คนสมัยนี้มองกันในแง่ร้ายมากขึ้นค่ะ ยิ่งถ้าขับรถในกทม.นะคะ ไม่เคยมีมองกันในแง่ดีหรอกค่ะ
ผู้ให้บริการก็มีมายเซ็ทไม่ดีกับผู้รับบริการ เซอร์วิสมายไม่มี ฝ่ายผู้รับบริการบางคนก็พอๆกัน พอต่างฝ่ายต่างคิดต่อกันในแง่ลบมันจะให้เป็นเรื่องดีไปได้อย่างไร
เรื่องแบบนี้คงจะเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ สังคมจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ไม่นับปัญหาสภาพโลกกำลังแปรปรวนจนอาจจะเกิดภับพิบัติใหญ่อีกด้วยนะคะ
ตัวฉันเองปล่อยวางได้เยอะแล้วค่ะ พอเรียนรู้ธรรมะก็เข้าใจว่า เออ..โลกมันก็ต้องเสื่อมลงแบบนี้ล่ะเป็นไปตามกฏไตรลักษณ์
คนรอบข้างใครจะทำอะไรยังไงก็ช่าง มองดูกายดูใจตัวเองดีกว่า ความปรุงแต่งความโกรธเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป กลับมาเกิดอีกเดี๋ยวก็ดับไปอีก สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นย่อมดับไป
ตอนหลังนี้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่สนใจคนที่มากวนตีนแล้วค่ะ เปลี่ยนมาดูจิตดูใจตัวเองดีกว่า เห็นรูปนามมันทำงานไป
นี่เป็นวิธีแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ขยันมีความเพียรเข้ามากๆ ถ้าได้มรรคได้ผลก็อาจจะไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกที่กำลังจะเสื่อมพังนี้อีก