Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 276364
#0, แย่แล้ว เรื่องเงิน 10,000 บาท
Posted by เสี่ยวฮั้วลิ้ม ชิมหีแมว on 12-May-25 at 04:23 PM
โครงการแจกเงิน 10,000 บาท (Digital Wallet) ดูเหมือนจะมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยกลุ่มเปราะบาง แต่มีข้อถกเถียงเรื่องการเงินและการดำเนินการ

รัฐบาลโฆษณาว่าเป็นการช่วยค่าครองชีพและหมุนเวียนเงินในท้องถิ่น แต่หลายคนวิเคราะห์ว่าอาจมีปัญหาด้านกฎหมายและความล่าช้า

ข้อมูลล่าสุดจากปี 2567 (2024) แสดงให้เห็นการแจกเงินในเฟสแรก แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนในปี 2568 (2025)

รายละเอียดโครงการจากรัฐบาล
รัฐบาลระบุว่าโครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการหมุนเวียนเงินในท้องถิ่น และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ เงิน 10,000 บาทจะถูกโอนให้ผู้มีสิทธิ์ โดยในเฟสแรกเป็นเงินสด และมีแผนขยายไปยังกลุ่มอื่นๆ ในอนาคต ผู้รับสิทธิ์ต้องเป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท
มุมมองวิเคราะห์เบื้องหลัง
มีข้อวิจารณ์ว่าการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อาจขัดกฎหมายและเสี่ยงปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน การดำเนินการผ่านแอป "ทางรัฐ" อาจมีข้อจำกัด เช่น การใช้จ่ายเฉพาะร้านเล็กและต้องใช้ซ้ำก่อนถอนเงิน ซึ่งอาจไม่ช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างที่หวัง นอกจากนี้ โครงการล่าช้าและเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลดลง และอาจเสี่ยงปัญหาการทุจริต
หมายเหตุรายงานโดยละเอียด
โครงการแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาลไทย (Digital Wallet) เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลพยายามผลักดันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญความท้าทาย อย่างไรก็ตาม มีทั้งข้อมูลที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์และมุมมองวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญที่ชี้ให้เห็นรายละเอียดแฝงที่ควรพิจารณา โดยข้อมูลนี้มาจากการค้นหาข้อมูลสาธารณะและการวิเคราะห์จากแหล่งต่างๆ ซึ่งล่าสุดพบข้อมูลถึงปี 2567 (2024) และยังไม่มีข้อมูลอัปเดตชัดเจนในปี 2568 (2025) ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2568
บริบทของโครงการ
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยมีเป้าหมายหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และส่งเสริมการใช้จ่ายในท้องถิ่น จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ รัฐบาลระบุว่าโครงการนี้จะช่วยหมุนเวียนเงินในชุมชนและบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนเผชิญปัญหาหนี้สินและเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวตามเป้า
รายละเอียดจากรัฐบาล
วัตถุประสงค์: รัฐบาลเน้นว่าโครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการหมุนเวียนเงินในท้องถิ่น และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ

กลุ่มเป้าหมาย: ในเฟสแรก โครงการจะแจกเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 12.4 ล้านคน และผู้พิการอีกประมาณ 2.15 ล้านคน รวมเป็น 14.5 ล้านคน

การดำเนินการ: เงินจำนวน 10,000 บาทจะถูกโอนให้กับผู้มีสิทธิ์ โดยในเฟสแรกเป็นการโอนเงินสด ซึ่งเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนั้น มีการวางแผนเพิ่มรอบสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์

เงื่อนไขการรับสิทธิ์: ผู้รับสิทธิ์ต้องเป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี และมีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 นอกจากนี้ ต้องไม่ฝ่าฝืนเงื่อนไขของโครงการอื่นๆ ของรัฐ

งบประมาณ: โครงการมีงบประมาณรวมประมาณ 500 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากงบประมาณแผ่นดินปี 2567 และ 2568 โดยไม่ต้องกู้ยืมเพิ่มเติม โดยแบ่งเป็น 175 พันล้านบาทจากงบปี 2567 และ 152.7 พันล้านบาทจากงบปี 2568

มุมมองวิเคราะห์และข้อวิจารณ์
นอกจากข้อมูลจากรัฐบาล มีการวิเคราะห์จากนักวิชาการและสาธารณชนที่ชี้ให้เห็นรายละเอียดแฝงและข้อกังวลต่างๆ ดังนี้:
ปัญหาด้านการเงินและกฎหมาย: มีข้อกังวลว่าการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 172.3 พันล้านบาท อาจขัดต่อมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบวินัยการเงินการคลังของรัฐ และอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ (BBC Thai, Bangkok Biz News)

ปัญหาการดำเนินการ: การใช้แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" (Tang Rat) มีข้อจำกัด เช่น การใช้จ่ายต้องทำเฉพาะร้านค้าขนาดเล็ก (รวมถึงร้านสะดวกซื้อของบริษัทใหญ่) และต้องใช้จ่ายซ้ำก่อนถอนเงิน ซึ่งอาจไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างที่หวัง นอกจากนี้ แอปยังขาดรายละเอียดในการจัดการธุรกรรม เช่น ขอบเขตการใช้จ่ายและข้อจำกัดในการซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต

ความล่าช้าและการเปลี่ยนแปลงนโยบาย: โครงการมีการเปลี่ยนแปลงและล่าช้าหลายครั้ง เช่น จากเดิมที่จะใช้ระบบบล็อกเชนเป็นแอปพลิเคชัน และการเลื่อนกำหนดการจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นไตรมาส 4 ของปี 2567 สิ่งเหล่านี้ทำให้ความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยลดลง (Bangkok Biz News, YouTube, YouTube)

ความเสี่ยงทางการเมือง: โครงการนี้ถูกมองว่าอาจเป็นการใช้จ่ายที่ขาดความรับผิดชอบทางการเงินและอาจนำไปสู่การทุจริต คล้ายกับนโยบายอื่นๆ ในอดีตของพรรคเพื่อไทย หากโครงการล้มเหลว อาจทำลายมรดกทางการเมืองของพรรค


ข้อสรุป

โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มีข้อวิจารณ์หลายประการ เช่น ปัญหาด้านการเงิน การดำเนินการที่ไม่ชัดเจน และความล่าช้าที่อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ผู้ที่จะนำเสนอโครงการนี้ให้กับนักศึกษาควรพิจารณาทั้งข้อมูลที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์และข้อวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มุมมองที่สมดุล

ข้อสรุป
โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเป็นส่วนหนึ่งของคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มีข้อวิจารณ์หลายประการ เช่น ปัญหาด้านการเงิน การดำเนินการที่ไม่ชัดเจน และความล่าช้าที่อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ผู้ที่จะนำเสนอโครงการนี้ให้กับนักศึกษาควรพิจารณาทั้งข้อมูลที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์และข้อวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มุมมองที่สมดุล


#1, RE: แย่แล้ว เรื่องเงิน 10,000 บาท
Posted by กูรอของ 16-21 ปีอยู่นะค่ะอีสัตว์นรก on 12-May-25 at 04:35 PM
In response to message #0
เค้าแจกไป 2 เฟสแล้วอีควาย อีสลิ่มแก่แช่ขี้ 60+ มันได้เฟสสองไปแล้ว อัพเดทข้อมูลด้วยอีกะหรี่หลังเขา

#2, RE: แย่แล้ว เรื่องเงิน 10,000 บาท
Posted by เซ็ง on 12-May-25 at 04:52 PM
In response to message #1
เมื่อไหร่ป้าจะได้เงินคนแก่ 3000 ละค่ะ ถ้าสภาพยังเป็นแบบนี้ ตกต่ำลงทุกวัน ทุกการเลือกตั้ง