>ส่งวิมานหนามไปคงได้ลุ้นกว่านี้ ยิ่งทรัมป์มันประกาศไม่มี lgtv
>ยิ่งเป็นแรงส่งเลย น่าเสียดายนะ
>หลานม่ามันก็ดีตอนดูน้ำตาซึมเหมือนกัน
>แต่มันเป็นหนังสูตรสำเร็จธรรมดาทั่วไป

เพ้อเจ้อจ้า ต้องเข้าใจก่อนว่ารอบแรกของออสการ์คือการเสนอชื่อโดยสมาชิก มีหนังทั้งหมดปีนี้ 85 เรื่อง สมาชิกคนไหนจะเสนอเรื่องไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเคยดู ดังนั้นการที่จะเข้ารอบแรก คือสมาชิกต้องรู้จักก่อน ใน 15 เรื่องที่เข้ารอบ เป็นยุโรปไปแล้ว 10 เรื่อง

หนทางสำคัญคือเข้าร่วมเทศกาลหนังแล้วได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ก็ชนะรางวัลอื่นมาก่อน พวกนี้เรียก oscar buzz ที่สำคัญคือมีตัวแทนจำหน่ายที่ดี พวกนี้จะช่วยหนังให้ไปได้ไกลมาก ซึ่งหลานม่ามีตัวแทนคือ Well go USA ซึ่งเป็นค่ายเล็กไม่มีแรงซัพพอร์ต ในขณะที่วิมานหนามไม่ได้เสียงตอบรับที่ดีเท่าไรในต่างประเทศ ยังไม่มีตัวแทนในเมกามาซื้อเลย

แล้วแนวหนัง lgtv เนี่ยก็ไปชน emilia เต็งจ๋าทุกสถาบัน (ส่วนตัวไม่ชอบเรื่องนี้ ชอบวิมานหนามมากกว่า) หรือชายขอบนี่ก็ไปเจอมาเล (หนังดีแต่ไม่เข้ารอบแรกเพราะคนไม่รู้จัก) ฉีกมาเป็นหนังแฟมิลี่อบอุ่นยังมีลุ้นมากกว่า มาทาง coda งี้

ถ้าปีนี้สมาพันธ์ส่งวิมานหนามไปแทนหลานม่านี่จะด่าให้ วิมานหนามไม่มีทั้งกระแสและรางวัล เอาอะไรมาเข้ารอบ

อย่างหลานม่ามันมาได้ด้วยกระแสบอกต่อ คนดูชอบ letterboxd สูงมาก ซึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆหลังไปฉายที่ตปท แต่จุดอ่อนคือไม่เคยเข้าร่วมเทศกาลหนังเลย ทำแคมเปญออสการ์ช้ามาก แต่ตัวหนังมันมีโพเทนเชียลจริงๆ กูรูหลายคนก็จัดไว้ว่าหนังมีลุ้น แต่มันเบียดไม่ได้ เพราะเรื่องอื่นรางวัลมันเต็มมือไปหมด

นี่เสียดายมากแต่ก็เข้าใจ ถือว่าเปิดประตูสู่เส้นทางนี้ อย่างน้อยอนาคตจะได้รู้ว่าควรทำแคมเปญกันยังไง เชียร์หนังไทยต่อไป