Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 257547
Message ID: 8
#8, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by มิส ดัลลัส on 25-Feb-24 at 09:37 PM
In response to message #6
>>เมืองไหนคะเนี่ย ถ้าไม่ใช่โซน Manchester, Nashua, Salem
>>หรือแถว ๆ ติดกับชายแดน Massachusetts หรือใกล้ Boston
>>นี่ท่าทางจะหางานยากนะคะ เคยไปรัฐนั้นมา 2 ครั้ง
>>ธรรมชาติสวยมาก ป่าเขาเยอะจริง ถ้าเธอจะไปอยู่เมืองโซนเหนือ ๆ
>>ของรัฐนี่เดี๊ยนไม่รู้จะเห็นใจหรือดีใจด้วยดี เพราะมันมีแต่
>>"ป่า" จริง ๆ ค่ะเธอว์ ตายแล้ว Walmart ยังหายากอ่ะ
>>สวยมันก็สวยหรอก อยู่ไปนาน ๆ อีดอก ท่าจะแห้งเหี่ยวพิกล
>>
>>แนะนำนะคะ
>>1. วางหัวโขนลงก่อน
>>อยู่ไทยไม่ว่าจะเคยทำอาชีพที่คิดว่าสูงส่งขนาดไหน
>>เงินเดือนเกินแสน ฯลฯ มาอยู่นี่ไม่มีใครสนใจตรงนั้นค่ะ
>>
>>2. ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองภาษายังไม่คล่อง
>>มาถึงแล้วให้ไปลงเรียนภาษาตาม community College
>>หรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ใกล้บ้าน ฯลฯ
>>
>>3. ต่อให้เธอเป็นเด็ก Straight A จากไทย เรียนเก่ง มี
>>Profession ติดตัว แต่ดันพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารระดับ
>>Professional ไม่ได้ ยากนะคะที่จะมีคนจ้าง ยิ่งเป็นงานด้าน
>>Medical หรือ Med Tech ด้วย การสื่อสารควรที่จะต้องเป๊ะ
>>
>>3. ถ้าแฟนไม่มีกำลังซัพพอร์ตด้านการเงินที่คล่องตัวพอ
>>ก็อย่าเลือกงานค่ะ ต้องปรับตัวให้ได้กับตรงนี้นะคะ
>>งานร้านอาหารไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าอยู่ถูกที่ถูกร้าน
>>เงินดีกว่าพวกทำงานออฟฟิศอีกค่ะ สมัยเดียนทำเสริฟ 5-6 ปีก่อน
>>วันละ $200 up รวมทิปนี่คือปกติมาก
>>ตกเดือนนึงเดี๊ยนมีรายได้ประมาณ 5-6 พันดอลล์พอ ๆ
>>กับเพื่อนสาวที่ผันตัวไปเป็นสจีเดลต้า
>>ซึ่งถือว่าไม่แย่นะคะสำหรับที่นี่
>>แต่ที่เลิกทำเพราะเริ่มแก่ค่ะ
>>
>>4. ถ้างานสาย Med Tech มันหาไม่ได้ และไม่อยากทำงานบริการ ฯลฯ
>>แนะนำให้หาคอร์สที่คิดว่าตัวเองสามารถไปเรียนต่อยอดได้ค่ะ
>>แล้วก็ลงเรียนเอาใบ เช่นคอร์สพวก Phlebotomist, Dentist
>>Assistant ฯลฯ
>>หรือพวกงานที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาลตามคลีนิคอ่ะค่ะ
>
>ขอบคุณค่ะพี่สำหรับคำแนะนำ
>ตอนนี้กังวลไปหมดลังเลด้วยว่าจะเอาไงกับชีวิตดีใจนึงก็อยากจะอยู่ไทย
>เพราะอยู่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรค่ะพอมีเงินกินเงินใช้เงินเก็บแต่ถ้าไปอยู่นู่นชีวิตก็คงเปลี่ยนไปเยอะและก็ไม่รู้
>ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน
>และดูเหมือนแฟนก็ตั้งความหวังกับเราไว้มากว่าเราจะสอบ license
>med tech ผ่าน
>แต่เค้าก็ไม่ได้กดดันอะไรมากเค้าแค่พูดว่าก็ต้องใช้เวลาเค้าเข้าใจ
>ถ้าสอบไป 3 ปีแล้วยังสอบไม่ได้
>ก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาไงต่อ เค้ายินดีซัพพอร์ตเรา
>บอสตันเห็นว่าบริษัทเกี่ยวกับการแพทย์เยอะ
>สมมติภาษาเราดีขึ้นถ้าลองยื่นสมัครไปเค้าจะรับคนเอเชียมั๊ยคะหรือต้องไปทำงานตามร้านอาหารจิงๆ
>สจีเราก็สนใจนะแต่เราตัวผอมบางสูงแค่ 165
>เลยคิดว่าไม่น่าจะมีสายการบินไหนรับ
>ที่คิดๆเผื่อไว้ถ้ามันไม่ได้ทำงาน med tech
>จิงๆก็อาจจะไปสมัครเป็นแอร์กราวน์ที่สนามบินโลแกนของบอสตันค่ะ

อย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะเธอว์ เท่าที่รู้มามันก็เป็นกันทุกคน ไอ้อยากมามันก็อยากมานั่นล่ะค่ะ เข้าใจ ถ้าแฟนยืนยันและยินดีที่จะช่วยเหลือให้ตั้งตัวได้ ก็ลองดูสักตั้งค่ะ

มาถึงก็จัดการเรื่อง Basic ก่อน ในระหว่างที่ทำเรื่องขอใบเขียวที่นี่ กว่าหร่อนจะได้ใบเขียวก็ร่วมปีค่ะ มันไม่ได้ขอแล้วได้เลย เพราะฉนั้นหร่อนมีเวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปีเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะหางานแบบทีเป็น Career จริง ๆ ไม่ใช่งาน Temp แบบร้านอาหารไทย

แล้วไหนจะต้องไปทำใบขับขี่อีก ฝึกขับรถให้คุ้นชินกับกฏจราจรที่นี่ เปิดบัญชีธนาคาร ขอใบ SSN สารพัดอย่างที่หร่อนต้องจัดการค่ะ ก่อนที่หร่อนจะได้เริ่มหางานจริง ๆ จัง ๆ

ในช่วง Period ที่รอใบเขียวนี่แหระ หร่อนกับแฟนหร่อนจะซัพพอร์ตกันและกันยังไงก็ไปคุยกันเอง หลายคู่ทะเลาะกันนะคะช่วงนี้ อีนึงออกไปทำงาน อีนึงนอนอยู่บ้าน มันต้องมีสักวันที่หมั่นไส้กันเอง

Anywho, ในระหว่างร่วมๆ 1 ปีที่รอใบเขียว ถ้าไม่มีอะไรติดขัด ก็ไปหาที่เรียนภาษาฯ ฝึกภาษา เอาให้มันคล่องให้มันได้ เอาที่แบบไปไหนมาไหนคนเดียวได้ สื่อสารได้โดยไม่ต้องให้แฟนช่วย

ออกไปเรียนรู้สังคม ไปชมเมือง ไปทำความรู้จักร้านอาหารไทยไว้ เผื่อวันหนึ่งต้องเดินเข้าไปของานเขาทำ (อันนี้เรื่องจริงนะ วันไหนหร่อนตกอับ ตกงาน ผัวทิ้ง ร้านอาหารไทยนี่แหระจะช่วยหร่อนให้ตั้งตัวได้)

อ่อ แล้วก็จริงค่ะ Massachusetts บริษัทด้านการแพทย์เยอะมาก ที่ได้ยินข่าวมาคนที่อยู่ NH แต่บ้านติดชายแดน MA ก็เข้ามาทำงานที่ Boston เยอะนะคะ ถึงได้สงสัยว่าถ้าหร่อนไม่ได้อาศัยใกล้กับชายแดน MA - Boston คงหางานยาก

เรื่องเป็นเอเชีย อย่าไปกังวลเลยค่ะ แต่ต้องเข้าใจว่าตัวหร่อนเองเป็น Immigrant ความคาดหวังในการสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับ Advance จะเป็นสิ่งแรกที่นายจ้างตามบริษัทเพ่งเล็ง เรื่อง Skill และ Knowledge ค่อยมาที่หลัง เพราะถ้าหร่อนสื่อสารกับเขาไม่ได้ แล้วหร่อนจะอธิบายให้เขาเข้าใจถ่องแท้ได้ยังไงว่าหร่อนมี Skill และ Knowledge ด้านนี้ จริงมั๊ยคะ

เอาจริง ๆ คนมีดีกรีมาจากไทย บางคนเป็นวิศวะฯ เป็นนักกายภาพบำบัด หรือแม้กระทั่งทนาย พอย้ายมาอยู่นี่ คือทิ้งทุกอย่างไปหมด แล้วผันตัวไปทำสายอื่นแทน กะเทยไทยถ้าไม่ทำร้านอาหาร หลายคนไปเป็นสจีก็เยอะค่ะ เพราะที่นี่ไม่เกี่ยงรูปร่าง หน้าตา ขอแค่ดูสุขภาพดีก็พอ หรือเป็น Ground service ที่สนามบิน บางคนก็ไปทำงาน Reception ตามโรงแรม หรือพนักงานทั่วไปตามโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่ตัวหร่อนค่ะ ถ้าหร่อนพยายามแบบจริงจัง หร่อนก็มีสิทธิได้งานระดับกลางถึงบน ตามองค์กรดัง ๆ ได้เหมือนกัน