
Self Portrait หรือ Selfie มีมานานนมตั้งแต่สมัยโบราณ
กล้อง Large format แล้วค่ะ สมัย contemp คงเคยเห็นป้า
Vivian Maier ถ่ายรูปตัวเองด้วย TLR ในนิวหยวก หรือแม้แต่ Ansel
ก็มีเซลฟีด้วย large format (แต่เป็นเงานะ) คือ อุปกรณ์
ส่วนใหญ่จะเป็นกระจกเพราะต้องโฟกัส แล้วถ้าไม่มีกระจกล่ะ?
คำตอบคือ ทำได้ค่ะ แต่ยากนิดนึง ในคลาสที่เรียนมีช่างภาพ
ชาวจีนที่จำชื่อไม่ได้แล้ว ถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้อง Large format
หลังจากนั้น ดิฉันเลยคิดว่ามันน่าจะทำได้เลยลองทำตาม
อุปกรณ์มีดังนี้ ❤️
กล้อง ถ้าไม่มีก็ถ่ายไม่ได้ โดยมี Large format ค่ะ
แต่หนักเลยจะใช้ field camera แทน ต่างกันยังไง?
movement มันจะน้อยกว่ากล้อง Large format ค่ะ
แต่เบากว่าโข พกง่ายกว่าเยอะ ถ่ายตรง ๆ ไม่ได้แก้
perspective จาก keystone ใด ๆ ก็จงมีไว้ซักตัว
* ฟิล์ม ที่นี้เลือก E6 ค่ะ ถ้าจะยาก ต้องยากให้ถึงที่สุด
เพราะ E6 มันดึงยากกว่า C41 ที่เป็นระฆังคว่ำ หายแล้วหายเลย
ใช้ฟูจิ provia 100 เพราะ Velvia 50 เป็นแรร์ไอเท็มไปแล้วค่ะ
* ขาตั้ง ใช้ของ Manfrotto ค่ะ ตอนซื้อบอกเอาที่ดีที่สุด อีดอก
ได้มาหนักมากเกือบเจ็ดโลได้ เลยไม่ค่อยได้ใช้แต่คือใช้ได้กับทุกกล้องที่มี
กล้องสตูก็รับน้ำหนักได้ แต่พกไปถ่ายคือฝันร้ายค่ะ หนักอีดอก ใส่รถเข็นลากเอา
* ที่วัดแสง เนื่องจากกล้องโบราณมาก ๆ จะไม่มีที่วัดแสงในกล้อง
ก็ซื้อแยกค่ะ sekonic รุ่นโบราณก็ได้ถ้าอ่านค่าแสงได้แล้วชี้ไปที่วัตถุได้
แต่สมัยนี้กล้องงมือถือก็ใช้วัดแสงได้ดีเกือบเท่าที่วัดแสงเลยค่ะ โหลดแอปเอา
อยู่ที่ประมาณ 35° แต่ในที่นี้จะใช้ sekonic โหมดวัดแสง ambient/flash
บนตัววัตถุ ไม่ใช่แสงที่สะท้อนกลับเข้ากล้อง(หากใครเคยเห็นเครื่องมือมีโดมสีขาว ๆ
ที่ไปจ่อหน้าโมเดลนั่นล่ะค่ะ)
* สายเคเบิล เอาไว้ถ่าย จริง ๆ มีแบบรีโมทด้วยแน่แพง เลยใช้แบบ
เคเบิลเป่าลมเอา น่าจะ 20 feet ได้


วิธีถ่ายก็ต้องขาตั้ง เอากล้องวาง แล้วเอาวัตถุตัวแทน ไปวางในฉาก
เพื่อที่จะได้โฟกัส วิธีนี้จะทำให้ไม่ต้องใช้กระจกในการถ่ายค่ะ
โดยเมื่อโฟกัสจัดเฟรมเสร็จ ก็เอา วัตถุตัวแทน ออกในที่นี้ดิฉั้น
ใช้รถเข็นที่นำมานั่นล่ะค่ะ บางทีก็ใช้แค่กระเป๋ากล้อง หรือบางที
จะยึดเอาเสาหรือรั้ว แล้วโฟกัสให้ระนาบนั้นชั้ด เราก็แค่ไปยืนชิดเสา
เป็นต้น ต่อมาก็มาร์กจุด อาจจะใช้รองเท้าหรือลากเคเบิลมาวางไว้ตรงหน้าแทน
กลับไปโหลดฟิล์ม ดึงสไลด์ออกแล้วก็ทำหน้าสวยถ่ายค่ะ จบ ง่ายมั้ย❤️



หลังจากนั้นดิฉันก็เวิ่นเว้อลากล้อเข็นเดินไปอีก 45 นาที
ข้ามภูเขาขึ้น Battery Spencer ไปถ่ายต่อค่ะ แต่พัดตก
สะพานรักสารสินไปแล้ว ฮาาาา


ป.ล. อายถ้าภาพไม่ชัด ตอนนั้นรู้สึกว่าเออนี่ไง life hack
ไม่ต้องซื้อกล่องไฟมาตัดฟิล์มใช้จอแมคเอา ไม่รู้คิดได้ไง ฮาา
ตอนนี้ซ์้อ LED panel แบบคนวาดการ์ตูนใช้ tracing แล้วค่ะ
ชีวิตง่ายกว่าเยอะ

>แต่รู้สึกว่าพวกฟิลเตอร์ในแอพถ่ายรูปเดี๋ยวนี้ก็ทำได้เกิอบหมดแล้ว
>หรือมันต่างกับถ่ายจริงแบบนี้ยังไงอะ ก็สมัยก่อนไม่มีฟิลเตอร์ไม่มีโฟโตช็อปไงคะ ภาพบนฟิลม์ก็ต้อง manipulate
กันหน้างาน แบบอยากให้หลังละลายก็ต้องเลือกเลนส์ที่เปิดรูรับแสงกว้าง ๆ
Ƒ 1.4 ไปเล๊ย หรือจากภาพ

เห็นไหมคะว่าข้างซ้ายภาพชัด ขวาเบลอ นั่นคือการ swing ของกล้องค่ะ
เปลี่ยน plane of focus ให้โฟกัสด้านขวา อ่านแล้วงงมั้ย ฮาาา เพราะเวลา
ใช้กล้องภาพจะกลับหัวแล้วกลับด้านค่ะ ต้องมี previsulization ค่อนข้างสูง

เนี่ยค่ะ นี่คือสิ่งที่เห็นหลังกล้องที่ต้องเอาผ้าดำ ๆ คลุมหัวนั่นแหละ
หรือจากอันนี้

ช่วงบนชัด ช่วงล่างเบลอเพราะต้องการให้โฟกัสที่หน้า
นั่นคือการ tilt ค่ะ ให้โฟกัสด้านล่างเพราะมันกลับหัว
ใครอยากทราบเพิ่มก็ไปหาอ่านได้ค่ะ Rise&fall Tilt, Shift,
swing, Front panel, rear panel ทำแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง