก็ยังมีปัญหาอยู่ดี
>>โดยเฉพาะกะเทยกับงานขายบริการนี่เป็นอะไรที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
>>แล้วผู้ชายก็ชอบกะเทยงู
>>สรุปคือถึงมีกฎหมายก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่กะเทยส่วนมากจะได้รับประโยชน์อะไรมากตราบใดที่ไม่แปลงเพศ
>
>เขากำลังสู้กันเรื่องเพศ ไม่ใช่เรื่องศีลธรรม
>อีแอ๋วฝากด่าว่าโง่กว่ามันอีก ใครกันแน่ที่โง่ บรรทัดไหนพูดเรื่องศีลธรรม โง่แล้วอยากนอนเตียงนะหล่อน
Identity มันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเกี่ยวกับเรื่องทางชีวะเสมอไป
เพศสภาพมันก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ก็ต้องให้สิทธิคนที่แปลงเพศแล้วเท่านั้น มันก็เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างหนึ่ง
เลยโยงไปว่าสำรวจดูเลยว่ากะเทยไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อยากแปลงเพศด้วยซ้ำไป
เน้นทำนมทำหน้ามากกว่า แล้วกะเทยที่เพศสภาพไม่ตรงกับคำนำหน้าเนี่ย
มันมักมีปัญหาเวลาเดินทางไปต่างประเทศใช้ไหมล่ะ
ในประเทศก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร นอกจากอยากเติมเต็มปมชีวิตแค่นั้น
เลยโยงมาอีกว่าแล้วกะเทยแบบใดห์ที่ต้องเดินทางขนาดนั้น
เอาความจริงมาพูดแบบไม่ต้องอคติ ส่วนมากก็ขายบริการทั้งนั้นที่บินเป็นว่าเล่น ซึ่งก็ต้องเป็นกะเทยงูไง
คิดว่ากะเทยไทยเป็นนางแบบเป็นซีอีโอเป็นนักธุรกิจข้ามชาติกันเป็นส่วนใหญ่เหรอ เอาความจริงมาพูดกัน
เท่ากับว่าต่อให้มีกฎหมายคำนำหน้ามันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรมาก
เพราะวิถีวิธีคิดกะเทยไทยกับกะเทยยุโรปอเมริกามันต่างกันเยอะ จุดมุ่งหมายการเป็นทรานซ์เจนเดอมันต่างกันลิบลับ