>พรรคส้ม ต้องเป็นรัฐบาลให้ถูกจังหวะ และยึดเงิน
>คืนจาก เจ้าสัว นายทุน ช่วงรัฐประหาร ย้อนหลังไป 10 ปี
>ในรูปแบบการเก็บภาษีในทุกมิติ ยังไงก็ชอบธรรมและเร็วสุด !!
>ถ้าพรรคส้มทำเป็นนโยบายหาเสียง จะได้เอาเงินเทาๆมาหมุน
>เข้าไประบบการคลัง เพื่อให้ประชาชนเอาไปสร้างงาน
>หมุนเวียนไปแบบยั่งยืน นี่แหละประชาธิปไตยแบบกินได้ !!
>

เก็บภาษีย้อนหลังเป็นอย่างเดียวเนอะ คิดว่ามันง่ายเหรอในเมื่อทุนใหญ่จ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายทั้งนั้น
ที่ไปด่าทุนใหญ่ว่าหลบเลี่ยงอย่างนั้นอย่างนี้ ถึงที่สุดมันก็ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง พรรคเธอต้องไปแก้ที่โครงสร้างโน่น
ซึ่งก็คือไปแก้กฎหมายภาษี ซึ่งถ้ามันกฎหมายภาษีเข้มงวดมากหวังจะเก็บทุกเม็ด นายทุนไทยที่ไหนจะลงทุน เขาย้ายไปลงทุน
ประเทศเพื่อนบ้านกันหมด ไม่ต้องพูดถึงทุนต่างชาติ มันไม่เข้ามาให้เสียเวลากับกฎหมายจุกจิกหวังรีดภาษีทุกเม็ด
แต่ไม่เอื้ออำนวนต่อการทำธุรกิจเลย มายด์เซ็ทวินอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ไม่มีนายทุนที่ไหนเอาด้วย

ธุรกิจในโลกนี้ไม่มีสีขาวบริสุทธิ์ ไม่เชื่อก็ลองไปถามนายทุนในพรรคส้มของเธอดูได้ ทั้งนายทุนที่ประสบความสำเร็จ
และนายทุนที่ทั้งชีวิตมีแต่ความล้มเหลวทุกวันนี้มีแต่หนี้กับรอยยิ้ม

นายทุนคือกระดูกสันหลังของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ถ้าพวกเธอยังต้องการมันนะ
ประชนสร้างงานกันเองโดยรัฐสนับสนุนน่ะได้อยู่ แต่เศรษฐกิจแบบนี้จะเติบโตพอที่จะขับเคลื่อนประเทศไหม
ไปถามสีจิ้นผิงเมืองไทยดูเลยค่ะ นางจะตอบทันทีว่า ไม่ เพราะถ้านางเชื่อแบบเธอ นางไม่มีปัญญาปล่อยเงินกู้ให้พรรคร้อยกว่าล้านหรอก

รีดภาษีนายุทนมาให้ประชาชนสร้างงานกันเองไม่เรียกว่า ประชาธิปไตยกินได้หรอกค่ะ เพราะมันหมุนได้ไม่กี่รอบก็จบ วินฝ่ายเดียวไม่เวิร์ค
จึงไม่มีอะไรให้เก็บกินได้จริงในระยะยาว

รัฐสังคมนิยมหนีไม่พ้นที่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และทุนนิยมไม่มีคำว่าสีขาวบริสทธิ์ตามจินตนาการของฝ่ายซ้ายสังคมนิยม
อยู่กับความจริงหรือไม่ก็อยู่กับจินตนาการ ชีวิตคนเรามีอยู่แค่สองทางเท่านั้น